ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน T.K.E. SKILLS MODELเพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตและความปลอดภัยของนักเรียน โรงเรียนวัดตะคร้ำเอน

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน T.K.E.

SKILLS MODELเพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตและความปลอดภัยของนักเรียน

โรงเรียนวัดตะคร้ำเอน

ผู้วิจัย นางสาววารุณี ตะโกภู่ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศึกษา

วิทยฐานะ ผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ โรงเรียนวัดตะคร้ำเอน

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 2

ปีที่ทำวิจัย 2566

บทคัดย่อ

การวิจัย เรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน T.K.E. SKILLS MODEL เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตและความปลอดภัยของนักเรียน โรงเรียนวัดตะคร้ำเอน มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการบริหารจัดการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน T.K.E. SKILLS MODEL เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตและความปลอดภัยของนักเรียน โรงเรียนวัดตะคร้ำเอน

2) ประเมินผลการใช้รูปแบบการบริหารจัดการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน T.K.E. SKILLS MODEL เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตและความปลอดภัยของนักเรียนโรงเรียนวัดตะคร้ำเอน โดยใช้รูปแบบการวิจัยผสมผสาน (Mixed Method Research) การดำเนินการวิจัย แบ่งออกเป็น

3 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาเอกสาร แนวคิดทฤษฎี วิจัยที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน T.K.E. SKILLS MODEL เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตและความปลอดภัยของนักเรียนโรงเรียนวัดตะคร้ำเอน กลุ่มผู้ให้ข้อมูลพื้นฐานของรูปแบบการบริหารจัดการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน T.K.E. SKILLS MODEL เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตและความปลอดภัยของนักเรียน โรงเรียนวัดตะคร้ำเอน ได้แก่ ครูผู้สอน จำนวน 23 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง (Semi-structured Interview) วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) และกลุ่มผู้ให้ข้อมูลและเก็บข้อมูลเพื่อกำหนดแนวทางการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน T.K.E. SKILLS MODEL เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตและความปลอดภัยของนักเรียน โรงเรียนวัดตะคร้ำเอน ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน ครูผู้สอน จำนวน 23 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามความคิดเห็นแบบปลายเปิด (Open Ended Questions) มีการประชุมระดมความคิดเห็น (Brainstorming) โดยใช้วิธีสนทนาแบบปฏิสัมพันธ์ (Interactive Interview) ตรวจสอบข้อมูลแบบสามเส้า (Triangulation) ขั้นตอนที่ 2 สร้างและตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบการบริหารจัดการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน T.K.E. SKILLS MODEL เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตและความปลอดภัยของนักเรียน โรงเรียนวัดตะคร้ำเอน กลุ่มผู้ให้ข้อมูลในการตรวจสอบร่างรูปแบบการบริหารจัดการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน T.K.E. SKILLS MODEL เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตและความปลอดภัยของนักเรียน โรงเรียนวัดตะคร้ำเอน และเครื่องมือตรวจสอบความเหมาะสม ความถูกต้อง ความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ของรูปแบบและเครื่องมือโดยการสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion) ของผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบบันทึกการสนทนากลุ่มและแบบประเมินความเหมาะสม ความถูกต้อง ความเป็นไปได้และความเป็นประโยชน์ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) และร้อยละ (%) ขั้นตอนที่ 3 การศึกษาผลการใช้รูปแบบการบริหารจัดการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน T.K.E. SKILLS MODEL เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตและความปลอดภัยของนักเรียน โรงเรียนวัดตะคร้ำเอน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครูผู้สอน จำนวน 23 คน นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 และนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3 จำนวน 291 คน ผู้ปกครองนักเรียน 291 คน รวมทั้งสิ้น จำนวน 605 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามระดับการปฏิบัติงานที่มีต่อการใช้รูปแบบการบริหารจัดการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน T.K.E. SKILLS MODEL เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตและความปลอดภัยของนักเรียน โรงเรียนวัดตะคร้ำเอน ได้แก่ แบบสอบถาม (Questionnaire) แบบสัมภาษณ์ (Interview), แบบตรวจสอบความเหมาะสมของ

การนำรูปแบบไปใช้ แบบตรวจสอบความเหมาะสมของคู่มือการใช้ แบบประเมินคุณภาพแผน

การจัดการเรียนรู้ของครู แบบประเมินคุณภาพของครู แบบประเมินรูปแบบการบริหารสถานศึกษา และแบบประเมินนความพึงพอใจที่มีต่อรูปแบบการบริหารจัดการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน T.K.E. SKILLS MODEL เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตและความปลอดภัยของนักเรียน โรงเรียนวัดตะคร้ำเอน ค่าความเชื่อมั่นของแบบประเมินทั้งฉบับ เท่ากับ 0.94 สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย (x ̅) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)

ผลการวิจัยพบว่า

ผลการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน T.K.E. SKILLS MODEL เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตและความปลอดภัยของนักเรียน โรงเรียนวัดตะคร้ำเอน พบว่ารูปแบบประกอบด้วย 1) T = Teach (การให้ความรู้) การให้ความรู้ในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนความปลอดภัยในสถานศึกษา 2) K = Kid center (นักเรียน) (นักเรียนสำคัญที่สุด) 3) E= Equality (เสมอภาค ทั่วหน้า) ให้การช่วยเหลือทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน 4) S = Stop หยุด หมายถึง หยุดต่าง ๆ ดังนี้ ภัยที่เกิดจากการใช้ความรุนแรงของมนุษย์ ภัยที่เกิดจากอุบัติเหตุ ภัยที่เกิดจากการถูกละเมิดสิทธิ์ (Right) และภัยที่เกิดจากผลกระทบทางสุขภาวะทางกายและจิตใจ (Unhealthiness) 5) K = Knowledge การให้ความรู้ในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนความปลอดภัยในสถานศึกษา ให้เกิดการเรียนรู้ อย่างมีคุณภาพ มีความสุข และได้รับการปกป้อง คุ้มครองความปลอดภัย 6) I = Imagine มีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ 7) L = Lifelong learning การเรียนรู้ตลอดชีวิต 8) L = Leader ความเป็นผู้นำอย่างเหมาะสม 9) S = Success ความสำเร็จ การมีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดี มีสุขภาวะ ส่งผลให้นักเรียน “เรียนดี มีความสุข” ทั้งนี้ ผลยืนยัน องค์ประกอบของรูปแบบการบริหารจัดการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน T.K.E. SKILLS MODEL เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตและความปลอดภัยของนักเรียน โรงเรียนวัดตะคร้ำเอน พบว่า เมื่อเรียงอันดับตามค่าเฉลี่ย 3 ด้าน จากมากไปหาน้อย ได้แก่ 1) ด้านการพัฒนากระบวนการจัดการเรียนการสอนเพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตและความปลอดภัยของนักเรียน 2) ด้านการจัดหาสื่อนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษาเพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตและความปลอดภัยของนักเรียนและ 3) ด้านการสร้างเสริมเพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตและความปลอดภัยของนักเรียน

ผลการศึกษาผลการใช้รูปแบบการบริหารจัดการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน T.K.E.

SKILLS MODELเพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตและความปลอดภัยของนักเรียน โรงเรียนวัดตะคร้ำเอน

ที่ได้จากแบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ของครูผู้สอน สอดคล้องและเป็นแนวทางเดียวกันในด้านความ สำเร็จของการนําไปใช้ “มากที่สุด”" ( " "x" ̅" " = 4.60, S.D. = 0.58) นําไปสู่การปฏิบัติได้จริงในเสริมสร้างทักษะชีวิตและความปลอดภัยของนักเรียนโรงเรียนวัดตะคร้ำเอน

นอกจากนี้ผลการประเมินความพึงพอใจของครูผู้สอนที่มีต่อรูปแบบการบริหารจัดการระบบการดูแลดูแลช่วยเหลือนักเรียน T.K.E. SKILLS MODEL เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตและความปลอดภัยของนักเรียน โรงเรียนวัดตะคร้ำเอน มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( x ̅ = 4.49, S.D. = 0.62)

โพสต์โดย pppp123 : [4 เม.ย. 2568 (23:50 น.)]
อ่าน [116] ไอพี : 58.11.96.84
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 52,821 ครั้ง
อารมณ์(ดี-เสีย)
อารมณ์(ดี-เสีย)

เปิดอ่าน 11,293 ครั้ง
สักการะเกจิชื่อดัง... ตามหาผู้นำต้นยางต้นแรกมาปลูกในตรัง แวะชิมหมูย่างเมืองตรัง
สักการะเกจิชื่อดัง... ตามหาผู้นำต้นยางต้นแรกมาปลูกในตรัง แวะชิมหมูย่างเมืองตรัง

เปิดอ่าน 20,395 ครั้ง
ประกันสังคมสิทธิที่คนวัยทำงานควรรู้ ประโยชน์ที่ได้คุณภาพชีวิตที่ไม่ควรมองข้าม
ประกันสังคมสิทธิที่คนวัยทำงานควรรู้ ประโยชน์ที่ได้คุณภาพชีวิตที่ไม่ควรมองข้าม

เปิดอ่าน 22,232 ครั้ง
อ่านหนังสือแล้วง่วง ทำไงดี มาทางนี้ซิ เรามีคำตอบ
อ่านหนังสือแล้วง่วง ทำไงดี มาทางนี้ซิ เรามีคำตอบ

เปิดอ่าน 24,217 ครั้ง
วิธีระงับความโกรธ
วิธีระงับความโกรธ

เปิดอ่าน 35,394 ครั้ง
xDSL คืออะไร?
xDSL คืออะไร?

เปิดอ่าน 10,489 ครั้ง
สตอเรจแก้วเก็บข้อมูลได้หลายร้อยล้านปี
สตอเรจแก้วเก็บข้อมูลได้หลายร้อยล้านปี

เปิดอ่าน 47,435 ครั้ง
คู่มือการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษารักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัด สพฐ. (ฉบับปรับปรุงแก้ไข)
คู่มือการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษารักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัด สพฐ. (ฉบับปรับปรุงแก้ไข)

เปิดอ่าน 13,950 ครั้ง
ระเบียบสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ว่าด้วยกองทุนสานพลังประชารัฐ:โรงเรียนประชารัฐ พ.ศ.2559
ระเบียบสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ว่าด้วยกองทุนสานพลังประชารัฐ:โรงเรียนประชารัฐ พ.ศ.2559

เปิดอ่าน 11,605 ครั้ง
แนะนำ 10 เครื่องมือดี ๆ ช่วยครูในการสอนออนไลน์
แนะนำ 10 เครื่องมือดี ๆ ช่วยครูในการสอนออนไลน์

เปิดอ่าน 95,210 ครั้ง
การใช้ปุ๋ยไนโตรเจนอย่างพอเหมาะกับพืช
การใช้ปุ๋ยไนโตรเจนอย่างพอเหมาะกับพืช

เปิดอ่าน 26,019 ครั้ง
สรภัญตารางธาตุ
สรภัญตารางธาตุ

เปิดอ่าน 9,381 ครั้ง
ส่ง"เอสเอ็มเอส"บ่อยไม่ดี
ส่ง"เอสเอ็มเอส"บ่อยไม่ดี

เปิดอ่าน 17,446 ครั้ง
คลิปเจ้าหนู 11 ปี นักบาสฯ ขั้นเทพ เล่นเก่งกว่าผู้ใหญ่ ฮิตกว่า 2 ล้านวิวแล้ว
คลิปเจ้าหนู 11 ปี นักบาสฯ ขั้นเทพ เล่นเก่งกว่าผู้ใหญ่ ฮิตกว่า 2 ล้านวิวแล้ว

เปิดอ่าน 33,393 ครั้ง
ลายมือนักบริหาร ต้องมีเส้นอิทธิพล
ลายมือนักบริหาร ต้องมีเส้นอิทธิพล

เปิดอ่าน 757 ครั้ง
บัตรกดเงินสด ตัวช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินของมนุษย์เงินเดือน
บัตรกดเงินสด ตัวช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินของมนุษย์เงินเดือน
เปิดอ่าน 14,389 ครั้ง
ทำไมแบตเตอรี่มีอายุสั้นลง?
ทำไมแบตเตอรี่มีอายุสั้นลง?
เปิดอ่าน 46,472 ครั้ง
โอลิมปิก : ประวัติกีฬาโอลิมปิก
โอลิมปิก : ประวัติกีฬาโอลิมปิก
เปิดอ่าน 42,588 ครั้ง
นวดศีรษะและต้นคอก่อให้เกิดอันตรายจริงหรือ?
นวดศีรษะและต้นคอก่อให้เกิดอันตรายจริงหรือ?
เปิดอ่าน 4,212 ครั้ง
ผัก ผลไม้… กับมะเร็ง
ผัก ผลไม้… กับมะเร็ง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

Thailand Web Stat

Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ