ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รูปแบบการเรียนรู้

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ตามการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E)

ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา

ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

ผู้วิจัย นางชนัดดา ปัณณ์ชวพร

ปีที่ทำวิจัย 2566-2567

บทคัดย่อ

การดำเนินการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาความต้องการและแนวทางในการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ตามการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อสร้างรูปแบบการเรียนรู้ตามการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการเรียนรู้ตามการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 4) เพื่อประเมินรูปแบบการเรียนรู้ตามการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การหาประสิทธิภาพ การทดสอบค่าที และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาความต้องการและแนวทางในการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ตามการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่า

1.1 รูปแบบการจัดการเรียนรู้ มีองค์ประกอบ 4 ส่วน คือ องค์ประกอบด้านหลักการ องค์ประกอบด้านวัตถุประสงค์ องค์ประกอบด้านกระบวนการจัดการเรียนรู้ และองค์ประกอบด้านการวัดและประเมินผล โดยองค์ประกอบด้านกระบวนการจัดการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน ดังนี้ 1) ขั้นตรวจสอบความรู้ (Elicitation) 2) ขั้นนำสู่บทเรียน (Education) 3) ขั้นเพียรหาพาสรุป (Summation) 4) ขั้นขยายองค์ความรู้และนำไปใช้ (Expanation and apply) 5) ขั้นไปสู่การประเมินผล (Evaluation)

1.2 ความต้องการในการการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยรวม อยู่ในระดับมาก

1.3 ข้อเสนอแนะ พบว่า ครูควรจัดบรรยากาศให้เอื้อต่อการเรียนรู้ สนทนา ซักถาม ใช้คำถามเพื่อกระตุ้นการคิดอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนมีความกระตือรือร้น การยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น การให้เกียรติซึ่งกันและกัน ส่งเสริมให้นักเรียนมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกันภายในกลุ่ม ส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้ ได้ลงมือปฏิบัติ สามารถสร้างความรู้ด้วยตนเอง โดยครูเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการเรียน

2. การสร้างรูปแบบการเรียนรู้ตามการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่า

2.1 รูปแบบการจัดการเรียนรู้ มีองค์ประกอบ 4 ส่วน คือ องค์ประกอบด้านหลักการ องค์ประกอบด้านวัตถุประสงค์ องค์ประกอบด้านกระบวนการจัดการเรียนรู้ และองค์ประกอบด้านการวัดและประเมินผล โดยองค์ประกอบด้านกระบวนการจัดการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน ดังนี้ 1) ขั้นตรวจสอบความรู้ (Elicitation) 2) ขั้นนำสู่บทเรียน (Education) 3) ขั้นเพียรหาพาสรุป (Summation) 4) ขั้นขยายองค์ความรู้และนำไปใช้ (Expanation and apply) 5) ขั้นไปสู่การประเมินผล (Evaluation) ร่างรูปแบบการเรียนรู้ตามการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา

ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยรวม มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด

2.2 ความเหมาะสมของคู่มือการใช้รูปแบบการเรียนรู้ตามการจัดการเรียนรู้

แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

2.3 ประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนรู้ตามการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา

ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากการทดลองใช้ครั้งที่ 3 ที่พัฒนาขึ้นมีค่าเท่ากับ 80.97/80.67 เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

3. ผลการทดลองรูปแบบการเรียนรู้ตามการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

3.1 ประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนรู้ตามการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีค่าเท่ากับ 84.09/83.92 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

3.2 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้ตามการจัด

การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD

เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3.3 นักเรียนมีทักษะการแก้ปัญหา หลังเรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้ตามการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. การประเมินรูปแบบการเรียนรู้ตามการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

4.1 ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนรู้ตามการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยรวมอยู่ในระดับมาก

4.2 ผลการประเมินรูปแบบการเรียนรู้ตามการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยรวมอยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย rin : [20 มี.ค. 2568 (11:50 น.)]
อ่าน [60101] ไอพี : 113.53.60.210
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 22,543 ครั้ง
ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2554
ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2554

เปิดอ่าน 64,949 ครั้ง
การเบิกค่าเช่าบ้าน
การเบิกค่าเช่าบ้าน

เปิดอ่าน 9,122 ครั้ง
กรมอนามัย แนะ 10 วิธี ช่วยผู้สูงอายุนอนหลับดี เสริมสร้างสุขภาพที่ดี
กรมอนามัย แนะ 10 วิธี ช่วยผู้สูงอายุนอนหลับดี เสริมสร้างสุขภาพที่ดี

เปิดอ่าน 16,691 ครั้ง
คอกาแฟมีหวังอายุยืนกว่าคนไม่ดื่ม ช่วยป้องกันภัยโรคหัวใจหลอดเลือด
คอกาแฟมีหวังอายุยืนกว่าคนไม่ดื่ม ช่วยป้องกันภัยโรคหัวใจหลอดเลือด

เปิดอ่าน 9,970 ครั้ง
ศธ.ให้ความสำคัญครูคนแรกดึงพ่อแม่เป็นส่วนหนึ่งวันครู
ศธ.ให้ความสำคัญครูคนแรกดึงพ่อแม่เป็นส่วนหนึ่งวันครู

เปิดอ่าน 16,168 ครั้ง
แสงแดดช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน
แสงแดดช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน

เปิดอ่าน 19,669 ครั้ง
ฮือฮา นักดาราศาสตร์เผย ปรากฎชื่อ 7 อำเภอไทยบนหลุมดาวอังคาร
ฮือฮา นักดาราศาสตร์เผย ปรากฎชื่อ 7 อำเภอไทยบนหลุมดาวอังคาร

เปิดอ่าน 11,622 ครั้ง
หญิงไทยอายุต่ำกว่า 40 ปีเป็นมะเร็งเต้านมร้อยละ 33.4 สูงกว่าหญิงมะกัน
หญิงไทยอายุต่ำกว่า 40 ปีเป็นมะเร็งเต้านมร้อยละ 33.4 สูงกว่าหญิงมะกัน

เปิดอ่าน 11,186 ครั้ง
PSY - GANGNAM STYLE คลิปยอดฮิต "กังนัม สไตล์"
PSY - GANGNAM STYLE คลิปยอดฮิต "กังนัม สไตล์"

เปิดอ่าน 25,284 ครั้ง
ทำไมดวงอาทิตย์ตอนเช้าหรือตอนเย็นจึงดูดวงใหญ่
ทำไมดวงอาทิตย์ตอนเช้าหรือตอนเย็นจึงดูดวงใหญ่

เปิดอ่าน 113,819 ครั้ง
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐

เปิดอ่าน 15,099 ครั้ง
เนียนจริง มุขเด็ดสำหรับการหาที่จอดรถ ดูซิ เจ๊แกใช้มุขไหน?
เนียนจริง มุขเด็ดสำหรับการหาที่จอดรถ ดูซิ เจ๊แกใช้มุขไหน?

เปิดอ่าน 13,321 ครั้ง
ปัจจัยฉุดรั้งการศึกษา (1)
ปัจจัยฉุดรั้งการศึกษา (1)

เปิดอ่าน 19,213 ครั้ง
เทคนิคการอ่านเพื่อให้เกิดทักษะ
เทคนิคการอ่านเพื่อให้เกิดทักษะ

เปิดอ่าน 18,785 ครั้ง
พระบรมรูปทรงม้า
พระบรมรูปทรงม้า

เปิดอ่าน 30,406 ครั้ง
คํานาม
คํานาม
เปิดอ่าน 3,592 ครั้ง
วัยทำงานนั่งนาน 8 ชั่วโมง เมินขยับ ไม่มีกิจกรรมทางกาย เสี่ยงอ้วนลงพุง
วัยทำงานนั่งนาน 8 ชั่วโมง เมินขยับ ไม่มีกิจกรรมทางกาย เสี่ยงอ้วนลงพุง
เปิดอ่าน 22,103 ครั้ง
10 วิธีเจ๋งๆ ในการฝึกภาษาอังกฤษ ให้เก่งได้ด้วยตัวเอง !!
10 วิธีเจ๋งๆ ในการฝึกภาษาอังกฤษ ให้เก่งได้ด้วยตัวเอง !!
เปิดอ่าน 19,879 ครั้ง
คุณครูที่กำลังมองหาวิธีเพิ่มความน่าสนใจของนักเรียนในห้องเรียน ลองใช้วิธีนี้ดูสิ
คุณครูที่กำลังมองหาวิธีเพิ่มความน่าสนใจของนักเรียนในห้องเรียน ลองใช้วิธีนี้ดูสิ
เปิดอ่าน 22,809 ครั้ง
แนวปฏิบัติการขอและการอนุมัติให้ ขรก.ได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือน ระหว่างลาศึกษาต่อฯ
แนวปฏิบัติการขอและการอนุมัติให้ ขรก.ได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือน ระหว่างลาศึกษาต่อฯ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ