การจัดการการศึกษาในปัจจุบัน ตามแนวทางของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ต้องยึดหลักว่า “ผู้เรียนทุกคนมีความสามารถในการเรียนรู้ และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ” ซึ่งตรงกับวิธีที่เรียกว่า เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ผู้สอนมีความสำคัญในฐานะที่เป็นผู้ชี้แนะแนววิธีเรียนรู้แบบต่างๆ และอธิบายความรู้พื้นฐาน ให้ผู้เรียนเข้าใจสำหรับเป็นพื้นฐานที่จะศึกษาค้นคว้าต่อไปได้ด้วยตนเอง ตามวิธีเรียนรู้ที่ได้รับการชี้แนะ และพัฒนาเป็นวิธีเรียนรู้ของตนเอง สื่อการเรียนการสอน และแหล่งการเรียนรู้ นับเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ในการส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน ซึ่งนอกจากที่จะสร้างความสนใจใฝ่รู้ในการเรียนแล้ว ยังทำให้ผู้เรียนได้มีความรู้ ความเข้าใจมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ดังที่ได้กล่าวไว้ ใน พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 24 การจัดกระบวนการเรียนรู้ ให้สถานศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการดังต่อไปนี้ ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้สอนสามารถจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม สื่อการเรียน และอำนวยสะดวก เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และมีความรอบรู้ การคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) การสื่อสารและการร่วมมือ (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทักษะด้านสารสนเทศ รู้เท่าทันสื่อ และเทคโนโลยี (Communications, Information, and Media Literacy) ซึ่งทักษะเหล่านี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งในศตวรรษที่ 21 รวมทั้งสามารถใช้การวิจัยเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ ทั้งนี้ ผู้สอนและผู้เรียนอาจเรียนรู้ไปพร้อมกัน จากสื่อการเรียนการสอน และแหล่งวิทยาการประเภทต่างๆ
ข้าพเจ้า นางจันทิยา ปราณีกิจ ในฐานะของครูผู้สอน รายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้ตระหนักและเห็นถึงความสำคัญของการจัดการเรียนการสอน ตามแนวทางของ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ดังกล่าว จึงได้ดำเนินการจัดทำ นวัตกรรมและสื่อการเรียนการสอนขึ้นซึ่งเป็นเครื่องมือในการเรียนการสอน เพื่อใช้ประกอบการจัดการเรียนรู้ ให้การเรียนการสอนวิทยาศาสตร์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ช่วยส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจให้กับผู้เรียน ได้อย่างเต็มตามศักยภาพอันส่งผลดีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้นของผู้เรียนต่อไป
2. วัตถุประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินงาน
2.1 วัตถุประสงค์
1. ผลิตสื่อการเรียนการสอน เพื่อใช้ประกอบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
2. เพื่อใช้สื่อการเรียนการสอน เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการเรียนรู้ สร้างความรู้ ความเข้าใจ ให้กับผู้เรียน และสอดคล้องกับการพัฒนาการศึกษาในยุคไทยแลนด์ 4.0
3. เพื่อเป็นการจัดการเรียนการสอน ที่เป็นไปตามแนวทางของ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542
4. เพื่อพัฒนาผู้เรียน โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้เต็มตามศักยภาพ และมีความสนใจในการเรียนวิทยาศาสตร์มากยิ่งขึ้น
2.2 เป้าหมาย
เชิงปริมาณ
1) นักเรียน ที่เรียนวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน มีความพึงพอใจในการใช้สื่อการ เรียนการสอนประกอบการจัดการเรียนรู้ และมีความสนใจในการเรียนวิทยาศาสตร์มากยิ่งขึ้น โดยมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 80
2) ครูผู้สอน วิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน มีความพึงพอใจในคุณภาพของสื่อการเรียนการสอนและการนำสื่อการเรียนการสอนไปใช้ประกอบการจัดการเรียนรู้ โดยมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 80
เชิงคุณภาพ
1) ผู้เรียนมีความพึงพอใจในการใช้สื่อการเรียนการสอน ประกอบการจัดการเรียนรู้ และมีความสนใจในการเรียนวิทยาศาสตร์มากยิ่งขึ้น
2) ครูผู้สอน วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีความพึงพอใจในคุณภาพของสื่อการเรียนการสอนและการนำสื่อการเรียนการสอนไปใช้ประกอบการจัดการเรียนรู้
3) ได้สื่อการเรียนการสอนที่หลากหลายและมีคุณภาพ ใช้ประกอบการจัดการเรียนรู้ ให้กับผู้เรียน
3. ขั้นตอนการดำเนินการวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice)
ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาเอกสารแนวคิดหลักการ
ขั้นตอนที่ 2 การเลือกและการวางแผนสร้างนวัตกรรม
ขั้นตอนที่ 3 สร้างและพัฒนานวัตกรรม
ขั้นตอนที่ 4 การหาประสิทธิภาพของนวัตกรรม
ขั้นตอนที่ 5 ปรับปรุงนวัตกรรม
4. ผลการดำเนินงาน/ประโยชน์ที่ได้รับ
4.1 ผลที่เกิดกับผู้เรียน
ผลสัมฤทธิ์โดยการวัดและประเมินผล
4.1.1นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ ร้อยละ 100
4.1.2 นักเรียนมีการปฏิบัติการ อยู่ในเกณฑ์ ระดับดีมาก ร้อยละ 100
4.1.3 แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน ผู้เรียนผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 100
4.1.4 การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ผลการประเมิน ระดับดีเยี่ยม
4.2 ผลที่เกิดกับสถานศึกษา
4.2.1 เกิดวัฒนธรรมใหม่ในการทำงาน องค์กรมีการร่วมมือ ร่วมใจ กล้าพูด กล้าคิด แสดงความคิดเห็นในเรื่องงาน มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกันอยู่ตลอดเวลา เพื่อพัฒนางานในหน้าที่ให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป
4.2.2 โรงเรียนมีการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)
4.2.3 เป็นสถานศึกษาต้นแบบฝึกปฏิบัติการเรียนรู้ในสภาพจริงจาก สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานหลักสูตรการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา
5. ปัจจัยความสำเร็จ
5.1 บุคลากรในองค์กรมีความเข้าใจในความสามารถในการแข่งขันและทิศทางกลยุทธ์ขององค์กร
5.2 ทีมผู้บริหารมุ่งมั่นในนวัตกรรมและลงมือทำให้เห็น ผู้บริหารที่มีความมุ่งมั่นต่อการสร้างนวัตกรรมมีส่วนสำคัญต่อการผลักดันให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมภายในองค์การ ซึ่งความล้มเหลวในการสร้างนวัตกรรมมักเกิดจากนโยบายและการปฏิบัติงานที่ขาดความชัดเจน
5.3 สิ่งแวดล้อมเอื้อต่อการคิดนวัตกรรม เช่น สภาพการทำงาน ภาวะผู้นำ ระบบการสื่อสาร และการให้การสนับสนุน ฯลฯ โดยบรรยากาศในการทำงานที่สนับสนุนการทำงานเป็นทีม และเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น
5.4 วัฒนธรรมองค์กรที่กระตุ้นให้เกิดนวัตกรรม มีการติดต่อสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ การเปิดกว้างในการติดต่อสื่อสารทั้งภายในและภายนอกองค์การ ทั้งนี้องค์การจำเป็นต้องทำให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานและมีการแลกเปลี่ยนข่าวสารระหว่างกัน รวมทั้งต้องนำข่าวสารจากลูกค้า ผู้ใช้บริการ หรือคู่แข่งขันเพื่อเป็นข้อมูลในการสร้างสรรค์นวัตกรรม ดังนั้น ความเป็นอิสระของการได้ข้อมูลข่าวสารเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้บุคลากรเกิดความคิดใหม่และนำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมองค์การ ความสำเร็จของการสร้างสรรค์นวัตกรรมไม่ได้เกิดจากการนำเทคโนโลยีมาใช้ในองค์การ แต่เกิดจากความมุ่งมั่นในการเรียนรู้ของคนในองค์การที่มีเป้าหมายเดียวกัน และบุคลากรเปิดใจรับฟังและมีการแลกเปลี่ยนความรู้ภายในองค์การ
5.5 การสนับสนุนจากผู้บริหารในทุกระดับ มีลักษณะสภาพแวดล้อมขององค์การที่เอื้อต่อการเรียนรู้และสร้างสรรค์นวัตกรรม ได้แก่ การจัดการหรือปรับโครงสร้างการดำเนินงาน การออกแบบงาน สายการบังคับบัญชา หน้าที่ความรับผิดชอบ และการจัดโครงสร้างองค์การให้มีความยืดหยุ่นทำให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการสร้างสรรค์นวัตกรรม องค์การที่มีการสร้างสรรค์นวัตกรรมมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในองค์การอย่างต่อเนื่อง โครงสร้างที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และกลยุทธ์องค์การทำให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพิ่มขึ้น
5.6 องค์การต้องสนับสนุนให้พนักงานมีการเรียนรู้ และสร้างสรรค์นวัตกรรมโดยการให้ความสำคัญกับคนในองค์การ การคัดเลือกบุคลากรที่มีความสามารถในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เข้าไปในองค์การ มีการฝึกอบรมทักษะและความรู้ใหม่ๆ
องค์กรแห่งนวัตกรรม จึงเป็นแนวคิดการบริหารจัดการองค์กรแนวใหม่ ในการปรับเปลี่ยนคุณลักษณะองค์กร ที่มีความรู้และนวัตกรรมเป็นปัจจัยหลัก ในการเพิ่มคุณค่า พัฒนา ผลิตสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการ ความพึงพอใจของลูกค้า และผู้ใช้บริการ สู่ความสามารถเชิงการแข่งขันและความอยู่รอดขององค์กรอย่างยั่งยืน
6. บทเรียนที่ได้รับ
1) นักเรียนเกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะในศตวรรษที่ 21 ในการค้นคว้าและ
สร้างองค์ความรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ เกิดทักษะการคิดสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดแก้ปัญหา สามารถแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ สามารถตัดสินใจ
2) ผู้เรียนทราบวิธีการค้นคว้าและคัดเลือกข้อมูลหรือองค์ความรู้ได้อย่างถูกต้องและเป็นระบบ
3) ผู้เรียนมีความภาคภูมิใจในผลงานหรือนวัตกรรมของตนเอง
7. การเผยแพร่/การได้รับการยอมรับ/รางวัลที่ได้รับ
การเผยแพร่
- เผยแพร่ผลงาน โซนทรรศการ “เรียนดีมีความสุข” ภายใต้โครงการ OBEC Fair Share and Learn : จากผลงานสู่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
- เผยแพร่ผลเว็บไซต์
- เผยแพร่ผ่านเพจเฟสบุ๊ค
- เผยแพร่ผ่าน G-mail.com