บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพทักษะทางอารมณ์ จิตใจ และสังคมของเด็กปฐมวัย 3-5 ขวบ ตามแนวทางการจัดการศึกษาปฐมวัยในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนอนุบาลหนองปลาปาก เทศบาลตำบลหนองปลาปาก อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย 2) พัฒนาทักษะทางอารมณ์ จิตใจ และสังคมของเด็กปฐมวัย 3-5 ขวบ ตามแนวทางการจัดการศึกษาปฐมวัยในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนอนุบาลหนองปลาปาก เทศบาลตำบลหนองปลาปาก อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย 3) ติดตามและประเมินผลการพัฒนาทักษะทางอารมณ์ จิตใจ และสังคมของเด็กปฐมวัย 3-5 ขวบ ตามแนวทางการจัดการศึกษาปฐมวัยในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนอนุบาลหนอง ปลาปาก เทศบาลตำบลหนองปลาปาก อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ตามนโยบายของนายกเทศมนตรีตำบลปลาปากและตามมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 ได้แก่ 1.การมีสุขภาพจิตดีและมีความสุข 2.การชื่นชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี และการเคลื่อนไหว 3.การมีคุณธรรม จริยธรรม และมีจิตใจที่ดีงาม 4.การมีทักษะชีวิตและปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 5.การรักธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และความเป็นไทย และ 6.การอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข โดยใช้กระบวนการ PAOR ตามแนวคิดของ Kemmis และ Mc Taggart ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน 2 วงรอบ คือ ขั้นการวางแผน (Planning) ขั้นการลงมือปฏิบัติ (Action) ขั้นการสังเกตการณ์ (Observation) และขั้นการสะท้อนผล (Reflection) โดยใช้กลยุทธ์การพัฒนาครู การจัดกิจกรรมและประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัย และการนิเทศภายใน มีกลุ่มผู้ร่วมวิจัย 6 คน ประกอบด้วย ผู้วิจัย ครูผู้สอนประจำชั้นอนุบาลปีที่ 1-3 โรงเรียนอนุบาลหนองปลาปาก เทศบาลตำบลหนองปลาปาก อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคายกลุ่มผู้ให้ข้อมูล จำนวน 31 คน ประกอบด้วย กลุ่มผู้ร่วมวิจัย 6 คน และตัวแทนเด็กปฐมวัยระดับชั้นอนุบาลปีที่ 1-3 จำนวน 5 ห้องเรียน ๆ ละ 5 คน รวมเป็นจำนวน 25 คน ได้มาโดยวิธีการ สุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง จำนวน 2 ฉบับ แบบสังเกตการณ์จัดประสบการณ์เรียนรู้เพื่อพัฒนาเด็ก และแบบประเมินคุณลักษณะของเด็กการตรวจสอบข้อมูลใช้เทคนิคการตรวจสอบข้อมูลแบบสามเส้า (Triangulation) วิเคราะห์ข้อมูล เชิงปริมาณใช้ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานข้อมูลเชิงคุณภาพวิเคราะห์โดยวิธีพรรณนาวิเคราะห์ (Descriptive Analysis) แล้วนำเสนอโดยการบรรยาย
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1. สภาพปัจจุบัน ปัญหาก่อนดำเนินการพัฒนา พบว่า ครูผู้สอนยังขาดความรู้และทักษะในการจัด
ประสบการณ์เรียนรู้ที่ควบคู่การพัฒนาทักษะทางอารมณ์ จิตใจ และสังคมของเด็กปฐมวัย 3-5 ขวบ ตามแนวทางการจัดการศึกษาปฐมวัยในศตวรรษที่ 21 ไม่ใช้สื่อในการจัดประสบการณ์เรียนรู้ และสอนโดยไม่เน้นเด็กเป็นสำคัญ ทำให้เด็กเกิดความเบื่อหน่ายไม่สนใจเรียน ส่วนด้านเด็กพบว่าเด็กบางส่วนขาดทักษะทางอารมณ์ จิตใจ และสังคม เช่น การ
มีสุขภาพจิตไม่ดี ไม่กล้าแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี ไม่อยากเคลื่อนไหว ขาดคุณธรรม จริยธรรม ไม่รู้จักความเป็นไทย และไม่สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ดี
2. การดำเนินการพัฒนาทักษะทางอารมณ์ จิตใจ และสังคมของเด็กปฐมวัย 3-5 ขวบ
ตามแนวทางการจัดการศึกษาปฐมวัยในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนอนุบาลหนองปลาปาก เทศบาลตำบลหนองปลาปาก อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ผู้วิจัยดำเนินการพัฒนาโดยใช้กลยุทธ์การพัฒนาครูเพื่อให้ความรู้และมีทักษะในการจัดประสบการณ์เรียนรู้ที่ควบคู่กับการพัฒนาทักษะทางอารมณ์ จิตใจ และสังคมของเด็กปฐมวัย 3-5 ขวบ ตามแนวทางการจัดการศึกษาปฐมวัยในศตวรรษที่ 21 และการนิเทศภายในอย่างต่อเนื่อง ตลอดปีการศึกษา 2567 ตามกระบวนการวิจัยปฏิบัติการ (Action Research) จำนวน 2 วงรอบ เพื่อให้คำแนะนำ ช่วยเหลือ และประเมินผลการพัฒนาทักษะทางอารมณ์ จิตใจ และสังคมของเด็กปฐมวัย 3-5 ขวบ ตามแนวทางการจัดการศึกษาปฐมวัยในศตวรรษ ที่ 21 ปรากฏผลดังต่อไปนี้
2.1 ครูมีความรู้ ประสบการณ์ใหม่ ๆ และเกิดทักษะในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่พัฒนาทักษะทางอารมณ์ จิตใจ และสังคมของเด็กปฐมวัย 3-5 ขวบ ตามแนวทางการจัดการศึกษาปฐมวัยในศตวรรษ ที่ 21 อยู่ในระดับมาก
2.2 เด็กปฐมวัย 3-5 ขวบ มีทักษะทางอารมณ์ จิตใจ และสังคม ตามแนวทางการจัดการศึกษาปฐมวัยในศตวรรษ ที่ 21 โดยรวมอยู่ในระดับดีมาก
3. ผลที่เกิดจากการพัฒนาทักษะทางอารมณ์ จิตใจ และสังคมของเด็กปฐมวัย 3-5 ขวบตามแนวทางการ
จัดการศึกษาปฐมวัยในศตวรรษที่ 21 ในช่วงปีการศึกษา 2567 ทำให้ครูมีการปรับปรุงพัฒนาตนเองในการจัดประสบการณ์เรียนรู้ ส่งผลดีทำให้เด็กมีพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ และสังคม