1. ชื่อผลงาน การจัดประสบการณ์โดยใช้กระบวนการสืบเสาะทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย
2. ชื่อผู้นำเสนอผลงาน นางสาวมาธวี นุเสน ตำแหน่ง ครู โรงเรียนบ้านปรือพวงสำราญ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3
3. ความสำคัญของนวัตกรรม/วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ
ความเป็นมา
การดำเนินกิจกรรมการเรียนการสอนสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ในทุกระดับการศึกษา ต้องมุ่งสร้างความรัก ความสนใจ สร้างคุณลักษณะและนิสัยให้ผู้เรียนเป็นผู้ที่มีความช่างสังเกต มีเหตุผล พัฒนาเจตคติและทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ เด็กควรได้รับการกระตุ้นส่งเสริมให้สนใจและกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้วิทยาศาสตร์ มีความสงสัย เกิดคำถามในสิ่งต่างๆที่เกี่ยวกับโลกธรรมชาติรอบตัว มีความมุ่งมั่นและมีความสุขที่จะศึกษาค้นคว้าสืบเสาะแสวงหาความรู้เพื่อรวบรวมข้อมูลอย่างมีเหตุผล สามารถสื่อสารคำถาม คำตอบ ข้อมูลและสิ่งที่ค้นพบจากการเรียนรู้ให้ผู้อื่นเข้าใจได้ อีกทั้งการศึกษาระดับปฐมวัย โรงเรียนบ้านปรือพวงสำราญ ได้ใช้แผนการจัดการเรียนการสอน ในรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก Active Learning เป็นการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยมุ่งเน้นให้เด็กปฐมวัยลงมือปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง ผ่านการไตร่ตรองจากกระบวนการสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ที่เชื่อมโยงความรู้จากประสบการณ์เดิม เด็กได้เผชิญกับสถานการณ์และหาแนวทางในการแก้ปัญหาด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อให้เด็กเกิดความสนใจและได้รับความรู้ที่สนุกสนานน่าจดจำ เด็กได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงกับแหล่งความรู้เบื้องต้น
โดยเด็กสามารถสรุปความรู้ได้ด้วยตนเอง ครูจะต้องสนับสนุนให้เด็กศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม โดยจัดแหล่งการเรียนรู้ให้ แล้วปรับปรุงความรู้ที่ได้ให้สมบูรณ์ ลักษณะสำคัญของโครงงานคือ เด็กได้เลือกเรื่องหรือประเด็นที่จะศึกษาด้วยตนเอง ระดมความคิดเห็น ได้แสดงความคิดเห็นร่วมกัน ลงมือปฏิบัติด้วยตนเองทุกขั้นตอน มีการเชื่อมโยงหรือบูรณาการระหว่างความรู้ /ทักษะ / ประสบการณ์เดิมกับสิ่งใหม่ มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้อื่น โดยเฉพาะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงงานวิทยาศาสตร์นั้น เป็นการนำความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในการแสวงหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ โดยเน้นเกี่ยวกับการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ฝึกทักษะการสังเกต การตั้งสมมุติฐาน การออกแบบ การทดลอง การกำหนดและควบคุมตัวแปร การนิยามเชิงปฏิบัติการ การวิเคราะห์ข้อมูล การอภิปรายและสรุปผลการทดลอง ตลอดจนการใช้เครื่องมือพื้นฐาน เพื่อนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในการดำรงชีวิต มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีความสามารถในการตัดสินวิเคราะห์ สังเคราะห์ มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมอันพึงประสงค์
โรงเรียนบ้านปรือพวงสำราญจึงมีความสนใจและเข้าร่วม ดำเนินงานโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อยประเทศไทย ในรุ่นที่ 5 ดำเนินการอย่างต่อเนื่องและเล็งเห็นความสำคัญของการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้กับเด็กโดยใช้กระบวนการสืบเสาะทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย และการจัดกิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์ที่เน้นให้เด็กได้มีส่วนร่วมลงมือปฏิบัติโดยมีครู เป็นผู้กระตุ้นให้ความดูแลให้แก่เด็ก ซึ่งให้ความสำคัญเห็นว่าหากนำกิจกรรมการเรียนการสอนแบบโครงงานมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เด็กเกิดผลการพัฒนาความสามารถพื้นฐาน 4 ด้าน ได้แก่ ด้านการเรียนรู้ ด้านภาษา ด้านสังคม ด้านการเคลื่อนไหวและทักษะการรับรู้ประสาทสัมผัส
แนวทางการแก้ปัญหาและพัฒนา
ครูต้องมีความต้องการที่จะพัฒนาการจัดประสบการณ์แบบบูรณาการ ออกแบบการจัดกิจกรรมโดยเน้นเด็กเป็นสำคัญ ให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติ โดยจัดกิจกรรมที่มีความหลากหลายน่าสนใจ เปิดโอกาสในการแสดงความคิดเห็นร่วมกัน ให้เด็กได้รับการฝึกฝน จนเกิดทักษะแห่งการเรียนรู้เพราะการเรียนรู้ที่ดีเด็กต้องได้ลงมือปฏิบัติและแก้ปัญหาด้วยตนเอง
4. วัตถุประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินงาน
4.1 วัตถุประสงค์
4.1.1 เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย
4.1.2 เพื่อให้เด็กมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ มีวิจารณญาณ มีความคิด
สร้างสรรค์ คิดไตร่ตรอง และมีวิสัยทัศน์
4.1.3 เพื่อพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ มีความสามารถในการแก้ปัญหา โดยใช้
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
4.1.4 เพื่อปลูกฝังให้เด็กมีเจตคติที่ดีต่อวิทยาศาสตร์ สนใจใฝ่รู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และกล้า
แสดงออกอย่างมั่นใจ
4.1.5 เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนเด็กที่มีความรู้ความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์ ด้วย
วิธีการและรูปแบบที่หลากหลาย ตามความถนัด และความสนใจของเด็ก
4.2 เป้าหมาย
เชิงปริมาณ ระดับปฐมวัย ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3
เชิงคุณภาพ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย
5. ขั้นตอนการดำเนินการ
การจัดกระบวนการเรียนรู้
1. การเตรียมการจัดกระบวนการเรียนรู้
1.1 ศึกษาและวิเคราะห์หลักสูตรทำกำหนดการสอนเพื่อจัดทำแผนการจัดประสบการณ์
1.2 จัดทำแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยแทรกความรู้การจัดทำโครงงาน พูดชักนำ
เกี่ยวเนื่องถึงกิจกรรมโครงงานตามลำดับ คือ
- กระตุ้นให้เด็กเห็นความสำคัญของโครงงาน
- เด็กศึกษาตัวอย่างการจัดทำโครงงาน
- ให้ความรู้เรื่องโครงงานแก่เด็ก
2. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้/การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน
การจัดประสบการณ์โดยใช้กระบวนการสืบเสาะทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย โครงงานสมุนไพรไล่นกพิราบ
มีขั้นตอนและวิธีการดำเนินการจัดทำโครงงานวัฏจักรสืบเสาะ 2 วงรอบ ดังนี้
คำถามที่ 1 สมุนไพรอะไรบ้างที่ใช่ไล่นกพิราบได้
คำถามที่ 2 จะทำอย่างไรให้สมุนไพรไล่นกพิราบได้ดียิ่งขึ้น
ขั้นที่ 1 ตั้งคำถามเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ
ขั้นที่ 2 รวบรวมความคิดและข้อสันนิษฐาน
ขั้นที่ 3 ทดลองและปฏิบัติการสืบเสาะ
ขั้นที่ 4 สังเกตและบรรยาย
ขั้นที่ 5 บันทึกผลการทดลอง
ขั้นที่ 6 สรุปและอภิปรายผล
6. ผลการดำเนินงาน/ประโยชน์ที่ได้รับ
6.1.1 เด็กมีพัฒนาทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย
6.1.2 เด็กมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ มีวิจารณญาณ มีความคิดสร้างสรรค์ คิดไตร่ตรอง และมีวิสัยทัศน์
6.1.3 เด็กมีกระบวนการคิดและจินตนาการ มีความสามารถในการแก้ปัญหา โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
6.1.4 เด็กได้รับการปลูกฝังให้เด็กมีเจตคติที่ดีต่อวิทยาศาสตร์ สนใจใฝ่รู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และกล้าแสดงออกอย่างมั่นใจ
6.1.5 เด็กได้รับส่งเสริมและสนับสนุนเด็กที่มีความรู้ความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์ ด้วยวิธีการและรูปแบบที่หลากหลาย ตามความถนัด และความสนใจของเด็ก
7. ปัจจัยความสำเร็จ
7.1 ได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรม แก้ปัญหาด้วยตนเอง
7.2 เด็กปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเองร่วมกับเพื่อน มีความสนใจ สอดคล้องกับพัฒนาการตามวัยของเด็ก
7.3 ผู้ปกครองเห็นความสำคัญของการจัดประสบการณ์โดยใช้กระบวนการสืบเสาะทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย ได้รับความร่วมมือคณะครู ผู้ปกครอง ชุมชน
7.4 เด็กมีเจตคติที่ดีต่อวิทยาศาสตร์ สนใจใฝ่รู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และกล้าแสดงออกอย่างมั่นใจ
7.5 ผู้บริหารสถานศึกษา ให้การส่งเสริม สนับสนุน มีการนิเทศ กำกับ ติดตาม อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
8. บทเรียนที่ได้รับ
การจัดประสบการณ์โดยใช้กระบวนการสืบเสาะทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย เป็นกระบวนการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ ด้วยกระบวนการการทดลอง การปฏิบัติจริง ส่งผลให้นักเรียนพัฒนาด้านความรู้ เกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนวิทยาศาสตร์ เด็กเกิดการเรียนรู้อย่างมีความสุข กล้าคิด กล้าแสดงออก เกิดกระบวนการคิด การแก้ปัญหา ได้สำรวจ สังเกต สืบค้น เรียนรู้แบบกลุ่มใหญ่กลุ่มย่อย ได้มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน ครูและสิ่งแวดล้อม เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง สามารถนำผลการจัดประสบการณ์ไปแก้ปัญหาหรือปรับใช้ได้ในชีวิตจริง
9. การเผยแพร่/การได้รับการยอมรับ/รางวัลที่ได้รับ
9.1 การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
9.2 เผยแพร่ผลงานโดยการให้ความรู้แก่คณะครูจากโรงเรียนต่าง ๆ ที่เข้ามาศึกษาดูงาน
9.3 ได้รับตราพระราชทาน บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี รุ่นที่ 5 ครั้งที่ 1 ปีการศึกษา 2563-2565
9.4 ได้รับตราพระราชทาน บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี รุ่นที่ 5 ครั้งที่ 2 ปีการศึกษา 2566-2568