ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
ผลการปฏิบัติงานที่เป็นเลิศ “การสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติด ด้วย TICE MODEL” โรงเรียนนาภูพิทยาคม

ผลงาน/นวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice)

ชื่อผลงาน “ การสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติด ด้วย TICE MODEL ”

(เพื่อการดูแลและช่วยเหลือนักเรียนตามโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข)

ชื่อผู้เสนอผลงาน โรงเรียนนาภูพิทยาคม อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา มหาสารคาม

1.1 สภาพปัญหา แนวคิด แรงจูงใจ

จากคำกล่าวที่ว่า เด็กคือผ้าขาว หมายถึงความบริสุทธิ์ผุดผ่องมาแต่ครั้งแรกเริ่มมีชีวิต เมื่อเติบโตตามวัยได้รับการเลี้ยงดูจากครอบครัวและจากสภาพแวดล้อมที่มีส่วนสร้างบุคลิกภาพ ความรู้ความคิด และเจตคติ ที่มีผลต่อร่างกายและจิตใจ เสมือนหนึ่งเป็นการแต้มสีลงบนผ้าขาวให้มีสีสันหลากหลายขึ้น และสีสันเหล่านั้นส่งผลกระทบให้เกิดพฤติกรรมทั้งในทางบวกและทางลบ ครอบครัวและสังคมมุ่งหวังให้ผ้าขาวนั้นมีความงดงามไม่แปดเปื้อนมลทินใดๆ เพื่อการเติบโตในสังคมที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดี สถานศึกษาคือสภาพแวดล้อมทางสังคมด้านแหล่งเรียนรู้ในการพัฒนาผ้าขาวนั้นให้มีสีสันงดงามควบคู่ไปกับครอบครัวและสังคม ช่วงวัยของการศึกษาที่เด็กต้องใช้ชีวิตของการเป็นนักเรียนในโรงเรียนจึงเป็นช่วงเวลาสำคัญที่โรงเรียนต้องหยิบยื่นประสบการณ์ชีวิตพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียน ให้เติบโตและงดงามและเป็นบุคคลที่มีคุณค่าของสังคม มีคุณธรรมจริยธรรม ดำเนินวิถีชีวิตตามที่สังคมมุ่งหวัง โรงเรียนต้องดำเนินการจัดการศึกษาตามนโยบาย โดยมุ่งเน้นให้นักเรียนเป็นคนดี คนเก่ง ดำรงตนให้อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข นอกจากได้รับกระบวนการเรียนรู้แล้ว การป้องกันและช่วยเหลือแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบันที่เป็นปัจจัยเสี่ยงในด้านต่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยาเสพติด การพนัน หนีเรียน ทะเลาะวิวาท เป็นปัญหาสังคมที่โรงเรียน ครู ผู้ปกครอง ต้องเข้าไปช่วยเหลือและแก้ปัญหาไม่ให้มีพฤติกรรมเสี่ยง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมความคิด การแก้ปัญหาตามกระบวนการคิดเป็น แก้ปัญหาเป็น ทั้งนี้นโยบายของรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มุ่งหวังให้สถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ด้วยกระบวนการสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดที่เข้มแข็ง ต่อเนื่อง และยั่งยืน ป้องกันผู้เสพยาเสพติดรายใหม่ และให้การช่วยเหลือผู้ที่ไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดตามโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข เป็นการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างครบวงจรคุณภาพตามยุทธศาสตร์ โดยจัดให้สถานศึกษา จัดทำโครงการสถานศึกษาสีขาว ซึ่งมีกรอบแผนการดำเนินงานที่ชัดเจนนำมาปฏิบัติในโรงเรียนให้บังเกิดผล เพื่อให้สถานศึกษาปลอดบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า แอลกอฮอล์ อบายมุข และยังมีระบบการดูแลนักเรียนที่ใช้กิจกรรมหลากหลายเป็นสื่อ

สภาพปัจจุบันของโรงเรียนนาภูพิทยาคม ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 15 หมู่ 15 บ้านเหล่าหมากคำ ตำบลนาภู อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม ปัจจุบันมีนายรณกฤต รินทะชัย เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน มีครูและบุคลากรทางการศึกษา 30 คน นักเรียน 383 คน โรงเรียนได้รับรางวัลโครงการสถานศึกษาสีขาว ระดับเงิน ปีการศึกษา 2565 ระดับทอง ปีการศึกษา 2566 และสืบเนื่องจากสภาพสังคมปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จึงทำให้เกิดปัญหามากมาย ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม วัตถุนิยมต่างๆ ซึ่งมีผลกระทบต่อครอบครัวที่ต้องดิ้นรนต่อสู้กับชีวิตประจำวันมากขึ้น ทำให้สถาบันครอบครัวต้องมีความห่างเหินกัน การดูแล การพึ่งอาศัยกันน้อยลงและเกิดแรงกดดันบีบคั้นต่างๆ ส่งผลกระทบต่อทางจิตใจจึงเป็นเหตุของปัญหาการหย่าร้างซึ่งเป็นปัญหาที่จะทำให้กระทบกระเทือนต่อสภาวะจิตใจของสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กที่มาจากครอบครัวที่หย่าร้าง ไม่ได้อยู่กับบิดา มารดา จะมีสภาพป่วยทางจิตใจ ขาดความมั่นคงทางอารมณ์ ขาดความรักความอบอุ่น ขาดความเข้าใจตนเอง ขาดการอบรมบ่มเพาะด้านจิตใจ ทำให้เด็กและวัยรุ่นทั้งที่อยู่ในและนอกระบบสถานศึกษาหนีปัญหาโดยการใช้ยาเสพติด โดยเริ่มจากบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า เหล้า กัญชา น้ำกระท่อมฯลฯ ไม่ประพฤติปฏิบัติตนเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ผู้ปกครอง ขาดคุณธรรม จริยธรรม เจตคติและค่านิยมที่ดีงาม นอกจากเหตุปัจจัยดังกล่าวในวัยรุ่น มักจะมีความอยากรู้อยากลองเกี่ยวกับสิ่งใหม่ๆ รวมถึงยาเสพติด บางครั้งพวกเขาอาจจะเห็นเพื่อนหรือคนในสังคมใช้ยาเสพติดและรู้สึกอยากลองเพื่อไม่ให้ตัวเองรู้สึกแตกต่างจากกลุ่มเพื่อน ทำให้พวกเขารู้สึกเท่หรือได้รับการยอมรับจากกลุ่มเพื่อน วัยรุ่นที่มีปัญหาในการเรียนหรือไม่สามารถปรับตัวกับสังคมได้อาจรู้สึกท้อแท้และหันไปหายาเสพติดเพื่อคลายความเครียด และในสภาพสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน การเข้าถึงยาเสพติดเป็นเรื่องง่าย สามารถซื้อยาเสพติดได้จากเพื่อนหรือผู้ขายในชุมชน หากมีแหล่งจำหน่ายที่เปิดเผยและไม่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด การเข้าถึงยาเสพติดก็จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตกเป็นเหยื่อได้ง่าย วัยรุ่นอาจไม่เข้าใจถึงอันตรายที่แท้จริงของการใช้ยาเสพติด หรืออาจมองว่าการใช้ยาเสพติดเป็นเรื่องปกติ การได้รับอิทธิพลจากสื่อเทคโนโลยี สื่อออนไลน์ ที่มักจะมีการแสดงให้เห็นถึงการใช้ยาเสพติดในภาพยนตร์ เพลง หรือการแสดงในสื่อต่างๆ ทำให้วัยรุ่นมองว่าเป็นเรื่องปกติหรือเท่ ซึ่งกระตุ้นให้พวกเขาอยากลองตามตัวอย่างที่เห็นในสื่อ

จากบริบทดังกล่าวข้างต้น คือปัจจัยสำคัญที่โรงเรียนนาภูพิทยาคมได้ดำเนินโครงการสถานศึกษาสีขาว โดยเลือกนวัตกรรมที่สมบูรณ์แบบด้วยกระบวนการและสอดคล้องกับบริบทโรงเรียน

จึงได้นำ TICE MODEL มาเป็นนวัตกรรมนำไปใช้ในกิจกรรม งาน โครงการของโรงเรียน ซึ่งได้ดำเนินการในปีการศึกษา 2567 เพื่อไม่ให้นักเรียนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดที่เกิดจากการผสมผสานของปัจจัยหลายด้าน ทั้งในแง่ของจิตใจ ความเครียด ความอยากรู้อยากเห็น และการขาดการดูแลจากครอบครัวหรือสังคม การป้องกันปัญหานี้จึงต้องมีการให้ความรู้ สนับสนุนและสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีทั้งในบ้านและโรงเรียน เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่ทำให้นักเรียนตกเป็นเหยื่อของยาเสพติด

1.2 ความสำคัญของนวัตกรรม

จากการที่โรงเรียนได้เข้ารับการประเมินผลงานโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข ปีการศึกษา 2567 ในส่วนของนวัตกรรมโครงการสถานศึกษาสีขาวนั้น ใช้ชื่อ นวัตกรรม TICE MODEL มาเป็นแนวปฏิบัติในการดำเนินงาน เพื่อพัฒนากิจกรรม งาน โครงการต่างๆของโรงเรียนให้ตรงตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่วางไว้มากที่สุดและเกิดคุณภาพมากยิ่งขึ้น โดยโรงเรียน มีนโยบายมุ่งพัฒนานักเรียนให้เป็นบุคคลที่มีคุณภาพทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา มีความรู้ความสามารถและมีคุณธรรม จริยธรรม ดำเนินชีวิตที่เป็นสุขตามที่สังคมมุ่งหวัง โดยผ่านกระบวนการทางการศึกษาที่สถานศึกษาดำเนินการจัดการศึกษาตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการที่ต้องการให้เป็นคนเก่ง คนดี มีความสุข นอกจากการดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนให้นักเรียนได้เรียนรู้ตามหลักสูตรแล้ว การป้องกันและการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาด้านยาเสพติด เด็กติดเกม เล่นการพนัน หนีเรียน ทะเลาะวิวาท รวมทั้งการก่ออาชญากรรม ก็เป็นอีกภารกิจหนึ่งที่สำคัญ ที่โรงเรียนพยายามดำเนินการแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่องโดยร่วมกันแก้ปัญหากับผู้มีส่วนร่วมในการพัฒนาโรงเรียน คือ ผู้ปกครอง ชุมชน องค์กรศาสนา หน่วยงานปกครอง โรงพยาบาล และหน่วยงานส่งเสริมการศึกษาทุกภาคส่วน โดยตระหนักถึงโทษ และพิษภัยของปัญหายาเสพติดและอบายมุขที่ส่งผลกระทบต่อนักเรียนเสมอมา จึงมีการดำเนินงานโครงการพัฒนาโรงเรียนให้เป็นโรงเรียนสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข

โดยมีการบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ภาคีเครือข่ายสถานศึกษาสีขาว โรงเรียนนาภูพิทยาคม ระหว่างโรงเรียนกับสถานีตำรวจภูธรยางสีสุราช ซึ่งได้ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้แนวคิดและหลักการ 5 มาตรการ มาเป็นแนวทางปฏิบัติ คือ 1) มาตรการป้องกัน 2) มาตรการค้นหา 3) มาตรการรักษา 4) มาตรการเฝ้าระวัง 5) มาตรการบริหารจัดการ และกลยุทธ์ 4 ต้อง 2 ไม่ คือ 1) ต้องมียุทธศาสตร์ 2) ต้องมีแผนงาน 3) ต้องมีระบบข้อมูล 4) ต้องมีเครือข่าย และ 2 ไม่ คือ 1) ไม่ปกปิดข้อมูล 2) ไม่ผลักปัญหาไม่ให้นักเรียนออกกลางคัน เพื่อให้นักเรียนได้ห่างไกลและปลอดภัยจากสิ่งเสพติด และช่วยลดปัญหายาเสพติดและอบายมุขให้น้อยลงให้นักเรียนหันมาเดินในเส้นทางชีวิตที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม นำพาตนเองและคนรอบข้างให้รอดพ้นจากทางเสื่อมทั้งปวง ซึ่งผู้วิจัยคิดว่านวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศเรื่องนี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เกิดประโยชน์ต่อนักเรียนซึ่งจะเจริญเติบโตเป็นเยาวชน เป็นผู้ใหญ่ในวันหน้า เป็นเยาวชนที่ดีของประเทศสืบไป

2.1 วัตถุประสงค์

2.1.1. เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดในสถานศึกษาให้กับนักเรียน 2.1.2 เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้ และ ทำกิจกรรม เข้าร่วมการแข่งขันตามความถนัดด้วยวิธีการที่หลากหลายอันจะส่งผลต่อคุณภาพการเรียนรู้ที่ยั่งยืน

2.2 เป้าหมาย

2.2.1 เป้าหมายเชิงปริมาณ

1. นักเรียนโรงเรียนนาภูพิทยาคม ร้อยละ 100 มีภูมิคุ้มกันยาเสพติดในสถานศึกษา

2. นักเรียนโรงเรียนนาภูพิทยาคม ร้อยละ 100 ได้เรียนรู้และทำกิจกรรมเข้าร่วมการแข่งขันตามความถนัดด้วยวิธีการที่หลากหลายอันจะส่งผลต่อคุณภาพการเรียนรู้ที่ยั่งยืน

2.2.2 เป้าหมายเชิงคุณภาพ

1. นักเรียนโรงเรียนนาภูพิททยาคมมีองค์ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติดจากการจัดกิจกรรมการเข้าค่าย โครงการต่างๆในโรงเรียน

2. นักเรียนโรงเรียนนาภูพิทยาคมมีความภาคภูมิใจในการเข้าร่วมกิจกรรม การแข่งขันและรางวัลที่ได้รับ

3.1 กรอบแนวคิดในการออกแบบนวัตกรรม

การดำเนินงานโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติด โรงเรียนนาภูพิทยาคมภายใต้แนวคิด "TICE MODEL" ซึ่งเป็นนวัตกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยผสมผสานการร่วมมือของภาคีเครือข่าย (Team & Network) เข้าสู่กระบวนการคัดกรองความเสี่ยงนักเรียน (Investigation) กระบวนการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดสารเสพติด (Clean) และ การส่งเสริมศักยภาพของนักเรียนเพื่อพัฒนาตนเองในด้านบวก (Empowerment) เพื่อให้นักเรียนมีภูมิคุ้มกันยาเสพติดและเติบโตเป็นบุคคลที่มีคุณภาพ

นิยามศัพท์เฉพาะ

T (Team & Network) หมายถึง การสร้างทีมงานที่แข็งแกร่งและความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกสถานศึกษา เป็นรากฐานสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา การเผชิญหน้ากับปัญหานี้ไม่สามารถทำได้โดยองค์กรหรือบุคคลใดเพียงลำพัง แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งในโรงเรียนและนอกโรงเรียน ภายในโรงเรียน ครู ผู้บริหาร และนักเรียนควรมีบทบาทร่วมกันในฐานะทีมที่ประสานงานอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานการณ์และกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ การสร้างภาคีเครือข่ายความร่วมมือกับองค์กรภายนอก

โรงเรียนนาภูพิทยาคมพร้อมกับภาคีเครือข่ายการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด มีการร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประสบความสำเร็จ และสร้างให้นักเรียนเป็นพลเมืองดีในสังคม

I (Investigation) หมายถึง การคัดกรองนักเรียนเพื่อระบุกลุ่มเสี่ยงหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เป็นขั้นตอนสำคัญในการค้นหาและระบุกลุ่มเป้าหมายที่อาจมีความเสี่ยงต่อปัญหายาเสพติด วิธีการนี้เน้นการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงรุกเพื่อให้ทราบถึงสถานการณ์ที่แท้จริงและออกแบบมาตรการที่เหมาะสมสำหรับการแก้ไขปัญหา การคัดกรองที่มีประสิทธิภาพต้องอาศัยเครื่องมือที่ทันสมัยและความร่วมมือจากบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ

โรงเรียนนาภูพิทยาคมศึกษาแบบคัดกรองการใช้สารเสพติดเบื้องต้น โดยให้นักเรียนเป็นผู้ประเมินตนเอง และประเมินโดยครูที่ปรึกษาโดยใช้การสังเกตพฤติกรรมในขั้นเบื้องต้น การตรวจสอบข้อมูลด้านสุขภาพ ใช้ระบบฐานข้อมูลติดตามผลการคัดกรองนักเรียน ประเมินผลกระทบของปัจจัยแวดล้อมที่อาจนำนักเรียนไปสู่ปัญหายาเสพติด แยกเป็นระดับที่สถานศึกษาสามารถดูแลช่วยเหลือได้ และกลุ่มที่ควรส่งต่อ กระบวนการเหล่านี้ช่วยให้โรงเรียนสามารถระบุ/คัดกรองกลุ่มนักเรียนที่ต้องการการช่วยเหลือได้อย่างแม่นยำและสามารถจัดสรรทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

C (Clean) หมายถึง การสร้างสภาพแวดล้อมและการสร้างภูมิคุ้มกันที่ปลอดภัย การสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและปลอดยาเสพติดในโรงเรียน เป็นการเสริมสร้างพื้นที่ที่เอื้อต่อการเรียนรู้และการพัฒนานักเรียนในเชิงบวก แนวทางนี้ไม่เพียงแค่หมายถึงการกำจัดยาเสพติดออกจากพื้นที่โรงเรียน แต่ยังรวมถึงการสร้างสภาพแวดล้อมที่สะอาดทั้งกายภาพและจิตใจ การรณรงค์ให้เกิดวัฒนธรรมที่ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความสามัคคีในหมู่นักเรียนและบุคลากรในโรงเรียนเป็นสิ่งที่สำคัญ

โรงเรียนนาภูพิทยาคมกำหนดการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ได้แก่ การกำหนดเขตปลอดยาเสพติดในพื้นที่โรงเรียนอย่างชัดเจน การติดตั้งระบบเฝ้าระวัง เช่น กล้องวงจรปิดและการตรวจสอบพื้นที่ที่อาจเป็นแหล่งของสารเสพติดและอบายมุข ส่งเสริมกิจกรรมแนะแนว แนะนำ ให้คำปรึกษาสำหรับนักเรียนที่อยู่ในภาวะเสี่ยงต่อปัญหายาเสพติดอย่างเป็นกัลยาณมิตร เป็นความลับ เพื่อให้นักเรียนเกิดความเชื่อใจ แก้ไขปัญหาไปพร้อมกัน และมีการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับนักเรียนโรงเรียนนาภูพิทยาคม ได้แก่ จัดให้มีระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนจัดการดูแลนักเรียนโดยใช้ระบบครูที่ปรึกษา มีการเยี่ยมบ้านปีการศึกษาละ 2 ครั้ง คัดกรองนักเรียน ให้อบรมให้คำปรึกษา ให้ความรู้ และมีการส่งต่ออย่างเป็นระบบ การอบรมให้ความรู้นักเรียนจากองค์กรภายนอก เช่น รพ.สต.บ้านเหล่าหมากคำ โรงพยาบาลยางสีสุราช สถานีตำรวจภูธรยางสีสุราช องค์การบริหารส่วนตำบลนาภู เป็นต้น

มีโครงการเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมรวมทั้งจิตอาสา เช่น เข้าค่ายคุณธรรม ลูกเสือจิตอาสา โครงการสวดมนต์ประจำสัปดาห์ ดูแลเขตพื้นที่รับผิดชอบในโรงเรียน จิตอาสาสภานักเรียน เป็นต้น

E (Empowerment) หมายถึง การส่งเสริมศักยภาพของนักเรียนเพื่อพัฒนาตนเองในด้านบวก มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะและความสามารถของนักเรียนให้พร้อมเผชิญกับความท้าทายและการตัดสินใจในชีวิต แนวคิดนี้ครอบคลุมถึงการสร้างความมั่นใจในตนเอง การพัฒนาทักษะชีวิต และการสนับสนุนให้นักเรียนมีบทบาทสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา

โรงเรียนนาภูพิทยาคม ดำเนินการส่งเสริมศักยภาพของนักเรียน ได้แก่ การส่งเสริมกิจกรรมสร้างสรรค์ เช่น การแข่งขันกีฬา กิจกรรมศิลปะ ดนตรี กิจกรรมจิตอาสาพัฒนาโรงเรียนและชุมชน กิจกรรมชุมนุมตามความถนัดของผู้เรียน การให้รางวัลและการยกย่องนักเรียนที่เป็นแบบอย่างในด้านคุณธรรม และการจัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับพิษภัยของยาเสพติด การสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและปลอดยาเสพติดช่วยลดโอกาสที่นักเรียนจะเข้าถึงยาเสพติดและส่งเสริมการใช้ชีวิตในเชิงบวก การให้คำปรึกษาเชิงบวกเพื่อสร้างกำลังใจและแนวทางในการพัฒนาตนเอง การจัดทำโครงการ ฝึกงานหรือกิจกรรมที่เสริมสร้างประสบการณ์ชีวิตที่มีคุณค่า และการยอมรับในความสามารถของนักเรียนผ่านการมอบรางวัลหรือประกาศเกียรติคุณ การส่งเสริมศักยภาพของนักเรียนช่วยให้พวกเขาเข้าใจถึงคุณค่าในตนเองและมีแรงบันดาลใจในการเลือกเส้นทางชีวิตที่ดี

การแก้ปัญหายาเสพติดในโรงเรียนเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องอาศัยแนวทางการดำเนินงานที่เป็นระบบและมีประสิทธิภาพ “TICE MODE” เป็นนวัตกรรมที่โรงเรียนนาภูพิทยาคมพัฒนาขึ้นเพื่อรับมือกับปัญหายาเสพติดอย่างครอบคลุมและยั่งยืน แนวคิดหลักของ TICE MODEL คือการสร้างเครือข่าย คัดกรอง ขจัดปัญหาและพัฒนาส่งเสริม โดยความสำเร็จของ TICE MODEL อยู่ที่การบูรณาการแนวคิดทั้ง 4 ด้านอย่างเป็นองค์รวม โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการพัฒนานักเรียนให้เป็นพลเมืองดีของสังคม มีภูมิคุ้มกันต่อปัญหายาเสพติด และสามารถใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า นวัตกรรมนี้แสดงให้เห็นว่าการแก้ปัญหายาเสพติดไม่ใช่เพียงการควบคุมหรือลงโทษ แต่ต้องอาศัยการเข้าใจ การสนับสนุน และการเสริมสร้างศักยภาพของเยาวชนอย่างแท้จริง

3.2 วิธีดำเนินการใช้นวัตกรรม

โรงเรียนนาภูพิทยาคมมีวิธีการดำเนินการสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติด ด้วย TICE Model ดังนี้

การดำเนินการ ขั้นที่ 1 T (Team & Network)

โรงเรียนนาภูพิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษามหาสารคาม ได้ดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ โครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข ตามมาตรการ 4 ต้อง 2 ไม่ ได้มีการทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU (Memorandum of Understanding) กับโรงเรียนเครือข่ายโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข เพื่อพัฒนาการดำเนินโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข มีรายละเอียดข้อตกลงร่วมมือดังนี้

1. ให้ความร่วมมือในการพัฒนาศักยภาพของนักเรียน ผู้ปฏิบัติและผู้เกี่ยวข้องให้สามารถดำเนินโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข อย่างเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข

2. สนับสนุนให้เครือข่ายตามโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในการทำงานเกี่ยวกับงานด้านการป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา

3. ร่วมกันประชาสัมพันธ์สร้างความเชื่อมั่นและอบอุ่นใจให้กับผู้ปกครองของนักเรียน

ว่าการประสานความร่วมมือของทั้งสองโรงเรียน จะทำให้การดำเนินงานตามโครงการสถานศึกษา สีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

โดยได้ทำการบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU กับโรงเรียนเครือข่ายโครงการสถานศึกษา

สีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข ดังนี้

1) ภาคีเครือข่ายสถานศึกษาปลอดยาเสพติดและอบายมุข

1.1) โรงเรียนมัธยมยางสีสุราช ประเภทดีเด่น ระดับทอง

1.2) โรงเรียนบ้านแวงยางกุดตะเข้ ประเภทดีเด่น ระดับทอง

1.3) โรงเรียนบ้านแวงดงหนองยาง ประเภทดีเด่น ระดับเงิน

2) ภาคีเครือข่ายสถานีตำรวจภูธรยางสีสุราช

3) ภาคีเครือข่ายโรงพยาบาลยางสีสุราช

4) ภาคีเครือข่ายองค์การบริหารส่วนตำบลนาภู

5) ภาคีเครือข่าย รพ.สต. เหล่าหมากคำ

6) ภาคีเครือข่ายตัวแทนผู้ปกครองนักเรียน

การดำเนินการ ขั้นที่ 2 I (Investigation)

โรงเรียนมีการดำเนินการคัดกรองนักเรียนเพื่อระบุกลุ่มเสี่ยงหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เพื่อค้นหาและระบุกลุ่มเป้าหมายที่อาจมีความเสี่ยงต่อปัญหายาเสพติด วิเคราะห์ข้อมูลเชิงรุกเพื่อให้ทราบถึงสถานการณ์ที่แท้จริงโดยใช้แบบคัดกรองการใช้สารเสพติดเบื้องต้น โดยให้นักเรียนเป็นผู้ประเมินตนเอง ประเมินโดยผู้ปกครองและครูที่ปรึกษาโดยใช้การสังเกตพฤติกรรมในขั้นเบื้องต้น ดังนี้

1. ใช้ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนในการสำรวจปัญหาของนักเรียนโดยครูที่ปรึกษาออกเยี่ยมบ้านนักเรียนปีการศึกษาละ 2 ครั้ง มีการบันทึกข้อมูลในแบบบันทึกการเยี่ยมบ้านเพื่อนำข้อมูลมาประกอบการคัดกรองนักเรียนโดยใช้แบบประเมินพฤติกรรมนักเรียน (SDQ) โดยมีผู้ประเมินคือ นักเรียน ผู้ปกครอง และครูที่ปรึกษา

2. ครูที่ปรึกษาแปลผลจากแบบประเมินพฤติกรรมนักเรียน (SDQ) เพื่อจำแนกนักเรียนกลุ่มเสี่ยงและไม่เสี่ยง ด้านพฤติกรรม หลังจากนั้นนำนักเรียนกลุ่มเสี่ยงมาคัดกรองสารเสพติดโดยใช้แบบคัดกรอง ASSIST V 3.1 เพื่อรวบรวมข้อมูลในการแก้ไขปัญหาต่อไป

การดำเนินการขั้นที่ 3 C (Clean)

โรงเรียนนาภูพิทยาคมกำหนดการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและมีการสร้างภูมิคุ้มกัน

ให้กับนักเรียนโรงเรียนนาภูพิทยาคม โดยมีการดำเนินการแก้ปัญหานักเรียนกลุ่มเสี่ยงที่ได้จากการคัดกรอง ดังนี้

1. จัดอบรมให้ความรู้นักเรียนจากองค์กรภายนอก เช่น รพ.สต.บ้านเหล่าหมากคำ โรงพยาบาลยางสีสุราช สถานีตำรวจภูธรยางสีสุราช องค์การบริหารส่วนตำบลนาภู เป็นต้น

2. จัดค่ายคุณธรรมจริยธรรม เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีคุณธรรมจริยธรรมตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์เป็นพลเมืองดีของสังคม มีภูมิคุ้มกันป้องกันปัญหายาเสพติดอบายมุขและค่านิยมที่ถูกต้อง

3. จัดให้นักเรียนเข้าร่วมโครงการจิตอาสา เพื่อสร้างจิตสำนึกที่ดีให้กับนักเรียน

4. หลังจากนักเรียนกลุ่มเสี่ยงเข้าร่วมกิจกรรมการอบรมให้ความรู้ ค่ายคุณธรรม และโครงการจิตอาสาแล้วนั้น ประมินนักเรียนโดยใช้แบบคัดกรอง ASSIST V 3.1

5. จำแนกนักเรียนเป็นสองกลุ่มคือ กลุ่มเสี่ยงและกลุ่มไม่เสี่ยง หลังจากนั้นนำนักเรียนกลุ่มเสี่ยงส่งต่อเพื่อบำบัดต่อไป และส่งเสริมนักเรียนกลุ่มที่ไม่มีความเสี่ยงตามความถนัดในขั้นตอนต่อไป

การดำเนินการขั้นที่ 4 E (Empowerment)

โรงเรียนนาภูพิทยาคม ได้ดำเนินการส่งเสริมศักยภาพของนักเรียน เพื่อช่วยให้พวกเขาเข้าใจถึงคุณค่าในตนเองและมีแรงบันดาลใจในการเลือกเส้นทางชีวิตที่ดี ดังนี้

ดำเนินการส่งเสริมนักเรียนกลุ่มไม่เสี่ยงและกลุ่มเสี่ยงที่ผ่านการแก้ปัญหาและการสร้างภูมิคุ้มกันแล้ว โดยการส่งเสริมศักยภาพของนักเรียนในด้านต่าง ๆ ตามความถนัดของนักเรียน ได้แก่ การจัดหลักสูตรสถานศึกษาให้สอดคล้องกับผู้เรียนและบริบทของสถานศึกษา โดยการจัดให้มีชุมนุมเป็นทางเลือกที่หลากหลายให้กับนักเรียน เช่น ชุมนุมกีฬา ชุมนุมศิลปะ ชุมนุมดนตรี และชุมนุมส่งเสริมอาชีพให้กับนักเรียน อีกทั้งโรงเรียนยังส่งเสริมให้นักเรียนได้เข้าร่วมและแข่งขันในกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในระดับโรงเรียน ท้องถิ่น ภูมิภาค และระดับประเทศ ทำให้นักเรียนได้รับรางวัล ได้รับความชื่นชม และเป็นที่ยอมรับของโรงเรียน ครอบครัว และสังคม จึงทำให้นักเรียนได้รับความภาคภูมิใจในตนเองสร้างความมั่นใจในตนเอง ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการดำเนินชีวิตอย่างมีคุณภาพและห่างไกลจากยาเสพติด

โรงเรียนได้ดำเนินโครงการการคัดกรองนักเรียนกลุ่มเสี่ยง (I - Investigation) โดยใช้กระบวนการสำรวจปัญหาและคัดกรองนักเรียนผ่านการเยี่ยมบ้านด้วยแบบประเมินพฤติกรรมนักเรียน SDQ ซึ่งช่วยให้สามารถจำแนกนักเรียนออกเป็นกลุ่มเสี่ยงและไม่เสี่ยงด้านพฤติกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โรงเรียนได้ดำเนินการคัดกรองสารเสพติดโดยใช้แบบคัดกรอง ASSIST V 3.1 และดำเนินกิจกรรมแก้ไขปัญหา เช่น การอบรมให้ความรู้จากหน่วยงานภายนอก การจัดค่ายคุณธรรมจริยธรรม และโครงการจิตอาสา หลังจากเข้าร่วมกิจกรรม นักเรียนได้รับการประเมินซ้ำเพื่อจำแนกกลุ่มเสี่ยงที่ต้องได้รับการบำบัดและกลุ่มที่สามารถพัฒนาไปในทิศทางที่ดีได้ สำหรับนักเรียนกลุ่มไม่เสี่ยง โรงเรียนได้ดำเนินการส่งเสริมศักยภาพผ่านกิจกรรมชุมนุมที่หลากหลาย เช่น กีฬา ศิลปะ ดนตรี และอาชีพ อีกทั้งยังสนับสนุนให้นักเรียนเข้าร่วมการแข่งขันในระดับต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและความภาคภูมิใจในตนเอง

โรงเรียนนาภูพิทยาคมได้ดำเนินการสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติด ด้วย TICE MODEL เพื่อการดูแลและช่วยเหลือนักเรียนตามโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข มีผลการดำเนินงาน ดังนี้

4.1 ผลการดำเนินงาน

1) การสร้างภาคีเครือข่าย (T - Team & Network)

โรงเรียนมีเครือข่ายความร่วมมือที่เข้มแข็งกับหน่วยงานภายนอก โดยการลงนาม MOU กับหน่วยงานสำคัญ ได้แก่ โรงเรียนบ้านแวงดงหนองยาง โรงเรียนบ้านแวงดงกุดตะเข้ โรงเรียนบ้านดงแคน โรงเรียนมัธยมยางสีสุราช ตัวแทนผู้ปกครองนักเรียน โรงพยาบาลยางสีสุราช สถานีตำรวจภูธรยางสีสุราช รพ.สต.บ้านเหล่าหมากคำ องค์การบริการส่วนตำบลนาภู

2) การคัดกรองนักเรียนกลุ่มเสี่ยง (I - Investigation)

โรงเรียนได้ดำเนินการคัดนักเรียนโดยใช้ TICE Model ในขั้นตอน I - Investigation เพื่อระบุกลุ่มเสี่ยงหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เป็นขั้นตอนสำคัญในการค้นหาและระบุกลุ่มเป้าหมายที่อาจมีความเสี่ยงต่อปัญหายาเสพติด วิธีการนี้เน้นการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงรุกเพื่อให้ทราบถึงสถานการณ์ที่แท้จริงและออกแบบมาตรการที่เหมาะสมสำหรับการแก้ไขปัญหา การคัดกรองที่มีประสิทธิภาพต้องอาศัยเครื่องมือที่ทันสมัยและความร่วมมือจากบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ

3) การสร้างสภาพแวดล้อมและการสร้างภูมิคุ้มกันที่ปลอดภัย (C - Clean)

โรงเรียนมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้ดึงดูดความสนใจนักเรียนและมีความปลอดภัยในโรงเรียน เช่น โรงเรียนกำหนดเขตปลอดยาเสพติดและติดตั้งระบบเฝ้าระวัง มีกล้องวงจรปิด มีมาตรการตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงโดยคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดูแลจุดเสี่ยงภายในโรงเรียน

โรงเรียนสร้างภูมิคุ้มกันให้กับนักเรียนโรงเรียนนาภูพิทยาคม ดังนี้

- ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนจัดการดูแลนักเรียนโดยใช้ระบบครูที่ปรึกษา มีการเยี่ยมบ้านปีการศึกษาละ 2 ครั้ง คัดกรองนักเรียน ให้อบรมให้คำปรึกษา ให้ความรู้ และมีการส่งต่ออย่างเป็นระบบ

- การอบรมให้ความรู้นักเรียนจากองค์กรภายนอก เช่น รพ.สต.บ้านเหล่าหมากคำ โรงพยาบาลยางสีสุราช สถานีตำรวจภูธรยางสีสุราช องค์การบริหารส่วนตำบลนาภู เป็นต้น

- มีโครงการเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมรวมทั้งจิตอาสา เช่น เข้าค่ายคุณธรรม ลูกเสือจิตอาสา โครงการสวดมนต์ประจำสัปดาห์ ดูแลเขตพื้นที่รับผิดชอบในโรงเรียน จิตอาสาสภานักเรียน เป็นต้น

ตารางแสดงจำนวนนักเรียนที่มีความเสี่ยงเกี่ยวข้องกับสารเสพติด

ระดับชั้น จำนวนนักเรียน จำนวนผู้ใช้สารเสพติดลดลง

คิดเป็นร้อยละ

(ปีการศึกษา 2565-2566) จำนวนผู้ใช้สารเสพติดลดลง คิดเป็นร้อยละ

(ปีการศึกษา 2566-2567)

ปีการศึกษา2565 ปีการศึกษา2566 ปีการศึกษา2567

ชั้นมัธยมศึกษาปี 1 8 4 1 50.00 75.00

ชั้นมัธยมศึกษาปี 2 15 8 4 46.67 50.00

ชั้นมัธยมศึกษาปี 3 10 2 0 80.00 100.00

ชั้นมัธยมศึกษาปี 4 14 12 10 14.29 16.67

ชั้นมัธยมศึกษาปี 5 12 6 3 50.00 50.00

ชั้นมัธยมศึกษาปี 6 10 4 0 60.00 100.00

รวม 69 36 18 50.16 65.28

4) การส่งเสริมกิจกรรมสร้างสรรค์ตามความสนใจของนักเรียน (E - Empowerment)

โรงเรียนส่งเสริมศักยภาพของนักเรียนในด้านต่าง ๆ ตามความถนัดของนักเรียน ได้แก่ การจัดหลักสูตรสถานศึกษาให้สอดคล้องกับผู้เรียนและบริบทของสถานศึกษา โดยการจัดให้มีชุมนุมเป็นทางเลือกที่หลากหลายให้กับนักเรียน เช่น ชุมนุมกีฬา ชุมนุมศิลปะ ชุมนุมดนตรี และชุมนุมส่งเสริมอาชีพให้กับนักเรียน อีกทั้งโรงเรียนยังส่งเสริมให้นักเรียนได้เข้าร่วมและแข่งขันในกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในระดับโรงเรียน ท้องถิ่น ภูมิภาค และระดับประเทศ ทำให้นักเรียนได้รับรางวัล ได้รับความชื่นชม และเป็นที่ยอมรับของโรงเรียน ครอบครัว และสังคม จึงทำให้นักเรียนได้รับความภาคภูมิใจในตนเองสร้างความมั่นใจในตนเอง ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการดำเนินชีวิตอย่างมีคุณภาพและห่างไกลจากยาเสพติด

4.2 ผลสัมฤทธิ์

โรงเรียนนาภูพิทยาคมได้เข้ารับการประเมินผลการดำเนินงานโครงการ "สถานศึกษาสีขาว

ปลอดยาเสพติดและอบายมุข" ประจำปีการศึกษา 2567 โดยใช้นวัตกรรม "TICE MODEL" เป็นแนวปฏิบัติหลักในการดำเนินงาน เพื่อพัฒนากิจกรรมและโครงการต่าง ๆ ของโรงเรียนให้เกิดคุณภาพและบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้

การดำเนินงานภายใต้ "TICE MODEL" ได้มุ่งเน้นการพัฒนานักเรียนให้เป็นบุคคลที่มีคุณภาพทั้งด้านร่างกาย

จิตใจ และสติปัญญา มีความรู้ความสามารถ ควบคู่กับคุณธรรมจริยธรรม ดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขตามที่สังคมมุ่งหวัง นอกจากการจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรสถานศึกษาแล้ว โรงเรียนนาภูพิทยาคมยังให้ความสำคัญ

กับการป้องกันและช่วยเหลือแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อนักเรียน เช่น ยาเสพติด การติดเกม การพนัน การหนีเรียนและการทะเลาะวิวาท โดยโรงเรียนได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกและบูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย เช่น ผู้ปกครอง ชุมชน วัด หน่วยงานปกครอง โรงพยาบาล และหน่วยงานด้านการศึกษา เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างครอบคลุมและยั่งยืน

นักเรียนได้รับการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับผลกระทบของยาเสพติด ทั้งในระดับบุคคล ครอบครัว และสังคม ทำให้นักเรียนตระหนักถึงอันตรายและผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นหากใช้สารเสพติด นอกจากนี้ นักเรียนยังได้พัฒนาทักษะทางจิตใจ โดยการฝึกสมาธิเพื่อให้จิตใจสงบ และเข้าร่วมกิจกรรมที่เสริมสร้างสุนทรียภาพ เช่น การเล่นดนตรี ร้องเพลง และวาดภาพ ซึ่งช่วยให้พวกเขามีทางเลือกในการสร้างความสุขโดยไม่พึ่งพาสารเสพติด

อีกทั้ง นักเรียนได้เรียนรู้วิธีรับมือกับความเครียดหรือแรงกดดันในชีวิต โดยใช้กิจกรรมที่สร้างสรรค์แทนการใช้ยาเสพติด สิ่งเหล่านี้ช่วยให้พวกเขาสามารถเผชิญหน้ากับปัญหาได้อย่างมีสติและมีทางออกที่เหมาะสม นอกจากนี้ นักเรียนยังสามารถแยกแยะโทษและประโยชน์ของยาเสพติดได้ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการตัดสินใจเลือกเส้นทางชีวิตที่ปลอดภัยและห่างไกลจากยาเสพติด ส่งผลให้นักเรียนโรงเรียนนาภูพิทยาคมอยู่ในพื้นที่ปลอดยาเสพติดอย่างสมบูรณ์ ด้วยมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันที่เข้มแข็ง ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และชุมชน ทำให้สามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและห่างไกลจากยาเสพติดได้อย่างแท้จริง ร้อยละ 100 นอกจากนี้ นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมในกิจกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในรูปแบบต่างๆ เช่น การเป็นแกนนำเยาวชน การให้ความรู้แก่เพื่อน และการเข้าร่วมกิจกรรมรณรงค์ สิ่งเหล่านี้ช่วยส่งเสริมให้เกิดความตระหนักรู้และสร้างเครือข่ายเยาวชนที่เข้มแข็งในการต่อต้านยาเสพติด ที่สำคัญ นักเรียนทุกคนสามารถปฏิเสธยาเสพติดได้อย่างมั่นใจและมีเหตุผล ผ่านการฝึกฝนทักษะการตัดสินใจและการปฏิเสธเชิงบวก ทำให้พวกเขาสามารถเลือกแนวทางที่ดีให้กับตนเอง และเติบโตขึ้นเป็นบุคคลที่มีคุณภาพและรับผิดชอบต่อสังคม

4.3 ประโยชน์ที่ได้รับ

4.3.1 ได้รับความร่วมมือและเป็นเครือข่ายจากระดับต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน ผู้นำชุมชน ผู้ปกครองนักเรียน ในการร่วมกันแก้ปัญหายาเสพติด

4.3.2 นักเรียนโรงเรียนนาภูพิทยาคม ได้รับการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดในสถานศึกษา

4.3.3 นักเรียนโรงเรียนนาภูพิทยาคม ได้เรียนรู้แนวทางในการเฝ้าระวัง ป้องกันปัญหายาเสพติดแบบมีส่วนร่วม

4.3.4 นักเรียนโรงเรียนนาภูพิทยาคม มีจิตสำนึกและทัศนคติที่ถูกต้อง ในการปฏิเสธยาเสพติดและตระหนักถึงผลเสีย

4.3.5 นักเรียนโรงเรียนนาภูพิทยาคม ได้รับความรู้เกี่ยวกับยาเสพติด ทั้งประเภท ผลกระทบ และโทษที่เกิดขึ้น

โรงเรียนนาภูพิทยาคม ได้ดำเนินโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุขโดยการสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดด้วย TICE MODEL ที่สอดคล้องกับบริบทโรงเรียน ตามนโยบายมุ่งพัฒนานักเรียนให้เป็นบุคคลที่มีคุณภาพทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา มีความรู้ความสามารถและมีคุณธรรม จริยธรรม ดำเนินชีวิตที่เป็นสุขตามที่สังคมมุ่งหวัง โดยการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดในสถานศึกษาให้กับนักเรียน ผ่านกระบวนการส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้ และทำกิจกรรม เข้าร่วมการแข่งขันตามความถนัดด้วยวิธีการที่หลากหลายอันจะส่งผลต่อคุณภาพการเรียนรู้ที่ยั่งยืน

ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จ คือ ความร่วมมือของครู นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาและชุมชน ซึ่งประกอบด้วย ผู้ปกครอง หน่วยงานราชการ เอกชน ที่ส่งเสริมสนับสนุนให้การดำเนินกิจกรรมต่างๆ สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เช่น เครือข่ายผู้ปกครอง ผู้นำหมู่บ้าน สถานีตำรวจภูธรยางสีสุราช โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านเหล่าหมากคำ โรงพยาบาลยางสีสุราช โรงเรียนเครือข่าย และความร่วมมือของนักเรียนแกนนำในการดำเนินกิจกรรม ทั้งในส่วนของห้องเรียนสีขาว ซึ่งประกอบด้วยคณะทำงาน 4 ฝ่าย คือ ฝ่ายการเรียน ฝ่ายการงาน ฝ่ายสารวัตรนักเรียน และฝ่ายกิจกรรม ประสานงานกับสภานักเรียน สร้างองค์ความรู้ในแต่ละกิจกรรม โดยมีการประชุมวางแผนงานอย่างเป็นระบบ มีครูที่ปรึกษาทุกระดับชั้นคอยให้คำแนะนำ ดูแลอย่างใกล้ชิด ตลอดจนการติดตามและประเมินผล และการให้รางวัลให้กับห้องเรียนสีขาวดีเด่นรวมทั้งการสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคีเครือข่าย โดยการให้เกียรติยกย่อง การเสริมแรงตลอดจน การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีด้วยรูปแบบของการจัดกิจกรรมที่หลากหลายและส่งเสริมให้ภาคีเครือข่าย ได้มีส่วนแสดงความคิดเห็นในการบริหารจัดการทำให้มีเป้าหมายร่วมกันในการบริหารจัดการที่ชัดเจน มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน มีการไหลเวียนข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง และมีบทสรุปร่วมกันในการจัดทำแผนปฏิบัติการในปีต่อไป

ข้อสรุป

โรงเรียนมีนวัตกรรมการดำเนินงานในการแก้ไขปัญหายาเสพติดภายในโรงเรียน โดยครูมีบทบาทและส่วนร่วมต่อการพัฒนาผู้เรียนในการเฝ้าระวังและป้องกันปัญหายาเสพติดและอบายมุข อีกทั้งนักเรียนได้เรียนรู้และปฏิบัติกิจกรรมการป้องกันยาเสพติดและอบายมุขจากประสบการณ์ตรง มีส่วนร่วม และนำมาบูรณาการสู่การพัฒนาการเรียนรู้ได้เต็มตามศักยภาพของตนเอง ส่งผลให้นักเรียนเกิดภูมิคุ้มกัน ปลอดภัย ห่างไกลจากยาเสพติดและอบายมุข

ข้อสังเกต

การสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดจะต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย เพื่อให้ข้อมูลและการสนับสนุนต่าง ๆ เป็นไปในทิศทางเดียวกันตลอดจนการประเมินผลและติดตามผลการดำเนินงานควรมีการตรวจสอบและประเมินอย่างต่อเนื่องเพื่อให้แน่ใจว่ากิจกรรมเหล่านี้มีผลจริงต่อพัฒนาการของนักเรียน

ข้อเสนอแนะ

พัฒนาโครงการ กิจกรรรมค่ายจิตอาสที่ให้ความรู้และปลุกฝังคุณธรรมและจริยธรรม เพื่อเสริมสร้างจิตสำนึกที่ดี ปลอดภัยและห่างไกลยาเสพติด ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้สำหรับสร้างภูมิคุ้มกันการป้องกันยาเสพติดทั้งในโรงเรียนเครือข่ายและชุมชนเพื่อสร้างชุมชนให้มีความเข้มแข็งปลอดภัยห่างไกลยาเสพติดอย่างยั่งยืนและต่อเนื่อง

ข้อควรระวัง

ในการคัดกรองข้อมูลผู้ให้ข้อมูลและผู้คัดกรองจะต้องให้ข้อมูลตามความเป็นจริงไม่ปิดบังข้อมูลหรือให้ข้อมูลเป็นเท็จเพราะจะส่งผลต่อการแปลผลข้อมูลและการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุด

โรงเรียนนาภูพิทยาคมได้มีการเผยแพร่ผลงาน/นวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) “การสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติด ด้วย TICE MODEL” เพื่อการดูแลและช่วยเหลือนักเรียนตามโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข โดยจัดทำเอกสารเป็นรูปเล่มเพื่อเผยแพร่ผลการดำเนินงานขับเคลื่อนโครงการสถานศึกษาสีขาว ด้วยนวัตกรรมการสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติด ด้วย TICE MODEL ให้กับโรงเรียนในเครือข่าย เผยแพร่ในแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เช่น เวปไซต์ของโรงเรียน, Facebook โรงเรียนนาภูพิทยาคม Facebook งานประชาสัมพันธ์โรงเรียน, จดหมายข่าวประชาสัมพันธ์, Line ประชาสัมพันธ์ สพม.มหาสารคาม

โพสต์โดย อุ้ม : [6 ก.พ. 2568 (14:29 น.)]
อ่าน [113] ไอพี : 1.4.199.232
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,510 ครั้ง
กินแคลเซียมป้องกันโรคกระดูกผุ กลับไปเสี่ยงให้เกิดหัวใจวายขึ้น
กินแคลเซียมป้องกันโรคกระดูกผุ กลับไปเสี่ยงให้เกิดหัวใจวายขึ้น

เปิดอ่าน 14,201 ครั้ง
วิธีใช้น้ำในห้องน้ำอย่างประหยัด
วิธีใช้น้ำในห้องน้ำอย่างประหยัด

เปิดอ่าน 12,780 ครั้ง
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่!! ข้อคิดวันตรุษจีน
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่!! ข้อคิดวันตรุษจีน

เปิดอ่าน 15,936 ครั้ง
โรคตาแดง
โรคตาแดง

เปิดอ่าน 14,820 ครั้ง
ประตูบ้าน คือ ปากแห่งโชคลาภ
ประตูบ้าน คือ ปากแห่งโชคลาภ

เปิดอ่าน 10,090 ครั้ง
ชาแบบไหน เหมาะกับคุณ
ชาแบบไหน เหมาะกับคุณ

เปิดอ่าน 19,615 ครั้ง
เกมส์แต่งตัว
เกมส์แต่งตัว

เปิดอ่าน 11,442 ครั้ง
ความลับของชาเขียว
ความลับของชาเขียว

เปิดอ่าน 14,601 ครั้ง
เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก 17 ประการ
เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก 17 ประการ

เปิดอ่าน 10,985 ครั้ง
วิธีปลูกผักอีตู่ (แมงลัก) ในกระถาง
วิธีปลูกผักอีตู่ (แมงลัก) ในกระถาง

เปิดอ่าน 10,912 ครั้ง
กำจัดเซลลูไลท์ กำจัดผิวเปลือกส้ม
กำจัดเซลลูไลท์ กำจัดผิวเปลือกส้ม

เปิดอ่าน 1,352 ครั้ง
ร่มไม้เท้า สินค้ากันฝนอเนกประสงค์สำหรับผู้สูงอายุ
ร่มไม้เท้า สินค้ากันฝนอเนกประสงค์สำหรับผู้สูงอายุ

เปิดอ่าน 406,550 ครั้ง
ดาวน์โหลด แบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะการคิดเลขเร็ว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6
ดาวน์โหลด แบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะการคิดเลขเร็ว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6

เปิดอ่าน 10,840 ครั้ง
เทคนิคการคูณเลขแบบญี่ปุ่นกรณีมีเลขศูนย์อยู่ด้วย
เทคนิคการคูณเลขแบบญี่ปุ่นกรณีมีเลขศูนย์อยู่ด้วย

เปิดอ่าน 41,300 ครั้ง
รับชมย้อนหลัง "นายกรัฐมนตรีพบเพื่อนครู" วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม 2559
รับชมย้อนหลัง "นายกรัฐมนตรีพบเพื่อนครู" วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม 2559

เปิดอ่าน 15,374 ครั้ง
ปรุง...ต้านมะเร็ง ด้วยเมนูโฮมเมด
ปรุง...ต้านมะเร็ง ด้วยเมนูโฮมเมด
เปิดอ่าน 17,390 ครั้ง
เรียนคณิต ใครว่ายาก
เรียนคณิต ใครว่ายาก
เปิดอ่าน 157,962 ครั้ง
เพลง   :   Jingle Bell
เพลง : Jingle Bell
เปิดอ่าน 245 ครั้ง
คู่มือดูแลเครื่องถ่ายเอกสารสำนักงาน ใช้งานได้ทนทานขึ้น
คู่มือดูแลเครื่องถ่ายเอกสารสำนักงาน ใช้งานได้ทนทานขึ้น
เปิดอ่าน 11,780 ครั้ง
มหกรรมไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 17  :  29 ต.ค.-1 พ.ย. นี้
มหกรรมไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 17 : 29 ต.ค.-1 พ.ย. นี้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ