ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
นวัตกรรมการปฏิบัติงานที่เป็นเลิศ (Best Practice) โครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข โรงเรียนบ้านเกะรอ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 1

ชื่อผลงาน การบริหารจัดการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุขปลอดภัย

ห่างไกลยาเสพติดด้วย เด็กน้อยชักชวนคนรอบข้างลด ละ เลิก อบายมุข (บุหรี่ ใบกระท่อม) น้อมจิตถวายองค์ราชัน

ชื่อหน่วยงาน โรงเรียนบ้านเกะรอ หมู่ที่ 1 ตำบลเกะรอ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต ๑

ที่ปรึกษาโครงงาน นายวุฒินันท์ โพหะดา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเกะรอ

ผู้รับผิดชอบโครงงาน นางสาวรุสมี แบรอสะแม ครู โรงเรียนบ้านเกะรอ

ระยะเวลาดำเนินงาน ปีการศึกษา 2567

...................................................................................................

1. ความเป็นมาและความสำคัญของโครงงาน

“อบายมุข” ถือเป็นสิ่งที่ต้องห้ามในสังคม ทุกศาสนาและความเชื่อ ถึงแม้อบายมุขจะควบคู่กับยุคแรกๆ ของการมีอยู่ของสังคมมนุษย์ แต่ประชาคมโลกในทุกยุคทุกสมัยต่างก็เห็นพ้องต้องกันในการกำหนดมาตรฐานขั้นพื้นฐานของคำว่า “อบายมุข” อำนาจแห่งอบายมุขซึ่งเป็นหนทางแห่งความฉิบหายและความเสื่อม ผู้ใดเข้าไปตกหลุมหรือเดินเข้าสู่เส้นทางนี้แล้ว ย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้เดินทางเข้าสู่หนทางแห่งความเสื่อม แต่มนุษย์ก็ยังมีสังคมแห่งปัญญาและคุณธรรม เป็นสังคมจะต้องปลอดอบายมุขอย่างหมดจด แต่ในสังคมโดยเฉพาะอำนาจรัฐและกลุ่มชี้นำสังคมจะต้องใช้ความพยายามอย่างแรงกล้าในการรักษาพลังคุณธรรมให้อยู่เหนือความจำกัดของสังคมที่เอ่อล้นจนท่วมและครอบงำสภาพของสังคมให้มีอันเป็นไปในทิศทางที่ไม่พึงประสงค์ ทุกเพศ ทุกวัยย่อมตกอยู่ในอบายมุข โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันยิ่งมองเห็นได้ชัดว่าเกิดความเดือดร้อนด้วยอำนาจของอบายมุข เช่น การดื่มใบกระท่อม เที่ยวกลางคืน การพนัน คบคนชั่วเป็นมิตร และเกียจคร้านการทำงาน อบายมุขที่สำคัญที่สุดและเป็นสาเหตุที่ทำให้มนุษย์เราสามารถกระทำความผิดได้ทุกประเภทนั้น คือ การสูบบุหรี่และการดื่มใบกระท่อม

ปัจจุบันนี้ปัญหาพฤติกรรมการสูบบุหรี่และการดื่มใบกระท่อม ไม่ใช่เรื่องธรรมดาอีกต่อไป เพราะว่าพฤติกรรมการสูบบุหรี่และการดื่มใบกระท่อมของวัยรุ่นเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมอีกทั้งยังทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ และในสมัยปัจจุบันไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่ที่ดื่มใบกระท่อม แต่ยังมีเด็กวัยรุ่น และเยาวชนที่ดื่มใบกระท่อมเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก เพราะปัญญาของวัยรุ่นในการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสม ไม่ว่าจะเป็นเหล้า เบียร์ กระท่อมมีจำนวนมากขึ้น เนื่องจากวัยรุ่นเป็นวัยที่ชอบทดลองสิ่งต่างๆ และวัยรุ่นเป็นวัยแห่งการเปลี่ยนแปลงในทุกๆด้านซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุนำไปสู่การแสดงออกทางพฤติกรรมต่างๆที่ไม่เหมาะสม อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงด้านสังคมของวัยรุ่น เช่น การคบเพื่อน การต้องการความเป็นอิสระ ทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งกับผู้ปกครองอาจเป็นสาเหตุนำไปสู่พฤติกรรมการดื่มใบกระท่อมและสูบบุหรี่ได้ โดยเฉพาะวัยรุ่นในครอบครัวที่มีปัญหา และในปัจจุบันก็มีแนวโน้มว่าจะเกิดปัญหาขึ้นในวัยที่อายุน้อยลงเรื่อย ๆ จากสถิติอายุเฉลี่ยที่เด็กวัยรุ่นเริ่มดื่มใบกระท่อมและสูบบุหรี่ คืออายุ ๑๒ ปีขึ้นไป และแต่ละปีจะมีวัยรุ่นอายุระหว่าง ๑๕-๑๙ ปี จะมีปัญหาทีเกี่ยวข้องกับการดื่มใบกระท่อม เช่นทำให้การตกต่ำลง มีปัญหากับผู้ปกครอง ก่อให้เกิดการติดใบกระท่อมเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ มีพฤติกรรมส่อไปในทางการเกิดอาชญากรรมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละปี โดยเฉพาะอุบัติเหตุจากการจราจรทางบนท้องถนน ซึ่งเป็นอุบัติเหตุที่มีความรุนแรง และทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก นอกจากปัญหาเรื่องอุบัติเหตุแล้วยังเกิดอาชญากรรม จากคดีต่างๆตามมาหลายคดีเป็นต้น

การสูบบุหรี่และการดื่มใบกระท่อมของเด็กเกิดจากการเลียนแบบจากพ่อแม่และเพื่อนที่ดื่มใบกระท่อม ครอบครัวที่มีปัญหาการดื่มยิ่งส่งผลให้เด็กมีการดื่มใบกระท่อม เด็กเล็กที่เริ่มสูบบุหรี่และดื่มใบกระท่อมครั้งแรกมักตั้งต้นที่บ้าน นอกจากนี้บรรยากาศในครอบครัว การเลียงดูของพ่อแม่มีผลต่อพัฒนาการของเด็กวัยรุ่น โดยเฉพาะพฤติกรรมการสูบบุหรี่และใบกระท่อมก็พัฒนาไปด้วย ยิ่งถ้าครอบครัวขาดความอบอุ่นพ่อแม่เลี้ยงลูกไม่เป็น (ขาดระเบียบวินัย ไม่ได้รับการอบรมสั่งสอน ไม่มีการลงโทษเมื่อทำผิด และขาดการติดตามดูแล) เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญต่อการสูบบุหรี่และการดื่มใบกระท่อมในเด็กวันรุ่น นอกจากนี้อิทธิผลของกลุ่มเพื่อนโดยเฉพาะเพื่อนไม่ดี เป็นเหตุกระตุ้นให้เด็กวัยรุ่นสูบบุหรี่และดื่มใบกระท่อมในระยะวัยรุ่นตอนกลางและใกล้เป็นผู้ใหญ่

จากสถานการณ์การสูบบุหรี่และการดื่มใบกระท่อมของวัยรุ่นในบริเวณชุมชนของโรงเรียนบ้านเกะรอนั้น เกิดจากหลายสาเหตุ ได้แก่ ปัจจัยส่วนบุคคล เช่น อยากรู้ อยากลองจากเพื่อนและสื่อออนไลน์ ปัจจัยทางสังคม เช่น ครอบครัวไม่เข้มงวดหรือมีสมาชิกที่สูบบุหรี่ ใบกระท่อม และมีเพื่อนๆหรือคนรอบข้างสูบบุหรี่ ใบกระท่อม

จากปัญหาดังกล่าวทางโรงเรียนบ้านเกะรอจึงร่วมกันชักชวนคนรอบข้างให้ ลด ละ เลิก อบายมุข (บุหรี่ ใบกระท่อม) น้อมจิตถวายองค์ราชัน

2. วัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงงาน

2.1 วัตถุประสงค์

2.1.1 เพื่อให้นักเรียนมีความรู้และตระหนักถึงภัยอันตรายที่เกิดจากอบายมุข (บุหรี่ ใบกระท่อม)

2.1.2 เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกิดการลด ละ เลิก อบายมุขทุกชนิด เพื่อสุขภาพที่ดีของตนเองและผู้อยู่รอบข้างตลอดถึงสังคม

2.1.3 เพื่อสร้างคุณงามความดีถวายเทิดไท้องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

2.2 เป้าหมาย

2.2.1 เชิงปริมาณ - นักเรียนโรงเรียนบ้านเกะรอ ร้อยละ 80 เข้าร่วมโครงการ

2.2.2 เชิงคุณภาพ - นักเรียนและผู้ปกครองสามารถนำแนวปฏิบัติไปใช้ในการ

ดำรงชีวิต

3. ขั้นตอนการดำเนินงาน

การบริหารจัดการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุขปลอดภัยห่างไกลยาเสพติดด้วย เด็กน้อยชักชวนคนรอบข้าง ลด ละ เลิก อบายมุข (บุหรี่ ใบกระท่อม) น้อมจิตถวายองค์ราชัน เป็นการนำองค์ประกอบที่ได้จากการวิเคราะห์ที่ประกอบไปด้วยปัจจัยนำเข้า (Input) กระบวนการ (Process) ผลผลิต (Output) ข้อมูลป้อนกลับ (Feedback) และผลลัพธ์ (Outcome) ได้แก่

1) ปัจจัยนำเข้า (Input) คือข้อมูลสำคัญที่จะใช้ในการขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข ได้แก่ (1.1) การสำรวจสภาพปัจจุบันและความคาดหวังต่อการบริหารจัดการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข (1.2) นโยบายสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข (1.3) โครงการ/กิจกรรมสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข (1.4) การบริหารแบบมีส่วนร่วมโดยใช้หลักการมีส่วนร่วมของบุคคล ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา คณะครู ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษา ชุมชน และภาคีเครือข่าย

2) ปัจจัยกระบวนการ (Process) กระบวนการใช้งานรูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุขของโรงเรียนบ้านเกะรอ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 1 โดยใช้กระบวนการบริหารตามวงจรคุณภาพ PDCA ร่วมกับเด็กน้อยชักชวนคนรอบข้าง ลด ละ เลิก อบายมุข (บุหรี่ ใบกระท่อม) น้อมจิตถวายองค์ราชัน โดยมีกระบวนการบริหารตามนโยบายสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข โดยมีขั้นตอนกระบวนการ ดังนี้

1. กระบวนการบริหารตามวงจรคุณภาพ PDCA เป็นกระบวนการบริหารโครงการ/กิจกรรม ซึ่งดำเนินการภายใต้การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาปลอดยาเสพติดและอบายมุข ของโรงเรียนบ้านเกะรอ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 1 ตามกระบวนการบริหารจัดการที่ปรับประยุกต์ขึ้น โดยใช้วงจร PDCA หรือ Deming Cycle เป็นกิจกรรมพื้นฐานในการพัฒนาประสิทธิภาพและคุณภาพของการดำเนินงาน ซึ่งประกอบด้วย ขั้นตอน 4 ขั้น สำหรับการบริหารโครงการ/กิจกรรมของรูปแบบ ดังนี้

1) P : Plan (วางแผน)

1.1) ผู้บริหารสถานศึกษา สร้างความรู้ความเข้าใจและตระหนักให้แก่คณะครู คณะกรรมการสถานศึกษา และผู้ปกครอง เพื่อรับทราบนโยบายเกี่ยวกับการดำเนินโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข

1.2) ผู้บริหารสถานศึกษา คณะครู คณะกรรมการสถานศึกษาร่วมกันวิเคราะห์สภาพปัจจุบัน ปัญหาและสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดเพื่อสร้างความตระหนักร่วมกัน

1.3) ผู้บริหารสถานศึกษา และครู เตรียมความพร้อมสู่การนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติโดยแต่งตั้งผู้รับผิดชอบและคณะทำงานโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุขจัดทำแผนปฏิบัติการ

1.4) จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างผู้บริหารโรงเรียนกับภาคีเครือข่ายอื่นๆ

2) D : Do (ปฏิบัติ)

2.1) ดำเนินการตามขั้นตอนของการดูแลและช่วยเหลือนักเรียนปลอดภัยห่างไกลยาเสพติดโดยใช้นวัตกรรม เด็กน้อยชักชวนคนรอบข้าง ลด ละ อบายมุข (บุหรี่ ใบกระท่อม) น้อมจิตถวายองค์ราชัน

2.2) ดำเนินกิจกรรมที่ส่งเสริม พัฒนา การป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดและอบายมุขให้แก่นักเรียน

3) C : Check (ตรวจสอบ)

3.1) นิเทศ ติดตามการดำเนินงานและโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข

3.2) ปรับปรุง แก้ไข และพัฒนาการดำเนินงานให้เหมาะสมยิ่งขึ้น โดยอาศัยความร่วมมือของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

2. ขั้นตอนการดำเนินงาน การประยุกต์ใช้เด็กน้อยชักชวนคนรอบข้าง ลด ละ อบายมุข (บุหรี่ ใบกระท่อม) น้อมจิตถวายองค์ราชัน เป็นนวัตกรรมที่โรงเรียนบ้านเกะรอนำมาใช้ในโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุขให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น โดยเน้นการมีส่วนร่วมของเครือข่ายสถานศึกษาและทุกภาคส่วนในการร่วมกันขับเคลื่อนโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุขให้บรรลุผลไปด้วยดี ดังนี้

- ภารกิจที่ ๑ ให้ความรู้ถึงโทษ และภัยที่เกิดจากการสูบบุหรี่และการดื่มใบกระท่อม

ในช่วงโมงกิจกรรมบูรณาการ (ทุกกลุ่มสาระ) ในแต่ละระดับชั้นได้เชิญวิทยากรจากภายนอก และคุณครูมาให้ความรู้โทษและภัยจากที่เกิดจากการสูบบุหรี่และการดื่มใบกระท่อม พร้อมทั้งให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นและหาวิธีการป้องกัน

- ภารกิจที่ ๒ รณรงค์ลด ละ เลิก อบายมุข (บุหรี่ ใบกระท่อม)

ในช่วงเดือนมิถุนายน และวันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. 2567 จัดกิจกรรมรณรงค์ในชุมชนเพื่อลด ละ เลิกอบายมุข (บุหรี่ ใบกระท่อม) รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวด้วย

- ภารกิจที่ ๓ ปวารณาตัว ลด ละ เลิก อบายมุข (บุหรี่ ใบกระท่อม)

ครู นักเรียนและผู้ปกครองร่วมกันปวารณาตัวในการลด ละ เลิก อบายมุข (บุหรี่ ใบกระท่อม)

- ภารกิจที่ ๔ ประชาสัมพันธ์ให้คนรอบข้างลด ละ เลิก อบายมุข (บุหรี่ ใบกระท่อม)

กลุ่มธนาคารบุญประชาสัมพันธ์ให้นักเรียนเข้าร่วมโครงการและนักเรียนขยายผลนักเรียน ๑ คน ต้องนำไปขยายผลให้คนรอบข้าง ๕ คน สร้างเป็นเครือข่ายใยแมงมุม โดยนักเรียนต้องประชาสัมพันธ์ให้รู้ถึงโทษและภัยบุหรี่และใบกระท่อม ร่วมลงนามปวารณาตนเข้าร่วมเด็กน้อยชวนคนรอบข้าง ลด ละ เลิก อบายมุข (บุหรี่ ใบกระท่อม) น้อมจิตถวายองค์ราชัน

3) ผลผลิต (Output) ได้แก่ (3.1) เด็กน้อยชวนคนรอบข้าง ลด ละ เลิก อบายมุข (บุหรี่ ใบกระท่อม) น้อมจิตถวายองค์ราชัน (3.2) คู่มือการรูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข (3.3) ผลการประเมินสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข (3.4) ผลการประเมินความเหมาะสมและรับรองรูปแบบการบริหารสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุขโรงเรียนบ้านเกะรอ

โพสต์โดย ตะวัน วันวัน : [3 ก.พ. 2568 (08:41 น.)]
อ่าน [392] ไอพี : 171.103.94.193
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 86,202 ครั้ง
ที่มาของชื่อเดือนทั้ง 12 เดือนในภาษาอังกฤษ
ที่มาของชื่อเดือนทั้ง 12 เดือนในภาษาอังกฤษ

เปิดอ่าน 7,950 ครั้ง
อย่ากวดวิชาอย่างเดียว
อย่ากวดวิชาอย่างเดียว

เปิดอ่าน 24,375 ครั้ง
สรรพคุณทางยาของ "บวบหอม"
สรรพคุณทางยาของ "บวบหอม"

เปิดอ่าน 12,470 ครั้ง
6 วิธี กินซูชิให้อร่อย
6 วิธี กินซูชิให้อร่อย

เปิดอ่าน 8,321 ครั้ง
"ครูพันธุ์วิจัย" สร้างเด็กไทยคิดได้ทำเป็น
"ครูพันธุ์วิจัย" สร้างเด็กไทยคิดได้ทำเป็น

เปิดอ่าน 15,110 ครั้ง
อาชีพในฝันเด็กไทยปี 59
อาชีพในฝันเด็กไทยปี 59

เปิดอ่าน 1,764 ครั้ง
ซอฟต์แวร์สร้างศักยภาพให้โลกใบนี้
ซอฟต์แวร์สร้างศักยภาพให้โลกใบนี้

เปิดอ่าน 14,998 ครั้ง
ทำไมต้องจ้างทำการบ้าน (ชมคลิป)
ทำไมต้องจ้างทำการบ้าน (ชมคลิป)

เปิดอ่าน 14,285 ครั้ง
น้ำนมถั่วเหลือง ช่วยผิวสวย-หุ่นดี จายภายใน
น้ำนมถั่วเหลือง ช่วยผิวสวย-หุ่นดี จายภายใน

เปิดอ่าน 21,758 ครั้ง
จิตรกรรม
จิตรกรรม

เปิดอ่าน 85,640 ครั้ง
คาถาเรียกทรัพย์ ของหลวงปู่เสือดำ
คาถาเรียกทรัพย์ ของหลวงปู่เสือดำ

เปิดอ่าน 10,428 ครั้ง
ทึ่ง! เจ้าหมูซูเปอร์ฮีโร่ช่วยชีวิตลูกแพะตกน้ำ
ทึ่ง! เจ้าหมูซูเปอร์ฮีโร่ช่วยชีวิตลูกแพะตกน้ำ

เปิดอ่าน 11,885 ครั้ง
คอมพิวเตอร์ วิชั่น-ออฟฟิศ ซินโดรม โรคฮิตของคนเมืองทางแก้เริ่มที่ตัวเอง
คอมพิวเตอร์ วิชั่น-ออฟฟิศ ซินโดรม โรคฮิตของคนเมืองทางแก้เริ่มที่ตัวเอง

เปิดอ่าน 10,482 ครั้ง
เป็นปลื้มกับ 12 เรื่องแรกของลูก
เป็นปลื้มกับ 12 เรื่องแรกของลูก

เปิดอ่าน 15,833 ครั้ง
ทำความรู้จักโครงการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (PISA)
ทำความรู้จักโครงการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (PISA)

เปิดอ่าน 11,098 ครั้ง
วิจัย พบ ชายศีรษะล้านมีโอกาสก้าวหน้าในการงานและธุรกิจมากกว่า
วิจัย พบ ชายศีรษะล้านมีโอกาสก้าวหน้าในการงานและธุรกิจมากกว่า
เปิดอ่าน 19,438 ครั้ง
การมีจินตนาการโดยไม่มีความรู้และความเข้าใจนั้นเรียกว่า การฝันกลางวัน
การมีจินตนาการโดยไม่มีความรู้และความเข้าใจนั้นเรียกว่า การฝันกลางวัน
เปิดอ่าน 20,750 ครั้ง
รู้ยัง ! กรมขนส่งขยายเวลาใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราว จาก 1 ปี เป็น 2 ปี
รู้ยัง ! กรมขนส่งขยายเวลาใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราว จาก 1 ปี เป็น 2 ปี
เปิดอ่าน 21,413 ครั้ง
ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2554
ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2554
เปิดอ่าน 5,027 ครั้ง
ภาพแบบ Bitmap
ภาพแบบ Bitmap

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ