ชื่อผลงาน การบริหารจัดการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุขปลอดภัย
ห่างไกลยาเสพติดด้วย เด็กน้อยชักชวนคนรอบข้างลด ละ เลิก อบายมุข (บุหรี่ ใบกระท่อม) น้อมจิตถวายองค์ราชัน
ชื่อหน่วยงาน โรงเรียนบ้านเกะรอ หมู่ที่ 1 ตำบลเกะรอ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต ๑
ที่ปรึกษาโครงงาน นายวุฒินันท์ โพหะดา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเกะรอ
ผู้รับผิดชอบโครงงาน นางสาวรุสมี แบรอสะแม ครู โรงเรียนบ้านเกะรอ
ระยะเวลาดำเนินงาน ปีการศึกษา 2567
...................................................................................................
1. ความเป็นมาและความสำคัญของโครงงาน
อบายมุข ถือเป็นสิ่งที่ต้องห้ามในสังคม ทุกศาสนาและความเชื่อ ถึงแม้อบายมุขจะควบคู่กับยุคแรกๆ ของการมีอยู่ของสังคมมนุษย์ แต่ประชาคมโลกในทุกยุคทุกสมัยต่างก็เห็นพ้องต้องกันในการกำหนดมาตรฐานขั้นพื้นฐานของคำว่า อบายมุข อำนาจแห่งอบายมุขซึ่งเป็นหนทางแห่งความฉิบหายและความเสื่อม ผู้ใดเข้าไปตกหลุมหรือเดินเข้าสู่เส้นทางนี้แล้ว ย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้เดินทางเข้าสู่หนทางแห่งความเสื่อม แต่มนุษย์ก็ยังมีสังคมแห่งปัญญาและคุณธรรม เป็นสังคมจะต้องปลอดอบายมุขอย่างหมดจด แต่ในสังคมโดยเฉพาะอำนาจรัฐและกลุ่มชี้นำสังคมจะต้องใช้ความพยายามอย่างแรงกล้าในการรักษาพลังคุณธรรมให้อยู่เหนือความจำกัดของสังคมที่เอ่อล้นจนท่วมและครอบงำสภาพของสังคมให้มีอันเป็นไปในทิศทางที่ไม่พึงประสงค์ ทุกเพศ ทุกวัยย่อมตกอยู่ในอบายมุข โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันยิ่งมองเห็นได้ชัดว่าเกิดความเดือดร้อนด้วยอำนาจของอบายมุข เช่น การดื่มใบกระท่อม เที่ยวกลางคืน การพนัน คบคนชั่วเป็นมิตร และเกียจคร้านการทำงาน อบายมุขที่สำคัญที่สุดและเป็นสาเหตุที่ทำให้มนุษย์เราสามารถกระทำความผิดได้ทุกประเภทนั้น คือ การสูบบุหรี่และการดื่มใบกระท่อม
ปัจจุบันนี้ปัญหาพฤติกรรมการสูบบุหรี่และการดื่มใบกระท่อม ไม่ใช่เรื่องธรรมดาอีกต่อไป เพราะว่าพฤติกรรมการสูบบุหรี่และการดื่มใบกระท่อมของวัยรุ่นเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมอีกทั้งยังทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ และในสมัยปัจจุบันไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่ที่ดื่มใบกระท่อม แต่ยังมีเด็กวัยรุ่น และเยาวชนที่ดื่มใบกระท่อมเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก เพราะปัญญาของวัยรุ่นในการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสม ไม่ว่าจะเป็นเหล้า เบียร์ กระท่อมมีจำนวนมากขึ้น เนื่องจากวัยรุ่นเป็นวัยที่ชอบทดลองสิ่งต่างๆ และวัยรุ่นเป็นวัยแห่งการเปลี่ยนแปลงในทุกๆด้านซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุนำไปสู่การแสดงออกทางพฤติกรรมต่างๆที่ไม่เหมาะสม อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงด้านสังคมของวัยรุ่น เช่น การคบเพื่อน การต้องการความเป็นอิสระ ทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งกับผู้ปกครองอาจเป็นสาเหตุนำไปสู่พฤติกรรมการดื่มใบกระท่อมและสูบบุหรี่ได้ โดยเฉพาะวัยรุ่นในครอบครัวที่มีปัญหา และในปัจจุบันก็มีแนวโน้มว่าจะเกิดปัญหาขึ้นในวัยที่อายุน้อยลงเรื่อย ๆ จากสถิติอายุเฉลี่ยที่เด็กวัยรุ่นเริ่มดื่มใบกระท่อมและสูบบุหรี่ คืออายุ ๑๒ ปีขึ้นไป และแต่ละปีจะมีวัยรุ่นอายุระหว่าง ๑๕-๑๙ ปี จะมีปัญหาทีเกี่ยวข้องกับการดื่มใบกระท่อม เช่นทำให้การตกต่ำลง มีปัญหากับผู้ปกครอง ก่อให้เกิดการติดใบกระท่อมเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ มีพฤติกรรมส่อไปในทางการเกิดอาชญากรรมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละปี โดยเฉพาะอุบัติเหตุจากการจราจรทางบนท้องถนน ซึ่งเป็นอุบัติเหตุที่มีความรุนแรง และทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก นอกจากปัญหาเรื่องอุบัติเหตุแล้วยังเกิดอาชญากรรม จากคดีต่างๆตามมาหลายคดีเป็นต้น
การสูบบุหรี่และการดื่มใบกระท่อมของเด็กเกิดจากการเลียนแบบจากพ่อแม่และเพื่อนที่ดื่มใบกระท่อม ครอบครัวที่มีปัญหาการดื่มยิ่งส่งผลให้เด็กมีการดื่มใบกระท่อม เด็กเล็กที่เริ่มสูบบุหรี่และดื่มใบกระท่อมครั้งแรกมักตั้งต้นที่บ้าน นอกจากนี้บรรยากาศในครอบครัว การเลียงดูของพ่อแม่มีผลต่อพัฒนาการของเด็กวัยรุ่น โดยเฉพาะพฤติกรรมการสูบบุหรี่และใบกระท่อมก็พัฒนาไปด้วย ยิ่งถ้าครอบครัวขาดความอบอุ่นพ่อแม่เลี้ยงลูกไม่เป็น (ขาดระเบียบวินัย ไม่ได้รับการอบรมสั่งสอน ไม่มีการลงโทษเมื่อทำผิด และขาดการติดตามดูแล) เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญต่อการสูบบุหรี่และการดื่มใบกระท่อมในเด็กวันรุ่น นอกจากนี้อิทธิผลของกลุ่มเพื่อนโดยเฉพาะเพื่อนไม่ดี เป็นเหตุกระตุ้นให้เด็กวัยรุ่นสูบบุหรี่และดื่มใบกระท่อมในระยะวัยรุ่นตอนกลางและใกล้เป็นผู้ใหญ่
จากสถานการณ์การสูบบุหรี่และการดื่มใบกระท่อมของวัยรุ่นในบริเวณชุมชนของโรงเรียนบ้านเกะรอนั้น เกิดจากหลายสาเหตุ ได้แก่ ปัจจัยส่วนบุคคล เช่น อยากรู้ อยากลองจากเพื่อนและสื่อออนไลน์ ปัจจัยทางสังคม เช่น ครอบครัวไม่เข้มงวดหรือมีสมาชิกที่สูบบุหรี่ ใบกระท่อม และมีเพื่อนๆหรือคนรอบข้างสูบบุหรี่ ใบกระท่อม
จากปัญหาดังกล่าวทางโรงเรียนบ้านเกะรอจึงร่วมกันชักชวนคนรอบข้างให้ ลด ละ เลิก อบายมุข (บุหรี่ ใบกระท่อม) น้อมจิตถวายองค์ราชัน
2. วัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงงาน
2.1 วัตถุประสงค์
2.1.1 เพื่อให้นักเรียนมีความรู้และตระหนักถึงภัยอันตรายที่เกิดจากอบายมุข (บุหรี่ ใบกระท่อม)
2.1.2 เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกิดการลด ละ เลิก อบายมุขทุกชนิด เพื่อสุขภาพที่ดีของตนเองและผู้อยู่รอบข้างตลอดถึงสังคม
2.1.3 เพื่อสร้างคุณงามความดีถวายเทิดไท้องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
2.2 เป้าหมาย
2.2.1 เชิงปริมาณ - นักเรียนโรงเรียนบ้านเกะรอ ร้อยละ 80 เข้าร่วมโครงการ
2.2.2 เชิงคุณภาพ - นักเรียนและผู้ปกครองสามารถนำแนวปฏิบัติไปใช้ในการ
ดำรงชีวิต
3. ขั้นตอนการดำเนินงาน
การบริหารจัดการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุขปลอดภัยห่างไกลยาเสพติดด้วย เด็กน้อยชักชวนคนรอบข้าง ลด ละ เลิก อบายมุข (บุหรี่ ใบกระท่อม) น้อมจิตถวายองค์ราชัน เป็นการนำองค์ประกอบที่ได้จากการวิเคราะห์ที่ประกอบไปด้วยปัจจัยนำเข้า (Input) กระบวนการ (Process) ผลผลิต (Output) ข้อมูลป้อนกลับ (Feedback) และผลลัพธ์ (Outcome) ได้แก่
1) ปัจจัยนำเข้า (Input) คือข้อมูลสำคัญที่จะใช้ในการขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข ได้แก่ (1.1) การสำรวจสภาพปัจจุบันและความคาดหวังต่อการบริหารจัดการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข (1.2) นโยบายสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข (1.3) โครงการ/กิจกรรมสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข (1.4) การบริหารแบบมีส่วนร่วมโดยใช้หลักการมีส่วนร่วมของบุคคล ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา คณะครู ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษา ชุมชน และภาคีเครือข่าย
2) ปัจจัยกระบวนการ (Process) กระบวนการใช้งานรูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุขของโรงเรียนบ้านเกะรอ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 1 โดยใช้กระบวนการบริหารตามวงจรคุณภาพ PDCA ร่วมกับเด็กน้อยชักชวนคนรอบข้าง ลด ละ เลิก อบายมุข (บุหรี่ ใบกระท่อม) น้อมจิตถวายองค์ราชัน โดยมีกระบวนการบริหารตามนโยบายสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข โดยมีขั้นตอนกระบวนการ ดังนี้
1. กระบวนการบริหารตามวงจรคุณภาพ PDCA เป็นกระบวนการบริหารโครงการ/กิจกรรม ซึ่งดำเนินการภายใต้การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาปลอดยาเสพติดและอบายมุข ของโรงเรียนบ้านเกะรอ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 1 ตามกระบวนการบริหารจัดการที่ปรับประยุกต์ขึ้น โดยใช้วงจร PDCA หรือ Deming Cycle เป็นกิจกรรมพื้นฐานในการพัฒนาประสิทธิภาพและคุณภาพของการดำเนินงาน ซึ่งประกอบด้วย ขั้นตอน 4 ขั้น สำหรับการบริหารโครงการ/กิจกรรมของรูปแบบ ดังนี้
1) P : Plan (วางแผน)
1.1) ผู้บริหารสถานศึกษา สร้างความรู้ความเข้าใจและตระหนักให้แก่คณะครู คณะกรรมการสถานศึกษา และผู้ปกครอง เพื่อรับทราบนโยบายเกี่ยวกับการดำเนินโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข
1.2) ผู้บริหารสถานศึกษา คณะครู คณะกรรมการสถานศึกษาร่วมกันวิเคราะห์สภาพปัจจุบัน ปัญหาและสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดเพื่อสร้างความตระหนักร่วมกัน
1.3) ผู้บริหารสถานศึกษา และครู เตรียมความพร้อมสู่การนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติโดยแต่งตั้งผู้รับผิดชอบและคณะทำงานโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุขจัดทำแผนปฏิบัติการ
1.4) จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างผู้บริหารโรงเรียนกับภาคีเครือข่ายอื่นๆ
2) D : Do (ปฏิบัติ)
2.1) ดำเนินการตามขั้นตอนของการดูแลและช่วยเหลือนักเรียนปลอดภัยห่างไกลยาเสพติดโดยใช้นวัตกรรม เด็กน้อยชักชวนคนรอบข้าง ลด ละ อบายมุข (บุหรี่ ใบกระท่อม) น้อมจิตถวายองค์ราชัน
2.2) ดำเนินกิจกรรมที่ส่งเสริม พัฒนา การป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดและอบายมุขให้แก่นักเรียน
3) C : Check (ตรวจสอบ)
3.1) นิเทศ ติดตามการดำเนินงานและโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข
3.2) ปรับปรุง แก้ไข และพัฒนาการดำเนินงานให้เหมาะสมยิ่งขึ้น โดยอาศัยความร่วมมือของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
2. ขั้นตอนการดำเนินงาน การประยุกต์ใช้เด็กน้อยชักชวนคนรอบข้าง ลด ละ อบายมุข (บุหรี่ ใบกระท่อม) น้อมจิตถวายองค์ราชัน เป็นนวัตกรรมที่โรงเรียนบ้านเกะรอนำมาใช้ในโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุขให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น โดยเน้นการมีส่วนร่วมของเครือข่ายสถานศึกษาและทุกภาคส่วนในการร่วมกันขับเคลื่อนโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุขให้บรรลุผลไปด้วยดี ดังนี้
- ภารกิจที่ ๑ ให้ความรู้ถึงโทษ และภัยที่เกิดจากการสูบบุหรี่และการดื่มใบกระท่อม
ในช่วงโมงกิจกรรมบูรณาการ (ทุกกลุ่มสาระ) ในแต่ละระดับชั้นได้เชิญวิทยากรจากภายนอก และคุณครูมาให้ความรู้โทษและภัยจากที่เกิดจากการสูบบุหรี่และการดื่มใบกระท่อม พร้อมทั้งให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นและหาวิธีการป้องกัน
- ภารกิจที่ ๒ รณรงค์ลด ละ เลิก อบายมุข (บุหรี่ ใบกระท่อม)
ในช่วงเดือนมิถุนายน และวันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. 2567 จัดกิจกรรมรณรงค์ในชุมชนเพื่อลด ละ เลิกอบายมุข (บุหรี่ ใบกระท่อม) รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวด้วย
- ภารกิจที่ ๓ ปวารณาตัว ลด ละ เลิก อบายมุข (บุหรี่ ใบกระท่อม)
ครู นักเรียนและผู้ปกครองร่วมกันปวารณาตัวในการลด ละ เลิก อบายมุข (บุหรี่ ใบกระท่อม)
- ภารกิจที่ ๔ ประชาสัมพันธ์ให้คนรอบข้างลด ละ เลิก อบายมุข (บุหรี่ ใบกระท่อม)
กลุ่มธนาคารบุญประชาสัมพันธ์ให้นักเรียนเข้าร่วมโครงการและนักเรียนขยายผลนักเรียน ๑ คน ต้องนำไปขยายผลให้คนรอบข้าง ๕ คน สร้างเป็นเครือข่ายใยแมงมุม โดยนักเรียนต้องประชาสัมพันธ์ให้รู้ถึงโทษและภัยบุหรี่และใบกระท่อม ร่วมลงนามปวารณาตนเข้าร่วมเด็กน้อยชวนคนรอบข้าง ลด ละ เลิก อบายมุข (บุหรี่ ใบกระท่อม) น้อมจิตถวายองค์ราชัน
3) ผลผลิต (Output) ได้แก่ (3.1) เด็กน้อยชวนคนรอบข้าง ลด ละ เลิก อบายมุข (บุหรี่ ใบกระท่อม) น้อมจิตถวายองค์ราชัน (3.2) คู่มือการรูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข (3.3) ผลการประเมินสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข (3.4) ผลการประเมินความเหมาะสมและรับรองรูปแบบการบริหารสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุขโรงเรียนบ้านเกะรอ