ครูบ้านนอก

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาเคมี 1 เรื่อง แบบจำลองอะตอม ระหว่างก่อนการสอนและหลังการสอนของนักเรียนโรงเรียนโชคเพชรพิทยา ตำบลในเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ประกอบสื่อการสอน Augmented Reality (AR) กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 9 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาเคมี 1 เรื่อง แบบจำลองอะตอม จำนวน 20 ข้อ ซึ่งเป็นแบบทดสอบแบบปรนัย ชนิด 4 ตัวเลือก การศึกษาครั้งนี้ได้ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2565 ถึงวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2565 โดยใช้รูปแบบการทดลองแบบหนึ่งกลุ่มวัดผลก่อนและหลังการทดลอง (One Group Pretest-Posttest only Design) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วย ค่าเฉลี่ย (x̄) ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าเฉลี่ยร้อยละ (%) และ t- dependent

ผลการศึกษา พบว่า การพัฒนาการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ประกอบสื่อการสอน Augmented Reality (AR) เรื่อง แบบจำลองอะตอม วิชาเคมี 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนโชคเพชรพิทยา ตำบลคอโค อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ผลจากการวิเคราะห์พบว่าค่าเฉลี่ยของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนมีคะแนนเฉลี่ย 12.11 คิดเป็นร้อยละ 60.55 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1.48 และหลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ย 15.11 คิดเป็นร้อยละ 76.10 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1.96 ดังนั้นหลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นถึง 3.11 คิดเป็นร้อยละ 15.55 มีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1.27 จากการทดสอบด้วยสถิติ t-dependent ได้ค่า t เป็น 7.35 แสดงว่าค่าเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้

เว็บน่าสนใจ