ชื่อผู้วิจัย นางสาวเมธินี ปุณฑริกาภา
ปีที่ทำการวิจัย 2567
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาภาวะผู้นำดิจิทัลของของครูโรงเรียนมัธยมวัดดาวคนอง ประชากรจำนวน 20 คน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครูโรงเรียนมัธยมวัดดาวคนอง ปีการศึกษา 2567 จำนวน 19 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามภาวะผู้นำดิจิทัลแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัย พบว่า ภาวะผู้นำดิจิทัลของของครูโรงเรียนมัธยมวัดดาวคนอง ในภาพรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด เมื่อพิจารณารายด้านพบว่าด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านความรู้ดิจิทัล อยู่ในระดับ มากที่สุด และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ด้านการทำงานร่วมกัน อยู่ในระดับมาก
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
1.1 ประชากร ที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ครูโรงเรียนมัธยมวัดดาวคนองปีการศึกษา 2567 ครูจำนวน 20 คน
1.2 กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ของครูโรงเรียนมัธยมวัดดาวคนอง ปีการศึกษา 2567 ครูจำนวน 19 คน โดยกำหนดกลุ่มตัวอย่างด้วยการเปิดตารางเครจซี่และมอร์แกน (Krejcie & Morgan, 1970 อ้างถึง สถิรพร เชาวน์ชัย, 2561) และเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยวิธีการสุ่มแบบเจาะจง
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อการศึกษาในครั้งนี้ เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับการศึกษาทางการพัฒนาภาวะผู้นำดิจิทัลของของครูโรงเรียนมัธยมวัดดาวคนอง เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล แบ่งออกเป็น 2 ตอน ดังนี้
ตอนที่ 1 เป็นแบบสอบถามข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถามมีลักษณะเป็นแบบตรวจสอบรายการ (Check List) มุ่งสำรวจข้อมูลเบื้องต้นของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามเพศ ตำแหน่ง และประสบการณ์การทำงานของผู้ตอบแบบสอบถาม จำนวน 3 ข้อ
ตอนที่ 2 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับภาวะผู้นำดิจิทัลของครูโรงเรียนมัธยมวัดดาวคนอง
การสร้างและหาคุณภาพเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
การสร้างแบบสอบถามการพัฒนาภาวะผู้นำดิจิทัลของครูโรงเรียนมัธยมวัดดาวคนอง เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ครั้งนี้ผู้วิจัยได้ดำเนินการตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1. ศึกษาค้นคว้าเอกสาร ตำรา วารสาร บทความ งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับภาวะผู้นำ
2. สร้างแบบสอบถามฉบับร่างตามนิยามศัพท์เฉพาะแล้วนำเสนอผู้เชี่ยวชาญเพื่อพิจารณาความถูกต้องเหมาะสมความสอดคล้อง ความครอบคลุมเนื้อหา ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม จากนั้นนำแบบสอบถามมาปรับปรุงแก้ไขให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ
3. ตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity) เพื่อตรวจสอบความสอดคล้องระหว่างนิยามศัพท์เฉพาะกับข้อคำถามและหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแบบสอบถาม (Index of Item Objective Congruence: IOC) และความเหมาะสมของภาษาของแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นโดยนำแบบสอบถามเสนอผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 คน โดยพิจารณาความตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity) ผู้เชี่ยวชาญประเมินความสอดคล้องระหว่างนิยามศัพท์เฉพาะโดยคัดเลือกข้อคำถามที่มีค่าดัชนีความสอดคล้องตั้งแต่ 0.5 ขึ้นไป นำไปเป็นเครื่องมือวิจัยหรือไปปรับปรุงแก้ไขตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งแบบสอบถามที่สร้างขึ้นมีค่า IOC พบว่า อยู่ระหว่าง 0.5 1.00
4. ปรับปรุงแก้ไขเสร็จแล้วจัดทำแบบสอบถาม ภาวะผู้นำดิจิทัลของครูโรงเรียนมัธยมวัดดาวคนอง ฉบับสมบูรณ์เพื่อใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลกับกลุ่มตัวอย่าง
การวิเคราะห์ข้อมูล
ผู้วิจัยดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ของแบบสอบถามที่จะนำไปวิเคราะห์ข้อมูลหาค่าทางสถิติ
ได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป ผู้วิจัยวิเคราะห์ข้อมูลข้อคำถามเกี่ยวกับการศึกษาภาวะผู้นำดิจิทัลของครูโรงเรียนมัธยมวัดดาวคนอง ดำเนินการวิเคราะห์สถิติโดยใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (x̄) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)
ผลการวิจัย จากการศึกษาวิจัย พบว่า
1. ผลการศึกษาภาวะผู้นำดิจิทัลของครูโรงเรียนมัธยมวัดดาวคนอง ในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.57 , s.d.= 0.43) เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสุงสุด คือ ด้านความรู้ดิจิทัล อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.67, s.d.= 0.35) และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ด้านการทำงานร่วมกัน อยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.11,
s.d.= 0.76) ตามลำดับ
อภิปรายผล
ผลการศึกษาการศึกษาภาวะผู้นำดิจิทัลของครูโรงเรียนมัธยมวัดดาวคนอง ในภาพรวมพบว่าด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านความรู้ดิจิทัล อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ ด้านการพัฒนาในวิชาชีพ อยู่ในระดับมากที่สุด และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ด้านการทำงานร่วมกัน อยู่ในระดับมาก ตามลำดับ
1.1 ด้านความรู้ดิจิทัล อยู่ในระดับมากที่สุด นับได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เครื่องมือ และทรัพยากรต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และเหมาะสม เพื่อสร้างสรรค์ สื่อสาร แก้ปัญหา และนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงการประยุกต์ใช้ในด้านการศึกษา การทำงาน และการพัฒนาตนเอง
1.2 ด้านการทำงานร่วมกัน อยู่ในระดับมาก ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยใช้การสื่อสาร การแบ่งปันความคิด และการประสานงานระหว่างสมาชิกในทีม หรือระหว่างองค์กรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ข้อเสนอแนะ
จากการศึกษาการพัฒนาภาวะผู้นำดิจิทัลของครูโรงเรียนมัธยมวัดดาวคนอง มีข้อเสนอแนะ ดังนี้
1. ข้อเสนอแนะในการนำผลการวิจัยไปใช้
1.1 จากผลการวิจัยพบว่า ด้านความรู้ดิจิทัล เป็นด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ดังนั้น ผู้บริหารสถานศึกษา
ควรส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการจัดสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เครื่องมือ และทรัพยากรต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และเหมาะสม เพื่อสร้างสรรค์ สื่อสาร แก้ปัญหา และนำไปใช้
ในชีวิตประจำวัน รวมถึงการประยุกต์ใช้ในด้านการศึกษา
1.2 จากผลการวิจัยพบว่า ด้านการทำงานร่วมกัน เป็นด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ดังนั้น ผู้บริหารสถานศึกษาควรศึกษาและทำความเข้าใจการแบ่งปันความคิด และการประสานงานระหว่างสมาชิกในทีม หรือระหว่างองค์กรให้เกิดประโยชน์สูงสุด