1.1 สภาพบริบท/สภาพปัญหา
สถาบันหลักของชาติประกอบด้วยชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจก่อให้เกิดความรัก ความสามัคคีของคนในชาติมาตั้งแต่อดีต แต่ปัจจุบันถูกกระแสทางสังคมออนไลน์พยายามสร้างเรื่องบิดเบือนเกี่ยวกับสถาบัน โดยเฉพาะสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยการป้อนข้อมูลและความคิดผิดๆ ให้แก่เด็กและเยาวชน ให้คิดบ่อนทำลายชาติและล้มล้างสถาบันแบบ “ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง” ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขาดความรู้และจิตสำนึกที่ถูกต้องทำให้ไม่มีภูมิคุ้มกันตนเองในการดำรงชีวิต จึงตกเป็นเครื่องมือให้ทำผิดกฎหมายได้ง่าย
โรงเรียนในเมืองเล็งเห็นความสำคัญในการร่วมกันปลูกฝังให้นักเรียนซึ่งเป็นเด็กและเป็นเยาวชนของชาติ เกิดความตระหนักรู้ถึงความสำคัญ ความภาคภูมิใจ รัก หวงแหนสถาบันหลักของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ยึดมั่นในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีพฤติกรรมแสดงออกถึงการมีความรู้ความเข้าใจ และมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง จึงน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของในหลวงรัชกาลที่ 10 มาสู่การปฏิบัติ โดยการพัฒนารูปแบบการปลูกฝังคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนด้านการมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในการดำรงชีวิตต่อไป
1.2 วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล มีดังนี้
P (Plan) วางแผน สร้างความตระหนักให้เกิดการรับรู้และมีทัศนคติที่ถูกต้อง เป็นการเตรียม
ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผ่านหลักสูตร การจัดการเรียนรู้ และการจัดกิจกรรมหรือโครงการที่ให้ผู้เรียนแสดงออกถึงความรักในสถาบันหลักของชาติ
D (Do) ดำเนินการ พัฒนารูปแบบการปลูกฝังด้านการมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง ตามพระบรม
ราโชบายด้านการศึกษาของในหลวงรัชกาลที่ 10 ของนักเรียนโรงเรียนในเมือง 3 แบบคือ
1.ใช้ตัวแบบสิ่งเร้า ด้วยการใช้สื่อและการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความตระหนัก
2.ใช้ตัวแบบบุคคล เป็นต้นแบบการปฏิบัติ ได้แก่ ผู้บริหาร ครู นักเรียน และผู้ปกครอง
3.ใช้ตัวแบบการจัดกิจกรรม เพื่อเสริมสร้างให้เกิดนิสัย
โดยมีกระบวนการดำเนินงานดังนี้
1) ศึกษาตัวชี้วัดและวิเคราะห์ คุณลักษณะพฤติกรรมของนักเรียนด้านการมีทัศนคติที่
ถูกต้องต่อบ้านเมือง ที่สอดคล้องกับเป้าหมายของการพัฒนาการมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมืองในแต่ละระดับ
ใน 4 องค์ประกอบ ได้แก่
1.1 มีความรู้ความเข้าใจต่อชาติบ้านเมือง
1.2 ยึดมั่นในศาสนา
1.3 มั่นคงในสถาบันพระมหากษัตริย์
1.4 มีความเอื้ออาทรต่อครอบครัวและชุมชนของตนเอง
2) ศึกษาสภาพปัจจุบันคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ความเป็น
ไทย และการมีจิตอาสาของนักเรียนซึ่งสอดคล้องกับทัศนคติ
3) ดำเนินการจัดกิจกรรมเพื่อปลูกฝังด้านการมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง ตามพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของในหลวงรัชกาลที่ 10 ของนักเรียนโรงเรียนในเมือง ดังนี้
3.1 ปรับปรุงหลักสูตรตามบริบทของโรงเรียน
3.2 จัดบรรยากาศสิ่งแวดล้อมภายในสถานศึกษาที่แสดงถึงความรักในสถาบันหลักของชาติ
3.3 จัดกิจกรรมการเรียนรู้หรือโครงการที่ให้ผู้เรียนแสดงออกถึงความรักในสถาบันหลักของ
ชาติ โดยยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง ได้แก่
- โครงการ/กิจกรรมวันสำคัญของชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์
- โครงการ/กิจกรรมวันสำคัญทางศาสนา
- โครงการ/กิจกรรมประชาธิปไตย
- จัดเนื้อหาสาระเพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ท้องถิ่น
- จัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่ใช้กระบวนการทางประวัติศาสตร์ โดยเน้น
กระบวนการวิเคราะห์
- โครงการ/กิจกรรมที่แสดงถึงความรักชาติและจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
- โครงการ/กิจกรรมจิตอาสา
C (Check) กำกับ ติดตาม ตรวจสอบ
1) นิเทศ กำกับ ติดตามการนำรูปแบบการปลูกฝังด้านการมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง ตามพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของในหลวงรัชกาลที่ 10 ของนักเรียนโรงเรียนในเมือง ไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของครู
2) แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เสนอแนะแนวทางในการพัฒนารูปแบบการปลูกฝังด้านการมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง ตามพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของในหลวงรัชกาลที่ 10 ของนักเรียนโรงเรียนในเมือง
A (Act) ปรับปรุงและพัฒนา
1)ประเมิน วิเคราะห์ผลการนำรูปแบบการปลูกฝังด้านการมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง ตามพระ
บรมราโชบายด้านการศึกษาของในหลวงรัชกาลที่ 10 ของนักเรียนโรงเรียนในเมือง ไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของครู
2) สรุป และรายงาน ผลการใช้รูปแบบการปลูกฝังด้านการมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง ตามพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของในหลวงรัชกาลที่ 10 ของนักเรียนโรงเรียนในเมือง ตามเป้าหมายของการพัฒนาในระดับชั้นปฐมวัย ระดับชั้น ป.1-ป.3 และระดับชั้น ป.4 - ป.6
3)ปรับปรุงรูปแบบเพื่อนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในการปลูกฝังด้านการมีทัศนคติที่
ถูกต้องต่อบ้านเมือง ตามพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของในหลวงรัชกาลที่ 10 ของนักเรียนโรงเรียนในเมืองต่อไป
ผลสำเร็จ สรุปได้ดังนี้
เชิงปริมาณ
ด้านผู้เรียน
1. ผู้เรียนมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมืองตามองค์ประกอบทั้ง 4 ด้าน ในภาพรวมอยู่ในระดับดีเยี่ยม
2.ผู้เรียนมีคะแนนระดับคุณภาพด้านการมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมืองสูงกว่าปีที่ผ่านมาแต่ยังอยู่ในระดับดีเยี่ยมเช่นกัน
ด้านครู
1.ครูร้อยละ100 เป็นต้นแบบการปฏิบัติในการมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง ใน 4 องค์ประกอบ 21กิจกรรม
2.ครูร้อยละ100ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเสนอแนะแนวทางในการพัฒนารูปแบบการกิจกรรม
การเรียนรู้ในการประชุม ติดตามผลการดำเนินงาน และกิจกรรม PLC
ด้านสถานศึกษา
-มีนวัตกรรมในการปลูกฝังด้านการมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง ตามพระบรมราโชบายด้านการศึกษา
ของในหลวงรัชกาลที่ 10 ของนักเรียนโรงเรียนในเมือง
เชิงคุณภาพ
ด้านผู้เรียน
1.ระดับชั้นปฐมวัย : ผู้เรียนมีพฤติกรรมแสดงถึงความเข้าใจต่อสถาบันชาติ สถาบันศาสนา และสถาบัน พระมหากษัตริย์ ปฏิบัติพฤติกรรมเหล่านี้ได้ด้วยตนเอง จำนวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ81.82 และต้องมีครูหรือเพื่อคอยชี้แนะ 4 คน คิดเป็นร้อยละ18.18 ภาพรวมอยู่ในระดับดี
2.ระดับชั้นประถมศึกษา : ผู้เรียนมีพฤติกรรมแสดงออกถึงการมีความรู้ความเข้าใจและมีเจตคติที่ดีต่อ ชาติบ้านเมือง มีความยึดมั่นในหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และมีความรักเอื้ออาทรต่อบุคคลในครอบครัว และชุมชนของตนเอง ภาพรวมอยู่ในระดับดีเยี่ยม
ด้านครู
-ครูขยายผลการใช้นวัตกรรมในการปลูกฝังด้านการมีทัศนคติที่ถูกต้องของนักเรียนด้านอื่นๆ
ด้านสถานศึกษา
-รายงานผลการใช้นวัตกรรมการปลูกฝังด้านการมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง ตามพระบรมราโชบาย ด้านการศึกษาของในหลวงรัชกาลที่ 10 ของนักเรียนโรงเรียนในเมือง และเผยแพร่นวัตกรรมผ่านทางเว็ปไซต์ของโรงเรียน