บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ โดยใช้ KONGSANIT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ผู้วิจัย นางรันณ์ธร คงสนิท
ตําแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชํานาญการพิเศษ
โรงเรียนเทศบาลบ้านกิโลสอง สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองอรัญญประเทศ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
ปีที่วิจัย 2567
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ โดยใช้ KONGSANIT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์โดยใช้ KONGSANIT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ โดยใช้ KONGSANIT Model 4) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ โดยใช้ KONGSANIT Model 5) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ โดยใช้ KONGSANIT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ 1) ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ จํานวน 5 คน และครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ จํานวน 4 คน โดยใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) และ2) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาลบ้านกิโลสอง สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองอรัญญประเทศ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 จํานวน 40 คน โดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster random Sampling Sampling) เครื่องมือ
ที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) คู่มือการใช้รูปแบบการเรียนการสอน 2) แผนการจัดการเรียนรู้3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ และ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติคํานวณหาค่าร้อยละค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบหาค่าทีและการวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis)
ผลการวิจัยพบว่า
1. รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีชื่อเรียกว่า KONGSANIT Model โดยมีองค์ประกอบดังนี้ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการเรียนการสอน สาระความรู้ทักษะสิ่งที่ส่งเสริมการเรียนรู้ ระบบสังคม หลักการตอบสนอง สิ่งสนับสนุน รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีกระบวนการสอน 6 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นเปิดรับความรู้สนใจสิ่งใหม่ (Knowledge Open interested in new things : KO) 2) ขั้นจัดกระบวนการความคิดในการเรียนรู้ (Navigate the process of idea : N) 3) ขั้นสร้างองค์ความรู้ใหม่ (Generalize in creating new knowledge : G) 4) ขั้นการนําไปใช้(Statement Apply to knowledge : SA) 5) ขั้นสรุปแนวคิดใหม่ (New Ideas of Summary : NI) และ 6) ขั้นความคิดรวบยอด (Thinking is essential to thinking and evaluating : T)
2. รูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์โดยใช้ KONGSANIT Model เพื่อความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่สร้างขึ้นทั้งมีค่าประสิทธิภาพของกระบวนการ (E1) และค่าประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (E2) มีค่าประสิทธิภาพโดยรวม E1/E2 เท่ากับ 81.99/82.52 มีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์กําหนด 80/80 ทุกแผนการจัดการเรียนรู้
3. ผลการเปรียบเทียบคะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ โดยใช้ KONGSANIT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สูงกว่าคะแนนก่อนใช้รูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ โดยใช้ KONGSANIT Model ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
4. ผลการเปรียบเทียบคะแนนทดสอบวัดความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณหลังเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ โดยใช้ KONGSANIT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สูงกว่าคะแนนก่อนใช้รูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ โดยใช้ KONGSANIT Model ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
5. ความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ โดยใช้ KONGSANIT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด