ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้โดยใช้บริบทเป็นฐานร่วมกับกระบวนการสอนวิทยาศาสตร์ โดยใช้วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เรื่อง อาหาร และการย่อยอาหาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาป

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้โดยใช้บริบทเป็นฐานร่วมกับกระบวนการสอนวิทยาศาสตร์โดยใช้วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

เรื่อง อาหาร และการย่อยอาหาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านแม่ปาน

ผู้วิจัย นางนิฏฐิตา โยรภัตร

ปีการศึกษา 2568

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้โดยใช้บริบทเป็นฐานร่วมกับกระบวนการสอนวิทยาศาสตร์ โดยใช้วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เรื่อง อาหาร และการย่อยอาหาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านแม่ปาน เป็นการวิจัยแบบวิจัยและพัฒนา (Research and Development : R&D) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหา และความต้องการในการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านแม่ปาน 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนรู้โดยใช้บริบทเป็นฐานร่วมกับกระบวนการสอนวิทยาศาสตร์โดยใช้วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เรื่อง อาหาร และการย่อยอาหาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านแม่ปาน 3) เพื่อศึกษาผลของการใช้รูปแบบการเรียนรู้โดยใช้บริบทเป็นฐานร่วมกับกระบวนการสอนวิทยาศาสตร์โดยใช้วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เรื่อง อาหาร และการย่อยอาหาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านแม่ปาน 4) เพื่อประเมินผลรูปแบบการเรียนรู้โดยใช้บริบทเป็นฐานร่วมกับกระบวนการสอนวิทยาศาสตร์โดยใช้วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เรื่อง อาหาร และการย่อยอาหาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านแม่ปาน กลุ่มประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 13 คน ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 โรงเรียนบ้านแม่ปาน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) รูปแบบการเรียนรู้โดยใช้บริบทเป็นฐานร่วมกับกระบวนการสอนวิทยาศาสตร์โดยใช้วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เรื่อง อาหาร และการย่อยอาหาร 2) แผนการจัดการเรียนรู้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการเรียนการสอน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (x̄) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) สถิติที แบบไม่อิสระ (t-test dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) โดยสรุปผลการวิจัย ได้ดังนี้

สรุปผลการวิจัย

1. ผลการศึกษาสภาพ และปัญหาการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ พบว่า ครูยังคงเน้นการบรรยายเนื้อหาเป็นหลัก ขาดการกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความสนใจใคร่รู้ในเรื่องที่เรียน ขาดการสร้างแรงจูงใจในการเรียน ไม่มีรูปแบบ เทคนิค วิธีการสอน และกระบวนการจัดการเรียนรู้ ที่แปลกใหม่ กิจกรรมไม่น่าสนใจ สื่อและเทคโนโลยีในการจัดการเรียนรู้มีการนำมาใช้น้อย สื่อ อุปกรณ์ไม่เพียงพอ ไม่น่าสนใจ เป็นเรื่องไกลตัว ใช้สถานการณ์ไม่ชัดเจน สื่อความหมายได้ยาก มีความซับซ้อนของสถานการณ์และความยากของเนื้อหาทำให้ผู้เรียนไม่สามารถกำหนดสมมติฐาน เพื่อมาใช้ในการค้นหาข้อมูลคำตอบและกำหนดแนวทางการแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง ครูขาดการบูรณาการการเรียนรู้กับศาสตร์อื่น ๆ ที่ใกล้ตัว และจัดกิจกรรมที่ไม่สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตประจำวันของนักเรียน นักเรียนมีความหลากหลายและแตกต่างกัน แหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียนไม่เพียงพอ นักเรียนไม่ตั้งใจเรียนขาดเรียนบ่อย ขาดความสามารถด้านกระบวนการคิดเพื่อแก้ไขปัญหา ไม่กระตือรือร้น ไม่สนใจใฝ่รู้

2. ผลการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้โดยใช้บริบทเป็นฐานร่วมกับกระบวนการสอนวิทยาศาสตร์โดยใช้วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เรื่อง อาหาร และการย่อยอาหาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านแม่ปาน พบว่า รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาได้รับการตรวจสอบและประเมินคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญ ว่ามีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ โดยได้ค่าความเหมาะสมมีค่าเฉลี่ย ( ) ระหว่าง 4.40 - 5.00 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ระหว่าง 0.00 - 0.55

3. ผลของการใช้รูปแบบการเรียนรู้โดยใช้บริบทเป็นฐานร่วมกับกระบวนการสอนวิทยาศาสตร์โดยใช้วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เรื่อง อาหาร และการย่อยอาหาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านแม่ปาน พบว่า เป็นไปตามสมมติฐานข้อที่ 1 ดังนี้

3.1 ผลการหาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนรู้โดยใช้บริบทเป็นฐานร่วมกับกระบวนการสอนวิทยาศาสตร์โดยใช้วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เรื่อง อาหาร และการย่อยอาหาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านแม่ปาน ในปีการศึกษา 2567 ค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) มีค่าเท่ากับ 83.77/86.15

3.2 ผลการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนของนักเรียน ที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้โดยใช้บริบทเป็นฐานร่วมกับกระบวนการสอนวิทยาศาสตร์โดยใช้วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เรื่อง อาหาร และการย่อยอาหารของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านแม่ปาน พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน (x̄= 17.23, S.D. = .099) สูงกว่าก่อนเรียน (x̄= 13.84, S.D. = 0.74) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนรู้โดยใช้บริบทเป็นฐานร่วมกับกระบวนการสอนวิทยาศาสตร์โดยใช้วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เรื่อง อาหาร และการย่อยอาหาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านแม่ปาน ในภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.35 และมีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.55 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานของการวิจัยข้อที่ 2

โพสต์โดย Ame : [6 ธ.ค. 2567 (16:44 น.)]
อ่าน [62930] ไอพี : 171.100.236.189
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 24,874 ครั้ง
ทำไมเบอร์โทรศัพท์เลข 2 ถึงอ่านว่า "โท"
ทำไมเบอร์โทรศัพท์เลข 2 ถึงอ่านว่า "โท"

เปิดอ่าน 15,180 ครั้ง
คนจีนแห่เที่ยวไทย ตามรอยหนังดัง Lost in Thailand ชมตัวอย่างหนังเรื่องนี้กันเลย
คนจีนแห่เที่ยวไทย ตามรอยหนังดัง Lost in Thailand ชมตัวอย่างหนังเรื่องนี้กันเลย

เปิดอ่าน 179,385 ครั้ง
หลักการออกแบบของ ADDIE model
หลักการออกแบบของ ADDIE model

เปิดอ่าน 7,920 ครั้ง
Facebook แง้มกำลังเพิ่มปุ่มแสดงความเสียใจ บนเฟซบุ๊ก
Facebook แง้มกำลังเพิ่มปุ่มแสดงความเสียใจ บนเฟซบุ๊ก

เปิดอ่าน 56,752 ครั้ง
เทคโนโลยีสารสนเทศกับการปฏิรูปการศึกษา
เทคโนโลยีสารสนเทศกับการปฏิรูปการศึกษา

เปิดอ่าน 11,791 ครั้ง
เคล็ดลับเพื่อริมฝีปากเนียนนุ่ม
เคล็ดลับเพื่อริมฝีปากเนียนนุ่ม

เปิดอ่าน 8,819 ครั้ง
ปัญหาอมตะครูไทย เร่งแก้ก่อนการศึกษาดำดิ่ง
ปัญหาอมตะครูไทย เร่งแก้ก่อนการศึกษาดำดิ่ง

เปิดอ่าน 17,227 ครั้ง
ความเป็นมาของคำ "ธรรมกาย" โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก
ความเป็นมาของคำ "ธรรมกาย" โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก

เปิดอ่าน 13,281 ครั้ง
ภัยเงียบของเด็กไทย
ภัยเงียบของเด็กไทย

เปิดอ่าน 47,059 ครั้ง
เอกสารประกอบการบรรยายการประชุมทางวิชาการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการของครู(7ส.ค.53)
เอกสารประกอบการบรรยายการประชุมทางวิชาการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการของครู(7ส.ค.53)

เปิดอ่าน 284,470 ครั้ง
บัญชีอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาฯแนบท้าย พ.ร.บ.เงินเดือน 2550
บัญชีอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาฯแนบท้าย พ.ร.บ.เงินเดือน 2550

เปิดอ่าน 11,720 ครั้ง
ชำแหละ "แชร์ลูกโซ่" ธุรกิจหลอกฟันเงิน
ชำแหละ "แชร์ลูกโซ่" ธุรกิจหลอกฟันเงิน

เปิดอ่าน 17,518 ครั้ง
แนวทางดำเนินงานโครงการน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในหลวงรัชกาลที่ 10 สู่การปฏิบัติ
แนวทางดำเนินงานโครงการน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในหลวงรัชกาลที่ 10 สู่การปฏิบัติ

เปิดอ่าน 7,714 ครั้ง
10 เทคนิค ฝึกพูดภาษาอังกฤษให้คล่อง สำเนียงเป๊ะ!
10 เทคนิค ฝึกพูดภาษาอังกฤษให้คล่อง สำเนียงเป๊ะ!

เปิดอ่าน 12,568 ครั้ง
คลิปเทคนิคการลดคาง 2 ชั้น ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตนเอง
คลิปเทคนิคการลดคาง 2 ชั้น ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตนเอง

เปิดอ่าน 20,496 ครั้ง
เธลีส (Thales) นักคณิตศาสตร์
เธลีส (Thales) นักคณิตศาสตร์
เปิดอ่าน 10,104 ครั้ง
กังนัมสไตล์ ฮิตขนาดน้องหมาเลียนแบบ
กังนัมสไตล์ ฮิตขนาดน้องหมาเลียนแบบ
เปิดอ่าน 26,553 ครั้ง
ทำไมคำว่า"ไทย" ต้องมี "ย" ยักษ์
ทำไมคำว่า"ไทย" ต้องมี "ย" ยักษ์
เปิดอ่าน 18,419 ครั้ง
เลือกหมอนให้นอนหลับสบาย
เลือกหมอนให้นอนหลับสบาย
เปิดอ่าน 5,233 ครั้ง
ความแตกต่างระหว่างด้ายเย็บผ้าและด้ายปัก และประเภทของด้ายปัก
ความแตกต่างระหว่างด้ายเย็บผ้าและด้ายปัก และประเภทของด้ายปัก

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ