ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องเทคโนโลยีกับการแก้ปัญหา ด้วยการสร้างสื่อภาพยนตร์สั้น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนนางเอื้อยวิทยา โดยใช้ KMW MODEL

ความสำคัญ/ที่มาของการปฏิบัติที่เป็นเลิศ

1.1 ความเป็นมาและสภาพปัญหา

โลกในศตวรรษที่ 21 เป็นโลกแห่งอนาคตที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ เทคโนโลยีและการสื่อสาร มนุษย์เราควรมีการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นการเรียนรู้ในยุคนี้ ต้องเป็นการเรียนรู้ให้เกิดทักษะขั้นสูงเพื่อการดำรงชีวิต ครูผู้สอนต้องเปลี่ยนบทบาทเป็นผู้อำนวยความสะดวก ออกแบบกิจกรรมเน้นการลงมือปฏิบัติ (Learning by doing) ที่เน้นทักษะการทำงานร่วมกันเป็นทีม

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ได้กำหนดวิสัยทัศน์ของหลักสูตร ให้มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคน ซึ่งเป็นกำลังของชาติให้เป็นมนุษย์ที่มีความสมดุลทั้งด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและเป็นพลโลกยึดมั่นในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความรู้และทักษะพื้นฐาน รวมทั้งเจตคติที่จำเป็นต่อการศึกษา ต่อการประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวิต โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญบนพื้นฐานความเชื่อว่า ทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ และหลักสูตรยังได้เน้นให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสำคัญ 5 ประการ โดยเฉพาะประการที่ 5 ได้เน้นความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือกและใช้เทคโนโลยีด้านต่างๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยีเพื่อ การพัฒนาตนเองและสังคมในด้านการเรียนรู้การสื่อสาร การทำงาน การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ถูกต้อง เหมาะสม และมีคุณธรรม และการจัดการเรียนรู้ของหลักสูตร เป็นกระบวนการสำคัญในการนำ หลักสูตรสู่การปฏิบัติหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นหลักสูตรที่มีมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน เป็นเป้าหมายสำหรับพัฒนาเด็กและเยาวชน ในการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณสมบัติตามเป้าหมายหลักสูตร ผู้สอนพยายามคัดสรรกระบวนการเรียนรู้ จัดการเรียนรู้โดยช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ผ่านสาระที่กำหนดไว้ในหลักสูตร 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ (กระทรวงศึกษาธิการ, 2551 : 3–4)

จากการสังเกตพฤติกรรมการเรียนในรายวิชา ออกแบบและเทคโนโลยี ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2567 พบว่านักเรียนมีความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีในเชิงทฤษฎี แต่ขาดโอกาสในการนำไปประยุกต์ใช้เพื่อแก้ปัญหาในสถานการณ์จริง ทำให้การเรียนรู้ขาดความน่าสนใจและไม่สามารถพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาและความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งนักเรียนยังมีข้อจำกัดในการทำงานร่วมกันและการสื่อสารในลักษณะที่ต้องใช้ทักษะหลากหลาย นอกจากนี้ การเรียนการสอนในรูปแบบเดิมที่เน้นการบรรยายและการท่องจำ ยังทำให้ผู้เรียนขาดความเข้าใจในบทบาทของเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน และไม่สามารถเชื่อมโยงความรู้กับการแก้ปัญหาในชีวิตจริงได้ ส่งผลให้ขาดความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนในโลกยุคดิจิทัล ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องพัฒนากระบวนการเรียนรู้ที่บูรณาการความรู้ด้านเทคโนโลยีเข้ากับการแก้ปัญหาในเชิงปฏิบัติ ผ่านการสร้างสรรค์สื่อที่สามารถกระตุ้นความคิดขั้นสูงและพัฒนาทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 เช่น การคิดวิเคราะห์ การทำงานเป็นทีม และการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์

1.2 แนวทางการแก้ปัญหาและพัฒนา

จากการศึกษาสภาพปัญหาทำให้ครูผู้สอนได้วิเคราะห์ปัญหา กำหนดเป้าหมายเพื่อพัฒนาทักษะการแก้ปัญหา การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวันและความคิดสร้างสรรค์ โดยออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้แบบบูรณาการเนื้อหาเรื่องเทคโนโลยีเข้ากับการสร้างสรรค์สื่อภาพยนตร์สั้น ที่เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมและได้เรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติ สามารถเผยแพร่และใช้เป็นสื่อการเรียนรู้สำหรับผู้สนใจ กระตุ้นให้นักเรียนต่อยอดความรู้และนำเทคโนโลยีมาใช้ในการแก้ปัญหาและพัฒนาสื่อได้ต่อไปในอนาคต

2. วัตถุประสงค์และเป้าหมาย

2.1 วัตถุประสงค์

1. เพื่อพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องเทคโนโลยีกับการแก้ปัญหา ด้วยการสร้างสื่อภาพยนตร์

สั้น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนนางเอื้อยวิทยา โดยใช้ KMW MODEL

2. เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในการใช้เทคโนโลยีด้วยการสร้างสื่อภาพยนตร์สั้น

3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องเทคโนโลยี

กับการแก้ปัญหาด้วยการสร้างสื่อภาพยนตร์สั้น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนนางเอื้อยวิทยา โดยใช้ KMW MODEL

2.2 เป้าหมาย

เชิงปริมาณ

1.นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนนางเอื้อยวิทยา จำนวน 14 คน ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องเทคโนโลยีกับการแก้ปัญหาด้วยการสร้างสื่อภาพยนตร์สั้น โดยใช้ KMW MODEL คิดเป็นร้อยละ 100

2.นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนนางเอื้อยวิทยา จำนวน 14 คน สามารถนำความรู้เรื่องเทคโนโลยีกับการแก้ปัญหา สร้างสื่อภาพยนตร์สั้น คิดเป็นร้อยละ 100

เชิงคุณภาพ

1.ร้อยละ 80 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนนางเอื้อยวิทยา ศึกษาและสร้างสื่อภาพยนตร์สั้น เพื่อใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ระดับคุณภาพดีมาก ขึ้นไป

2.ร้อยละ 80 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนนางเอื้อยวิทยา มีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้สื่อนวัตกรรมการเรียนการสอนในรูปแบบ กิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องเทคโนโลยีกับการแก้ปัญหาด้วยการสร้างสื่อภาพยนตร์สั้นใน ระดับคุณภาพดีมากขึ้นไป

3. กระบวนการผลิตผลงานหรือขั้นตอนการดำเนินงาน

3.1 การออกแบบผลงาน/วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ/นวัตกรรม

การออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องเทคโนโลยีกับการแก้ปัญหาด้วยการสร้างสื่อภาพยนตร์สั้น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนนางเอื้อยวิทยา โดยใช้ KMW MODEL ดังนี้

3.2 การดำเนินงานตามกิจกรรม (ตามวงจร PDCA)

ได้นำวงจรคุณภาพเดมมิ่ง PDCA มาใช้ในการดำเนินงาน 4 ขั้นตอน ดังนี้

1.ขั้นเตรียมการ (Plan)

1. ศึกษา/วิเคราะห์ศึกษาสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ

เทคโนโลยีตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาพื้นฐานพุทธศักราช 2551 รายวิชาออกแบบและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพื่อนำข้อมูลมากำหนดกรอบในการออกแบบการจัดการเรียนรู้

2. ประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อวิเคราะห์สภาพปัญหาด้วยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (PLC ) กับคณะครูในการทำความเข้าใจ เพื่อคิดค้นรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียน

3. วางแผนการดำเนินงานการจัดการเรียนการสอนโดยการสร้างสื่อภาพยนตร์สั้น

การใช้ KMW MODEL ถูกออกแบบเพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้นักเรียนพัฒนาทักษะกระบวนการคิด การแก้ปัญหา และการใช้เทคโนโลยีผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ โดยเน้นการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมและการลงมือปฏิบัติจริง

ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ Knowledge (K) , Methodology (M) , และ Workshop (W)

ขั้นตอน : Knowledge (K): การสร้างความรู้พื้นฐาน

• กำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์

• พัฒนาความรู้เกี่ยวกับการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยี

• ส่งเสริมทักษะการสร้างสื่อภาพยนตร์สั้นและการทำงานเป็นทีม

• แบ่งกิจกรรมการเรียนรู้ออกเป็น 3 ส่วนตาม KMW Model:

1.สอนเนื้อหาเกี่ยวกับเทคโนโลยีและการแก้ปัญหา

2.การวางแผนและกระบวนการเรียนรู้การสร้างภาพยนตร์สั้น

3.ให้นักเรียนลงมือปฏิบัติจริงผ่านการสร้างภาพยนตร์

2.ขั้นดำเนินการ (Do)

ขั้นตอน : Methodology (M): การวางแผนและกระบวนการเรียนรู้

• แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มย่อย กลุ่มละ 3 - 4 คน ศึกษาข้อมูลในการสร้างภาพยนตร์สั้น และให้

พูดคุยเพื่อกำหนดบทบาทหน้าที่ในทีม เช่น ผู้เขียนบท ผู้กำกับ ผู้ถ่ายทำ และผู้ตัดต่อ

• กระตุ้นให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลเพื่อวางแผน กำหนดรูปแบบวางแผนโครงการ เช่น การเขียนบทภาพยนตร์สั้น การวางแผนถ่ายทำ และการจัดการทรัพยากร

• ส่งเสริมการคิดเชิงระบบ (Systematic Thinking) ผ่านการกำหนดขั้นตอนการทำงานที่ชัดเจน

• ใช้กระบวนการมีส่วนร่วม (Collaborative Learning) เพื่อให้นักเรียนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น

ขั้นตอน : Workshop (W): การปฏิบัติจริงและผลิตผลงานสร้า

นักเรียนผลิตภาพยนตร์สั้นตามรูปแบบของแต่ละกลุ่มที่ได้วางแผนไว้

• ลงมือถ่ายทำตามบทที่กำหนด

• ตัดต่อและปรับปรุงภาพยนตร์ให้สมบูรณ์

• จัดกิจกรรมการนำเสนออธิบายขั้นตอนการดำเนินการของกลุ่ม

• ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มฉายภาพยนตร์สั้นและอธิบายวิธีการแก้ปัญหาที่นำเสนอ

• เปิดโอกาสให้ครูและเพื่อนร่วมชั้นให้ข้อเสนอแนะ ภาพยนตร์

3.ขั้นตรวจสอบและประเมินผลการพัฒนางาน (Check)

• แต่ละกลุ่มประเมินผลงาน โดยให้นำเสนอในส่วนที่กลุ่มทำได้ดี และ ในประเด็นที่กลุ่มต้อง

ปรับปรุงแก้ไข โดยใช้เกณฑ์การประเมินที่ครอบคลุม เช่น ความคิดสร้างสรรค์, การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี, และการทำงานเป็นทีม

•นักเรียนและครูผู้สอนร่วมกันประเมิน ชื่นชมให้สมาชิกในกลุ่มเห็นคุณค่าการทำงานเป็นทีมและ

ทบทวนขั้นตอนการทำงานเติมเต็มในประเด็นที่ต้องพัฒนาต่อยอดด้วยการกระตุ้นด้วยคำถาม เช่น มีเทคนิคถ่ายทำอย่างไรให้เรื่องเล่าน่าสนใจ องค์ประอบของภาพที่ถ่าย การทดแทนด้วยทรัพยากร หากไม่มีจะใช้อะไรทดแทนได้ เพื่อฝึกการคิดและพัฒนาชิ้นงาน สู่นวัตกรรมหรือสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ

• สะท้อนผลการเรียนรู้ นักเรียนเขียนบันทึกสิ่งที่ได้เรียนรู้แลกเปลี่ยนกับเพื่อนจากการสร้าง

ภาพยนตร์สั้น

4. ขั้นสรุปและรายงาน (Action)

• ใช้ข้อมูลจากการประเมินและข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงกิจกรรม เช่น เพิ่มการอบรมด้าน

เทคนิคการตัดต่อ หรือการบริหารเวลาในทีม การประชาสัมพันธ์ เพื่อรณรงค์ป้องกันสิ่งเสพติดจากคลิปสื่อที่สร้าง

• เผยแพร่ผลงาน นำภาพยนตร์สั้นที่สร้างเสร็จไปเผยแพร่ในสื่อของโรงเรียนหรือชุมชน และส่ง

เข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขัน เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และแรงบันดาลใจ

3.3 ประสิทธิภาพของการดำเนินงาน

ประสิทธิภาพของการดำเนินงาน ในรูปแบบ Work Process มุ่งเน้นการประเมินผลตามกระบวนการทำงานแต่ละขั้นตอน โดยวิเคราะห์ความมีประสิทธิภาพในมิติต่าง ๆ เพื่อให้เห็นภาพรวมของการจัดการเรียนรู้ที่สมบูรณ์

1. กระบวนการวางแผน (Planning Process) > แผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ( Active learning) ที่เน้นการมีส่วนร่วมของผู้เรียน มีความชัดเจน ครอบคลุมเนื้อหาและเป้าหมายของกิจกรรม มีการแบ่งหน้าที่ของนักเรียนโดยมีครูผู้สอนเป็นผู้อำนวยความสะดวกโดยการเตรียมทรัพยากรและอุปกรณ์อย่างเพียงพอ เช่น อุปกรณ์ในการถ่ายทำ ซอฟต์แวร์ตัดต่อ และตัวอย่างภาพยนตร์

2. กระบวนการจัดการเรียนรู้ (Learning Process) > นักเรียนได้รับความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีและการผลิตภาพยนตร์สั้น การเรียนการสอนมีการบูรณาการทักษะชีวิต เช่น การสื่อสาร การทำงานเป็นทีม และการจัดการเวลา กระบวนการเรียนรู้ช่วยกระตุ้นให้นักเรียนเกิดความสนใจและมุ่งมั่นที่จะผลิตผลงาน

3. กระบวนการปฏิบัติจริง (Implementation Process) > นักเรียนสามารถวางแผนงาน เขียนบท และผลิตภาพยนตร์สั้นได้ตามกระบวนการ ทีมงานแต่ละกลุ่มมีการแบ่งหน้าที่อย่างเหมาะสม เช่น ผู้กำกับ นักเขียนบท และช่างถ่ายทำ ผลงานที่ได้มีความคิดสร้างสรรค์และตอบโจทย์ตั้งไว้

4. กระบวนการประเมินผล (Evaluation Process) > ครูผู้สอนใช้วิธีการวัดและการประเมินเพื่อพัฒนาอย่างหลากหลาย เช่น ให้ประเมินตนเอง ประเมินกลุ่ม เพื่อนประเมินและครูร่วมประเมิน เน้นการแก้ปัญหาความคิดสร้างสรรค์ และการทำงานเป็นทีม นักเรียนแต่ละกลุ่มได้รับข้อเสนอแนะที่ช่วยปรับปรุงทักษะและกระบวนการทำงาน นักเรียนสามารถสะท้อนผลการเรียนรู้และข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในกระบวนการทำงาน

5. กระบวนการปรับปรุง (Improvement Process) > นักเรียนวิเคราะห์ตนเอง วิเคราะห์กลุ่มเพื่อพัฒนาต่อยอด โดยการนำข้อเสนอแนะไปช่วยพัฒนาคุณภาพผลงาน มีการบันทึกบทเรียนและปัญหาที่พบในแต่ละขั้นตอน เพื่อใช้ปรับปรุงในกิจกรรมถัดไป ผลงานภาพยนตร์สั้นสามารถเผยแพร่ในวงกว้างและนำไปใช้ประโยชน์ในการเรียนรู้

3.4 การใช้ทรัพยากร

ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องเทคโนโลยีกับการแก้ปัญหา ด้วยการสร้างสื่อภาพยนตร์สั้น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนนางเอื้อยวิทยา โดยใช้ KMW MODEL นักเรียนสามารถสร้างสื่อภาพยนตร์สั้นด้วยตัวเองจากอุปกรณ์เทคโนโลยีใกล้ตัว เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ ระบบอินเตอร์เน็ต จากนั้นนักเรียนแต่ละกลุ่มนำภาพยนตร์สั้นของกลุ่มตัวเองออกมาเผยแพร่ให้กับสื่อภายในโรงเรียน ชุมชน เมื่อมีการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและเหมาะสม นักเรียนจะสามารถผลิตผลงานที่มีคุณภาพและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์การเรียนรู้ นอกจากนี้การใช้ทรัพยากรยังช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปได้ตามแผนที่วางไว้และเกิดประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาทักษะของนักเรียน

สถิติที่ใช้

- แบบประเมินการสร้างสรรค์ภาพยนตร์สั้น , - แบบประเมินความพึงพอใจ

4. ผลการดำเนินการ/ผลสัมฤทธิ์/ประโยชน์ที่ได้รับ

4.1 ผลที่เกิดตามจุดประสงค์

วัตถุประสงค์

1. เพื่อพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องเทคโนโลยีกับการแก้ปัญหา ด้วยการสร้างสื่อภาพยนตร์สั้น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนนางเอื้อยวิทยา โดยใช้ KMW MODEL

2. เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในการใช้เทคโนโลยีด้วยการสร้างสื่อภาพยนตร์สั้น

ผลที่เกิดตามวัตถุประสงค์

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนนางเอื้อยวิทยา สามารถนำความรู้เรื่องเทคโนโลยีกับการ

แก้ปัญหา มาสร้างสรรค์สื่อภาพยนตร์สั้นได้ที่มีคุณภาพมี อยู่ในระดับดีมาก คิดเป็นร้อยละ 89.5

วัตถุประสงค์

3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องเทคโนโลยีกับการแก้ปัญหาด้วยการสร้างสื่อภาพยนตร์สั้น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนนางเอื้อยวิทยา โดยใช้ KMW MODEL

ผลที่เกิดตามวัตถุประสงค์

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนนางเอื้อยวิทยา จำนวน 14 คน มีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้สื่อนวัตกรรมการเรียนการสอนในรูปแบบ กิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องเทคโนโลยีกับการแก้ปัญหาด้วยการสร้างสื่อภาพยนตร์สั้นในระดับดีมาก

4.2 ผลสัมฤทธิ์ของงาน

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนนางเอื้อยวิทยา จำนวน 14 คน สามารถสร้างสื่อภาพยนตร์สั้น ที่มีคุณภาพ และมีความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ เรื่องเทคโนโลยีกับการแก้ปัญหาด้วยการสร้างสื่อภาพยนตร์สั้น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนนางเอื้อยวิทยา โดยใช้ KMW MODEL

ตารางที่ 4.2.1 ผลการประเมินการสร้างสื่อภาพยนตร์สั้นของนักเรียน แยกตามกลุ่ม ดังนี้

กลุ่มที่ หัวข้อประเมิน คะแนน

(100)

ผลการประเมิน

อยู่ในระดับ

ความสำคัญของเนื้อหา

(40 คะแนน) คุณภาพของผลงาน/การใช้เทคโนโลยี

(20 คะแนน) การทำหน้าที่ของภาพยนตร์

(40 คะแนน)

1 36 20 38 94 คุณภาพดีมาก

2 34 18 38 90 คุณภาพดีมาก

3 36 18 32 86 คุณภาพดีมาก

4 34 20 34 88 คุณภาพดีมาก

รวมเฉลี่ย 89.5 คุณภาพดีมาก

จากตารางที่ 4.2.1 ผลการประเมินการสร้างสื่อภาพยนตร์สั้นของนักเรียน แยกตามกลุ่ม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนนางเอื้อยวิทยา จำนวน 4 กลุ่ม พบว่า คะแนนเฉลี่ยของคุณภาพการสร้างสื่อภาพยนตร์สั้นอยู่ในระดับดีมาก คิดเป็นร้อยละ 89.5

4.3 ประโยชนที่ได้รับ

4.3.1 ประโยชน์ที่เกิดกับผู้เรียน

1. นักเรียนได้ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง

2. นักเรียนได้วางแผนการทำงานอย่างเป็นขั้นตอน

3. นักเรียนได้ฝึกการทำงานเป็นทีม

4.3.2 ประโยชน์ที่เกิดกับครู

1.ครูมีสื่อที่หลากหลายจากการมีส่วนร่วมของนักเรียนแต่ละกลุ่ม

2.ครูมีรูปแบบวิธีการปฏิบัติที่ดี (Best Practice) นำไปใช้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอก

4.3.3 ประโยชน์ที่เกิดกับสถานศึกษา

1.สถานศึกษามีสื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์ รณรงค์ เพื่อแก้ปัญหาสิ่งเสพติด

2.สถานศึกษามีรูปแบบวิธีการปฏิบัติที่ดี (Best Practice) นำไปใช้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอก

5. ปัจจัยความสำเร็จ

ผู้บริหารให้การส่งเสริม สนับสนุน งบประมาณและทรัพยากรที่เอื้อต่อการออกแบบการเรียนรู้

ครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก( Active learning ) ทำให้เด็กได้คิด ได้ทำ และการนำเสนอ ผู้เรียน เรียนรู้อย่างมีความสุข

นักเรียนให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม เพราะเขาเป็นเจ้าของการเรียนรู้อย่างแท้จริง

เขตพื้นที่การศึกษามีการส่งเสริมพัฒนาครูผู้สอนให้มีทักษะและเทคนิคการสอนอย่างหลากหลาย

6. บทเรียนที่ได้รับเพื่อการปรับปรุงคุณภาพมุ่งพัฒนาต่อไป

6.1 บทเรียนที่ได้รับ

การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก( Active learning ) เป็นการค้นพบศักยภาพผู้เรียนรายบุคคล และสามารถดึงศักยภาพผู้เรียนออกมาเพื่อพัฒนาส่งเสริมศักยภาพให้ผู้เรียนได้เรียนรู้สู่ความเป็นเลิศมากขึ้น

6.2 การปรับคุณภาพมุ่งพัฒนาต่อไป

-เน้นการสร้างคลิปสื่อเพื่อร่วมกันอนุรักษ์และแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในชุมชน ที่ส่งผลคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนมากขึ้น

6.3 ข้อควรพึงระวัง

- ควรสร้างข้อตกลงในการนำเทคโนโลยีไปใช้ในการสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาและก่อให้เกิดประโยชน์ ให้เห็นคุณค่าของเทคโนโลยี

โพสต์โดย นางสาวกมลวรรณ เพชรสุข : [19 พ.ย. 2567 (23:08 น.)]
อ่าน [57] ไอพี : 184.22.79.212
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 24,114 ครั้ง
มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ปี 58 ใน 7 สาขา 32 รายการ มีอะไรบ้าง คลิกเลย
มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ปี 58 ใน 7 สาขา 32 รายการ มีอะไรบ้าง คลิกเลย

เปิดอ่าน 20,164 ครั้ง
เหรียญปราบฮ่อ
เหรียญปราบฮ่อ

เปิดอ่าน 9,866 ครั้ง
[คลิป] เล็กๆ เปลี่ยนโลก "การบริหารสมองด้วยพลังแห่งเสียงเพลง"
[คลิป] เล็กๆ เปลี่ยนโลก "การบริหารสมองด้วยพลังแห่งเสียงเพลง"

เปิดอ่าน 14,891 ครั้ง
ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู พ.ศ. 2558
ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู พ.ศ. 2558

เปิดอ่าน 22,877 ครั้ง
อึ้ง!! สมุนไพรไทย 2,000 ตำรับ รักษามะเร็งได้จริง เตรียมเผยแพร่ผ่านหมอพื้นบ้านกันต่างชาติขโมยสูตร
อึ้ง!! สมุนไพรไทย 2,000 ตำรับ รักษามะเร็งได้จริง เตรียมเผยแพร่ผ่านหมอพื้นบ้านกันต่างชาติขโมยสูตร

เปิดอ่าน 16,735 ครั้ง
กรมแพทย์แผนไทยเผย 6โรคห้ามนวด
กรมแพทย์แผนไทยเผย 6โรคห้ามนวด

เปิดอ่าน 38,371 ครั้ง
สูตรลับการคูณแม่ 9 โดยใช้นิ้วมือทั้ง 10 นิ้ว(สุดยอดครับ)
สูตรลับการคูณแม่ 9 โดยใช้นิ้วมือทั้ง 10 นิ้ว(สุดยอดครับ)

เปิดอ่าน 11,714 ครั้ง
7 หลักเลี่ยงไขมันพอกตับ
7 หลักเลี่ยงไขมันพอกตับ

เปิดอ่าน 14,190 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : ทำไม O-NET ไม่เอาเรื่องจริงในชีวิตไปออกข้อสอบ
ตูนส์ศึกษา : ทำไม O-NET ไม่เอาเรื่องจริงในชีวิตไปออกข้อสอบ

เปิดอ่าน 16,271 ครั้ง
8 เทคนิครักษาดอกกุหลาบให้อยู่ได้นานขึ้น
8 เทคนิครักษาดอกกุหลาบให้อยู่ได้นานขึ้น

เปิดอ่าน 13,263 ครั้ง
ย่านางแดง พืชน่าสนใจ มีสรรพคุณอย่างไรบ้าง
ย่านางแดง พืชน่าสนใจ มีสรรพคุณอย่างไรบ้าง

เปิดอ่าน 10,611 ครั้ง
5 วิธีในการตกลงเจรจาในภาษาอังกฤษให้เป็นผลสำเร็จ
5 วิธีในการตกลงเจรจาในภาษาอังกฤษให้เป็นผลสำเร็จ

เปิดอ่าน 220,903 ครั้ง
คำอธิบายการหาคะแนนทีเฉลี่ย (Average T score) ตามแบบ ก.ค.ศ.3/1
คำอธิบายการหาคะแนนทีเฉลี่ย (Average T score) ตามแบบ ก.ค.ศ.3/1

เปิดอ่าน 17,973 ครั้ง
สร้าง logo Icon ใส่ใน Favorite
สร้าง logo Icon ใส่ใน Favorite

เปิดอ่าน 20,288 ครั้ง
ประโยชน์ของการบริโภค "ต้นหอมญี่ปุ่น"
ประโยชน์ของการบริโภค "ต้นหอมญี่ปุ่น"

เปิดอ่าน 8,836 ครั้ง
ผลวิจัยใหม่พบ "ไวไฟ" อันตรายต่อเด็กกว่าผู้ใหญ่
ผลวิจัยใหม่พบ "ไวไฟ" อันตรายต่อเด็กกว่าผู้ใหญ่
เปิดอ่าน 46,133 ครั้ง
โกดะ ทาเคชิ ไจแอนท์ : ตัวละครจากการ์ตูนโดราเอมอน
โกดะ ทาเคชิ ไจแอนท์ : ตัวละครจากการ์ตูนโดราเอมอน
เปิดอ่าน 25,192 ครั้ง
อิทธิบาท 4
อิทธิบาท 4
เปิดอ่าน 16,323 ครั้ง
ลายมือนักธุรกิจเงินล้าน
ลายมือนักธุรกิจเงินล้าน
เปิดอ่าน 15,662 ครั้ง
เสียงสะท้อนจากเยาวชน ต่อนโยบายลดเวลาเรียน
เสียงสะท้อนจากเยาวชน ต่อนโยบายลดเวลาเรียน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ