ชื่อโครงงาน เรื่อง สนบ้านฉัน
ผู้ทำโครงการ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2-3 โรงเรียนบ้านทุ่งตาแก้ว สพป.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 1
ครูที่ปรึกษา นางสาววรารัตน์ กล่อมเสียง
ระยะเวลาในการจัดทำ ระหว่างวันที่ 20 มกราคม ถึง 28 มกราคม 2567
ที่มาของโครงงาน ( วันที่ 20 มกราคม 2567 )
จากการจัดประสบการณ์ในหน่วย เรื่อง ต้นไม้ที่รัก ครูสนทนากับเด็กเรื่องต้นไม้ เด็กสนใจว่าต้นไม้ที่เด็กเคยเห็นมีต้นอะไรบ้างเด็กๆบอกได้ว่ามีหลายต้นและแต่ละต้นมีแตกต่างกัน เด็ก ๆ บอกว่าต้นไม้ที่เคยเห็นในบริเวณวัดคือต้นสนและในโรงเรียนก็มีเรียกว่าต้นสน และระหว่างทางกลับบ้านก็มี ที่บ้านที่บ้านก็มีต้นสน ในป่าใกล้บ้านเรียกว่าป่าสนเหมืองแร่ ใกล้บ้านของไอริณ เพื่อนๆจึงบอกไอริณว่าอยากไปดูบ้าง เด็กและครูจึงวางแผนตกลงกันว่าจะพาเด็กๆไปสำรวจบริเวณป่าสนเหมืองแร่ ตามที่เพื่อนบอกและการไปครั้งนี้ต้องเตรียมความพร้อมและวางแผนกันว่า ไปสำรวจลักษณะของต้นสนพร้อมทั้งให้เก็บตัวอย่างต้นสนนำมาสังเกต เด็กๆตื่นตาตื่นใจมากที่จะได้ไปบริเวณที่ป่าสนเหมืองแร่ที่ซึ่งมีคนมาท่องเที่ยวอยู่เป็นประจำและกลายเป็นแหล่งทองเที่ยว และเด็กๆมีคำถามมากมายเกี่ยวกับต้นสน ดังนี้
ครู : ต้นสนที่เด็กสังเกตเห็นมีลักษณะอย่างไร
น้องเก้า : มีหลายขนาด มีหลายต้น
น้องแพร : มีลำต้นสูง
น้องออแกนนิค : ผมเห็นใบเป็นเส้นๆ
น้องยะ : หนูเห็นใบแห้ง
น้องกัปตัน : ผมเห็นว่าต้นสนสูงมากครับ
ครู : เด็กๆมีข้อสงสัย หรือมีคำถามที่อยากรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับเรื่องต้นสน
น้องวาย : ต้นสนนำไปทำอะไรได้บ้าง
น้องไอติม : ต้นสนปลูกบ้านได้
น้องไอริณ : ต้นสนปลูกอย่างไร
น้องขมิ้น : ทำไมต้นสนไม่เหมือนต้นไม้แบบอื่น
น้องจูเนียร์ : ทำไมต้นสนเหมือนต้นคริสต์มาส
น้องต้นกล้า : ผมเคยเห็นในอินเทอร์เนตมีต้นสนหลายชนิด
น้องประพันธ์ : ต้นสนนำมาทำเป็นถ่านได้บ้านผมเผาถ่าน
ครู : เด็ก มีคำถามอะไรอีกมั้ยที่อย่างรู้ เด็กตอบไม่มี ครูจึงสนทนาร่วมกับเด็ก และสรุปคำถามที่เด็กอยากรู้ โดยใช้แผ่นชาร์ทที่ครูจดบันทึก ซึ่งได้คำถามที่เด็กอยากรู้ 6 คำถาม
ขั้นที่ 1 ตั้งคำถามเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ ( 20 มกราคม 2567 )
จากการที่เด็กๆได้ไปสำรวจต้นสนในบริเวณโรงเรียนและบริเวณวัด เด็กหลายคนมีข้อสังเกตและมีคำถามเกี่ยวกับต้นสนและลักษณะของต้นสน และชักชวนเพื่อนคนอื่นๆมาสังเกตด้วย เมื่อกลับเช้าห้องครูจึงสนทนาร่วมกับเด็กๆและมีคำถามที่เด็กๆสงสัยเกี่ยวกับดอกไม้ 6 คำถาม ดังนี้
คำถามที่ 1 ต้นสนนำไปทำอะไรได้บ้าง
คำถามที่ 2 ต้นสนปลูกอย่างไร
คำถามที่ 3 ทำไมต้นสนไม่เหมือนต้นไม้แบบอื่น
คำถามที่ 4 ทำไมต้นสนเหมือนต้นคริสต์มาส
คำถามที่ 5 ต้นสนมีกี่ชนิด
คำถามที่ 6 ต้นสนนำมาทำเป็นถ่านได้อย่างไร
จากคำถามที่เด็กอยากรู้ 6 คำถาม เด็กและครูสนทนาเพื่อเลือกคำถามที่จะนำไปสำรวจตรวจสอบ โดยการให้เห็นผลประกอบ ซึ่งเด็กเห็นว่า ต้องการเลือกคำถามที่ 1 คือ ต้นสนนำไปทำอะไรได้บ้าง เพราะจะได้รู้จักประโยชน์ของต้นสน และคำถาม ต้นสนนำมาทำเป็นถ่านได้อย่างไร เพราะอยากรู้การเผาถ่านจากไม้สน
1. ต้นสนนำไปทำอะไรได้บ้าง
2. ต้นสนนำมาทำเป็นถ่านได้อย่างไร
โดยจะทำการสำรวจตรวจสอบ คำถามข้อที่ 1 คือ ต้นสนนำไปทำอะไรได้บ้าง
จุดประสงค์ เพื่อให้นักเรียนรู้จักส่วนประกอบของต้นสนและประโยชน์ของต้นสน
ขั้นที่ 2 รวบรวมความคิดและข้อสันนิษฐาน ( 20 มกราคม 2567 )
เด็กและครูสนทนาร่วมกัน โดยครูใช้คำถามกระตุ้นให้เด็กเล่าประสบการณ์เดิม เกี่ยวกับต้นสนที่นักเรียนรู้จัก
ครู : เด็กรู้จักต้นสนจากที่ไหน และมีลักษณะอย่างไร
น้องออแกน : ต้นสนอยู่ในวัดทุ่งตาแก้ว
น้องพันช์ : ต้นสนนำมาทำบ้านได้
น้องโทน : ต้นสนลำต้นสูงครับ
น้องไอติม : ต้นสนมีสีเขียว
น้องน้ยะ : ต้นสนนำมาสร้างรั้ว
น้องวิน : ต้นสนทำฝาบ้านได้
น้องขมิ้น : คนมาเที่ยวที่ป่าสนค่ะ
น้องแพร : หนูเห็นต้นสนเหมือนต้นคริสมาสสวยมาก
ครูจึงชวนเด็กๆสนทนาต่อเนื่องว่า ต้นสนที่นักเรียนรู้จัก มีลักษณะ เหมือนกัน แตกต่างกันอย่างไร รวมทั้งทบทวนถึงคำถามที่เด็กอยากรู้ คือ ต้นสนนำมาทำอะไรได้บ้างทำได้อย่างไร และเด็กๆคาดคะเนคำตอบ โดยเด็กแบ่งกลุ่ม 3 คน โดยครูใช้คำถามถามเด็กๆ ให้แต่ละกลุ่มรวมกันคิด และตกลงว่า กลุ่มตนเองจะคาดคะเนว่าอย่างไร จากคำถามนี้
กลุ่มที่ 1 ต้นสนนำมาทำบ้านต้องใช้ต้นสนที่สูงและใหญ่
กลุ่มที่ 2 ต้นสนนำมาทำต้นคริสมาส
กลุ่มที่ 3 ต้นสนนำมาทำงานปะติด
ต้นสนที่นักเรียนรู้จักและเคยเห็นในบริเวณโรงเรียนและวัด
เด็กสำรวจและสังเกตต้นสนพร้อมกับเก็บสิ่งที่สนใจนำกับไปที่ห้องเรีย
ขั้นที่ 3 ทดสอบและปฏิบัติการสืบเสาะ ( 21 มกราคม 2567 )
ครู ชวน เด็ก ๆ สนทนา ถึงเรื่องต้นสน เรื่องประโยชน์ของต้นสน และพาเด็กไปสำรวจต้นสนบริเวณป่าสนเหมืองแร่ พร้อมกับผู้ปกครอง และให้สังเกตดูต้นสนว่าเป็นอย่างไร ต้นสนมีลักษณะอย่างไร มีสี กิ่งและใบอย่างไร โดยให้เด็กแบ่งกลุ่มกันสำรวจเรื่องต้นสนว่ามีอยู่ที่ใด้บ้างและมีลักษณะเหมือนที่ป่าสนหรือไม่
กลุ่มที่ 1 บอกว่า สอบถามจากผู้ปกครองหลังจากกลับบ้านและจะสังเกตระหว่างทางกลับบ้าน
ครู : หลังจากเด็กไปถามและสังเกตแล้วจะต้องทำอย่างไรคะ
น้องวิน : ผมจะนำมาเล่าให้เพื่อนฟัง
กลุ่มที่ 2 บอกว่าขอให้คุณครูเปิดให้ดูจากโทรทัศน์ก็ได้จะได้เห็นเรื่องสวนป่าสน
ครู : หลังจากดูแล้วเด็กๆจะบันทึกอย่างไร
น้องเก้า : จะวาดภาพจากดูโทรทัศน์
กลุ่มที่ 3 บอกว่า พวกเราจะนำต้นสนมาไว้ที่ห้องเรียนและนำมาสังเกตที่ห้อง ครูเขียนบันทึกแผ่นชาร์ท
เด็กและครูร่วมกันสรุปวิธีหาคำตอบ ลักษณะต้นสนอะไรบ้าง ดังนี้
1. กลับไปถามผู้ปกครอง (บริเวณที่มีต้นสน)
2. ดูจากอินเตอร์เนต (ชนิดของต้นสน)
3. นำต้นสนมาสังเกต (ลักษณะของต้นสน รูปร่าง)
ครูให้เด็กออกแบบวิธีบันทึกผลและนำเสนองาน โดยถามเด็กว่า เมื่อได้รับความรู้เรื่องต้นสนมีลักษณะอย่างไร แล้ว เด็กมีวิธีบันทึกผลอย่างไร และนำงานไปให้คนอื่นมีความรู้ด้วยจะทำอย่างไร
ไอริณ : พอสังเกตต้นสนแล้ววาดรูปต้นสน
ไอติม : เขียนลักษณะของต้นสนแล้วบอกส่วนต่างๆของต้นสน ตามป้ายที่ครูเขียนให้ดู
ยะ : เล่าให้ครูฟัง แล้วให้ครูจดตามที่เล่า
พันช์ : นำงานที่ครูจดไปเล่าให้เพื่อนฟัง
ออแกน : พอสังเกตต้านสนแล้ววาดรูปต้นสน
วันดี : เอางานไปแขวนโชว์หน้าห้อง
เด็กสำรวจป่าสนเหมืองแร่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวของชุมชน
การสำรวจป่าสนมีการพบขยะและแผ่นป้ายรณรงค์การหยุดเผาป่า
ขั้นที่ 4 สังเกตและบรรยาย ( 21 มกราคม 2567 )
ครูและเด็กๆสนทนากันว่าวันนี้ต้นสนที่เราไปสำรวจกัน มีลักษณะอย่างไร เด็กๆ ช่วยกันตอบได้ว่ามี เช่น ต้นสูง มีใบเป็นเส้น ใบดึงให้เขาดแล้วต่อใหม่ได้ มีใบยาว ลำต้นตรงๆ ต้นสนเรียงเป็นแถวสวยงาม แตกต่างจากต้นไม้อื่นๆ ต้นสนเหมือนต้นคริสมาส โดยครูเขียนบันทึกที่แผ่นชาร์ท
วันที่ 24 มกราคม 2567
เด็กๆ สังเกตต้นสนที่นำมา โดยใช้การสังเกตจากลักษณะ โดยครูกระตุ้นให้เด็กสังเกตโดยใช้ประสาทสัมผัสต่างๆ พร้อมทั้งให้เด็กบรรยายสิ่งที่พบ และเด็กร่วมกันสรุปว่า ต้นสน คือ ใบสีเขียว ลำต้นสูง เรียงเป็นแนวยาวโดยครูเขียนบันทึกบนแผ่นชาร์ท
ขั้นที่ 5 บันทึกข้อมูล ( 24 ธันวาคม 2566 )
เด็กแตะละคนบันทึกผลตามวิธีการที่ออกแบบไว้ คือ วาดรูปต้นสน เขียนชื่อตามป้ายที่ติดไว้ นำมาเล่าและครูจดตามที่เด็กบอก นำไปเล่าให้เพื่อนฟัง นำเสนอผลงานของตนเองโชว์หน้าห้อง
ขั้นที่ 6 สรุปและอภิปรายผล ( 27 มกราคม 2567 )
เด็ก ๆ และครูร่วมกันสนทนาถึงคำถามที่เด็กอยากรู้ ต้นสนมีลักษณะอย่างไรและมีประโยชน์อย่างไรบ้าง ครูให้เด็กทบทวน โดยการให้เด็กออกมาเล่า ว่า ลักษณะของต้นสนเป็นอย่างไรมีส่วนประกอบอะไรบ้าง โดยครูใช้แผ่นชาร์ทประกอบการสนทนากับเด็ก
ครู : จากการที่เด็กๆหาคำตอบ ว่า ต้นสนมีลักษณะอย่างไร สรุปได้ว่า เด็กสามารถบรรยายสิ่งที่พบ และเด็กร่วมกันสรุปว่า ลักษณะของต้นสน คือ ใบสีเขียว ลำต้นสูง เรียงเป็นแนวยาวและเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชุมชนได้ และเด็กๆชอบให้ผู้ปกครองพาไปเที่ยว และอยากให้คนมาท่องเที่ยวที่ป่าสนเหมืองแร่ โดยครูเขียนบันทึกบนแผ่นชาร์ท
ร่วมกันสนทนาถึงลักษณะของต้นสนที่สังเกตและร่วมกันบอกลักษณะของต้นสน
ผลการพัฒนาความสามารถของเด็กปฐมวัย
1. ผลการพัฒนาความสามารถพื้นฐาน 4 ด้าน ตามโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย
1.1 ด้านความรู้
- เด็ก ๆ สามารถ เล่า / บอกวิธีการหาคำตอบของตนเองได้
- เด็ก ๆได้ เรียนรู้ เรื่องต้นสนบ้านฉัน
- เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ การสังเกตลักษณะของต้นสน
1.2 ด้าน ภาษา
- เด็กมีพัฒนาการด้านภาษาจากการสนทนาโต้ตอบแสดงความคิดเห็น
- ทักษะด้านภาษาจากการพูด บรรยาย เล่า สิ่งที่สังเกต
- เด็กได้เรียนรู้คำว่า ลำต้น ใบ ผล ราก
1.3 ด้านสังคม
- เด็กสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
- เด็กแสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรับฟัง ความคิดเห็นของผู้อื่น
- เด็กเคารพกติกา และปฏิบัติตามข้อตกลงของห้องเรียน
1.4 ด้านการเคลื่อนไหว และทักษะการรับรู้ประสาทสัมผัส
- เด็กเคลื่อนไหวหยิบ จับ อุปกรณ์ต่างๆได้อย่างคล่องแคล่ว
- เด็กสามารถใช้ประสาทสัมผัสโดยการสังเกตด้วยตัวเองจนได้ข้อมูลที่ถูกต้อง
- เด็กเคลื่อนไหวโดยเดินสำรวจต้นไม้บริเวณโรงเรียน
2. ผลการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
2.1 ทักษะการสังเกต
- การบอกลักษณะสิ่งที่สังเกตด้วยประสาทสัมผัสต่าง ๆ เช่น ดอก สี ใบ มีหนาม มีสีเขียว
มีกลิ่น
2.2 ทักษะการจำแนกประเภท
- จำแนกตามชนิดของต้นไม้ สีของต้นไม้ โดยใช้เกณฑ์ของตัวเอง
- เปรียบเทียบ สิ่งที่คาดคะเนกับ ผลการศึกษา
2.3 ทักษะการคำนวณ
- การนับจำนวนต้นสน ที่ได้พบ
2.4 ทักษะการพยากรณ์ หรือการคาดคะเนคำตอบ
- เด็กสามารถคาดคะเนคำตอบที่คิดว่า มีต้นสนหลายต้น มีลักษณะอย่างไรบ้าง สีอะไร
2.5 ทักษะการจัดกระทำ และสื่อความหมายข้อมูล
- เด็กสามารถสรุปผลสิ่งที่สังเกตเห็น โดยการวาดภาพระบายสี เล่าให้ครูฟัง นำเสนอ
หน้าชั้น ให้เพื่อน ๆ เข้าใจได้
2.6 ทักษะการลงความคิดเห็น จากข้อมูล
- เด็กสามารถ ให้เหตุผลเพิ่มเติม โดยใช้ความคิดเห็นส่วนตัว และประสบการณ์เดิมหรือการลงความเห็นของกลุ่มตกลงร่วมกัน แสดงความคิดเห็นต่าง ๆ ได้
จุดประสงค์ เพื่อศึกษาการทำถ่านจากไม้สน
ขั้นที่ 1 ตั้งคำถามเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ ( 28 มกราคม 2567 )
จากการที่เด็กได้เรียนรู้เรื่อง ต้นสนและลักษณะของต้นสน และได้คำตอบว่า ลักษณะของต้นสน คือ ต้นสนมีลำต้นสูง ใบเล็กยาว ใบสีเขียว ต้นสนคล้ายต้นคริสมาส ขึ้นอยู่เรียงรายในป่า เรียงเป็นแนวยาวมีความสวยงาม และเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชุมชนได้ และเด็กๆชอบให้ผู้ปกครองพาไปเที่ยว และอยากให้คนมาท่องเที่ยวที่ป่าสนเหมืองแร่ และเด็กๆยังมีคำถามต่อเนื่องถึงประโยชน์ของต้นสนว่านำไปทำเป็นถ่านได้และจะทำถ่านได้อย่างไร
น้องไอติม : ต้นสนนำมาทำถ่านทำเหมือนในอินเตอร์เนต
คุณครู : เราจะมีวิธีการอย่างไรค่ะ
น้องวิน : ต้องตัดให้สั้นเป็นท่อนๆ
น้องพันช์ : นำไปเผา
คุณครู : ใช่ค่ะ
น้องอิคคิวซัง : แล้วถ่านจะกลายเป็นสีดำ
เด็กๆ ทุกคนมาสนใจในคำถามของน้องอิคคิวซัง แล้วพากันสนทนาว่า การทำถ่านทำอย่างไรและอยากรู้ว่ามีขั้นตอนอะไรบ้างในการทำถ่านจากไม้สน
ครูจึงถามเด็กๆว่า แล้วคนอื่นๆล่ะคะอยากรู้อย่างอื่นอีกหรือไม่ มีเด็กอีกคนถามว่า เมื่อเอาต้นสนมาตัดแล้วต้องนำไปเผาอย่างไร ครูจึงให้นักเรียนเตรียมตัวไปดูการเผาถ่านของบ้านเพื่อน
สังเกตไม้สนที่ตัดเป็นท่อนๆจากต้นสนที่จะนำมาเผาเป็นถ่าน
ขั้นที่ 2 รวบรวมความคิดและข้อสันนิษฐาน (29 มกราคม 2567)
เด็กและครูสนทนาร่วมกัน โดยครูใช้คำถามกระตุ้น ให้เด็กเล่าประสบการณ์ที่เคยเห็นจากที่บ้าน หรือในอินเตอร์เนตว่า ถ่านจากที่บ้านแม่ใช้เตาถ่านในการประกอบอาหาร
ครู : เด็กๆคิดว่าขั้นตอนการทำถ่านมีอะไรบ้าง
น้องไอริณ : ต้องใช้เตาแบบไหน
น้องแพร : นำถ่านมาทำอะไรได้บ้าง
น้องเก้า : นำมาทำสีดำได้
ครูให้เด็กคาดคะเนคำตอบ โดยแบ่งกลุ่มเด็กเป็น 3 กลุ่มๆ 5-6 คน แต่ละกลุ่มคาดคะเนคำตอบ การต้นสนนำมาทำเป็นถ่าน โดยครูใช้คำถาม เด็กๆคิดว่าต้นสนนำมาทำเป็นถ่านได้อย่างไร
ขั้นที่ 3 ทดสอบและปฏิบัติการสืบเสาะ ( 30 มกราคม 2567)
จากคำถามที่เด็กๆสงสัย ต้นสนนำมาทำเป็นถ่านได้อย่างไร เด็กๆได้เรียนรู้ร่วมกัน โดยครูเป็นผู้อำนวยความสะดวและวิทยากรเป็นผู้ให้ความรู้ในสิ่งที่เด็กๆสงสัย
เตาแบบที่ 1 เตาอบ ได้ถ่านปริมาณมากเหมาะกับการใช้ไม้สนเผาทีละมาก
เตาแบบที่ 2 เตาผีอบ เผาแบบโบราณถ่านจะมีการปนขี้เถ้า จะได้น้ำส้มควันไม้จากการเผาถ่านจากเตาผีอบ
เด็กๆสังเกต ปริมาณถ่านที่เผาได้จากเตาเผาถ่าน
ถ่
ถ่านที่จากการเผาและพร้อมจะนำไปขายในชุมชน
ขั้นที่ 4 สังเกตและบรรยาย ( 30 มกราคม 2563 )
ครูและเด็กๆสนทนาร่วมกัน ครูให้นักเรียนสังเกตการณ์ เด็กๆเกิดความสนใจ อยากรู้อยากเห็น ทำกิจกรรมการทดลองด้วยความสนุกสนาน และตื่นเต้นมาก ทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง แสวงหาคำตอบและเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างสนุกสนาน โดยมีครูเป็นผู้แนะนำ และสังเกตอยู่ใกล้ๆ
ครูสนทนากับเด็กจากประสบการณ์ตรงที่ได้สำรวจ เรื่องการเผาถ่าน
ขั้นที่ 5 บันทึกข้อมูล ( 30 มกราคม 2567 )
เด็กๆสังเกตการทดลอง เด็กแต่ละคนบันทึกผล จากการทดลอง คือ วาดรูปร่างรูปการทดลอง สิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ผลที่เกิดจากการไปสำรวจ เด็กเล่ากิจกรรมการสำรวจให้ครูบันทึกในใบงาน
ขั้นที่ 6 สรุปและอภิปรายผล ( 31 มกราคม 2567 )
6.1 เด็กและครูร่วมกันสรุปกิจกรรมและสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้ใหม่ออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียนทุกกลุ่ม วาดภาพและบันทึกผลการทดลอง
นำเสนอเตาเผาถ่าน 3 แบบ ด้วยตนเอง คือ 1. เตาอบ 2.เตาผีอบ 3.เตาถังอบ
เด็กๆนำเสนอข้อมูลขั้นตอนการเผาถ่าน
6.2 การนำข้อมูลจากการสำรวจนำมาจัดนิทรรศการแสดงผลงานถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้อธิบายถึงโครงงานที่ได้ทำและเด็กๆได้ลงมือปฏิบัติและค้นพบคำตอบจากการเรียนรู้ด้วยตนเองและเชิญผู้ปกครองมาร่วมชมและเข้ารับฟังถึงสิ่งที่เด็กๆได้เรียนรู้
การร่วมกันจัดนิทรรศการผลิตชิ้นงานเพื่อนำมาแสดง
-
เด็กๆนำเสนอโครงงานให้ผู้ปกครองได้รับฟังถึงความสนใจของตนเองในการทำโครงงานในครั้งนี้ว่าได้เรียนรู้เรื่องป่าสนบ้านฉันและการเผาถ่านไม้สนไว้ใช้ในครัวเรือนและการนำไปขายทำให้มีรายได้
เด็กร่วมกันอธิบายถึงขั้นตอนการเผาถ่านโดยใช้เตาชนิด 3 แบบ ที่ใช้ในการเผาถ่านไม้สน
ผลการพัฒนาความสามารถของเด็กปฐมวัย
1. ผลการพัฒนาความสามารถพื้นฐาน 4 ด้าน ตามโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย
1.1 ด้านความรู้
- เด็กได้พัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์จากการทดลอง
- เด็ก ๆ สามารถ เล่า / บอกวิธีการหาคำตอบของตนเองได้
- เด็ก ๆได้ เรียนรู้ เรื่อง การทำถ่านจากไม้สน
- เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ การสังเกต เปรียบเทียบแสดงปริมาณการลงความเห็นจากข้อมูล
1.2 ด้าน ภาษา
- เด็กมีพัฒนาการด้านภาษา จากการสนทนา โต้ตอบ แสดงความคิดเห็น
- ทักษะด้านภาษาจากการพูด บรรยาย เล่า สิ่งที่สังเกต
1.3 ด้านสังคม
- เด็กสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
- เด็กแสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรับฟัง ความคิดเห็นของผู้อื่น
- เด็กเคารพกติกา และปฏิบัติตามข้อตกลงของห้องเรียน
1.4 ด้านการเคลื่อนไหว และทักษะการรับรู้ประสาทสัมผัส
- เด็กเคลื่อนไหวได้ไปทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้นอกสถานที่
- เด็กได้วาดภาพ ระบายสี
- เด็กสามารถใช้ประสาทสัมผัสโดยการสังเกตด้วยตัวเองจนได้ข้อมูลที่ถูกต้อง
2 ผลการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
2.1 ทักษะการสังเกต
- การบอกสิ่งที่สังเกต ด้วยประสาทสัมผัส ต่าง ๆ
2.2 ทักษะการจำแนก ประเภท
- จำแนกตามวิธีการ โดยใช้เกณฑ์ของตัวเอง
- เปรียบเทียบ สิ่งที่คาดคะเนกับ ผลการศึกษา
2.3 ทักษะการคำนวณ
- การนับจำนวน ต้นสน/ไม้สน
2.4 ทักษะการพยากรณ์ หรือการคาดคะเนคำตอบ
- เด็ก สามารถตั้งสมมติฐานถึงคำตอบได้
2.5 ทักษะการจัดกระทำ และสื่อความหมายข้อมูล
- เด็กสามารถสรุปผลสิ่งที่สังเกตเห็น โดยการวาดภาพระบายสีและสื่อความหมาย
เล่าให้ครูฟัง นำเสนอหน้าชั้น ให้เพื่อน ๆ เข้าใจได้และเล่าเรื่องราวความรู้ที่ได้ให้ผู้ปกครองฟังด้วยความเข้าใจของตนเองได้
2.6 ทักษะ การลงความคิดเห็น จากข้อมูล
- เด็กสามารถ ให้เหตุผลเพิ่มเติม โดยใช้ความคิดเห็นส่วนตัว และประสบการณ์เดิม แสดงความเห็น ต่าง ๆ ได้ พูดความเข้าใจของตนเองได้จากข้อมูลที่ได้รับมาจากภูมิปัญญาท้องถิ่น