บทคัดย่อ
ชื่อรายงานวิจัย : การพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การจัด
การเรียนรู้เชิงรุก เรื่องสนุกกับดนตรี
ชื่อผู้วิจัย: นางสาวนวลเพ็ญ พูวิบูลย์
ปี่ที่วิจัย: 2567
...........................................................................................................................................
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active
Learning) ในรายวิชาดนตรี-นาฏศิลป์ เรื่องสนุกกับดนตรี โดยกลุ่มเป้าหมายการวิจัยคือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 19 คน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 โรงเรียนวัดวังน้ำขาว(จินดาประชานุกูล) ซึ่งเป็นชั้นเรียนที่ผู้วิจัยรับผิดชอบสอน ดำเนินการวิจัยโดยใช้กระบวนการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน 4 ขั้นตอน ประกอบด้วย ขั้นวางแผน ขั้นปฏิบัติตามแผน ขั้นสังเกตผลการปฏิบัติ และขั้นสะท้อนผลการปฏิบัติ เป็นวงจรต่อเนื่องกัน 3 วงจร เครื่องมือในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุกเรื่อง สนุกกับดนตรี 2) แบบวัดทักษะความคิดสร้างสรรค์ และ 3) แบบบันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ ข้อมูลที่ได้วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า ทักษะความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนก่อนได้รับการจัดการเรียนรู้เชิงรุกมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ
13.7 ซึ่งอยู่ในระดับพอใช้ และหลังได้รับการจัดการเรียนรู้เชิงรุก พบว่ามีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเท่ากับ 21.3 อยู่ในระดับดีมาก
ผลลัพธ์การพัฒนา
ผลการพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุก
(Active Learning) เรื่องสนุกกับดนตรี ซึ่งผู้วิจัยจะนำเสนอในรูปแบบของตารางพร้อมการอธิบายแบบวัดทักษะความคิดสร้างสรรค์
ตารางที่ 1 ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานคะแนนก่อนการเรียนรู้เชิงรุก (Pre-test)
องค์ประกอบการประเมินทักษะความคิดสร้างสรรค์ การใช้จินตนาการในกาสร้างสรรค์ผลงานดนตรี
กาแก้ปัญหาด้านดนตรี
กาทดลองใช้เทคนิคใหม่ในการเล่นดนตรี
การทำงานร่วมกับผู้อื่นในการสร้างสรรค์ผลงาน
การแสดงออกทางดนตรีที่สะท้อนความคิดสร้างสรรค์ คะแนนรวม การแปลความหมาย
ค่าเฉลี่ย (Mean) 2.7 2.9 2.6 2.8 2.7 13.7 ปานกลาง
ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) 0.5 0.6 0.5 0.6 0.7 2.9 -
จากตารางที่ 1 พบว่าทักษะความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนซึ่งประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1.
การใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานดนตรี 2. การแก้ปัญหาด้านดนตรี 3. การทดลองใช้เทคนิคใหม่ในการเล่นดนตรี 4. การทำงานร่วมกับผู้อื่นในการสร้างสรรค์ผลงาน และ 5. การแสดงออกทางดนตรีที่สะท้อนความคิดสร้างสรรค์ พบว่ามีคะแนนเฉลี่ยรวมเท่ากับ 13.7 ซึ่งอยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 2.9
ตารางที่ 2 ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานคะแนนหลังการเรียนรู้เชิงรุก (Post-test)
องค์ประกอบการประเมินทักษะความคิดสร้างสรรค์ การใช้จินตนาการในกาสร้างสรรค์ผลงานดนตรี
การแก้ปัญหาด้านดนตรี
การทดลองใช้เทคนิคใหม่ในการเล่นดนตรี
การทำงานร่วมกับผู้อื่นในการสร้างสรรค์ผลงาน
การแสดงออกทางดนตรีที่สะท้อนความคิดสร้างสรรค์ คะแนนรวม การแปลความหมาย
ค่าเฉลี่ย (Mean) 4.2 4.3 4.1 4.4 4.3 21.3 ดีมาก
ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) 0.5 0.6 0.5 0.4 0.5 2.5 -
จากตารางที่ 2 พบว่าทักษะความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนซึ่งประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1.
การใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานดนตรี 2. การแก้ปัญหาด้านดนตรี 3. การทดลองใช้เทคนิคใหม่ในการเล่นดนตรี 4. การทำงานร่วมกับผู้อื่นในการสร้างสรรค์ผลงาน และ 5. การแสดงออกทางดนตรีที่สะท้อนความคิดสร้างสรรค์ พบว่ามีคะแนนเฉลี่ยรวมเท่ากับ 21.3 ซึ่งอยู่ในระดับดีมาก มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 2.5
ผลการพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุก
(Active Learning) เรื่องสนุกกับดนตรี มุ่งเน้นการประยุกต์ใช้กลยุทธ์การเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง โดยใช้การเรียนรู้เชิงรุกในการส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนในวิชาดนตรีไทย ซึ่งผลการวิจัยได้สรุปดังนี้
ผลการพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียน
จากการประเมินทักษะความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนที่ทำการศึกษาผ่านแบบประเมินที่พัฒนาเฉพาะใน
งานวิจัยนี้ พบว่า นักเรียนมีการพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ในระดับที่สูงขึ้น เมื่อได้รับการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยคะแนนรวมเฉลี่ยของนักเรียนในแบบประเมินทักษะความคิดสร้างสรรค์มีค่าเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนหลังจากการเรียนการสอน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการใช้การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ช่วยส่งเสริมทักษะการคิดริเริ่ม การทดลอง และการแก้ปัญหาของนักเรียนได้ดี
การทำงานร่วมกับผู้อื่นในการสร้างสรรค์ผลงานดนตรี
การสังเกตพฤติกรรมการทำงานร่วมกันของนักเรียนในกลุ่มพบว่า นักเรียนมีการร่วมมือและแบ่งบทบาทในการ
ทำงานดนตรีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นักเรียนสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แบ่งปันความคิดสร้างสรรค์ และร่วมกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการทำกิจกรรมทางดนตรี ซึ่งเป็นการส่งเสริมทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น และเพิ่มความมั่นใจในการแสดงออกทางดนตรี
การประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะในการแสดงออกทางดนตรี
ผลการศึกษาพบว่า นักเรียนสามารถนำความรู้ที่ได้เรียนรู้ในชั้นเรียนมาประยุกต์ใช้ในการสร้างสรรค์
ผลงานดนตรี ในการแสดงออกทางดนตรีได้อย่างมีความหมาย นักเรียนสามารถเลือกใช้เครื่องดนตรีและทักษะดนตรีที่เหมาะสมกับธีม ของงานที่ทำร่วมกันและสามารถแสดงออกมาในรูปแบบที่สะท้อนความคิดสร้างสรรค์ส่วนบุคคลได้อย่างชัดเจน
การตอบสนองของนักเรียนต่อการเรียนรู้เชิงรุก
การประเมินการตอบสนองของนักเรียนในการใช้การเรียนรู้เชิงรุกพบว่า นักเรียนมีความกระตือรือร้นและ
มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้มากขึ้น โดยเฉพาะในกิจกรรมที่เน้นการทดลองและการใช้ความคิดสร้างสรรค์ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่และสามารถมีส่วนร่วมในการแสดงผลงานของตนเองได้อย่างมั่นใจ การเรียนรู้ในลักษณะนี้ช่วยกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ที่ยั่งยืนและมีความสนุกสนานในกระบวนการเรียนรู้
สรุปและอภิปรายผล
สรุปผลการวิจัย
การใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ในวิชาดนตรีไทยสามารถ ส่งเสริมและพัฒนาทักษะ
ความคิดสร้างสรรค์ ของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเรียนรู้ที่มุ่งเน้นการมีส่วนร่วม การทดลอง และการสร้างสรรค์ผลงานดนตรีช่วยกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ เช่น การคิดริเริ่ม การแก้ปัญหา และการทำงานร่วมกับผู้อื่น นักเรียนมีการพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ที่ดีขึ้นหลังจากการเรียนรู้ในรูปแบบนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การจัดการเรียนรู้เชิงรุกเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ในวิชาดนตรี