บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้ ใช้วิธีการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) ร่วมกับหลักการ แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Instructional Models of Cooperative Learning) เทคนิค NHT (Numbered Heads Together) และมีชุดกิจกรรม เรื่องพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย เป็นสื่อในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยมีนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 1 ศรีกิตติวรรณนุสรณ์ ที่กำลังเรียนอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 เป็นหน่วยการวิเคราะห์ มีวัตถุประสงค์ คือ (1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ โดยใช้วิธีสอนแบบร่วมมือ เทคนิค NHT ร่วมกับชุดกิจกรรม เรื่องพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการทำงานเป็นทีม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 1 ศรีกิตติวรรณนุสรณ์ (2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ โดยใช้วิธีสอนแบบร่วมมือ เทคนิค NHT ร่วมกับชุดกิจกรรม เรื่องพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการทำงานเป็นทีม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 1 ศรีกิตติวรรณนุสรณ์ (3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้ โดยมีวัตถุประสงค์ย่อย คือ (3.1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้ โดยใช้วิธีสอนแบบร่วมมือ เทคนิค NHT ร่วมกับชุดกิจกรรม เรื่องพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการทำงานเป็นทีม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 1 ศรีกิตติวรรณนุสรณ์ ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน (3.2) เพื่อประเมินทักษะการทำงานเป็นทีมของนักเรียน ที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้ โดยใช้วิธีสอนแบบร่วมมือ เทคนิค NHT ร่วมกับชุดกิจกรรม เรื่องพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการทำงานเป็นทีม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 1 ศรีกิตติวรรณนุสรณ์ และ (4) เพื่อประเมินรูปแบบการเรียนรู้ โดยศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้ โดยใช้วิธีสอนแบบร่วมมือ เทคนิค NHT ร่วมกับชุดกิจกรรม เรื่อง พลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการทำงานเป็นทีม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 1 ศรีกิตติวรรณนุสรณ์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลอง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนเทศบาล 1 ศรีกิตติวรรณนุสรณ์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 28 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ คือ (1) แบบวิเคราะห์เอกสาร (2) แบบบันทึกการประชุมกลุ่มย่อย (Focus groups) (3) แบบสัมภาษณ์เชิงลึก (4) แบบบันทึกการประชุมแบบมีส่วนร่วม และ (5) แบบประเมินร่างรูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้ และเครื่องมือในการทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้ คือ (1) แผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้วิธีสอนแบบร่วมมือ เทคนิค NHT ร่วมกับชุดกิจกรรม เรื่องพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย จำนวน 15 แผนการจัดการเรียนรู้ เวลา 20 ชั่วโมง มีค่าเฉลี่ยการประเมินคุณภาพ เท่ากับ 4.52 (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งเป็นแบบปรนัยเลือกตอบ ชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าความยากง่าย ระหว่าง 0.20-0.80 มีค่าอำนาจจำแนก 0.20 ขึ้นไป และมีค่าความเชื่อมั่นที่ 0.760 (3) แบบประเมินทักษะการทำงานเป็นทีม โดยใช้ในการประเมินแบบรูบิค (Rubric Assessment) และ (4) แบบสอบถามความพึงพอใจ ซึ่งเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 1 ฉบับ 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานใช้ t-test (Pair)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ โดยใช้วิธีสอนแบบร่วมมือ เทคนิค NHT ร่วมกับชุดกิจกรรม เรื่องพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการทำงานเป็นทีม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 1 ศรีกิตติวรรณนุสรณ์ ที่เกี่ยวกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และการพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีม โดยใช้แบบประเมินค่าดัชนีความสอดคล้องของแบบวิเคราะห์เอกสาร แบบบันทึกการประชุมกลุ่มย่อย (Focus Group) และแบบสัมภาษณ์เชิงลึก จากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน พบว่า มีความสอดคล้อง โดยมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 1.00 ทุกรายการ และพบว่า ควรมีการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ โดยใช้วิธีสอนแบบร่วมมือ เทคนิค NHT ร่วมกับชุดกิจกรรม เรื่องพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการทำงานเป็นทีม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 1 ศรีกิตติวรรณนุสรณ์
2. ผลการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ โดยใช้วิธีสอนแบบร่วมมือ เทคนิค NHT ร่วมกับชุดกิจกรรม เรื่องพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการทำงานเป็นทีม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 1 ศรีกิตติวรรณนุสรณ์ พบว่า ร่างรูปแบบการเรียนรู้ ตามความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า ได้รูปแบบการเรียนรู้ ควรมีองค์ประกอบ 5 ด้าน ได้แก่ หลักการแนวคิดทฤษฎี หลักการจัดการเรียนรู้ กระบวนการเรียนรู้ สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ และการประเมินผล ซึ่งผลการประเมินรูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้ ตามความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิ มีความเหมาะสมมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.60
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้ โดยใช้วิธีสอนแบบร่วมมือ เทคนิค NHT ร่วมกับชุดกิจกรรม เรื่องพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการทำงานเป็นทีม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 1 ศรีกิตติวรรณนุสรณ์ พบว่ามีประสิทธิภาพที่ 84.61/83.33 และมีค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.68 หรือคิดเป็นร้อยละ 68.00 และพบว่า
3.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง ที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้ โดยใช้วิธีสอนแบบร่วมมือ เทคนิค NHT ร่วมกับชุดกิจกรรม เรื่องพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการทำงานเป็นทีม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 1 ศรีกิตติวรรณนุสรณ์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3.2 ผลการประเมินทักษะการทำงานเป็นทีมของนักเรียน ที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้ โดยใช้วิธีสอนแบบร่วมมือ เทคนิค NHT ร่วมกับชุดกิจกรรม เรื่องพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการทำงานเป็นทีม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 1 ศรีกิตติวรรณนุสรณ์ โดยครูเป็นผู้ประเมิน พบว่า นักเรียนมีทักษะการทำงานเป็นทีม ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.96
4. ผลการประเมินรูปแบบการเรียนรู้ โดยใช้วิธีสอนแบบร่วมมือ เทคนิค NHT ร่วมกับชุดกิจกรรม เรื่องพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการทำงานเป็นทีม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 1 ศรีกิตติวรรณนุสรณ์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ย 4.45