ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน เขียน และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านลูโบ๊ะบาตู

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน เขียน และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านลูโบ๊ะบาตู

ผู้วิจัย นัจลาอ์ ปันดีกา

ปีที่วิจัย 2566

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหาและแนวทางในการจัด การเรียนการสอนภาษาไทย เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน เขียน และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน เขียน และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน เขียน และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ 4) เพื่อประเมินรูปแบบการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน เขียน และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) มีขั้นตอนการวิจัย 4 ขั้นตอน ประกอบด้วย ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน ขั้นตอนที่ 2 การออกแบบและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอน ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอน และขั้นตอนที่ 4 การประเมินรูปแบบการจัดการเรียนการสอน กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนบ้านลูโบ๊ะบาตู อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 3 จำนวน 15 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) คู่มือการใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอน 2) แบบบันทึกสนทนากลุ่ม 3) แผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบ 3) แบบประเมินทักษะการอ่าน เขียน 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis) การหาค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t - test)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหาและแนวทางในการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย เพื่อเพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน เขียน และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่า ครูได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับจุดเน้นที่ต้องการพัฒนานักเรียน คือ ทักษะการอ่าน เขียน โดยได้มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาทักษะการอ่าน เขียน คือ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยการลงมือปฏิบัติ จากกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อสร้างความรู้อย่างมีความหมายด้วยตนเอง โดยมีหลักการ คือ ให้นักเรียนได้คิดอย่างอิสระให้มากขึ้น มีความสอดคล้องกับพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียนที่ได้รับประสบการณ์ในสถานการณ์ต่าง ๆ ในการฟัง พูด อ่าน เขียน และการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง โดยแบ่งผู้เรียนตามความสามารถแตกต่างกันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ในการเรียนร่วมกัน มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เรียนรู้จากการได้ลงมือปฏิบัติจริง โดยผู้เรียนได้รับประสบการณ์ในการพัฒนาทักษะใหม่ ๆ หรือวิธีการคิดใหม่ ๆ ซึ่งผู้เรียนจะบรรลุถึงเป้าหมายของการเรียนรู้ได้ก็ต่อเมื่อสมาชิกคนอื่น ๆ ในกลุ่ม ไปถึงเป้าหมายเช่นเดียวกัน ความสำเร็จของตนเองก็คือความสำเร็จของกลุ่มด้วย

2. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอน พบว่า รูปแบบการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน เขียน และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีองค์ประกอบ ดังนี้ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) เนื้อหา 4) ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน มี 4 ขั้น คือ ขั้นที่ 1 ทบทวนความเดิมเติมเรื่องใหม่ ขั้นที่ 2 ร่วมแรงร่วมใจ ช่วยกันอ่าน เขียน ขั้นที่ 3 หมั่นพากเพียร เขียนและอ่าน ขั้นที่ 4 สรุปวิจารณ์ และประเมินผล และ 5) การวัดและประเมินผล และผลการประเมินรูปแบบการจัดการเรียนการสอนโดยผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า มีความเหมาะสมในระดับมาก

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย พบว่า

3.1 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย มีคะแนนทักษะการอ่าน เขียน ผ่านเกณฑ์ในระดับดี คิดเป็นร้อยละ 81.80

3.2 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ผลการประเมินรูปแบบการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย พบว่า

4.1 รูปแบบการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน เขียน และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีมาตรฐานความเป็นประโยชน์ ความเป็นไปได้ ความเหมาะสมและความถูกต้อง อยู่ในระดับมากที่สุด

4.2 ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน เขียน และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย อยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย ภา : [6 พ.ย. 2567 (13:44 น.)]
อ่าน [62647] ไอพี : 171.97.112.40
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,651 ครั้ง
ADT โรคใหม่มาแรงของผู้บริหารและมนุษย์ออฟฟิศ
ADT โรคใหม่มาแรงของผู้บริหารและมนุษย์ออฟฟิศ

เปิดอ่าน 35,316 ครั้ง
6 ประโยชน์ของการอาบน้ำที่คุณอาจยังไม่รู้
6 ประโยชน์ของการอาบน้ำที่คุณอาจยังไม่รู้

เปิดอ่าน 4,739 ครั้ง
สวมแหวนแต่ละนิ้ว เสริมดวงอะไรบ้าง
สวมแหวนแต่ละนิ้ว เสริมดวงอะไรบ้าง

เปิดอ่าน 18,341 ครั้ง
ครูยุคใหม่ แค่มีจิตวิญญาณครู-ไม่พอ
ครูยุคใหม่ แค่มีจิตวิญญาณครู-ไม่พอ

เปิดอ่าน 100,172 ครั้ง
ประโยชน์และโทษของ "ขิง" ที่คุณอาจคาดไม่ถึง
ประโยชน์และโทษของ "ขิง" ที่คุณอาจคาดไม่ถึง

เปิดอ่าน 17,225 ครั้ง
พระคงคา
พระคงคา

เปิดอ่าน 5,314 ครั้ง
เอเปก หรือ เอเปค
เอเปก หรือ เอเปค

เปิดอ่าน 10,752 ครั้ง
เคล็ดลับ 12 ข้อ จากแพทย์จีน
เคล็ดลับ 12 ข้อ จากแพทย์จีน

เปิดอ่าน 28,356 ครั้ง
ลอการิทมิกธรรมชาติ
ลอการิทมิกธรรมชาติ

เปิดอ่าน 18,200 ครั้ง
คลิปข่าว สพฐ. พัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ก่อนดํารงตําแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา 2564
คลิปข่าว สพฐ. พัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ก่อนดํารงตําแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา 2564

เปิดอ่าน 16,147 ครั้ง
ชมคลิปยอดฮิต"เด็กพี่สาวร้องไห้โฮ ไม่อยากให้น้อง"โต"
ชมคลิปยอดฮิต"เด็กพี่สาวร้องไห้โฮ ไม่อยากให้น้อง"โต"

เปิดอ่าน 31,494 ครั้ง
10 นวัตกรรมออกแบบ แปลกใหม่-ไฮเทคแห่งปี 52
10 นวัตกรรมออกแบบ แปลกใหม่-ไฮเทคแห่งปี 52

เปิดอ่าน 14,419 ครั้ง
เครียดมาก ๆ ระวังเหงือกอักเสบ
เครียดมาก ๆ ระวังเหงือกอักเสบ

เปิดอ่าน 12,081 ครั้ง
ทำความรู้จัก Education3.0 เทคโนโลยี เพื่อการศึกษายุคใหม่
ทำความรู้จัก Education3.0 เทคโนโลยี เพื่อการศึกษายุคใหม่

เปิดอ่าน 26,794 ครั้ง
7 วัดเชียงใหม่ เที่ยวเชียงใหม่สุดปัง ไหว้พระรับโชค
7 วัดเชียงใหม่ เที่ยวเชียงใหม่สุดปัง ไหว้พระรับโชค

เปิดอ่าน 5,124 ครั้ง
"ยาเสียสาว" คืออะไร? ต้องป้องกันตัวอย่างไร?
"ยาเสียสาว" คืออะไร? ต้องป้องกันตัวอย่างไร?
เปิดอ่าน 14,727 ครั้ง
ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต นิยายซีไรต์ปี 58
ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต นิยายซีไรต์ปี 58
เปิดอ่าน 13,026 ครั้ง
ว.วชิรเมธี – มาร์ค ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น ปี 2553
ว.วชิรเมธี – มาร์ค ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น ปี 2553
เปิดอ่าน 14,686 ครั้ง
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
เปิดอ่าน 21,731 ครั้ง
อียิปต์เผยร่างจริง "ตุตันคาเมน" ต่อสาธารณชน
อียิปต์เผยร่างจริง "ตุตันคาเมน" ต่อสาธารณชน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ