ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การวิจัยและพัฒนารูปแบบการบริหารตามแนวคิดโรงเรียนสุขภาวะร่วมกับทฤษฎีการบริหารคุณภาพโดยรวม (TQM) เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา โรงเรียนบ้านบูเก๊ะตาโมง มิตรภาพที่ 128 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน

ชื่อเรื่อง การวิจัยและพัฒนารูปแบบการบริหารตามแนวคิดโรงเรียนสุขภาวะร่วมกับ

ทฤษฎีการบริหารคุณภาพโดยรวม (TQM) เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา

โรงเรียนบ้านบูเก๊ะตาโมง มิตรภาพที่ 128 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

ประถมศึกษานราธิวาส เขต 3

ชื่อผู้วิจัย นายซากี สะมะแอ

ปีที่วิจัย 2563-2564

บทคัดย่อ

การวิจัยและพัฒนารูปแบบการบริหารตามแนวคิดโรงเรียนสุขภาวะร่วมกับทฤษฎีการบริหารคุณภาพโดยรวม (TQM) เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา โรงเรียนบ้านบูเก๊ะตาโมง มิตรภาพที่ 128 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 3 ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานของการพัฒนารูปแบบ 2) สร้างและตรวจสอบรูปแบบ 3) ศึกษาผลการใช้รูปแบบ และ4) ประเมินรูปแบบ การดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาและวิเคราะห์หลักการ แนวคิด ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ขั้นตอนที่ 2 การสร้างและตรวจสอบรูปแบบ โดยใช้เทคนิคการสนทนากลุ่มกับผู้ทรงคุณวุฒิ ขั้นตอนที่ 3 การศึกษาผลการใช้รูปแบบ โดยนำรูปแบบไปใช้เพื่อเก็บข้อมูลจริงกับกลุ่มตัวอย่าง คือ ครูผู้สอน จำนวน 20 คน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 12 คน ของโรงเรียนบ้านบูเก๊ะตาโมง มิตรภาพที่ 128 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 3 ในปีการศึกษา 2564 ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) และขั้นตอนที่ 4 การประเมินรูปแบบ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม และแบบตรวจสอบคุณภาพรูปแบบ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน พบว่า สภาพการบริหารงานของโรงเรียนมีระดับการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก โดยมีการปฏิบัติมากที่สุด คือ ผู้บริหาร ครูและบุคลากรร่วมกันเพื่อกำหนดเป้าหมายและแนวทางการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และครูมีความต้องการในการพัฒนารูปแบบในระดับมากที่สุด โดยต้องการให้ผู้บริหารมีการพัฒนา ปรับปรุงสถานศึกษาเพื่อให้สอดคล้องกับหลักการบริหารสถานศึกษาและการเปลี่ยนแปลงของสังคม ผู้บริหารเป็นผู้นำในการกำหนดนโยบาย และเป้าหมายของงาน จากการสัมภาษณ์เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาการบริหาร พบว่า การมีส่วนร่วมของผู้บริหาร ครูและบุคลากรในการพัฒนา เปลี่ยนแปลงวิธีดำเนินงานทั้งในด้านการบริหาร การจัดการเรียนการสอน รวมทั้งการจัดสรรทรัพยากรที่เหมาะสม ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงการทำงานอย่างต่อเนื่องและคุณภาพที่เกิดขึ้นกับนักเรียนเป็นหลัก เป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องที่ทำให้การบริหารจัดการศึกษาเกิดการพัฒนาทั้งระบบ

2. ผลการสร้างและตรวจสอบรูปแบบ พบว่า รูปแบบการบริหารที่พัฒนาขึ้น มี 5 องค์ประกอบ 5 องค์ประกอบ คือ 1) หลักการของรูปแบบ 2) ระบบงานและกลไกรูปแบบ 3) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 4) วิธีการดำเนินงาน และ 5) แนวการประเมิน โดยมีวิธีการดำเนินงาน 5 ขั้นตอน ตามตัวอักษร PGOCE Model ขั้นที่ 1 การวางแผน (Planning: P) ขั้นที่ 2 การกำหนดเป้าหมาย (Goal: G) ขั้นที่ 3 การจัดองค์การ (Organizing: O) ขั้นที่ 4 การประสานงาน (Coordinating: C) และขั้นที่ 5 การประเมินผลเพื่อปรับปรุงงาน (Evaluation: E) และผลการตรวจสอบรูปแบบโดยผู้ทรงคุณวุฒิ ภาพรวม มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด

3. ผลการใช้รูปแบบการบริหาร พบว่า

3.1 การมีส่วนร่วมในการปรับเปลี่ยนและพัฒนาโรงเรียน โดยรวมมีระดับการดำเนินงาน อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ครูสามารถจัดกระบวนการสอนที่ส่งเสริมศักยภาพของนักเรียนมีระดับการดำเนินงานมากที่สุด รองลงมา คือ มีการแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ระหว่างโรงเรียนและชุมชน และโรงเรียนมีการประกันคุณภาพการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ ตามลำดับ

3.2 ผลการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ปีการศึกษา 2564 สูงกว่าปีการศึกษา 2563 ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยในปีการศึกษา 2563 คิดเป็นร้อยละ 62.45 และปีการศึกษา 2564 คิดเป็นร้อยละ 72.05 ร้อยละที่เพิ่มขึ้น คือ 16.45

3.3 ผลการประเมินคุณลักษณะด้านสุขภาวะทางร่างกายและลักษณะจิตสังคมของนักเรียน ในระดับดีขึ้นไป ปีการศึกษา 2564 สูงกว่าปีการศึกษา 2563 โดยในปีการศึกษา 2563 คิดเป็นร้อยละ 92.57 และปีการศึกษา 2564 คิดเป็นร้อยละ 98.06 ร้อยละที่เพิ่มขึ้น คือ 5.93

4. ผลการประเมินรูปแบบการบริหาร พบว่า

4.1 รูปแบบการบริหารตามแนวคิดโรงเรียนสุขภาวะร่วมกับทฤษฎีการบริหารคุณภาพโดยรวม (TQM) เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา มีผลการประเมินความเป็นประโยชน์ ความเป็นไปได้ ความเหมาะสม และความถูกต้อง อยู่ในระดับมากที่สุด

4.2 ความพึงพอใจของครูผู้สอน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อการดำเนินงานตามรูปแบบการบริหารตามแนวคิดโรงเรียนสุขภาวะร่วมกับทฤษฎีการบริหารคุณภาพโดยรวม (TQM) เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา อยู่ในระดับมากที่สุด

4.3 ผลที่เกิดขึ้นต่อนักเรียน และสถานศึกษาหลังการใช้รูปแบบการบริหารตามแนวคิดโรงเรียนสุขภาวะร่วมกับทฤษฎีการบริหารคุณภาพโดยรวม (TQM) เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา พบว่า จำนวนรางวัลที่นักเรียน และสถานศึกษาได้รับจากการแข่งขันตั้งแต่ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาขึ้นไป ในปีการศึกษา 2563-2564 จำนวน 15 รายการ เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด คือ ไม่น้อยกว่า 5 รายการ

โพสต์โดย ออน : [31 ต.ค. 2567 (13:01 น.)]
อ่าน [279] ไอพี : 27.145.115.40
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 4,550 ครั้ง
วิธีใช้ "เขียง" ให้ปลอดภัย
วิธีใช้ "เขียง" ให้ปลอดภัย

เปิดอ่าน 15,419 ครั้ง
แสงแดดช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน
แสงแดดช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน

เปิดอ่าน 17,889 ครั้ง
Verb Tenses Continuous/Non-continuous Verbs
Verb Tenses Continuous/Non-continuous Verbs

เปิดอ่าน 11,989 ครั้ง
ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน
ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน

เปิดอ่าน 44,872 ครั้ง
ห.ร.ม. และ ค.ร.น.
ห.ร.ม. และ ค.ร.น.

เปิดอ่าน 28,805 ครั้ง
พระพิฆเนศ
พระพิฆเนศ

เปิดอ่าน 21,534 ครั้ง
เทคนิคปลดหนี้ที่ควรรู้ หมดหนี้สินไว ๆ ต้องทำตามนี้
เทคนิคปลดหนี้ที่ควรรู้ หมดหนี้สินไว ๆ ต้องทำตามนี้

เปิดอ่าน 21,959 ครั้ง
กฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการอุทธรณ์ และการพิจารณาอุทธรณ์ พ.ศ. 2550
กฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการอุทธรณ์ และการพิจารณาอุทธรณ์ พ.ศ. 2550

เปิดอ่าน 23,967 ครั้ง
แพทย์ชี้เด็กยิ่งเล่นยิ่งฉลาด แนะพ่อแม่ส่งเสริมการเล่นอย่างอิสระ 7 ประการ
แพทย์ชี้เด็กยิ่งเล่นยิ่งฉลาด แนะพ่อแม่ส่งเสริมการเล่นอย่างอิสระ 7 ประการ

เปิดอ่าน 13,482 ครั้ง
วีดิโอสอนวิธีการดูธนบัตรปลอม
วีดิโอสอนวิธีการดูธนบัตรปลอม

เปิดอ่าน 17,603 ครั้ง
ไก่เคยูเบตง สร้างทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภค
ไก่เคยูเบตง สร้างทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภค

เปิดอ่าน 20,924 ครั้ง
วิธีการดูแลรักษาหน้าจอ Touch Screen
วิธีการดูแลรักษาหน้าจอ Touch Screen

เปิดอ่าน 16,093 ครั้ง
5 กลิ่นอาหาร ที่จะช่วยให้คุณผอม!
5 กลิ่นอาหาร ที่จะช่วยให้คุณผอม!

เปิดอ่าน 452,241 ครั้ง
วิธีนำข่าวการศึกษาจากครูบ้านนอก ไปแปะในเว็บท่าน
วิธีนำข่าวการศึกษาจากครูบ้านนอก ไปแปะในเว็บท่าน

เปิดอ่าน 19,480 ครั้ง
3 แนวทาง"พลิกโฉม"คุณภาพการศึกษาไทยสู่มาตรฐานสากล
3 แนวทาง"พลิกโฉม"คุณภาพการศึกษาไทยสู่มาตรฐานสากล

เปิดอ่าน 98,120 ครั้ง
แนวคิดการจัดการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์
แนวคิดการจัดการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์
เปิดอ่าน 17,235 ครั้ง
คลิปเจ้าหนู 11 ปี นักบาสฯ ขั้นเทพ เล่นเก่งกว่าผู้ใหญ่ ฮิตกว่า 2 ล้านวิวแล้ว
คลิปเจ้าหนู 11 ปี นักบาสฯ ขั้นเทพ เล่นเก่งกว่าผู้ใหญ่ ฮิตกว่า 2 ล้านวิวแล้ว
เปิดอ่าน 8,572 ครั้ง
ปัจจัยฉุดรั้งการศึกษา (จบ)
ปัจจัยฉุดรั้งการศึกษา (จบ)
เปิดอ่าน 13,172 ครั้ง
เทคนิคใหม่จากสิงคโปร์ทำภาพสีไม่ใช้หมึกคมชัดกว่าเลเซอร์เจ็ท
เทคนิคใหม่จากสิงคโปร์ทำภาพสีไม่ใช้หมึกคมชัดกว่าเลเซอร์เจ็ท
เปิดอ่าน 12,977 ครั้ง
ดูชัดๆ ฟ้าผ่าสุดโหด
ดูชัดๆ ฟ้าผ่าสุดโหด

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ