ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาสื่อประกอบการเรียนการสอนรายวิชาภาษาไทยโดยใช้นิทาน เพื่อแก้ไขปัญหาทักษะด้านการอ่านให้คล่องของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ของโรงเรียนอนุบาลเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด

บทคัดย่อ

หัวข้องานวิจัย การพัฒนาสื่อประกอบการเรียนการสอนรายวิชาภาษาไทยโดยใช้นิทาน เพื่อแก้ไขปัญหาทักษะด้านการอ่านให้คล่อง

ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ของโรงเรียนอนุบาลเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด

ชื่อผู้วิจัย นายณัฐวุฒิ วินทะไชย

สังกัด โรงเรียนอนุบาลเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด สำนักการศึกษา เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด

ปี พ.ศ. 2567

การวิจัยในครั้งนี้มีจุดประสงค์ประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านเขียนภาษาไทย โดยใช้หนังสือนิทานประกอบ ภาพ สำหรับนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนอนุบาลเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด โดยนำมาใช้เป็น ส่วนประกอบของการอ่าน การเขียนภาษาไทย และเป็นการฝึกให้นักเรียนได้ใช้ทักษะกระบวนการสร้างนิทาน ด้วยตนเอง เพื่อให้เกิดผมสัมฤทธิ์ ทางการเรียนที่ดีได้ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ นักเรียนชั้น ประถมศึกษาปี ที่ 5 โรงเรียนอนุบาลเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จำนวน 26 คน โดยใช้เครื่องมือ ในการทดลอง คือ แผนการจัดกระบวนการเรียนรู้ และนิทานประกอบภาพ ส่วนเครื่องมือในการเก็บ รวบรวมข้อมูล คือ แบบประเมินการจัดกระบวนการเรียนรู้ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มี ต่อการเรียนภาษาไทยโดยใช้นิทานเป็นสื่อ และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของ แบบทดสอบก่อนเรียนหลังเรียนตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 และการวิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียนโดย ใช้ค่าเฉลี่ย (Mean) และความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ได้ผลวิจัยดังนี้

1. ผลจากการทดสอบก่อนเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

ปรากฏว่า คะแนนทดสอบก่อนเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีนักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินผ่านเกณฑ์การประเมิน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 11.54 มีนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ 23 คน คิดเป็นร้อยละ 88.46 แต่ดูจากคะแนนทดสอบหลังเรียนมีนักเรียนผ่านเกณฑ์ทั้งหมด 26 คน คิดเป็นร้อยละ 100.00

แสดงให้เห็นว่าการใช้หนังสือนิทานภาพประกอบการอ่านและเขียนภาษาไทย สามารถพัฒนาด้านการอ่านและเขียนของนักเรียนได้ดีขึ้น

สมปอง หลอมประโคน (2549) กล่าวว่าเพราะนิทาน เป็นสื่อการสอนที่เสริมสร้างจินตนาการ และส่งเสริมผู้เรียนให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ทำให้ผู้เรียนได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลิน ได้รับคติเตือนใจ มองเห็นการแก้ปัญหาชีวิตในแง่มุมต่างๆได้อย่างเหมาะสม นิทานส่งเสริมให้ผู้เรียนรับรู้ข้อมูลทางภาษาได้ดีกว่า สามารถจำเนื้อหาได้เร็วขึ้น

2. จากผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ การอ่านภาษาไทย โดยใช้หนังสือนิทา ของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน พบว่าผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนจากหนังสือนิทานประกอบภาพ ได้คะแนนค่าเฉลี่ยเท่ากับ 17.16 สูงกว่าก่อนการใช้หนังสือนิทานภาพประกอบ ซึ่งมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 13.31 แสดงให้เห็นว่าผลคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01แสดงว่าการพัฒนาการอ่านภาษาไทย โดยใช้นิทาน ทำให้ผลสัมฤทธิ์ การอ่านภาษาไทยของนักเรียนสูงขึ้น เช่นเดียวกับ สมปอง หลอมประโคน (2544) กล่าวว่า นักเรียนที่เรียนโดยใช้นิทานอีสปเป็นสื่อในการอ่านจับใจความมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และสำนักกระทรวงศึกษาธิการสภาการศึกษากระทรวงศึกษาธิการ (2548) กล่าวอีกว่าในผลสัมฤทธิ์เชิงรูปธรรมนั้นมีผลสัมฤทธิ์เชิงนามธรรมแสดงอย่างชัดเจนเป็นกระบวนการที่ผสานจินตนาการและชีวิตจริงของเด็ก ที่เอื้อให้เด็กเกิดการเรียนรู้อย่างมั่นใจในความสามารถของตน และเกิดการเรียนรู้กระทั่งนำความรู้ที่ได้มาผสมผสานกับ ประสบการณ์ที่เด็กมีรวมถึงความคิดและจินตนาการของเด็ก จนเกิดการเรียนรู้ที่สัมฤทธิ์ผลได้

3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้หนังสือนิทานประกอบภาพ โดยรวมพบว่ามีระดับความ

พึงพอใจอยู่ในระดับ มาก คิดเป็นค่าเฉลี่ยรวม (4.32) เมื่อพิจารณารายละเอียดพบว่า นักเรียนสนใจรูปภาพหรือตัวละครในนิทานอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ย (4.53) รองลงมานักเรียนสนใจและพึงพอใจในผู้สอนหรือครูที่มีเทคนิคในการสอนด้วยการใช้นิทานเป็นสื่อได้สนุกอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ย

(4.50) ซึ่งสอดคล้องกับ มนัสสา ลัทธิวาจา (2551) กล่าวว่านักเรียนชั้นประถมศึกษา มีความพึงพอใจต่อ

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้นิทานอีสปเป็นสื่อ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.76 หมายถึงนักเรียนมีความพึง

พอใจอยู่ในระดับมากที่สุด เช่น เดียวกับ นิภา วงษ์สุรภินันท์ และคณะครูโรงเรียนบ้านผึ้ง (2549) พบว่า

นักเรียนมีความคิดสร้างสรรค์ กล้าแสดงออกในการเล่านิทานสร้างสรรค์คุณธรรม อยู่ในระดับปานกลางมี

ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเป็น 3.75และ 0.55 ตามลำดับ และส่งเสริมนักเรียนมีคุณธรรมโดยรวม

หลังการดำเนินการนิทานสร้างสรรค์คุณธรรมสูงกว่าก่อนการดำเนินการนิทานสร้างสรรค์คุณธรรมอย่างมี

นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.11 นักเรียนจึงมีความพึงพอใจต่อการดำเนินการนิทานสร้างสรรค์คุณธรรม

โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ยเป็น 3.60 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเป็น 0.56

ฉะนั้นจึงกล่าวได้ว่านิทานมีประโยชน์ต่อการเรียนรู้ภาษาไทยของนักเรียนได้เป็นอย่างดีเป็นแหล่ง

ความรู้ทางภาษากระตุ้นให้เกิดการสื่อสารนำไปสู่การพัฒนาทักษะการฟัง การพูด การอ่านและการเขียน

ส่งเสริมกระตุ้นให้ผู้เรียน เกิดการเรียนรู้และมีความคิดสร้างสรรค์ นิทานยังเป็นสื่อการสอนที่มีความ

สนุกสนาน และตื่นเต้น ที่จะให้นักเรียนเกิดความสนใจ พึงพอใจในการเรียน และการจัดกิจกรรมโดยใช้

นิทานเป็นสื่อสำหรับนักเรียนชั้น ป.5 นั้นมีประสิทธิภาพต่อการเรียนรู้ ให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนที่ดีได้

โพสต์โดย * : [28 ต.ค. 2567 (15:32 น.)]
อ่าน [62736] ไอพี : 171.97.59.136
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 35,745 ครั้ง
กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดสรรเงินกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2555
กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดสรรเงินกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2555

เปิดอ่าน 65,790 ครั้ง
แค่ถ่ายภาพเอกสารให้ตรง แล้วส่งเข้าไลน์ ก็ถอดออกมาเป็นตัวหนังสือได้ ไม่ต้องพิมพ์
แค่ถ่ายภาพเอกสารให้ตรง แล้วส่งเข้าไลน์ ก็ถอดออกมาเป็นตัวหนังสือได้ ไม่ต้องพิมพ์

เปิดอ่าน 3,086 ครั้ง
บัตรเลือกตั้ง 2566
บัตรเลือกตั้ง 2566

เปิดอ่าน 13,966 ครั้ง
เผย 10 สุดยอดวิดีโอบน "ยูทูบ" ที่คนไทยชอบชมมากที่สุดปี 2558
เผย 10 สุดยอดวิดีโอบน "ยูทูบ" ที่คนไทยชอบชมมากที่สุดปี 2558

เปิดอ่าน 12,003 ครั้ง
รู้เท่าทัน ก่อนทานสมุนไพร-อาหารเสริม
รู้เท่าทัน ก่อนทานสมุนไพร-อาหารเสริม

เปิดอ่าน 28,889 ครั้ง
การนำรูปเรขาคณิตมาวางเรียงกันทำให้เกิดลวดลาย
การนำรูปเรขาคณิตมาวางเรียงกันทำให้เกิดลวดลาย

เปิดอ่าน 12,844 ครั้ง
สมองได้อะไรจากการออกกำลังกายบ้าง?
สมองได้อะไรจากการออกกำลังกายบ้าง?

เปิดอ่าน 17,407 ครั้ง
ห้ามพลาด!! เช็คดวงปี 59 "หมอช้าง"เผยกันย์ดวงดีสุด ส่วนสิงห์เตรียมรับราหู
ห้ามพลาด!! เช็คดวงปี 59 "หมอช้าง"เผยกันย์ดวงดีสุด ส่วนสิงห์เตรียมรับราหู

เปิดอ่าน 9,448 ครั้ง
แห่แชร์ น้ำใจชาวม้งหลายหมู่บ้าน ร่วมแรงลากรถประสบอุบัติเหตุขึ้นเขา
แห่แชร์ น้ำใจชาวม้งหลายหมู่บ้าน ร่วมแรงลากรถประสบอุบัติเหตุขึ้นเขา

เปิดอ่าน 16,233 ครั้ง
ตกแต่งห้องให้ดูกว้างขึ้น
ตกแต่งห้องให้ดูกว้างขึ้น

เปิดอ่าน 30,447 ครั้ง
อกคศ.เขตพื้นที่ฯ เลื่อนเงินเดือนครู : ต้อนคนเข้าพวก
อกคศ.เขตพื้นที่ฯ เลื่อนเงินเดือนครู : ต้อนคนเข้าพวก

เปิดอ่าน 16,145 ครั้ง
ชาวโลกแห่ดูคลิป สิ่งเล็กๆ ในสังคมที่เรียกว่า "น้ำใจ" ยอดคนดูเกือบ3ล้านครั้งแล้ว
ชาวโลกแห่ดูคลิป สิ่งเล็กๆ ในสังคมที่เรียกว่า "น้ำใจ" ยอดคนดูเกือบ3ล้านครั้งแล้ว

เปิดอ่าน 16,223 ครั้ง
อ้างพบธาตุหนักที่สุดมีเลขอะตอม 122
อ้างพบธาตุหนักที่สุดมีเลขอะตอม 122

เปิดอ่าน 17,789 ครั้ง
กินแตงโม...ลดความดันเลือด
กินแตงโม...ลดความดันเลือด

เปิดอ่าน 12,705 ครั้ง
"พอล"หมึกยักษ์..นักทำนาย ต้นตระกูลกำเนิดยุคแคมเบรียน
"พอล"หมึกยักษ์..นักทำนาย ต้นตระกูลกำเนิดยุคแคมเบรียน

เปิดอ่าน 13,183 ครั้ง
ถั่งเช่า ยาอายุวัฒนะ
ถั่งเช่า ยาอายุวัฒนะ
เปิดอ่าน 17,194 ครั้ง
อวสาน ส้วมนั่งยอง! ครม.ประกาศ ปี 59 ทุกครัวเรือนต้องใช้ส้วมชักโครก 90% รับสังคมผู้สูงวัย
อวสาน ส้วมนั่งยอง! ครม.ประกาศ ปี 59 ทุกครัวเรือนต้องใช้ส้วมชักโครก 90% รับสังคมผู้สูงวัย
เปิดอ่าน 23,270 ครั้ง
13 เรื่องจริงของสุนัขที่คุณอาจยังไม่เคยรู้
13 เรื่องจริงของสุนัขที่คุณอาจยังไม่เคยรู้
เปิดอ่าน 35,586 ครั้ง
เทควันโด : ประวัติกีฬาเทควันโด
เทควันโด : ประวัติกีฬาเทควันโด
เปิดอ่าน 11,231 ครั้ง
คลิปข่าว ศธ. จ่อใช้ระบบสอบกลาง ประถม-มัธยม ปี 57 หากตกต้องซ้ำชั้น
คลิปข่าว ศธ. จ่อใช้ระบบสอบกลาง ประถม-มัธยม ปี 57 หากตกต้องซ้ำชั้น

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ