ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบองค์การแห่งการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนบ้านโพนค้อ

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบองค์การแห่งการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21

ของโรงเรียนบ้านโพนค้อ

ผู้วิจัย นางธัญกาญจน์ ภาสตโรจน์

ปีที่ทำการวิจัย ปีการศึกษา 2566

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบองค์การแห่งการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนบ้านโพนค้อ การวิจัยนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) มีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อพัฒนารูปแบบองค์การแห่งการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนบ้านโพนค้อ และวัตถุประสงค์เฉพาะ 1) เพื่อศึกษาความต้องการจำเป็นและแนวทางในการพัฒนาองค์การแห่งการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนบ้านโพนค้อ 2) เพื่อสร้างรูปแบบองค์การแห่งการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนบ้านโพนค้อ 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบองค์การแห่งการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนบ้านโพนค้อ และ4) เพื่อประเมินรูปแบบองค์การแห่งการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนบ้านโพนค้อ การวิจัยแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาองค์ประกอบและแนวทางการจัดการองค์การแห่งการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน สำหรับการศึกษาความต้องการจำเป็นนั้นผู้วิจัยศึกษาจากครู คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครองนักเรียน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จำนวน 40 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าดัชนีความต้องการจำเป็น ส่วนการศึกษาแนวทางในการพัฒนาองค์การแห่งการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนที่มีการปฏิบัติที่ดี (Best Practice) 3 โรงเรียน จำนวน 6 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบบันทึกข้อมูลและแบบสัมภาษณ์ และวิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา ขั้นตอนที่ 2 การสร้างรูปแบบ โดยการยกร่างรูปแบบจากข้อมูลที่ได้จากการศึกษาในขั้นตอนที่ 1 และตรวจสอบรูปแบบโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 10 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบประเมินความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ของร่างรูปแบบ สถิติที่ใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบองค์การแห่งการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ผู้ให้ข้อมูล ครูโรงเรียนบ้านโพนค้อ จำนวน 11 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา และขั้นตอนที่ 4 การประเมินรูปแบบองค์การแห่งการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ผู้ให้ข้อมูล ครูโรงเรียนบ้านโพนค้อ จำนวน 11 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาความต้องการจำเป็นในการจัดการองค์การแห่งการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนบ้านโพนค้อ เรียงลำดับดังนี้ ด้านการเรียนรู้เป็นทีม ด้านการใช้เทคโนโลยี ด้านการมีวิสัยทัศน์ร่วม ด้านรูปแบบความคิด ด้านบุคคลที่มีความรอบรู้ และด้านการคิดเป็นระบบ สถานศึกษามีกระบวนการบริหารจัดการโดยยึดหลักโรงเรียนเป็นฐาน (SBM) หลักธรรมาภิบาล และดำเนินงานด้วยหลักวงจรคุณภาพ (PDCA) ในการทำงานอย่างเป็นระบบในทุกขั้นตอน และแนวทางในการจัดการองค์การแห่งการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ คือ องค์ประกอบที่ 1 หลักการของรูปแบบ องค์ประกอบที่ 2 วัตถุประสงค์ของรูปแบบ องค์ประกอบที่ 3 วิธีดำเนินการของรูปแบบ องค์ประกอบที่ 4 ผลลัพธ์

2. ผลการยกร่างรูปแบบองค์การแห่งการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนบ้านโพนค้อ ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ คือ องค์ประกอบที่ 1 หลักการของรูปแบบ ประกอบด้วย หลักการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (SBM) และหลักธรรมาภิบาล องค์ประกอบที่ 2 วัตถุประสงค์ของรูปแบบ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน องค์ประกอบที่ 3 วิธีดำเนินการของรูปแบบ โดยใช้กระบวนการวงจรคุณภาพ (PDCA) ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน คือ 1) การวางแผน (P: Plan) 2) การดำเนินการ (D: Do) ได้แก่ ด้านบุคคลที่มีความรอบรู้ ด้านรูปแบบความคิด ด้านการมีวิสัยทัศน์ร่วม ด้านการเรียนรู้เป็นทีม ด้านการคิดเป็นระบบ และด้านการใช้เทคโนโลยี 3) การกำกับติดตาม (C: Check) และ4) การปรับปรุงพัฒนา (A: Action) องค์ประกอบที่ 4 ผลลัพธ์ ได้แก่ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และความพึงพอใจ

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบองค์การแห่งการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนบ้านโพนค้อ อยู่ในระดับมากที่สุด ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ องค์ประกอบที่ 4 ผลลัพธ์ รองลงมา องค์ประกอบที่ 3 วิธีดำเนินการของรูปแบบ องค์ประกอบที่ 1 หลักการของรูปแบบ และองค์ประกอบที่ 2 วัตถุประสงค์ของรูปแบบ ตามลำดับ

4. ผลการประเมินรูปแบบองค์การแห่งการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนบ้านโพนค้อ พบว่า ผลการเปรียบเทียบร้อยละคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังทดลองใช้รูปแบบองค์การแห่งการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนบ้านโพนค้อ ใน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ปีการศึกษา 2565 และปีการศึกษา 2566 ใน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ พบว่า ปีการศึกษา 2566 มีร้อยละคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้นทุกชั้นเรียน ชั้นเรียนที่มีร้อยละคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงสุด คือ คือ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 รองลงมา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และมีร้อยละคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้นทุกรายวิชา วิชาที่มีร้อยละคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงสุด คือ วิชาภาษาไทย รองลงมา วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและสุขศึกษาและพลศึกษา วิชาการงานอาชีพ วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม วิชาคณิตศาสตร์ วิชาศิลปะ และวิชาภาษาอังกฤษ ผลการเปรียบเทียบร้อยละของผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนก่อนและหลังทดลองใช้รูปแบบองค์การแห่งการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนบ้านโพนค้อ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ปีการศึกษา 2565 และปีการศึกษา 2566 ใน 8 ข้อ พบว่า ปีการศึกษา 2566 มีร้อยละผลการประเมินการประเมินเพิ่มขึ้นทุกชั้นเรียน เมื่อพิจารณารายชั้นเรียน ค่าร้อยละผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนสูงสุด คือ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 รองลงมา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และพิจารณาร้อยละผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์เป็นรายข้อ พบว่า ร้อยละผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนเพิ่มขึ้นทุกข้อ ข้อที่มีร้อยละผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์สูงสุด คือ ข้อ 1 รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ รองลงมา ข้อ 2 ซื่อสัตย์สุจริต ข้อ 3 มีวินัย ข้อ 6 มุ่งมั่นในการทำงาน ข้อ 4 ใฝ่เรียนรู้ ข้อ 5 อยู่อย่างพอเพียง ข้อ 8 มีจิตสาธารณะ และข้อ 7 รักความเป็นไทย และผลการประเมินความพึงพอใจของครูที่มีต่อการปฏิบัติตามรูปแบบองค์การแห่งการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนบ้านโพนค้อ อยู่ในระดับมากที่สุด ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ องค์ประกอบที่ 4 ผลลัพธ์ รองลงมา องค์ประกอบที่ 3 วิธีดำเนินการของรูปแบบ องค์ประกอบที่ 1 หลักการของรูปแบบ และองค์ประกอบที่ 2 วัตถุประสงค์ของรูปแบบ

คำสำคัญ: การพัฒนารูปแบบ, องค์การแห่งการเรียนรู้, คุณภาพผู้เรียน, ศตวรรษที่ 21

โพสต์โดย ธัญกาญจน์ : [24 ต.ค. 2567 (13:30 น.)]
อ่าน [547] ไอพี : 1.1.243.129
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 34,867 ครั้ง
อยากเก่งภาษาอังกฤษทำยังไง
อยากเก่งภาษาอังกฤษทำยังไง

เปิดอ่าน 146,148 ครั้ง
อาถรรพณ์"นรกซานติก้า" ที่ดินนี้มีตำนาน..."เลือด"!!!
อาถรรพณ์"นรกซานติก้า" ที่ดินนี้มีตำนาน..."เลือด"!!!

เปิดอ่าน 13,480 ครั้ง
วีดิโอสอนวิธีการดูธนบัตรปลอม
วีดิโอสอนวิธีการดูธนบัตรปลอม

เปิดอ่าน 15,774 ครั้ง
คีเลชั่น (Chelation) คืออะไร
คีเลชั่น (Chelation) คืออะไร

เปิดอ่าน 22,819 ครั้ง
วิจัยพบ "สารสกัดสาหร่ายพวงองุ่น" ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
วิจัยพบ "สารสกัดสาหร่ายพวงองุ่น" ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด

เปิดอ่าน 36,328 ครั้ง
คอร์รัปชันในระบบการศึกษา...ความท้าทายที่ต้องเดินหน้าสู้
คอร์รัปชันในระบบการศึกษา...ความท้าทายที่ต้องเดินหน้าสู้

เปิดอ่าน 10,123 ครั้ง
Animator vs Animation ภาค 4 กลับมาแล้ว สุดยอดมาก ชมคลิปกันเลย
Animator vs Animation ภาค 4 กลับมาแล้ว สุดยอดมาก ชมคลิปกันเลย

เปิดอ่าน 52,563 ครั้ง
คำบุพบท
คำบุพบท

เปิดอ่าน 20,190 ครั้ง
ไผ่บงหวาน..บ้านนาทุ่ม สร้างรายได้เดือนละแสน
ไผ่บงหวาน..บ้านนาทุ่ม สร้างรายได้เดือนละแสน

เปิดอ่าน 13,527 ครั้ง
"ถั่ว" ยาต้านมะเร็งตับอ่อน
"ถั่ว" ยาต้านมะเร็งตับอ่อน

เปิดอ่าน 4,404 ครั้ง
กว่าจะเป็นครู : สรุปให้รู้ตามทันโลกการศึกษา EP.2
กว่าจะเป็นครู : สรุปให้รู้ตามทันโลกการศึกษา EP.2

เปิดอ่าน 24,249 ครั้ง
ความเข้าใจเรื่องแผ่นดินไหว: ประเทศไทยกับ 3 รอยเลื่อนมีพลัง และพื้นที่เสี่ยงภัย 5 ระดับ
ความเข้าใจเรื่องแผ่นดินไหว: ประเทศไทยกับ 3 รอยเลื่อนมีพลัง และพื้นที่เสี่ยงภัย 5 ระดับ

เปิดอ่าน 11,014 ครั้ง
Powerpoint บรรยายพิเศษ ดร.ชัยพฤษ์ เสรีรักษ์ ปลัดศธ. ในโครงการพัฒนาผู้บริหารสำนักงานศึกษาธิการภาค และสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด
Powerpoint บรรยายพิเศษ ดร.ชัยพฤษ์ เสรีรักษ์ ปลัดศธ. ในโครงการพัฒนาผู้บริหารสำนักงานศึกษาธิการภาค และสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด

เปิดอ่าน 15,809 ครั้ง
5 สิ่งที่ควรทำก่อนจะอายุ 30
5 สิ่งที่ควรทำก่อนจะอายุ 30

เปิดอ่าน 12,068 ครั้ง
ไทยมีสิทธิ์เจอ แผ่นดินไหวเกิน 6 ริกเตอร์
ไทยมีสิทธิ์เจอ แผ่นดินไหวเกิน 6 ริกเตอร์

เปิดอ่าน 726 ครั้ง
จองตั๋วเครื่องบินไปโอซาก้า ที่ไหนราคาดี  พร้อมที่เที่ยวแบบจัดเต็ม
จองตั๋วเครื่องบินไปโอซาก้า ที่ไหนราคาดี พร้อมที่เที่ยวแบบจัดเต็ม
เปิดอ่าน 19,310 ครั้ง
จุฬาฯวิจัยสารสกัดดอกสะเดา มีฤทธิ์ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่
จุฬาฯวิจัยสารสกัดดอกสะเดา มีฤทธิ์ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่
เปิดอ่าน 46,334 ครั้ง
อักษรไทยสมัยสุโขทัย
อักษรไทยสมัยสุโขทัย
เปิดอ่าน 23,965 ครั้ง
แพทย์ชี้เด็กยิ่งเล่นยิ่งฉลาด แนะพ่อแม่ส่งเสริมการเล่นอย่างอิสระ 7 ประการ
แพทย์ชี้เด็กยิ่งเล่นยิ่งฉลาด แนะพ่อแม่ส่งเสริมการเล่นอย่างอิสระ 7 ประการ
เปิดอ่าน 18,895 ครั้ง
รับชมย้อนหลัง “รมว.ศึกษาฯ” กับนโยบายแก้ปัญหา โรงเรียน ICU จากรายการ ผชิญหน้า FaceTime (8 ก.พ. 2560)
รับชมย้อนหลัง “รมว.ศึกษาฯ” กับนโยบายแก้ปัญหา โรงเรียน ICU จากรายการ ผชิญหน้า FaceTime (8 ก.พ. 2560)

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ