ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียงของโรงเรียนบ้านหนองแปน

โครงการโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. ด้านการบริหารจัดการ

ชื่อผลงาน : การพัฒนารูปแบบบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียงของโรงเรียนบ้านหนองแปน

ผู้พัฒนานวัตกรรม : นายพศวัต สาระอาวาส

ตำแหน่ง : ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองแปน

ส่วนประกอบของรูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียงของโรงเรียนบ้านหนองแปน ประกอบด้วย

ส่วนที่ ๑ หลักการแนวคิดและวัตถุประสงค์ของรูปแบบ

๑. หลักการแนวคิด

บริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียงความพอเพียง เป็นการดำเนินการพัฒนาคุณภาพการศึกษามาระดับหนึ่งเนื่องจากจะต้องปฏิบัติตามหลักปฏิบัติของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งประกอบด้วย ๑.การพึ่งตนเองเป็นหลัก ๒.การพิจารณาถึงความพอดี พอเหมาะ พอควร สมเหตุสมผล ๓.การสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้น

บนพื้นฐานของความสมดุล และ ๔.ความครอบคลุมทั้งด้านจิตใจ สังคม เทคโนโลยี ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และ เศรษฐกิจ ฉะนั้น การยกระดับคุณภาพการศึกษาต้องวางแผนและการดำเนินการทุกขั้นตอนและในขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฎี และนักธุรกิจในทุกระดับ ให้มีจิตสำนึกในคุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม ดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญา และความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ทั้งทางด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมโลกจากภายนอกได้เป็นอย่างดี การจัดการเรียนรู้ของครูสามารถสอดแทรกสาระเศรษฐกิจพอเพียงในหลักสูตรและสาระการเรียนรู้ในห้องเรียน และการประยุกต์หลักเศรษฐกิจพอเพียงในการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนนอกห้องเรียน จึงจำเป็นต้องมีกระบวนการหล่อหลอมให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้องมีความเชื่อมั่น เห็นประโยชน์และสามารถนำหลักการนี้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะพัฒนาแนวทางการจัดการเรียนรู้ ตามหลักของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษาเพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้บุคลากรในสถานศึกษา ให้มีส่วนร่วมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการจัดการเรียนรู้ในสถานศึกษา เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้ตอบสนองเป้าหมายการจัดการศึกษาในปัจจุบันและตอบสนองต่อการปฏิรูปการจัดการศึกษาในสถานศึกษา และเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ดังนั้นข้าพเจ้าผู้พัฒนานวัตกรรมจึงสนใจพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียงของโรงเรียนบ้านหนองแปน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต ๒

๒. วัตถุประสงค์ของรูปแบบ

เพื่อให้โรงเรียนบ้านหนองแปน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต ๒ ให้บริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียง โดยใช้รูปแบบบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียง มีหลักปฏิบัติตามแนวทางของเศรษฐกิจพอเพียง มุ่งหวังให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะตามหลักปฏิบัติตามแนวของเศรษฐกิจพอเพียง ดังนี้ ๑.การพึ่งตนเองเป็นหลัก ๒.การพิจารณาถึงความพอดี พอเหมาะ พอควร สมเหตุสมผล ๓.การสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้น บนพื้นฐานของความสมดุล และ ๔.ความครอบคลุมทั้งด้านจิตใจ สังคม เทคโนโลยี ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และ เศรษฐกิจ

ส่วนที่ ๒ องค์ประกอบของรูปแบบกระบวนการของรูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียง

เป็นรูปแบบที่พัฒนาขึ้นโดยใช้แนวคิดและทฤษฎีระบบ การศึกษาสภาพปัจจุบัน และความต้องการของโรงเรียนที่คำนึงถึงบริบทและสภาพแวดล้อมของโรงเรียนนำไปสู่การกำหนดปัจจัยป้อนเข้า เช่น กฎหมาย/นโยบาย กระทรวงศึกษาธิการ ทรัพยากรทางการการศึกษา โดยที่โรงเรียนต้องมีความสามารถและมีกระบวนการบริหารจัดการให้เกิดประสิทธิภาพอันนำไปสู่ผลผลิตและผลลัพธ์ ที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีความพึงพอใจ และได้ข้อมูลป้อนกลับ ซึ่งสะท้อนผลการพัฒนาทั้งหมดมาใช้ปรับปรุงพัฒนาโรงเรียนอย่างต่อเนื่องต่อไป องค์ประกอบของรูปแบบกระบวนการของรูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียง ประกอบด้วย ๑) สภาพแวดล้อมภายนอก ๒) ปัจจัยป้อนเข้า ๓) กระบวนการ ๔) ผลผลิต/ผลลัพธ์ และ ๕) ข้อมูลป้อนกลับ

องค์ประกอบที่ ๑ สภาพแวดล้อมภายนอก

สภาพแวดล้อมภายนอกในการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาสู่ความพอเพียง ประกอบด้วย สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การเมือง การปกครอง และด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ

องค์ประกอบที่ ๒ ปัจจัยป้อนเข้า

๑. กฎหมาย และนโยบายเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สำหรับสถานศึกษา ประกอบด้วย ๑.รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.๒๕๖๐ ๒.พระบรมราโชบายด้านการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.๑๐ ๓.ยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี (๒๕๖๑-๒๕๘๐)

๔.แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ๕.แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉ.๑๓ ๖.แผนความมั่นคงแห่งชาติ ๗.แผนการปฏิรูปประเทศ ๘.แผนการศึกษาแห่งชาติ (๒๕๖๐-๒๕๗๙) ๙.นโยบายรัฐบาล และ๑๐.นโยบาย/จุดเน้น ศธ. สพฐ. และ สพป.ศก.๒

๒. ทรัพยากรทางการศึกษา ได้แก่ ผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา และคณะกรรมการสถานศึกษา ผู้บริหารจะต้องมีความรู้ความเข้าใจและตระหนักต่อบทบาทหน้าที่ในการบริหารจัดการสะเต็มศึกษา สำหรับสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษา มีความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด จะต้องได้รับการพัฒนาให้เป็นผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจ และตระหนักต่อหน้าที่ของตนเองเป็นอย่างดี คณะกรรมการสถานศึกษา มีความสำคัญต่อการบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียง มีบทบาทหน้าที่ที่จะต้องออกระเบียบ ข้อบังคับ ให้ความเห็นชอบให้คำแนะนำ รวมทั้งกำกับดูแลติดตาม ตรวจสอบงานต่าง ๆ ของโรงเรียน

๓. ทรัพยากรอื่น ได้แก่ งบประมาณ อาคาร วัสดุ อุปกรณ์ เทคโนโลยี แหล่งเรียนรู้ ซึ่งนับได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่จะช่วยสนับสนุนให้เกิดการบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียง ได้อย่างเหมาะสม

องค์ประกอบที่ ๓ กระบวนการ

กระบวนการของรูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียง ผู้พัฒนานวัตกรรมได้พัฒนารูปแบบจากตามความต้องการจำเป็น และการบริหารตามกระบวนการวงจรคุณภาพเดมมิ่ง (PDCA) ประกอบด้วย ๔ หลักปฏิบัติตามแนวทางของเศรษฐกิจพอเพียง ดังนี้ ๑.การพึ่งตนเองเป็นหลัก

๒.การพิจารณาถึงความพอดี พอเหมาะ พอควร สมเหตุสมผล ๓.การสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้น บนพื้นฐานของความสมดุล และ ๔.ความครอบคลุมทั้งด้านจิตใจ สังคม เทคโนโลยี ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และ เศรษฐกิจ

๑. หลักการพึ่งตนเองเป็นหลัก PDCA หลักการพึ่งตนเอง

PLAN : ๑.๑ มีแผนหรือโครงการสร้างฐานการเรียนรู้ตามโครงการตามแนวพระราชดำริ

DO : ๑.๒ ดำเนินโครงการในสถานศึกษาบรรลุผลสำเร็จตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 หรือรัชกาลปัจจุบัน และสอดคล้องกับ

วิสัยทัศน์ นโยบาย และเป้าหมายการพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษา

๑.๓ บริหารแบบมีส่วนร่วม เน้นการทำงานที่เป็นระบบ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องปฏิบัติงานด้วยความเต็มใจ และเกิดประโยชน์ต่อพัฒนาการของนักเรียนรอบด้าน

CHECK : ๑.๔ ตรวจสอบผลสำเร็จของโครงการต่าง ๆ ผ่านการจัดนิทรรศการทุกปี

ACT : ๑.๕ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลงานอย่างแพร่หลายและต่อเนื่อง

๒.หลักการแยกแยะความพอดี พอเหมาะ พอควร และสมเหตุสมผล PDCA หลักการความพอดี พอเหมาะ พอควร และสมเหตุสมผล

PLAN : ๒.๑ วางแผนพัฒนาหลักสูตรให้มีความยืดหยุ่นและสอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป้าหมายและวิสัยทัศน์

DO : ๒.๒ วิเคราะห์ความต้องการจำเป็นของสถานศึกษา ชุมชน สังคมและท้องถิ่น ร่วมกับผู้เกี่ยวข้อง

๒.๓ นำหลักสูตรไปวางแผนและออกแบบการจัดการเรียนการสอน

๒.๔ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้บรรลุตามเป้าหมายของหลักสูตรที่กำหนด

CHECK : ๒.๕ นิเทศ กำกับ ติดตามและประเมินผลการใช้หลักสูตรโดยทุกฝ่ายมีส่วนร่วม

ACT : ๒.๖ นำผลการประเมินมาปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตร

๒.๗ นักเรียนมีโอกาสเข้าร่วมในการเรียนรู้ตามความต้องการและความสนใจ

๒.๘ ศึกษาวิเคราะห์ความต้องการจัดหาและใช้สื่อเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ แบบมีส่วนร่วม

๒.๙ พัฒนาแนวทางการออกแบบกระบวนการและเครื่องมือ ในการประเมินผล

๒.๑๐ จัดทำเอกสารประกอบการวัดและประเมินผล สรุปรายงานเสนอผู้เกี่ยวข้องทราบนำผลไปใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา

๓.หลักการการสร้างความสามัคคี PDCA หลักการสร้างความสามัคคี

PLAN : ๓.๑ วางแผนการจัดการเรียนการสอนให้นักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านความสามัคคีอย่างต่อเนื่องให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม

DO : ๓.๒ คิดวิเคราะห์ คิดริเริ่มสร้างสรรค์ ทำงานเป็นทีมสามารถอภิปราย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นยอมรับเหตุผลและความคิดเห็นของผู้อื่นและแก้ปัญหาได้

๓.๔ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) อย่างสร้างสรรค์

CHECK : ๓.๕ นิเทศ กำกับ ติดตามและประเมินผลการจัดกิจกรรมโดยทุกฝ่ายมีส่วนร่วม

๓.๖ ขับเคลื่อนระบบประกันคุณภาพภายในสู่การปฏิบัติ อย่างเข้มแข็ง มีการนิเทศติดตาม และพัฒนางาน

ACT : ๓.๗ เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร และกิจกรรมในสถานศึกษาด้วยวิธีที่หลากหลายและน่าสนใจ

๔. หลักการทางจิตใจ สังคม เทคโนโลยี ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และ เศรษฐกิจ PDCA หลักการรองรับการเปลี่ยนแปลงรอบด้าน

PLAN : ๔.๑ วางแผนออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นนักเรียนเป็นสำคัญสอดคล้องกับมาตรฐาน ตัวชี้วัด และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของหลักสูตร

๔.๒ กระตุ้นให้นักเรียนกระตือรือร้น ฝึกปฏิบัติแก้ไขปัญหา มอบหมายงานที่หลากหลายและสร้างสรรค์ ทั้งงานรายบุคคล และงานกลุ่ม

๔.๓ กำหนดแนวทาง และวัดประเมินผลรวมถึงการใช้สื่อได้สอดคล้องกับเป้าหมายและจุดเน้นที่สถานศึกษากำหนด

DO : ๔.๔ ครูมีความรู้ความเข้าใจลึกซึ้งในวิชาที่สอน และจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้กระบวนการวิจัยพัฒนาการจัดการเรียนรู้

๔.๕ บูรณาการการเรียนรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และภูมิปัญญาท้องถิ่น

CHECK : ๔.๖ นิเทศ กำกับ ติดตามและประเมินผลการจัดกิจกรรมโดยทุกฝ่ายมีส่วนร่วม

๔.๗ จัดการสอนซ่อมเสริมให้แก่นักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียน เพิ่มพูนศักยภาพนักเรียนที่มีความสามารถ

ACT : ๔.๘ นำเสนอผลการเรียน และความก้าวหน้าในการเรียนรู้ ให้ผู้ปกครองรับทราบ

องค์ประกอบที่ ๔ ด้านผลผลิต

องค์ประกอบด้านผลผลิตของการบริหารจัดการความพอเพียงของโรงเรียนบ้านหนองแปน เป็นผลที่ได้จากการนำปัจจัยป้อนเข้า หลักการการบริหารจัดการความพอเพียงของโรงเรียนบ้านหนองแปน และกระบวนการบริหาร PDCA ทำให้ผลผลิตที่ได้เกิดประสิทธิผล และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเกิดความพึงพอใจ โดยวัดระดับการเกิดประสิทธิผลตามเกณฑ์การประเมินผลลัพธ์/ภาพความสำเร็จมี ๔ องค์ประกอบ ประกอบด้วย องค์ประกอบที่ ๑ สถานศึกษา องค์ประกอบที่ ๒ ผู้บริหารสถานศึกษา องค์ประกอบที่ ๓ บุคลากรของสถานศึกษา บุคลากรของสถานศึกษามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ และองค์ประกอบที่ ๔ ผู้เรียนผู้เรียน

มีความรู้ความเข้าใจ

องค์ประกอบที่ ๕ ข้อมูลป้อนกลับ

ข้อมูลป้อนกลับเป็นการนำผลจากกระบวนการการบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียง และหน้าที่การบริหารตามแนวคิดวงจรคุณภาพ (PDCA) มาเป็นข้อมูลในพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียงของโรงเรียนบ้านหนองแปน เมื่อผ่านกระบวนการแล้วจะได้ข้อมูลป้อนกลับทางบวกและข้อมูลป้อนกลับทางลบ ซึ่งข้อมูลป้อนกลับทางบวกจะเป็นสารสนเทศที่มีประโยชน์ต่อการบริหารโรงเรียน ตามหลักการการบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียง ส่วนข้อมูลป้อนกลับทางลบจะทำให้ได้ข้อมูลสารสนเทศที่

ไม่สมบูรณ์เพียงพอในการปรับปรุงโรงเรียนตามหลักการการบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียง จึงต้องนำข้อมูลป้อนกลับมาใช้ในการพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียงของโรงเรียนบ้านหนองแปน ให้มีความเป็นไปได้และเหมาะสมต่อไป

ส่วนที่ 3 แนวทางการนำรูปแบบไปใช้

การนำรูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียงของโรงเรียนบ้านหนองแปน ไปใช้ต้องเตรียมความพร้อมในการดำเนินการเพื่อให้การใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียงของโรงเรียนบ้านหนองแปน มีประสิทธิภาพ มีขั้นตอนการนำไปใช้ ประกอบด้วย ขั้นเตรียมการ และขั้นดำเนินการ โดยมีรายละเอียดในการดำเนินการ ดังนี้

๑. ขั้นเตรียมการ

๑.๑ ประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครอง หัวหน้าฝ่าย หัวหน้าสายชั้นหรือหัวหน้าระดับ เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจ ความสำคัญ ประโยชน์และความจำเป็นที่นำรูปแบบ

การบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียงของโรงเรียนบ้านหนองแปน มาใช้

๑.๒ แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาสถานศึกษาด้วยรูปแบบการบริหารสถานศึกษา

สู่ความพอเพียงของโรงเรียนบ้านหนองแปน ให้สอดคล้องกับรูปแบบ

๑.๓ คณะกรรมการพัฒนาสถานศึกษาด้วยการบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียง

ของโรงเรียนบ้านหนองแปน จัดเตรียมการประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาสถานศึกษาด้วยการบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียงของโรงเรียนบ้านหนองแปน

๒. ขั้นดำเนินการ

๒.๑ ประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจ ความสำคัญ ประโยชน์

และความจำเป็นที่นำเอารูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียงของโรงเรียนบ้านหนองแปน มาใช้

๒.๒ คณะกรรมการพัฒนาสถานศึกษาสู่รูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียงของโรงเรียนบ้านหนองแปน สำรวจสภาพการบริหารสถานศึกษาก่อนดำเนินการ แล้วนำผลการสำรวจที่ได้มาเตรียมการพัฒนาสถานศึกษาต่อไป

๒.๓ ศึกษาดูงานสถานศึกษาที่มีการบริหารจัดการที่เป็นเลิศ (Best Practice)

๒.๔ คณะกรรมการพัฒนาสถานศึกษาด้วยการบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียงของโรงเรียนบ้านหนองแปน กำกับและติดตามการปฏิบัติตามวิธีการของการบริหารโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้

ทางวิชาชีพเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา

๓. ขั้นตรวจสอบ

๓.๑ คณะกรรมการพัฒนาสถานศึกษาด้วยการการบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียงของโรงเรียนบ้านหนองแปน จัดทำปฏิทินการปฏิบัติงาน นิเทศ กำกับ และติดตามการปฏิบัติงาน

๓.๒ คณะกรรมการพัฒนาสถานศึกษาด้วยการบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียงของโรงเรียนบ้านหนองแปน ตรวจสอบการปฏิบัติงานตามแบบประเมิน

๓.๓ คณะกรรมการพัฒนาสถานศึกษาด้วยการบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียงของโรงเรียนบ้านหนองแปน รายงานความก้าวหน้าโดยคณะกรรมการประชุมร่วมกับผู้บริหารสถานศึกษาทุกสัปดาห์

๔. ขั้นปรับปรุงแก้ไข

๔.๑ คณะกรรมการพัฒนาสถานศึกษาด้วยการบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียงของโรงเรียนบ้านหนองแปน นำผลจากการประเมินผลจากการปฏิบัติงานไปปรับปรุงแก้ไขหรือเพิ่มเติมการปฏิบัติงานและจัดทำเอกสารประกอบการปฏิบัติงาน

๔.๒ คณะกรรมการพัฒนาสถานศึกษาด้วยการบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียงของโรงเรียนบ้านหนองแปน สรุปผลการดำเนินการให้ผู้บริหารสถานศึกษารับทราบ

ส่วนที่ ๔ การประเมินผล การประเมินผลให้ดำเนินการ ดังนี้

๑. คณะกรรมการพัฒนาสถานศึกษาด้วยการบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียงของโรงเรียนบ้าน

หนองแปน ประเมินความพึงพอใจการนำรูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียงของโรงเรียนบ้าน

หนองแปน ไปใช้ตามแบบประเมินความพึงพอใจ

๒. คณะกรรมการพัฒนาสถานศึกษาด้วยการบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียงของโรงเรียนบ้าน

หนองแปน สรุปการบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียงของโรงเรียนบ้านหนองแปน แล้วรายงานผลให้ผู้บริหารสถานศึกษารับทราบ

ส่วนที่ ๕ เงื่อนไขความสำเร็จ

เงื่อนไขความสำเร็จ คือ การบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียงของโรงเรียนบ้านหนองแปน เพื่อให้ประสบผลสำเร็จในเป้าหมายที่สูงขึ้น โดยครอบคลุมในทุกระดับชั้นของสถานศึกษา

การบริหารควรเพิ่มจุดเน้น ดังต่อไปนี้

๑. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ควรให้การสนับสนุนการบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียงของโรงเรียนบ้านหนองแปน อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ควรมีการช่วยเหลือ นิเทศ กำกับ ติดตาม และประเมินผลเพื่อให้การดำเนินงานประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์

๒. สถานศึกษาที่นำร่องนโยบายหรือมีความสนใจในการบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียงของโรงเรียนบ้านหนองแปน ควรศึกษาและเรียนรู้จากสถานศึกษาที่เป็นที่ยอมรับและมีแบบวิธีปฏิบัติ

ที่ดี (Best Practice) ให้มีความเข้าใจอย่างชัดเจนในการดำเนินการ

๓. ผู้บริหารต้องมีภาวะผู้นำแห่งการเรียนรู้ สร้างแรงจูงใจ มุ่งมั่น จริงจัง สนับสนุนและอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ ให้กับการบริหารสถานศึกษาสู่ความพอเพียง เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้เรียน โดยมีการนิเทศ กำกับ ติดตามเป็นประจำในลักษณะกัลยาณมิตร และเสริมแรงเชิงบวก

๔. ผู้บริหาร คณะครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคน ทุกฝ่ายและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาตระหนักและเห็นความสำคัญ ตลอดจนให้ความร่วมมือในการดำเนินการอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง

๕. ผู้บริหาร คณะครูและบุคลากรทางการศึกษา มีจิตอาสา มุ่งมั่น ทุ่มเท เสียสละ เพื่อให้สถานศึกษาบริหารสถานศึกษาไปสู่ความพอเพียง

โพสต์โดย พด : [15 ต.ค. 2567 (16:16 น.)]
อ่าน [251] ไอพี : 27.55.72.173
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 37,299 ครั้ง
การวิเคราะห์และการตีความหมายข้อมูล (Analysis and Interpretation of Data)
การวิเคราะห์และการตีความหมายข้อมูล (Analysis and Interpretation of Data)

เปิดอ่าน 19,321 ครั้ง
เผยสูตร "หน้าใส" 4 วิธี
เผยสูตร "หน้าใส" 4 วิธี

เปิดอ่าน 87,116 ครั้ง
การปลูกผักหวานป่าเชิงระบบ
การปลูกผักหวานป่าเชิงระบบ

เปิดอ่าน 14,117 ครั้ง
คนหัวล้านเฮ!นวัตกรรมเจ๋งผมงอกภายใน60วินาที(ชมคลิป)
คนหัวล้านเฮ!นวัตกรรมเจ๋งผมงอกภายใน60วินาที(ชมคลิป)

เปิดอ่าน 19,591 ครั้ง
"ว่านธรณีสาร" คืออะไร มีประโยชน์ตามความเชื่ออย่างไร?
"ว่านธรณีสาร" คืออะไร มีประโยชน์ตามความเชื่ออย่างไร?

เปิดอ่าน 10,330 ครั้ง
เส้นทางสู่ประชาคม เศรษฐกิจอาเซียนของไทย ตอนที่ 1 เจรจา ทูตแห่งการค้าเสรี
เส้นทางสู่ประชาคม เศรษฐกิจอาเซียนของไทย ตอนที่ 1 เจรจา ทูตแห่งการค้าเสรี

เปิดอ่าน 15,821 ครั้ง
ไขมันที่มองไม่เห็น อันตรายที่ไม่รู้ตัว คนผอมต้องระวัง!!!
ไขมันที่มองไม่เห็น อันตรายที่ไม่รู้ตัว คนผอมต้องระวัง!!!

เปิดอ่าน 23,947 ครั้ง
คลิปดรัมเมเยอร์โรงเรียนชะอวดวิทยาคาร พลิ้วสุด ๆ ยอดวิวหลักแสนแล้ว
คลิปดรัมเมเยอร์โรงเรียนชะอวดวิทยาคาร พลิ้วสุด ๆ ยอดวิวหลักแสนแล้ว

เปิดอ่าน 23,318 ครั้ง
แชร์ประสบการณ์หัดพูด อังกฤษ ฉบับ Advance ได้ผลจริง
แชร์ประสบการณ์หัดพูด อังกฤษ ฉบับ Advance ได้ผลจริง

เปิดอ่าน 80,225 ครั้ง
สำนวนไทย
สำนวนไทย

เปิดอ่าน 19,938 ครั้ง
ทำอย่างไรดี...คอเคล็ดพราะตกหมอน
ทำอย่างไรดี...คอเคล็ดพราะตกหมอน

เปิดอ่าน 48,951 ครั้ง
ระบบการพัฒนาอาชีพครู
ระบบการพัฒนาอาชีพครู

เปิดอ่าน 15,331 ครั้ง
วิธีกำจัดกลิ่น กระเทียมติดปาก
วิธีกำจัดกลิ่น กระเทียมติดปาก

เปิดอ่าน 35,719 ครั้ง
ราคากลางอาคารเรียน , อาคารประกอบและสิ่งก่อสร้างอื่นๆ
ราคากลางอาคารเรียน , อาคารประกอบและสิ่งก่อสร้างอื่นๆ

เปิดอ่าน 86,664 ครั้ง
พันธุ์ไม้ในในป่าชายเลน
พันธุ์ไม้ในในป่าชายเลน

เปิดอ่าน 16,304 ครั้ง
การกำหนดวงเงินการจัดหาพัสดุ
การกำหนดวงเงินการจัดหาพัสดุ
เปิดอ่าน 4,796 ครั้ง
7 สาเหตุนอนไม่หลับและเคล็ดลับแก้ไข
7 สาเหตุนอนไม่หลับและเคล็ดลับแก้ไข
เปิดอ่าน 17,482 ครั้ง
Best of Web เด็ดๆโดนๆ คลิปบนโลกออนไลน์
Best of Web เด็ดๆโดนๆ คลิปบนโลกออนไลน์
เปิดอ่าน 15,502 ครั้ง
รังนก
รังนก
เปิดอ่าน 10,975 ครั้ง
ทำไมหนอ ผู้หญิงถึงชอบรองเท้าส้นสูง
ทำไมหนอ ผู้หญิงถึงชอบรองเท้าส้นสูง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ