ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง การแทรกสอด และการเลี้ยวเบนของคลื่นแสง ด้วยกระบวนการเรียนการสอนแบบลงมือปฏิบัติจริง ควบคู่กับการเรียนผ่านแบบจำลองการเรียนรู้แบบ simulation ด้วย PHET Interactive Simu

ชื่อผู้วิจัย นางสาวพัชร์ธีรัตน์ กันธิวงศ์

ปีการศึกษา 2566

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้” มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ 1. เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิด วิเคราะห์ การแก้โจทย์ปัญหา เรื่องการแทรกสอดและการเลี้ยวเบนของคลื่นแสงของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนแม่ริมวิทยาคม 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนและหลังเรียน ที่เรียนโดยการลงมือปฏิบัติจรงควบคู่กับการเรียนผ่านแบบจำลองการเรียนรู้แบบ simulation ด้วย PHET Interactive Simulations 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อการเรียนหลังเรียนจากการจัดการเรียนรู้โดยการลงมือปฏิบัติจริงควบคู่กับการเรียนผ่านแบบจำลองการเรียนรู้แบบ simulation ด้วย PHET Interactive Simulations ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนแม่ริมวิทยาคม จำนวน 30 คน

ผลการศึกษาวิจัยพบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 หลังเรียน เรื่องการแทรกสอดและการเลี้ยวเบนของคลื่นแสงของนักเรียน ผ่านกระบวนการจัดการเรียนรู้โดยการลงมือปฏิบัติจริงควบคู่กับการเรียนผ่านแบบจำลองการเรียนรู้แบบ simulation ด้วย PHET Interactive Simulations สูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งมีค่าเฉลี่ยของคะแนนการทดสอบหลังเรียน (x ̅=7.68) สูงกว่าค่าเฉลี่ยของคะแนนการทดสอบก่อนเรียน (x ̅=4.07) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05

ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจต่อการเรียนหลังเรียน เรื่องการแทรกสอดและการเลี้ยวเบนของคลื่นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนแม่ริมวิทยาคม ผ่านกระบวนการจัดการเรียนรู้โดยการลงมือปฏิบัติจริงควบคู่กับการเรียนผ่านแบบจำลองการเรียนรู้แบบ simulation ด้วย PHET Interactive Simulations มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.12 โดยอยู่ในระดับความพึงพอใจมาก

วัตถุประสงค์ของการวิจัย

1. เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิด วิเคราะห์ การแก้โจทย์ปัญหา เรื่อง การแทรกสอด และการเลี้ยวเบนของคลื่นแสง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนแม่ริมวิทยาคม

2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนและหลังเรียน ที่เรียนโดยการจัดการเรียนรู้ควบคู่กับการเรียนผ่านแบบจำลองการเรียนรู้แบบ simulation ด้วย PHET Interactive Simulations เรื่อง การแทรกสอดและการเลี้ยวเบนของคลื่นแสงของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนแม่ริมวิทยาคม

3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อการเรียนหลังเรียนจากการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะเรื่อง การแทรกสอด และการเลี้ยวเบนของคลื่นแสง

สมมติฐานของการวิจัย

1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนแม่ริมวิทยาคม หลังเรียนควบคู่กับการเรียนผ่านแบบจำลองการเรียนรู้แบบ simulation ด้วย PHET Interactive Simulations เรื่อง การแทรกสอดและการเลี้ยวเบนของแสง สูงกว่าก่อนการเรียนด้วย PHET Interactive Simulations

2. ความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะเรื่อง การแทรกสอดและการเลี้ยวเบนของแสง อยู่ในระดับมาก

ขอบเขตของการวิจัย

1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง

1.1 ประชากรที่ใช้ในการทดลองครั้งนี้ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนแม่ริมวิทยาคม

1.2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลองครั้งนี้ใช้ประชากรทั้งหมด ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนแม่ริมวิทยาคม ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 1 ห้อง นักเรียน 30 คน

2. ตัวแปรที่ศึกษา

ตัวแปรต้น ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง การแทรกสอด และการเลี้ยวเบนของคลื่นแสง

ตัวแปรตาม ได้แก่

1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนควบคู่กับการเรียนผ่านแบบจำลองการเรียนรู้แบบ simulation ด้วย PHET Interactive Simulations เรื่อง การแทรกสอด และการเลี้ยวเบนของคลื่นแสงของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนแม่ริมวิทยาคม

2. . ความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนหลังเรียนจากการจัดการเรียนรู้โดยการจัดการเรียนการสอนควบคู่กับการเรียนผ่านแบบจำลองการเรียนรู้แบบ simulation ด้วย PHET Interactive Simulations เรื่อง การแทรกสอด และการเลี้ยวเบนของคลื่นแสง

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย

แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง และเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล

2.1 เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง การแทรกสอด และการเลี้ยวเบนของคลื่นแสง

2.2 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการแทรกสอด และการเลี้ยวเบนของคลื่นแสง เป็นแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 10 ข้อ และ แบบวัดความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนหลังเรียนควบคู่กับการเรียนผ่านแบบจำลองการเรียนรู้แบบ simulation ด้วย PHET Interactive Simulations เรื่อง การแทรกสอด และการเลี้ยวเบนของคลื่นแสง จำนวน 6 ข้อ

การเก็บรวบรวมข้อมูล

ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นกการจัดการเรียนการสอนควบคู่กับการเรียนผ่านแบบจำลองการเรียนรู้แบบ simulation ด้วย PHET Interactive Simulationsเกี่ยวกับการคิด วิเคราะห์ โดยใช้กิจกรรมการทดลอง,การเขียน,การฟัง,การคิด เพื่อพัฒนาทักษะ การะบวนการคิด วิเคราะห์ การแก้ปัญหาอย่างมีเหตุผลได้อย่างถูกต้องในรายวิชาฟิสิกส์ เรื่อง การแทรกสอด และการเลี้ยวเบนของคลื่นแสง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การเรียนแบบร่วมมือแบบ 5E ซึ่งผู้วิจัยได้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลซึ่งประกอบด้วยคะแนนสอบย่อยระหว่างเรียนคะแนนสอบหลังเรียนกับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนแม่ริมวิทยาคม จำนวน 30 คน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลมีขั้นตอนดังนี้

1. ใช้แบบทดสอบก่อนเรียน แล้วบันทึกคะแนน

2. จัดการเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้แบบ 5E เรื่อง การแทรกสอด และการเลี้ยวเบนของคลื่นแสง

3. จากนั้นให้นักเรียนเริ่มทำการทดลองจากการลงมือปฏิบัติจริง ร่วมกับทำการทดลองควบคู่กับการเรียนผ่านแบบจำลองการเรียนรู้แบบ simulation ด้วย PHET Interactive Simulations เพื่อเปรียบเทียบผลการทดลอง

4. ใช้แบบทดสอบหลังเรียน แล้วบันทึกผล

5. เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เมื่อเรียนผ่านการจัดการเรียนการสอนควบคู่กับการเรียนผ่านแบบจำลองการเรียนรู้แบบ simulation ด้วย PHET Interactive Simulations ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนแม่ริมวิทยาคมจำนวน 30 คน

6. ให้นักเรียนทำแบบวัดความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนหลังเรียนจากการจัดการเรียนรู้โดยเรียรควบคู่กับการเรียนผ่านแบบจำลองการเรียนรู้แบบ simulation ด้วย PHET Interactive Simulations เรื่อง การแทรกสอดและการเลี้ยวเบนของคลื่นแสง

การวิเคราะห์ข้อมูล

1. เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนและหลังเรียน ที่เรียนโดยควบคู่กับการเรียนผ่านแบบจำลองการเรียนรู้แบบ simulation ด้วย PHET Interactive Simulations เรื่อง การแทรกสอด และการเลี้ยวเบนของคลื่นแสง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนแม่ริมวิทยาคมโดยใช้สถิติแบบ test แบบ Dependent

2. ตรวจแบบวัดความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนหลังเรียนจากการจัดการเรียนรู้ควบคู่กับการเรียนผ่านแบบจำลองการเรียนรู้แบบ simulation ด้วย PHET Interactive Simulations เรื่อง การแทรกสอด และการเลี้ยวเบนของคลื่นแสง ว่านักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับใด

สรุปผลการวิจัย

1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 หลังเรียนจากการจัดการเรียนรู้โดยผ่านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนควบคู่กับการเรียนผ่านแบบจำลองการเรียนรู้แบบ simulation ด้วย PHET Interactive Simulations เรื่อง การแทรกสอด และการเลี้ยวเบนนของคลื่นแสง สูงกว่าก่อนเรียน จากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนควบคู่กับการเรียนผ่านแบบจำลองการเรียนรู้แบบ simulation ด้วย PHET Interactive Simulations เรื่อง การแทรกสอด และการเลี้ยวเบนนของคลื่นแสง ซึ่งมีค่าเฉลี่ยของคะแนนการทดสอบหลังเรียน (x ̅=7.68) สูงกว่าค่าเฉลี่ยของคะแนนการทดสอบก่อนเรียน (x ̅=4.07) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05

2. ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจต่อการเรียนหลังเรียนจากการจัดการเรียนรู้โดยการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนควบคู่กับการเรียนผ่านแบบจำลองการเรียนรู้แบบ simulation ด้วย PHET Interactive Simulations เรื่อง การแทรกสอด และการเลี้ยวเบนนของคลื่นแสง มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.12 โดยอยู่ในระดับความพึงพอใจมาก

อภิปรายผลการวิจัย

ผลจากการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ เป็นการจัดการเรียนรู้โดยการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนควบคู่กับการเรียนผ่านแบบจำลองการเรียนรู้แบบ simulation ด้วย PHET Interactive Simulations เรื่อง การแทรกสอด และการเลี้ยวเบนนของคลื่นแสง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนแม่ริมวิทยาคม สามารถอภิปรายผลได้ดังนี้

1. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้โดยการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนควบคู่กับการเรียนผ่านแบบจำลองการเรียนรู้แบบ simulation ด้วย PHET Interactive Simulations เรื่อง การแทรกสอด และการเลี้ยวเบนนของคลื่นแสง พบว่าหลังการใช้สูงกว่าก่อนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนควบคู่กับการเรียนผ่านแบบจำลองการเรียนรู้แบบ simulation ด้วย PHET Interactive Simulations เรื่อง การแทรกสอด และการเลี้ยวเบนนของคลื่นแสง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ทั้งนี้แบบฝึกเสริมทักษะ เรื่องการแทรกสอด และกาเลี้ยวเบนของคลื่นที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นนั้น ได้รับการพัฒนาตามลำดับขั้นตอนอย่างมีระบบ มีการทดลองหาข้อบกพร่องและได้ปรับปรุงแก้ไขให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด และจากการสังเกตพบว่านักเรียนที่เรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนควบคู่กับการเรียนผ่านแบบจำลองการเรียนรู้แบบ simulation ด้วย PHET Interactive Simulations เรื่อง การแทรกสอด และการเลี้ยวเบนนของคลื่นแสง มีความตั้งใจในการเรียนและให้ความร่วมมือในการเรียนการสอนเป็นอย่างดี นอกจากนี้ข้อดีที่พบอีกประการหนึ่งคือผู้เรียนสามารถที่จะกลับมาทบทวนซ้ำในกรณีพบข้อผิดพลาดได้อีกจนเกิดความเข้าใจ ดังนั้นการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนควบคู่กับการเรียนผ่านแบบจำลองการเรียนรู้แบบ simulation ด้วย PHET Interactive Simulations เรื่อง การแทรกสอด และการเลี้ยวเบนนของคลื่นแสง จึงเป็นวิธีที่ช่วยให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเนื้อหาการเรียนได้ดียิ่งขึ้นและส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงขึ้นหลังจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนควบคู่กับการเรียนผ่านแบบจำลองการเรียนรู้แบบ simulation ด้วย PHET Interactive Simulations เรื่อง การแทรกสอด และการเลี้ยวเบนนของคลื่นแสง

2. ความพึ่งพอใจพึงพอใจต่อการเรียนหลังเรียนจากการจัดการเรียนรู้โดยการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนควบคู่กับการเรียนผ่านแบบจำลองการเรียนรู้แบบ simulation ด้วย PHET Interactive Simulations เรื่อง การแทรกสอด และการเลี้ยวเบนนของคลื่นแสง ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจต่อการเรียนหลังเรียน อยู่ในระดับความพึงพอใจมากเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ เป็นผลเนื่องมาจากสาเหตุ ดังนี้ การจัดการเรียนรู้โดยการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนควบคู่กับการเรียนผ่านแบบจำลองการเรียนรู้แบบ simulation ด้วย PHET Interactive Simulations เรื่อง การแทรกสอด และการเลี้ยวเบนนของคลื่นแสง มีการทำการทดลองที่แม่นยำ เชื่อถือได้ ผ่านการวิเคราะห์เนื้อหาสาระที่ชัดเจน เข้าใจง่าย มีความเป็นระบบ ตามลำดับเรียงลำดับ เนื้อหาจากง่ายไปหายากและต่อเนื่องกันตามลำดับ ให้ภาษาที่ถูกต้องและเหมาะ มีสีสัน และภาพประกอบ ทำให้ผู้เรียนมีความสนใจและเข้าใจมากยิ่งขึ้น ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองอย่างแท้จริง เป็นขั้นตอนทำให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ได้เต็มตามศักยภาพ หลังการเรียนรู้นักเรียนสามารถตรวจผลการเรียนรู้ของตนเองได้ทำให้เกิดแรงจูงใจ สนใจ และเกิดความพึงพอใจในการเรียนรู้และสอดคล้องกับ กุนต์ลาซ และรีด (Gundlach& Reid. 1992 : 37 - 38) ได้ให้ความหมายความพึงพอใจ หมายถึง ความพึงพอใจของบุคคลจากได้พบปะกับพฤติกรรมการให้มีสิ่งต่างๆ เป็นระดับความพึงพอใจของบุคคลที่เกิดจากการได้รับสิ่งต่างๆ ว่าหลังจากได้รับสิ่งนั้นแล้วสามารถตอบสนองความต้องการหรือแก้ไขปัญหารวมทั้งลดปัญหาและทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจมากน้อยเพียงใดและสอดคล้องกับงานวิจัยของ พิชยา แทนพลกรัง (2557 : 115 - 116 ) ได้ทำการวิจัยเรื่องการพัฒนา ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องสารในชีวิตประจำวันของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้ชุดกิจกรรมการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E ผลการวิจัยพบว่า มีระดับความพึงพอใจโดยภาพรวมของนักเรียนในระดับมากที่สุด

ข้อเสนอแนะในการทาวิจัย

1. ข้อเสนอแนะจากการวิจัยครั้งนี้

1.1 ก่อนทำแบบฝึกเสริมทักษะเรื่อง การแทรกสอด และการเลี้ยวเบนของคลื่นแสง ไปใช้ควรมีการแนะนำ ใช้แบบฝึกเสริมทักษะเรื่อง การแทรกสอด และการเลี้ยวเบนของคลื่นแสง เพื่อให้เข้าใจถึงจุดมุ่งหมายและวิธีการใช้ให้ถูกต้องชัดเจนจนเกิดความเข้าใจ ความชำนาญของครูหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนักเรียน

1.2 ครูผู้สอนควรพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะ และการทดลอง เรื่องการแทรกสอด และการเลี้ยวเบนของคลื่นแสง โดยเฉพาะเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการทดลองและแบบฝึกเสริมทักษะเรื่องการแทรกสอด และการเลี้ยวเบนของคลื่นแสง ซึ่งมีเนื้อหาค่อนข้างยาก ซับซ้อน ทั้งนี้เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกฝนในเนื้อหานี้ให้มากยิ่งขึ้น

2. ข้อเสนอแนะในการศึกษาครั้งต่อไป

1. ควรมีการพัฒนาและหาประสิทธิภาพ ผลการทดลอง และการทำแบบฝึกเสริมทักษะในรายวิชาฟิสิกส์ ในเนื้อหาอื่นๆ

2. ควรมีการทดลองเปรียบเทียบวิธีการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์ เรื่องการแทรกสอด และการเลี้ยวเบนของคลื่นแสง แบบฝึกเสริมทักษะกับวิธีการเรียนรู้ในรูปแบบอื่นๆ เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจ เลือกวิธีการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับเนื้อหาและความพร้อมของนักเรียน

โพสต์โดย แอม : [3 ต.ค. 2567 (08:37 น.)]
อ่าน [60765] ไอพี : 182.53.197.101
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 24,146 ครั้ง
เคล็ดลับดีๆ เพื่อช่วยกำจัดความ "เขิน"
เคล็ดลับดีๆ เพื่อช่วยกำจัดความ "เขิน"

เปิดอ่าน 47,511 ครั้ง
วิธีการเชิงระบบ
วิธีการเชิงระบบ

เปิดอ่าน 13,437 ครั้ง
ปากเหม็น...ทำไงดี!!!
ปากเหม็น...ทำไงดี!!!

เปิดอ่าน 17,780 ครั้ง
รวมรายชื่อสถานศึกษาที่ได้รับรางวัลพระราชทาน ปีการศึกษา 2507 ถึง 2557
รวมรายชื่อสถานศึกษาที่ได้รับรางวัลพระราชทาน ปีการศึกษา 2507 ถึง 2557

เปิดอ่าน 21,588 ครั้ง
การประดับพระบรมฉายาลักษณ์
การประดับพระบรมฉายาลักษณ์

เปิดอ่าน 265,744 ครั้ง
10 บุคคลสำคัญ ผู้ทรงอิทธิพลของโลก
10 บุคคลสำคัญ ผู้ทรงอิทธิพลของโลก

เปิดอ่าน 17,295 ครั้ง
9 สัญญาณเตือนภัย! ถึงเวลาต้องลดความอ้วนแล้ว
9 สัญญาณเตือนภัย! ถึงเวลาต้องลดความอ้วนแล้ว

เปิดอ่าน 22,624 ครั้ง
ความรู้ ความเชื่อ และการปฏิบัติ
ความรู้ ความเชื่อ และการปฏิบัติ

เปิดอ่าน 35,327 ครั้ง
แนะ "เคล็ดลับ 3 อ." เพื่อสุขภาพดียามสูงวัย
แนะ "เคล็ดลับ 3 อ." เพื่อสุขภาพดียามสูงวัย

เปิดอ่าน 36,325 ครั้ง
นิทานเคมี เรื่อง ถ่านหินมหัศจรรย์
นิทานเคมี เรื่อง ถ่านหินมหัศจรรย์

เปิดอ่าน 3,089 ครั้ง
ประโยชน์ของโหระพา
ประโยชน์ของโหระพา

เปิดอ่าน 13,697 ครั้ง
รักษาอาการท้องเสียด้วยฝรั่ง
รักษาอาการท้องเสียด้วยฝรั่ง

เปิดอ่าน 109,816 ครั้ง
100อันดับโรงเรียนดีที่สุดปี58
100อันดับโรงเรียนดีที่สุดปี58

เปิดอ่าน 16,162 ครั้ง
ลดสารพิษเพื่อสุขภาพด้วยสมุนไพร
ลดสารพิษเพื่อสุขภาพด้วยสมุนไพร

เปิดอ่าน 76,775 ครั้ง
งดข้าวเช้า…ตายเร็ว
งดข้าวเช้า…ตายเร็ว

เปิดอ่าน 14,976 ครั้ง
พัฒนาทักษะสมองอย่างไรให้เป็นคนที่สำเร็จในอนาคต
พัฒนาทักษะสมองอย่างไรให้เป็นคนที่สำเร็จในอนาคต
เปิดอ่าน 27,820 ครั้ง
ความศักดิ์สิทธิ์ของ "หลวงพ่อทันใจ" วัดพระธาตุดอยคำ จ.เชียงใหม่
ความศักดิ์สิทธิ์ของ "หลวงพ่อทันใจ" วัดพระธาตุดอยคำ จ.เชียงใหม่
เปิดอ่าน 1,129 ครั้ง
7 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับวัคซีนมะเร็งปากมดลูกที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ
7 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับวัคซีนมะเร็งปากมดลูกที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ
เปิดอ่าน 4,656 ครั้ง
สลากออนไลน์ ขึ้นเงินอย่างไร
สลากออนไลน์ ขึ้นเงินอย่างไร
เปิดอ่าน 9,489 ครั้ง
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่! 3 ข้อห้าม ห้ามทำในวันหวยออก หากอยากถูกหวย!
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่! 3 ข้อห้าม ห้ามทำในวันหวยออก หากอยากถูกหวย!

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ