|
|
ชื่อเรื่อง รูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน
โรงเรียนโพธิ์ชัยชนูปถัมภ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาร้อยเอ็ด
ชื่อผู้รายงาน ดวงจันทร์ ยวงสุวรรณ์
ปีการศึกษา 2566
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้าง เพื่อทดลองใช้ และเพื่อประเมินรูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โรงเรียนโพธิ์ชัยชนูปถัมภ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาร้อยเอ็ด วิธีดำเนินการวิจัย 3 ขั้นตอน คือ 1) สร้างรูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์ โดยการศึกษาและวิเคราะห์เนื้อหาเอกสาร และสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ ยกร่างและตรวจสอบความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ เครื่องมือที่ใช้ในวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์ ประเด็นสนทนากลุ่ม และแบบประเมิน 2) ทดลองใช้รูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์ กับครูและบุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ปีการศึกษา 2566 3) ประเมินรูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์ จากครูและบุคลากรทางการศึกษา ปีการศึกษา 2566 สถิติที่ใช้ คือ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสรุปข้อมูล ผลการวิจัยพบว่า
1. รูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โรงเรียนโพธิ์ชัยชนูปถัมภ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาร้อยเอ็ด มี 4 องค์ประกอบ ได้แก่ หลักการ จุดประสงค์ กลยุทธ์ 5 กลยุทธ์ ได้แก่ 1) การพัฒนาความรู้ ความสามารถ และศักยภาพนักเรียนสู่ความเป็นสากล 2) การพัฒนานักเรียนด้านสุขภาพ สุนทรียภาพ คุณธรรม จริยธรรม และลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน 3) การพัฒนาประสิทธิภาพระบบการบริหารจัดการสถานศึกษาตามเกณฑ์มาตรฐานสากล 4) ส่งเสริม พัฒนาครู และบุคลากรทางการศึกษาเป็นครูมืออาชีพ มีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานสากล และ 5) พัฒนาหลักสูตรและกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และผลลัพธ์จากการพัฒนา ได้แก่ ผลลัพธ์ตรง คือ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ผลลัพธ์ตาม คือ ผลการพัฒนาตามกลยุทธ์ทั้ง 5 กลยุทธ์ โดยรูปแบบมีความเหมาะสมและความเป็นไปได้อยู่ในระดับมากที่สุด
2. ผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โรงเรียนโพธิ์ชัยชนูปถัมภ์ พบว่า ปีการศึกษา 2566 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยรวมมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 73.97 สูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากคะแนนเฉลี่ย ปีการศึกษา 2565 เท่ากับ 7.75 พฤติกรรมด้านการปฏิบัติงานกลุ่มและพฤติกรรมด้านความสนใจและความรับผิดชอบในการเรียนของนักเรียน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และผลการพัฒนาตามกลยุทธ์ มีดังนี้ 1) กลยุทธ์ที่ 1 พบว่า การพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะความรู้เชิงบูรณาการสำหรับศตวรรษที่ 21 มีทักษะการคิดวิเคราะห์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ ทักษะการแก้ปัญหา ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มีความรู้ความสามารถที่จำเป็นต่อการเรียนและการประกอบอาชีพในอนาคต มีทักษะการใช้ชีวิตประจำวัน มีทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น และเติบโตทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และการมีคุณธรรมจริยธรรมเหมาะสมตามช่วงวัย มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์และคุณลักษณะในศตวรรษที่ 21 2) กลยุทธ์ที่ 2 พบว่า การพัฒนาผู้เรียนให้เติบโตทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และการมีคุณธรรมจริยธรรมเหมาะสมตามช่วงวัย มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์และคุณลักษณะในศตวรรษที่ 21 ส่งเสริมและพัฒนานักเรียนให้ออกกำลังกายและเล่นกีฬา ให้มีสุนทรียภาพด้าน ศิลปะ ดนตรี นาฏศิลป์ และนันทนาการ สร้างเสริมระเบียบวินัย ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในระเบียบแบบแผนของโรงเรียนและกฎกติกาของสังคม มีจิตสำนึกที่ดี มีจิตสาธารณะ มีวัฒนธรรมประชาธิปไตย มีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมอันพึงประสงค์และมีคุณลักษณะตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีทักษะการดำรงชีวิตและมีจิตสำนึกของความเป็นพลโลก 3) กลยุทธ์ที่ 3 พบว่า การดำเนินการพัฒนาระบบบริหารจัดการตามแนวทางการกระจายอำนาจ และมีส่วนร่วมของคณะกรรมการสถานศึกษา บุคลากรภายในโรงเรียน ชุมชนและทุกภาคส่วนในการบริหารจัดการศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน พัฒนาระบบประกันคุณภาพให้มีความเข้มแข็ง สร้างวัฒนธรรมคุณภาพสามารถขับเคลื่อนให้โรงเรียนเกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน พัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศที่ครบถ้วน ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน บริหารจัดการด้วยระบบคุณภาพโดยใช้เทคโนโลยีการบริหารยุคใหม่เพื่อพัฒนาให้ได้คุณภาพเทียบเคียงมาตรฐานสากล พัฒนาโรงเรียนสู่ความเป็นเลิศมีระบบการจัดการความรู้ และสร้างนวัตกรรมให้สอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูปการศึกษา พัฒนาสภาพแวดล้อมทางกายภาพ และพัฒนาสภาพแวดล้อมทางวิชาการทั้งในและนอกห้องเรียน ตลอดจนการจัดบริการเพื่อส่งเสริมสนับสนุนทางวิชาการต่างๆ ให้มีบรรยากาศที่น่าเรียนรู้ 4) กลยุทธ์ที่ 4 พบว่า การพัฒนาผู้บริหาร คณะครูและบุคลากรของโรงเรียนให้มีความเป็นมืออาชีพ มีความเป็นผู้นำทางวิชาการ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระบบบริหารจัดการ พัฒนาครูให้มีความรู้ความสามารถมีความเชี่ยวชาญในการจัดการเรียนการสอน พัฒนาความก้าวหน้าในวิชาชีพและสร้างขวัญกำลังใจ เพื่อจูงใจให้ครูเสียสละและทุ่มเทการปฏิบัติหน้าที่ เหมาะสมกับการเป็นครูมืออาชีพ 5) กลยุทธ์ที่ 5 พบว่า การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาที่สอดคล้องตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และหลักสูตรที่เทียบเคียงหลักสูตรมาตรฐานสากล เพื่อตอบสนองต่อความถนัด ความสนใจและศักยภาพตามความต้องการของผู้เรียนและชุมชน พัฒนาการเรียนการสอนที่เน้นความสามารถของนักเรียนเป็นรายบุคคล และส่งเสริมให้สามารถพัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ มีแหล่งเรียนรู้ บรรยากาศสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการใช้บริการมีสื่อที่พอเพียงเหมาะสมทันสมัยมีกิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้อย่างหลากหลาย 3) ผลการประเมินรูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โรงเรียนโพธิ์ชัยชนูปถัมภ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาร้อยเอ็ด พบว่า โดยรวมมีความเป็นไปได้
ความเหมาะสม และความเป็นประโยชน์ อยู่ในระดับมากที่สุด
|
โพสต์โดย duang : [29 ก.ย. 2567 (14:49 น.)] อ่าน [88] ไอพี : 1.10.130.12
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 12,460 ครั้ง
| เปิดอ่าน 1,626 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,346 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,429 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,478 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,139 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,149 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,187 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,965 ครั้ง
| เปิดอ่าน 35,098 ครั้ง
| เปิดอ่าน 113,417 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,607 ครั้ง
| เปิดอ่าน 176,264 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,746 ครั้ง
| เปิดอ่าน 69,000 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 15,330 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,134 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,664 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,560 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,044 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|