ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ SEE-SA Model เพื่อเพิ่ม ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชุด ความมหัศจรรย์แห่งสสาร โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับการใช้ชุดกิจกรรมการเ

เรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ SEE-SA Model เพื่อเพิ่ม ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชุด ความมหัศจรรย์แห่งสสาร โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนอนุบาลมะนัง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล

ผู้วิจัย นางศิริรัตน์ เสกสรรค์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

โรงเรียนอนุบาลมะนัง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล

ปีที่ทำการวิจัย 2565

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัด

การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชุด ความมหัศจรรย์แห่งสสาร โดยใช้การจัด

การเรียนรู้แบบกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชุด ความมหัศจรรย์แห่งสสาร

ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับการใช้ชุด กิจกรรมการเรียนรู้กับเกณฑ์ร้อยละ 70 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชุด ความมหัศจรรย์แห่งสสาร ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ แบบกระบวน

การสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 4) ศึกษาระดับความพึงพอใจของนักเรียนหลังการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการ วิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนอนุบาลมะนัง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล

ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2565 จำนวน 21 คน ได้มาจากการสุ่มแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชุด ความมหัศจรรย์แห่งสสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 2) นวัตกรรมที่เลือกใช้ จำนวน 1 ชุด ได้แก่ การจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้

3) แบบทดสอบวัด ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชุด ความมหัศจรรย์แห่งสสาร การวิเคราะห์ข้อมูลทำได้โดยการวิเคราะห์หาค่าโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน (Standard Deviation) หรืออาจจะเลือกใช้ค่า t-test แบบ Dependent Sample Test

ผลการวิจัยพบว่า

รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ SEE-SA Model เพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทาง

การเรียน ชุด ความมหัศจรรย์แห่งสสาร โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น มีชื่อเรียกว่า SEE-SA Model (S = Stimulate Interest; E = Exploration ; E = Expand search results; Summary of expanding knowledge; A = Apply knowledge)

1. ขั้นกระตุ้นความสนใจ (S: Stimulate Interest) ขั้นที่ 2 ขั้นสำรวจค้นหา (E = Exploration) ขั้นที่ 3 ขั้นขยายผลการค้นหา (E: Expand search results) ขั้นที่ 4 ขั้นสรุปขยายความรู้ (S = Summary of expanding knowledge) ขั้นที่ 5 ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ (A = Apply knowledge) และผลการหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ SEE-SA Model เพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชุด ความมหัศจรรย์แห่งสสาร โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 มีค่าเท่ากับ 86.29/88.56 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80

2. หลังเรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับ

การใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยรวมสูงกว่าร้อยละ 78.95 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) 2.88 เมื่อพิจารณาคะแนนเป็นรายบุคคล พบว่า นักเรียนมีคะแนนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 จำนวน 16 คน และนักเรียนมีคะแนนต่ำกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 จำนวน 5 คน

3. ก่อนเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้นักเรียนทำคะแนนสูงสุดได้ 19 คะแนน คะแนนต่ำสุด 4 คะแนนคะแนนเฉลี่ย 11.33 คะแนน และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) 3.45 และหลังเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้นักเรียนทำคะแนนสูงสุด ได้ 20 คะแนน คะแนนต่ำสุด 10 คะแนน คะแนน (¯x = 15.79 คะแนน และส่วนเบนเบี่ยงเบน มาตรฐาน (S.D) 2.88 พบว่าผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนเท่ากับ 20.87 นำไปเปรียบเทียบกับค่า t ที่ df (42-1) = 41 มีนัยสำคัญทางสถิติระดับ 0.05 แสดงให้เห็นว่า หลังเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สูงกว่าก่อนเรียน

4. ความพึงพอใจของนักเรียนขั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 หลังจากที่ได้เรียนจากรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ SEE-SA Model เพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชุด ความมหัศจรรย์แห่งสสาร โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับการใช้ชุดกิจกรรม

การเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยภาพรวมความพึงพอใจของนักเรียนอยู่ในระดับมาก ( =4.78, S.D. = 0.75)

โพสต์โดย ศิริรัตน์ เสกสรรค์ : [28 ก.ย. 2567 (19:35 น.)]
อ่าน [540] ไอพี : 184.22.113.136
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 58,547 ครั้ง
12 ต้นไม้บนโต๊ะทำงานยอดนิยม ประดับไว้ให้สดชื่น
12 ต้นไม้บนโต๊ะทำงานยอดนิยม ประดับไว้ให้สดชื่น

เปิดอ่าน 13,812 ครั้ง
วันมาฆบูชา
วันมาฆบูชา

เปิดอ่าน 10,241 ครั้ง
“จ๊อบไทย” ชี้ 5 คุณสมบัติที่องค์กรต้องการจากคนทำงานรุ่นใหม่
“จ๊อบไทย” ชี้ 5 คุณสมบัติที่องค์กรต้องการจากคนทำงานรุ่นใหม่

เปิดอ่าน 11,695 ครั้ง
รณรงค์บริโภคผลไม้เพื่อสุขภาพ
รณรงค์บริโภคผลไม้เพื่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 16,104 ครั้ง
ซักซ้อมความเข้าใจเรื่องอำนาจการอนุมัติสั่งซื้อสั่งจ้างตามระเบียบฯว่าด้วยการพัสดุ 2535 และที่แก้ไขฯ
ซักซ้อมความเข้าใจเรื่องอำนาจการอนุมัติสั่งซื้อสั่งจ้างตามระเบียบฯว่าด้วยการพัสดุ 2535 และที่แก้ไขฯ

เปิดอ่าน 18,196 ครั้ง
ฮาอึแตก! คลิปชายเปลือยออกจากห้องในโรงแรม แต่ประตูห้องดันล็อกอัตโนมัติ เป็นท่านจะทำยังไง
ฮาอึแตก! คลิปชายเปลือยออกจากห้องในโรงแรม แต่ประตูห้องดันล็อกอัตโนมัติ เป็นท่านจะทำยังไง

เปิดอ่าน 11,086 ครั้ง
แอปเปิลเปิดตัว iPhone 5S และ iPhone 5C อย่างเป็นทางการ(10ก.ย.56)
แอปเปิลเปิดตัว iPhone 5S และ iPhone 5C อย่างเป็นทางการ(10ก.ย.56)

เปิดอ่าน 20,137 ครั้ง
เคล็ดเด็กเก่งวิชา เรขาคณิต-พีชคณิต
เคล็ดเด็กเก่งวิชา เรขาคณิต-พีชคณิต

เปิดอ่าน 15,749 ครั้ง
5 ตุ๊กตาสุดฮิตของโลก
5 ตุ๊กตาสุดฮิตของโลก

เปิดอ่าน 8,416 ครั้ง
วิตามินไม่ป้องกันโรคหัวใจ คนทั่วโลกเป็นล้านหลงกินกันมานมนาน
วิตามินไม่ป้องกันโรคหัวใจ คนทั่วโลกเป็นล้านหลงกินกันมานมนาน

เปิดอ่าน 16,501 ครั้ง
กรุงศรีอยุธยา
กรุงศรีอยุธยา

เปิดอ่าน 14,201 ครั้ง
น้ำนมถั่วเหลือง ช่วยผิวสวย-หุ่นดี จายภายใน
น้ำนมถั่วเหลือง ช่วยผิวสวย-หุ่นดี จายภายใน

เปิดอ่าน 9,817 ครั้ง
ซูฮก! ครูมะกันพิการแขน ใช้เท้าต่างมือสอนนักเรียน
ซูฮก! ครูมะกันพิการแขน ใช้เท้าต่างมือสอนนักเรียน

เปิดอ่าน 10,837 ครั้ง
วิธีป้องกันไม่ให้เป็นร้อนใน
วิธีป้องกันไม่ให้เป็นร้อนใน

เปิดอ่าน 18,812 ครั้ง
โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์
โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์

เปิดอ่าน 12,463 ครั้ง
วิจัยเผย เฟซบุ๊กทำให้คนมีความอิจฉามากขึ้น
วิจัยเผย เฟซบุ๊กทำให้คนมีความอิจฉามากขึ้น
เปิดอ่าน 12,745 ครั้ง
7 เคล็ดลับ รักษาความจำยืนยาว
7 เคล็ดลับ รักษาความจำยืนยาว
เปิดอ่าน 12,490 ครั้ง
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล
เปิดอ่าน 22,530 ครั้ง
ผวาทั้งเอเชีย ข้าวพลาสติกเมดอินไชน่าระบาด กินแล้วอาจถึงตาย
ผวาทั้งเอเชีย ข้าวพลาสติกเมดอินไชน่าระบาด กินแล้วอาจถึงตาย
เปิดอ่าน 18,791 ครั้ง
ประกาศ เรื่องรายชื่อหลักสูตรการพัฒนาข้าราชการครู ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เพิ่มเติม)
ประกาศ เรื่องรายชื่อหลักสูตรการพัฒนาข้าราชการครู ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เพิ่มเติม)

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ