ชื่อวิจัย: รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ SAAM-S Model โดยการประยุกต์แบบสืบเสาะหาความรู้ด้วยแนวคิด STEM เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3
ผู้วิจัย: นายสมทรง ทิพราช ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านเพชรมงคล
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชร เขต 2
ปีที่วิจัย : 2566
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ SAAM-Ca Model โดย การประยุกต์แบบสืบเสาะหาความรู้ด้วยแนวคิด STEM เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 2) ตรวจสอบประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ SAAM-Ca Model โดย การประยุกต์แบบสืบเสาะหาความรู้ด้วยแนวคิด STEM เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 ตามเกณฑ์ประสิทธิภาพ 80/80 3) ตรวจสอบประสิทธิผลของอสร้างรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ SAAM-Ca Model โดย การประยุกต์แบบสืบเสาะหาความรู้ด้วยแนวคิด STEM เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 ตามเกณฑ์ประสิทธิผลตั้งแต่ร้อยละ 50 ขึ้นไป 4) เปรียบเทียบทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการเรียนรู้ SAAM-Ca Model โดย การประยุกต์แบบสืบเสาะหาความรู้ด้วยแนวคิด STEM ระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียน 5. เพื่อศึกษาพฤติกรรมการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ SAAM-Ca Model โดย การประยุกต์แบบสืบเสาะหาความรู้ด้วยแนวคิด STEM กลุ่มตัวอย่างเป็นเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนบ้านเพชรมงคล สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชร เขต 2 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 10 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ SAAM-Ca Model โดยการประยุกต์แบบสืบเสาะหาความรู้ด้วยแนวคิด STEM 2) แบบประเมินทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ SAAM-Ca Model โดยการประยุกต์แบบสืบเสาะหาความรู้ด้วยแนวคิด STEM และ 3) แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าทีแบบไม่เป็นอิสระต่อกัน (Dependent Samples t-test)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการสร้างและตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบการจัดประสบการการเรียนรู้ พบว่า รูปแบบ การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ได้แก่ หลักการ วัตถุประสงค์ เนื้อหา กระบวนการจัดการเรียนรู้และการวัดและประเมินผล กิจกรรมการเรียนรู้มี 4 ขั้นตอน ประกอบด้วย ขั้นที่ 1 กระตุ้นการสืบเสาะ ขั้นที่ 2 ค้นหาคำตอบ ขั้นที่ 3 ประยุกต์ใช้ความรู้ ขั้นนี้ ประกอบด้วย ขั้น 1 วางแผน - ออกแบบแก้ปัญหา ขั้น 2 ปฏิบัติการแก้ปัญหา ขั้น 3 สรุปและนำเสนอผลงาน) และขั้นที่ 4 วัดและประเมินผล ขั้นที่ 5 สื่อสารสะท้อนคิด ขั้นที่ 6 ประยุกต์ใช้ตอบแทนสังคมผลการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่า รูปแบบที่พัฒนาขึ้นมี ความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก
2. ประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ SAAM-Ca Model โดยการประยุกต์แบบสืบเสาะหาความรู้ด้วยแนวคิด STEM มีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.20/85.60 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80
3. ประสิทธิผลของรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ SAAM-Ca Model โดยการประยุกต์แบบสืบเสาะหาความรู้ด้วยแนวคิด STEM มีประสิทธิผลร้อยละ 74.67 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ที่ร้อยละ 50
4. เด็กปฐมวัยมีทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์จากจัดประสบการณ์การเรียนรู้ SAAM-Ca Model โดยการประยุกต์แบบสืบเสาะหาความรู้ด้วยแนวคิด STEM มีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .01
5. เด็กปฐมวัยมีพฤติกรรมการเรียนรู้จากการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ SAAM-Ca Model โดยการประยุกต์แบบสืบเสาะหาความรู้ด้วยแนวคิด STEM โดยรวมมีพัฒนาการอยู่ในระดับดี (x = 2.63, S.D. = 0.48)