ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การยกระดับความเป็นเลิศด้านสมรรถนะความฉลาดรู้ ในการเตรียมพร้อมการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (PISA) ของนักเรียนโรงเรียนวัดหนองหอยด้วยนรูปแบบ SMART Model

1. ความสำคัญของผลงานหรือนวัตกรรมที่นำเสนอ

โครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ (PISA) เป็นโครงการประเมินผู้เรียนระดับนานาชาติ ถือเอาคุณภาพผู้เรียนซึ่งเป็นผลผลิตของโรงเรียนและครูผู้สอนสะท้อนกลับไปถึงคุณภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียน คุณภาพของครูผู้สอนและโรงเรียนสะท้อนถึงคุณภาพของระบบการจัดการศึกษาของประเทศ ซึ่งส่งผลต่อถึงความสามารถด้านการแข่งขันของเวทีโลก ทั้งนี้ IMD ใช้ผลการประเมินของ PISA ในการพิจารณาจัดลำดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ดังนั้นผลการประเมินตามโครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ จึงเป็นผลการประเมินหนึ่งที่สะท้อนภาพความสำเร็จของการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของคนไทยในวัยเรียน โปรแกรมประเมินสมรรถนะนักเรียนมาตรฐานสากล หรือ PISA (Program for International Student Assessment) ริเริ่มโดยองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ OECD (Organization for Economic Co-operation and Development) มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินคุณภาพของระบบการศึกษาในการเตรียมความพร้อมให้เยาวชนมีศักยภาพหรือความสามารถพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลง PISA ประเมินนักเรียนอายุ 15 ปี ซึ่งถือว่าเป็นวัยที่สำเร็จการศึกษาภาคบังคับ โดยได้ทำการประเมินทุก 3 ปี อย่างต่อเนื่องเพื่อติดตามแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงคุณภาพการศึกษาและมุ่งให้ข้อมูลแก่ระดับนโยบาย PISA เน้นการประเมินสมรรถนะของนักเรียนเกี่ยวกับการใช้ความรู้และทักษะในชีวิตจริงมากกว่าการเรียนรู้ตามหลักสูตรในโรงเรียน หรือเรียกว่า “ความฉลาดรู้” (Literacy) ใน 3 ด้าน ได้แก่ การอ่าน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ การประเมินนักเรียนจะวัดทั้ง 3 ด้านดังกล่าวไปพร้อมกัน แต่จะเน้นหนักที่ด้านใดด้านหนึ่ง ในแต่ละรอบการประเมิน ซึ่งความฉลาดรู้ทั้งสามด้านนี้ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเรียนรู้ตลอดชีวิตและเป็นสิ่งที่ประชากรจำเป็นต้องมีเพื่อการพัฒนาและการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศ การประเมิน PISA 2022 ของประเทศไทย มีผลการประเมินในรูปของคะแนนเฉลี่ย พบว่า นักเรียนไทยมีคะแนนเฉลี่ยด้านการอ่าน 379 คะแนน ด้านวิทยาศาสตร์ 409 คะแนน และด้านคณิตศาสตร์ 394 คะแนน ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย OECD ในทุกด้าน คือ คะแนนเฉลี่ยด้านการอ่าน 476 คะแนน ด้านวิทยาศาสตร์ 485 คะแนน และด้านคณิตศาสตร์ 492 คะแนน ซึ่งผลการประเมินดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และมุมมองต่อคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของประเทศไทย ทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งในการจัดลำดับ ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และส่งผลกระทบในมิติเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะความน่าเชื่อถือ และการดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ (สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, ออนไลน์) การเตรียมความพร้อมรับการดำเนินการจัดสอบรอบทดลองใช้เครื่องมือ (Field Trial) ในปี ค.ศ. 2024 และรอบ Main Survey ในปี ค.ศ. 2025 จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินงานอย่างทั่วถึงและครอบคลุมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งโรงเรียนและครูผู้สอน ซึ่งโรงเรียนวัดหนองหอยต้องยังต้องขับเคลื่อนการเตรียมความพร้อมเพื่อรับการประเมิน PISA 2025 เพื่อแก้ปัญหาและยกระดับผลสัมฤทธิ์ให้สูงขึ้น จึงมีแนวทางและมาตรการในการยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ในด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และการอ่าน โดยการพัฒนาครูให้มีสมรรถนะในการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างให้นักเรียนมีทักษะที่จำเป็นในการนำความรู้ไปใช้ในชีวิตจริง ส่งเสริมและสนับสนุนทรัพยากรและสื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพอย่างเหมาะสมเพื่อการเตรียมความพร้อมรับการประเมินสมรรถนะ PISA 2025 อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการใช้นวัตกรรม SMART Model

2. จุดประสงค์และเป้าหมาย ของการดำเนินงาน

2.1 จุดประสงค์ของการดำเนินงาน

2.1.1 เพื่อขับเคลื่อนการเตรียมความพร้อมรับการประเมิน PISA 2025 ให้นักเรียนมีศักยภาพและความสามารถพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลง

2.1.2 เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกทักษะ กระบวนการคิด ในการทำแบบทดสอบตามแนวทางการประเมิน PISA 2025 ที่หลากหลาย

2.1.3 เพื่อให้นักเรียนมีทักษะด้านการอ่าน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ด้วยระบบ PISA Style Online Testing และแบบฝึกทักษะความฉลาดรู้ตามแนวทางการประเมิน PISA 2025

2.1.4 เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ด้านการอ่าน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ให้สูงขึ้น

2.2 เป้าหมาย

กลุ่มเป้าหมาย นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 28 คน

เป้าหมายเชิงปริมาณ

1.นักเรียนกลุ่มเป้าหมาย ร้อยละ 100 เข้ารับการพัฒนาและเข้าใช้ระบบ PISA Style Online Testing

2.นักเรียนกลุ่มเป้าหมาย ร้อยละ 100 เข้ารับการพัฒนาและใช้แบบทบสอบชุดความฉลาดรู้ ด้านการอ่าน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์

3.นักเรียนกลุ่มเป้าหมายมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ด้านการอ่าน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ที่สูงขึ้นผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60

เป้าหมายเชิงคุณภาพ 1.นักเรียนกลุ่มเป้าหมายมีศักยภาพ มีความรู้ความเข้าใจในการเข้าใช้ระบบ PISA Style Online Testing และใช้แบบทบสอบชุดความฉลาดรู้ ด้านการอ่าน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ 2. นักเรียนกลุ่มเป้าหมาย มีความพร้อมเพื่อรับการประเมิน PISA 2025

3. กระบวนการผลิตผลงาน หรือขั้นตอนการดำเนินงาน

S – Synthesis สังเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศ

1) ครูผู้สอนวิเคราะห์ความสอดคล้องระหว่างกรอบการประเมิน PISA และตัวชี้วัดตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นนพื้นฐาน พ.ศ. 2551 และออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยเน้นส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ตีความ ประเมิน แก้ปัญหา อภิปราย แสดงความคิดเห็น ให้เหตุผล และวิพากษ์วิจารณ์ 2) สนับสนุนให้ครูศึกษาชุดพัฒนาความฉลาดรู้ เพื่อนำไปประยุกต์ ใช้ในการจัดการเรียนรู้ ซึ่งชุดพัฒนาความฉลาดรู้สามารถบูรณาการได้ในทุกรายวิชา M – Management การบริหารจัดการ

Man: การให้ครูทุกกลุ่มสาระร่วมกันออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยเน้นส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ตีความ และจัดกิจกรรมในการเตรียมความพร้อมและยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการทดสอบในระดับต่างๆ

Money: การจัดสรรงบประมาณในการจัดเตรียมสื่อวัสดุ อุปกรณ์

Material: การเตรียมแบบทดสอบที่เป็นเอกสาร และตรวจเช็ค จัดเตรียมคอมพิวเตอร์ จำนวน 30 เครื่องให้พร้อมใช้งาน และตรวจสอบระบบอินเตอร์เน็ตให้มีความเสถียรต่อก่อนเข้าใช้ระบบ

Management: มีการบริหารจัดการที่เป็นขั้นตอนอย่างเป็นระบบ

A – Acceptance & Awareness สร้างความเข้าใจและความตระหนักให้ตรงกันถึงเป้าหมาย

1. จัดประชุมชี้แจงครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ

ความเป็นมา ความสำคัญ และกรอบการประเมิน PISA รวมทั้งแผนการดำเนินงาน โดยเน้นการยกระดับคุณภาพการศึกษาและพัฒนาสมรรถนะของนักเรียนเป็นหลัก

2. จัดประชุมชี้แจงนักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 3 เพื่อให้นักเรียนเข้าใจวัตถุประสงค์ของการประเมิน PISA ในการเตรียมความพร้อมให้นักเรียนมีศักยภาพหรือทักษะที ่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในโลก ที่มีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงความสอดคล้องในการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรในประเทศ เพื่อให้มีความสามารถในการแข่งขัน และเชื่อมโยงสู่ศักยภาพของการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ความน่าเชื่อถือ และการเข้ามาลงทุนทางธุรกิจของต่างชาติ

3.ส่งเสริมให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เกี่ยวข้อง เข้ารับการอบรมพัฒนาศักยภาพ ในการจัดการเรียนรู ้เพื่อส่งเสริมสมรรถนะความฉลาดรู้ของนักเรียน

R – Rally การจัดกิจกรรม

1. นำชุดพัฒนาความฉลาดรู้ทั้ง 3 ด้าน ไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ และจัดทำแผนการดำเนินงาน ปีการศึกษา 2567 เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยการจัดบูรณาการในรายวิชาเพิ่มเติมของวิชาภาษาไทย วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

2.ครูผู้สอนปฏิบัติการสอนในชั้นเรียนโดยบูรณาการตามชุดพัฒนาความฉลาดรู้โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย และจัดให้นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 3 ได้ทำแบบทดสอบเสมือนจริงด้วยระบบ PISA Style Online Testing

T – Transparency การเปิดโอกาส

1. เปิดโอกาสครูผู้สอนประเมินความสามารถและทักษะของนักเรียนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสนับสนุน

พัฒนาการของนักเรียนและติดตามความก้าวหน้า โดยเน้นการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามสภาพจริง

และพิจารณาจัดทำ/นำแบบทดสอบตามรูปแบบการประเมิน PISA ไปประยุกต์ใช้ในการวัดและประเมินผลผู้เรียน

2. เปิดโอกาสในการสร้างชุมชนการเรียนรู ้ทางวิชาชีพในสถานศึกษา (PLC) เพื่อร่วมกันพัฒนา

สมรรถนะความฉลาดรู้ของนักเรียน

3. ผู้บริหารสถานศึกษานิเทศติดตามการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาความฉลาดรู้

4. ผลการดำเนินการ/ผลสัมฤทธิ์/ประโยชน์ที่ได้รับ

4.1 ผลที่เกิดตามจุดประสงค์

1) นักเรียนกลุ่มเป้าหมายมีความพร้อมรับการประเมิน PISA 2025 ให้นักเรียนมีศักยภาพและความสามารถพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลง

2) นักเรียนกลุ่มเป้าหมายได้ฝึกทักษะกระบวนการคิด ในการทำแบบทดสอบตามแนวทางการประเมิน PISA 2025 อย่างหลากหลาย

3) นักเรียนกลุ่มเป้าหมายมีทักษะด้านการอ่าน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ด้วยระบบ PISA Style Online Testing และแบบฝึกทักษะความฉลาดรู้ตามแนวทางการประเมิน PISA 2025

4) นักเรียนกลุ่มเป้าหมายมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ด้านการอ่าน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ให้สูงขึ้น 4.2 ผลสัมฤทธิ์ของงาน

4.3 ประโยชน์ที่ได้รับ

1. ผู้บริหาร ครูมีนวัตกรรมที่ใช้ในการขับเคลื่อนการเตรียมความพร้อมการประเมิน PISA 2025 และครูผู้สอนทุกคนยังสามารถนำนวตกรรม SMART Model ใช้ในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาอื่นๆ หรือการทดสอบในระดับต่างๆ เช่น RT NT O-NET ได้

5. ปัจจัยความสำเร็จ

1.ได้รับการส่งเสริม พัฒนาจาก สพป. ประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 ในการจัดอบรมให้ความรู้ในการเตรียมความพร้อมการเข้ารับการทดสอบ PISA 2025 และการนิเทศติดตามเป็นระยะทุกเดือน 2.ได้รับความร่วมมือจากครูผู้สอนในรายวิชาภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในการบูรณาการจัดการเรียนการสอนในรายวิชา นอกเหนือจากการจัดชั่วโมงกิจกรรม PISA ทำให้นักเรียนเกิดความคุ้นเคยและสมารถเข้าใช้ระบบ PISA Online Testing

6. บทเรียนที่ได้รับ (Lesson Learned)

1) ครู นักเรียนมีความตระหนักและเห็นความสำคัญของการเตรียมความพร้อมในการประเมิน PISA 2025

2) ครูมีการออกแบบการจัดการเรียนรู้ การสร้างแบบวัดประเมินผลที่สอดคล้องกับแบบทดสอบ PISA ทำให้เกิดการพัฒนา การสร้างกระบวนการคิดในชีวิตของนักเรียนอย่างยั่งยืน

3) นักเรียนมีกระบวนการคิด มีศักยภาพและความสามารถพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลง

7. การเผยแพร่/การได้รับการยอมรับ/รางวัลที่ได้รับ

7.1 การเผยแพร่

1) ทำการเผยแพร่ผลสำเร็จของการดำเนินงานด้วยนวัตกรรม ไปยังโรงเรียนขยายโอกาสในสังกัด สพป. ประจวบคีรีขันธ์ เขต 1

2) ทำการเผยแพร่ผลสำเร็จของการดำเนินงานด้วยนวัตกรรมทางเว็บไซค์ครูบ้านนอก ดอทคอม

7.2 การได้รับการยอมรับ รางวัลที่ได้รับ

โพสต์โดย theailada : [14 ก.ย. 2567 (18:55 น.)]
อ่าน [752] ไอพี : 49.229.228.177
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,426 ครั้ง
ว้าว น่าสนใจ คลิปวีดิโอ 7 เทคนิค ถ่ายรูปด้วยสมาร์ทโฟนให้สนุกขึ้น
ว้าว น่าสนใจ คลิปวีดิโอ 7 เทคนิค ถ่ายรูปด้วยสมาร์ทโฟนให้สนุกขึ้น

เปิดอ่าน 51,133 ครั้ง
โลกออนไลน์ชื่นชม ผอ.โรงเรียนเข้ารับตำแหน่ง ร่ายกลอนลำและอารมณ์ขัน สร้างบรรยากาศที่ดีในโรงเรียน
โลกออนไลน์ชื่นชม ผอ.โรงเรียนเข้ารับตำแหน่ง ร่ายกลอนลำและอารมณ์ขัน สร้างบรรยากาศที่ดีในโรงเรียน

เปิดอ่าน 19,732 ครั้ง
เรื่องของกราฟ
เรื่องของกราฟ

เปิดอ่าน 13,792 ครั้ง
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 เมษายน 2552
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 เมษายน 2552

เปิดอ่าน 31,833 ครั้ง
สำนวนภาษาอังกฤษ
สำนวนภาษาอังกฤษ

เปิดอ่าน 20,091 ครั้ง
กฎกระทรวงการประกอบวิชาชีพควบคุม พ.ศ. 2549
กฎกระทรวงการประกอบวิชาชีพควบคุม พ.ศ. 2549

เปิดอ่าน 2,766 ครั้ง
"6 สัตว์น้ำปรับปรุงพันธุ์" เลี้ยงง่าย โตไว ให้ผลผลิตคุณภาพสูง
"6 สัตว์น้ำปรับปรุงพันธุ์" เลี้ยงง่าย โตไว ให้ผลผลิตคุณภาพสูง

เปิดอ่าน 22,728 ครั้ง
วิธีเลือกของขวัญมีค่า-ไม่แพง
วิธีเลือกของขวัญมีค่า-ไม่แพง

เปิดอ่าน 62,209 ครั้ง
คณิตศาสตร์ง่ายๆแต่แปลกดีแท้
คณิตศาสตร์ง่ายๆแต่แปลกดีแท้

เปิดอ่าน 18,779 ครั้ง
ขจัดไขมันบนพุงด้วยการแขม่วท้อง
ขจัดไขมันบนพุงด้วยการแขม่วท้อง

เปิดอ่าน 79,463 ครั้ง
ครูไทย 4.0 ตอนที่ 1 : โดย ดิเรก พรสีมา อดีตประธานกรรมการคุรุสภา
ครูไทย 4.0 ตอนที่ 1 : โดย ดิเรก พรสีมา อดีตประธานกรรมการคุรุสภา

เปิดอ่าน 9,724 ครั้ง
คลิปประทับใจ สานฝันเด็กพิเศษ ให้กลายเป็นจริง
คลิปประทับใจ สานฝันเด็กพิเศษ ให้กลายเป็นจริง

เปิดอ่าน 8,208 ครั้ง
"ครูพันธุ์วิจัย" สร้างเด็กไทยคิดได้ทำเป็น
"ครูพันธุ์วิจัย" สร้างเด็กไทยคิดได้ทำเป็น

เปิดอ่าน 45,871 ครั้ง
สูตรทำมะนาวดองน้ำผึ้ง
สูตรทำมะนาวดองน้ำผึ้ง

เปิดอ่าน 96,153 ครั้ง
จุดมุ่งหมายทั่วไปของการวิจัย
จุดมุ่งหมายทั่วไปของการวิจัย

เปิดอ่าน 17,806 ครั้ง
วันที่
วันที่ ''ไมโครซอฟท์'' ไร้บิลล์ เกตส์
เปิดอ่าน 10,400 ครั้ง
10 ความเข้าใจผิดๆ กับเรื่องอาหาร
10 ความเข้าใจผิดๆ กับเรื่องอาหาร
เปิดอ่าน 9,668 ครั้ง
แปลงความยากจน ให้เป็นต้นทุนแห่งการเรียนรู้
แปลงความยากจน ให้เป็นต้นทุนแห่งการเรียนรู้
เปิดอ่าน 4,011 ครั้ง
"ยาเสียสาว" คืออะไร? ต้องป้องกันตัวอย่างไร?
"ยาเสียสาว" คืออะไร? ต้องป้องกันตัวอย่างไร?
เปิดอ่าน 13,658 ครั้ง
5 เคล็ดลับทำตอนเช้า ลด "ไขมันพอกตับ" ได้จริง แถมสุขภาพดีขึ้น
5 เคล็ดลับทำตอนเช้า ลด "ไขมันพอกตับ" ได้จริง แถมสุขภาพดีขึ้น

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ