1. ที่มาและความสำคัญของรูปแบบ
ปัจจุบันปัญหาคอร์รัปชั่นถือได้ว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วหรือประเทศที่ด้อยพัฒนา และการคอร์รัปชั่นได้กลายมาเป็นปัญหาที่มีความสำคัญที่สุดปัญหาหนึ่งของหลายประเทศ โดยปัญหานี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะหมดไป อีกทั้งยังทวีความรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าหลายประเทศได้ก้าวเข้าสู่ความทันสมัย มีระบบการบริหารราชการสมัยใหม่มีการณณรงค์จากองค์กรของรัฐหรือองค์กรอิสระต่าง ๆ ที่ต่างเห็นพ้องกันว่าการคอรัปชั่นเป็นปัญหาที่นำไปสู่ความยากจน และเป็นอุปสรรคที่ขัดขวางการพัฒนาอย่างแท้จริง สำหรับประเทศไทยนั้น เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่าปัญหาเรื่องการคอรัปชั่นเป็นปัญหาสำคัญลำดับต้น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศเป็นอย่างมาก ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นมาช้านานจนฝังรากลึกและพบเกือบทุกกลุ่มอาชีพในสังคมไทย เกี่ยวพันกับวิถีชีวิตของคนในสังคมไทยมาอย่างยาวนาน หรือกล่าวได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมไทยไปแล้ว ดังนั้นจึงควรมีการศึกษารวบรวมข้อมูล องค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชั่นในประเทศไทย ในอนาคตต่อไป (ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต 2561 : 10)
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้กำหนดยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 2564) ยุทธศาสตร์ชาติที่ 1 สร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต ได้ 3 มุ่งเน้นให้ความสำคัญกระบวนการปรับสภาพสังคมให้เกิดภาวะที่ ไม่ทนต่อการทุจริต โดยเริ่มตั้งแต่ กระบวนการกล่อมเกลาทางสังคมในทุกระดับช่วงวัย (ตั้งแต่ปฐมวัย ถึงระดับอุดมศึกษา) เพื่อสร้างวัฒนธรรมต่อต้านการทุจริตและปลูกฝังความพอเพียงมีวินัยซื่อสัตย์สุจริต และมีจิตสาธารณะ ซึ่งเป็นคุณธรรมจริยธรรม ป้องกันการทุจริต ยึดประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน เป็นการดำเนินการผ่านสถาบัน หรือกลุ่มตัวแทนที่ทำหน้าที่ในการกล่อมเกลาสังคมให้มีความเป็นพลเมืองที่ดี มีจิตสาธารณะ เสียสละเพื่อส่วนรวม และเสริมสร้างให้ทุกภาคส่วนมีพฤติกรรมที่ไม่ยอมรับและต่อต้านการทุจริตในทุกรูปแบบ (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. 2561 : 4)
โรงเรียนน้ำโสมประชาสรรค์(ถิรธัมโมอุปถัมภ์)จึงเล็งเห็นว่าควรมีการขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตของโรงเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นให้นักเรียนได้ลงมือกระทำ ผ่านการเผชิญกับสถานการณ์ตัวอย่างของการป้องกันการทุจริต เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจและนำไปสู่การเกิดคุณลักษณะของโรงเรียนสุจริต
ทางโรงเรียนได้ทำการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา เพื่อพัฒนาหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาของโรงเรียนน้ำโสมประชาสรรค์(ถิรธัมโมอุปถัมภ์) ปีการศึกษา 2566 คณะกรรมการบริหารหลักสูตรศึกษาเอกสารหลักสูตรต้านทุจริตของ ป.ป.ช. และ สพฐ.ศึกษาหลักสูตรสถานศึกษา และบริบทนักเรียนและครู มีการประกาศใช้หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา โดยใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนา ในการออกแบบนวัตกรรม รูปแบบการขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตของโรงเรียนน้ำโสมประชาสรรค์(ถิรธัมโมอุปถัมภ์) โดยใช้รูปแบบ ADOR Model และทางคณะกรรมการบริหารหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาได้ประเมินหลักสูตร โดยใช้รูปแบบ CIPP Model (ศิริชัย กาญจนวาสี. 2550 : 15)
2. แนวคิดและทฤษฎีที่ใช้ในการพัฒนารูปแบบ
๒.๑ รูปแบบการพัฒนาหลักสูตรของทาบา (Taba)
ทาบา (Taba. 1962 : 12 อ้างใน มารุต พัฒผล. 2562 : 6-7) มีแนวคิดว่าหลักสูตรคือแผนสำหรับการเรียนรู้ (Plan for Learning) ที่จะเป็นเครื่องมือสำหรับพัฒนาผู้เรียนให้เป็นสมาชิกที่ดีของสังคม แนวคิดเกี่ยวกับรูปแบบการพัฒนาหลักสูตรที่เรียกว่าวิธีการจากล่างสู่บน (Grass-RootsApproadh) เป็นการพัฒนาหลักสูตรจากระดับปฏิบัติ แล้วเสนอขึ้นไปสู่กระดับผู้บริหาร ทาบา กล่าวว่าครูเป็นผู้นำหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติ จึงควรเป็นผู้มีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตร มีวิธีการขั้นตอนการพัฒนาหลักสูตรคล้ายรูปแบบของไทเลอร์ ซึ่งประกอบด้วย 7 ขั้นตอน
๒.๒ การจัดการเรียนการสอนเชิงรุก Active Learning
Active Learning คือกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนได้ลงมือกระทำและได้ใช้กระบวนการคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เขาได้กระทำลงไป เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ภายใต้สมมติฐานพื้นฐาน 2 ประการคือ 1) การเรียนรู้เป็นความพยายามโดยธรรมชาติของมนุษย์ และ 2) แต่ละบุคคลมีแนวทางในการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน โดยผู้เรียนจะถูกเปลี่ยนบทบาทจากผู้รับความรู้ (receive) ไปสู่การมีส่วนร่วมในการสร้างความรู้ (co-creators) (Bonwell. 1991)
๒.๓ แนวคิดและทฤษฎีการบริหารแบบมีส่วนร่วม
เคท เดวิส (Keith Davis. 1972 : 12) แนวคิดการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม (Participative Management) เป็นแนวคิดที่ให้ความสำคัญกับพนักงาน ในฐานะที่เป็นทรัพยากรที่สำคัญ และควรค่าแก่การดูแลรักษาขององค์การเป็นอย่างยิ่ง และเปิดโอกาสให้พนักงานเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหาร และจัดการองค์การ ซึ่งแนวคิดนี้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ และสภาวการณ์ปัจจุบัน และองค์การต่างให้การยอมรับ และนำมาประยุกต์ใช้กันอย่างแพร่หลาย นอกจากนี้ แนวคิดการจัดการแบบมีส่วนร่วม (Participative Management) ยังเกี่ยวข้องกับเรื่องต่าง ๆ ในองค์การ ได้แก่ เรื่องการตัดสินใจ การสื่อสารข้อมูล การกำหนดระบบการให้รางวัลและการเสริมสร้างทักษะและพัฒนาความรู้ ความสามารถ โดยให้สมาชิกทุกคนในองค์การเข้าไปมีส่วนร่วมในการกำหนดหรือแสดงความคิดเห็นและความต้องการของตนในเรื่องต่าง ๆ
๒.๔ แนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาศักยภาพครู
กานต์ อัมพานนท์ (2560. : 25) การพัฒนาศักยภาพครู คือ การดำเนินงานที่พยายามจะเสริมสร้างให้ครูมีความรู้ ความสามารถมีทักษะในการสอนและการทำงาน มีเจตคติที่ดีในการทำงานและต่อวิชาชีพครู รวมถึงมีบุคลิกภาพและคุณธรรมของความเป็นครูที่ดี หลักการพัฒนาโดยทั่วไปจะมุ่งเน้นที่พัฒนาบุคคล ความครอบคลุม ความต่อเนื่อง การขจัดความด้อยและความมั่นคงถาวร จากหลักการดังกล่าวนี้ สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการพัฒนาครูหรือพัฒนาบุคลากรของหน่วยงานต่างๆ
๒.๕ การวิจัยและพัฒนา
สุวิทย์ ภาณุจารี (2563 : 12)การวิจัยและพัฒนา คือวิจัยที่มีลักษณะของการผสมผสานโดยใช้กระบวนการขั้นตอนการวิจัยเชิงสำรวจ วิจัยเชิงทดลอง วิจัยเชิงคุณภาพ วิจัยเชิงปริมาณและวิจัยเชิงประเมินกับกระบวนการพัฒนาเข้าด้วยกันเพื่อสร้างหรือพัฒนานวัตกรรมที่อาจเป็นหลักการ แนวคิด หรือทฤษฎี เป็นแนวทาง วิธีปฏิบัติ วิธีการ หรือกระบวนการเป็นระบบปฏิบัติ หรือรูปแบบ หรือเป็นผลผลิตหรือสิ่งประดิษฐ์ใหม่ จนได้ผลเป็นที่น่าพอใจ แล้วจึงนำไปเผยแพร่เพื่อพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
รูปแบบการขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา โดยใช้ ADOR Model
1. หลักการ
รูปแบบการขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา โดยใช้ ADOR Model เป็นรูปแบบการการขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาของโรงเรียนน้ำโสมประชาสรรค์(ถิรธัมโมอุปถัมภ์) ซึ่งใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนา (R&D) ในการออกแบบรูปแบบการขับเคลื่อน มีองค์ประกอบ 4 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) การพัฒนาหลักสูตร 2) การพัฒนาการเรียนการสอน 3) การพัฒนาศักยภาพบุคลากร และ4) การบริหารแบบมีส่วนร่วม ซึ่งผู้จัดทำได้นำอักษรเริ่มต้นจากศัพท์ภาษาอังกฤษมาตั้งชื่อเป็น ADOR Model ซึ่งมาความหมายดังนี้
Analysis คือ การวิเคราะห์สภาพปัญหาปัจจุบันความต้องการของโรงเรียน
Develop คือ การพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนรายวิชาป้องกันการทุจริต
Observer คือ การนิเทศ สังเกตการ กำกับ ติดตาม กิจกรรมการเรียนการสอน เ
Reflect คือ การประเมินผลการดำเนินงานจาก ผลลัพธ์ของนักเรียน ทั้งด้านคุณลักษณะ 5 ประการ
2. วัตถุประสงค์
1. เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาเพิ่มเติม การป้องกันการทุจริต ของนักเรียนโรงเรียนน้ำโสมประชาสรรค์(ถิรธัมโมอุปถัมภ์)
2. เพื่อพัฒนาคุณลักษณะ ๕ ประการ โรงเรียนสุจริต ของนักเรียนโรงเรียนน้ำโสมประชาสรรค์(ถิรธัมโมอุปถัมภ์)
3. องค์ประกอบของรูปแบบ
๑. Analysis คือ การวิเคราะห์สภาพปัญหาปัจจุบันความต้องการของโรงเรียนประกอบด้วยกับการวิเคราะห์บริบทของชุมชน และสภาพปัญหาของนักเรียนในแต่ละระดับชั้น เพื่อตั้งเป้าหมายและพัฒนาวิธีการจัดการเรียนการสอนได้ตรงกับบริบทโรงเรียน
2. Develop คือ การพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนรายวิชาป้องกันการทุจริต ที่เน้นนักเรียนได้ลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตัวเอง โดยคำนึงถึงพัฒนาการและบริบทของนักเรียนในแต่ละชั้น ซึ่งในขั้นการออกแบบนี้ยังใช้ ADOR Model ในการออกแบบ ซึ่งเริ่มจากการ analysis คือ วิเคราะห์นักเรียนรายบุคคลและภาพรวม develop คือ ออกกิจกรรม/แผนการสอน observer คือ สังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนรายบุคคลและภาพรวม reflect คือ ประเมินคุณลักษณะ 5 ประการและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายบุคคล
3. Observer คือ การนิเทศ สังเกตการ กำกับ ติดตาม กิจกรรมการเรียนการสอน เป็นระยะอย่างต่อเนื่อง
4. Reflect คือ การประเมินผลการดำเนินงานจาก ผลลัพธ์ของนักเรียน ทั้งด้านคุณลักษณะ 5 ประการของโรงเรียนสุจริต ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาการป้องกันการทุจริต ผลการนิเทศติดตาม และนำผลที่ได้ไปปรับปรุงและพัฒนาในปีการศึกษาต่อไป
4. กระบวนการ
1. ขั้นเตรียม
1. แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา ประชุมครูเพื่อชี้แจงรูปแบบการขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา
2. จัดอบรมครู แนวทางขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา โดยใช้รูปแบบ ADOR Model
3. จัดเตรียมเอกสารทุกชนิดไว้ให้ค้นคว้าและอ่านประกอบ ประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้และแนวทางขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา โดยใช้รูปแบบ ADOR Model
4. ประชาสัมพันธ์แนวทางการใช้รูปแบบ ADOR Model ขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาไปใช้ให้ผู้ปกครองและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทราบ ผ่านช่องทางต่าง ๆ
๕. จัดทำคำสั่งมอบหมายให้ครูนำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาไปใช้ในการจัดการเรียนรู้แต่ละระดับชั้นเรียน
6. กำหนดรหัสวิชา การป้องกันการทุจริต รายวิชา (เพิ่มเติม) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม
2. ขั้นดำเนินการ
การใช้ขั้นตอน ADOR ในการพัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนการสอนวิชา การป้องกันการทุจริต ให้มีประสิทธิภาพ โดยช่วยให้ครูสามารถปรับปรุงวิธีการสอนให้เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละคนและบริบทของห้องเรียนได้อย่างต่อเนื่อง มีขั้นตอนดังนี้
2.1 Analysis การวิเคราะห์สภาพปัญหาปัจจุบันความต้องการของโรงเรียนประกอบด้วยกับการวิเคราะห์บริบทของชุมชน และสภาพปัญหาของนักเรียนในแต่ละระดับชั้น เพื่อตั้งเป้าหมายและพัฒนาวิธีการจัดการเรียนการสอนได้ตรงกับบริบทโรงเรียน
ระบุปัญหา: หาจุดที่ต้องการปรับปรุงในชั้นเรียน เช่น นักเรียนขาดความสนใจในการเรียนวิชาใดวิชาหนึ่ง นักเรียนไม่เข้าใจเนื้อหา หรือการจัดกิจกรรมในชั้นเรียนไม่สอดคล้องกับความสนใจของนักเรียน
ตั้งคำถามการพัฒนา: กำหนดคำถามที่ชัดเจน เช่น "จะทำอย่างไรให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาเพิ่มเติม การป้องกันการทุจริต เพิ่มมากขึ้น"
ศึกษาค้นคว้า: กำหนดวิธีการสอนใหม่ๆ เช่น การใช้สื่อการเรียนรู้ที่หลากหลาย การจัดกิจกรรมกลุ่ม หรือการนำเสนอเนื้อหาในรูปแบบที่น่าสนใจ
เลือกเครื่องมือ: เลือกเครื่องมือที่เหมาะสมในการเก็บข้อมูล เช่น เทคนิคการ swot การแบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน แบบประเมินความพึงพอใจ แบบสอบถามความคิดเห็น
2.2 Develop คือ การพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนรายวิชาป้องกันการทุจริต ที่เน้นนักเรียนได้ลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตัวเอง โดยคำนึงถึงพัฒนาการและบริบทของนักเรียนในแต่ละชั้น ซึ่งในขั้นการออกแบบนี้ยังใช้ ADOR Model ในการออกแบบ ซึ่งเริ่มจากการ analysis คือ วิเคราะห์นักเรียนรายบุคคลและภาพรวม develop คือ ออกกิจกรรม/แผนการสอน observer คือ สังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนรายบุคคลและภาพรวม reflect คือ ประเมินคุณลักษณะ 5 ประการและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายบุคคล
ดำเนินการตามแผน: นำวิธีการสอนใหม่ที่วางแผนไว้ไปใช้ในชั้นเรียน
เก็บรวบรวมข้อมูล: เก็บข้อมูลตามเครื่องมือที่เลือกไว้ เช่น สังเกตพฤติกรรมนักเรียนระหว่างเรียน บันทึกความคิดเห็นของนักเรียน
2.3 Observer คือ การนิเทศ สังเกตการ กำกับ ติดตาม กิจกรรมการเรียนการสอน เป็นระยะอย่างต่อเนื่อง
วิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น: วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้ เช่น นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนมากขึ้นหรือไม่ ผลการเรียนดีขึ้นหรือไม่
เปรียบเทียบผลลัพธ์: เปรียบเทียบผลลัพธ์ที่ได้กับเป้าหมายที่ตั้งไว้
2.4 Reflect คือ การประเมินผลการดำเนินงานจาก ผลลัพธ์ของนักเรียน ทั้งด้านคุณลักษณะ 5 ประการของโรงเรียนสุจริต ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาการป้องกันการทุจริต ผลการนิเทศติดตาม และนำผลที่ได้ไปปรับปรุงและพัฒนาในปีการศึกษาต่อไป
วิเคราะห์เชิงลึก: วิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้เกิดผลลัพธ์เช่นนั้น
สรุปผล: สรุปผลการดำเนินการ
วางแผนการดำเนินการต่อไป: ปรับปรุงแผนการสอนในครั้งต่อไป
3. ขั้นนิเทศติดตามผล
3.1 Analysis วิเคราะห์สภาพปัญหาในการจัดการเรียนการสอน swot
กำหนดปัญหา: ระบุปัญหาที่ต้องการแก้ไข เช่น ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ ครูขาดทักษะในการใช้เทคโนโลยี หรือสภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ไม่เอื้ออำนวย
ตั้งคำถามการพัฒนา: กำหนดคำถามที่ชัดเจน เช่น "จะทำอย่างไรให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในวิชา การป้องกันการทุจริต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เพิ่มขึ้น"
วางแผนการดำเนินการ: กำหนดกิจกรรมในการนิเทศ เช่น การสังเกตการสอน การสัมภาษณ์ครูและนักเรียน การวิเคราะห์ผลการเรียน
เลือกเครื่องมือ: เลือกเครื่องมือที่เหมาะสมในการเก็บข้อมูล เช่น เทคนิคการ swot การแบบสังเกต แบบสัมภาษณ์ แบบประเมิน
3.2 Develop พัฒนารูปแบบการนิเทศที่ส่งเสริมให้ครูจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การนิเทศแบบรายบุคคล (Individual Supervision) การนิเทศแบบกลุ่ม (Group Supervision) การนิเทศแบบร่วมมือ (Collaborative Supervision) การนิเทศเชิงปฏิบัติการ (Action Research Supervision) ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและสภาพบริบทที่วิเคราะห์ได้จากขั้น Analysis
ดำเนินการตามแผน: ดำเนินกิจกรรมที่วางแผนไว้ เช่น เข้าเยี่ยม ชมห้องเรียน สังเกตการสอน จัดอบรมครู
เก็บรวบรวมข้อมูล: เก็บรวบรวมข้อมูลตามเครื่องมือที่เลือกไว้
3.3 Observer การนิเทศ กำกับ ติดตาม การจัดกิจการการเรียนการสอน
วิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น: วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการเก็บรวบรวม เพื่อดูแนวโน้มและปัญหาที่เกิดขึ้น
เปรียบเทียบผลลัพธ์: เปรียบเทียบผลลัพธ์ที่ได้กับเป้าหมายที่ตั้งไว้
3.4 Reflect การสะท้อนผลการจัดการเรียนการสอน
สรุปผล: สรุปผลการนิเทศ
วางแผนการดำเนินการต่อไป: วางแผนกิจกรรมในการนิเทศรอบต่อไป เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาคุณภาพการศึกษาต่อไป
4. ขั้นประเมิน
๑. ทำการประเมินระดับชั้นเรียน โดยมีการประเมินคุณลักษณะ 5 ประการได้แก่ 1) กระบวนการคิด 2) ความมีวินัย 3) ความซื่อสัตย์ 4) อยู่อย่างพอเพียง และ5) มีจิตสาธารณะ
2. ทำการประเมินจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาเพิ่มเติม การป้องกันการทุจริต
3. ทำการสรุปผลประเมินและสะท้อนผลที่ได้จากการใช้รูปแบบเพื่อปรับปรุงและพัฒนาให้ดีขึ้น