ความเป็นมาและความสำคัญของการพัฒนานวัตกรรม
ภาษาอังกฤษมีความสําคัญและจําเป็นอย่างยิ่งในชีวิตประจำวัน เนื่องจากเป็นภาษาสากลที่สําคัญในการติดต่อสื่อสารการแสวงหาความรู้เพิ่มเติม การประกอบอาชีพ การศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นและใช้เป็นสื่อกลางในการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมและวิสัยทัศน์ของชุมชนโลก การเรียนรู้ภาษาอังกฤษจะช่วยให้นักเรียนตระหนักถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมุมมองของสังคมโลก นํามาซึ่งมิตรไมตรีและความร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ ช่วยพัฒนานักเรียนให้มีความเข้าใจตนเองและผู้อื่นดีขึ้นได้เรียนรู้และเข้าใจความแตกต่างของภาษาต่างประเทศและวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี การคิด สังคม เศรษฐกิจ การเมือง การปกครอง มีเจตคติที่ดีต่อการใช้ภาษาต่างประเทศและใช้ภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารได้อย่างมีวิจารณญาณ รวมทั้งเข้าถึงองค์ความรู้ต่าง ๆ ได้ง่ายและกว้างขวางขึ้นและมีวิสัยทัศน์ในการดํารงชีวิต (กระทรวงศึกษาธิการ, 2551)
จากการศึกษาของผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศ การพัฒนาสื่อเกมเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและการสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษเป็นแนวทางที่ได้รับการสนับสนุนจากงานวิจัยหลายฉบับ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ การใช้เกมเป็นเครื่องมือทางการศึกษาช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ในรูปแบบที่น่าสนใจและมีประสิทธิภาพ โดยสามารถดึงดูดความสนใจของนักเรียนได้อย่างมาก งานวิจัยและการศึกษาด้านนี้มีส่วนสำคัญในการสนับสนุนแนวคิดในการใช้เกมเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาทักษะด้านภาษา ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาในประเทศไทย ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับการใช้สื่อเกมเพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้ภาษาอังกฤษในเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษา งานวิจัยของเขาพบว่าเกมที่ออกแบบมาเพื่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษสามารถเพิ่มทักษะการอ่านออกเสียงและการสะกดคำได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักเรียนที่ใช้สื่อเกมในการเรียนรู้มีความสนใจและมีแรงจูงใจในการเรียนรู้มากขึ้น ทำให้พวกเขามีความสามารถทางภาษาที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด (สุชาติ จันทร์เปรม, 2562) นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโตรอนโต ประเทศแคนาดา ได้ทำการศึกษาผลกระทบของการใช้เกมการเรียนรู้แบบดิจิทัลในการพัฒนาทักษะการอ่านและการสะกดคำสำหรับนักเรียนในระดับประถมศึกษา งานวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่าเกมดิจิทัลที่มีโครงสร้างที่ดีและเน้นการพัฒนาทักษะเฉพาะทางเช่นการอ่านออกเสียงและการสะกดคำ ช่วยให้เด็กพัฒนาทักษะได้อย่างรวดเร็วและมีความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น (McGrath, 2021) จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ได้ศึกษาการใช้สื่อเกมเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและการสะกดคำในเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษา งานวิจัยของเขาระบุว่าการใช้เกมที่มีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการออกเสียงและการสะกดคำทำให้เด็กมีการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ เกมยังช่วยเสริมสร้างความเข้าใจในโครงสร้างเสียงและความสามารถในการสร้างคำใหม่ ๆ (Duckworth, 2020) อาจารย์จากมหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับการใช้สื่อเกมเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการสะกดคำสำหรับนักเรียนในประเทศไทย ผลการวิจัยของเขาแสดงให้เห็นว่าการใช้เกมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ช่วยให้เด็ก ๆ มีการพัฒนาทักษะภาษาได้อย่างรวดเร็ว และสามารถจดจำรูปคำและการสะกดคำได้ดีขึ้น เนื่องจากการเรียนรู้ผ่านการเล่นช่วยให้เด็กมีความสนใจและมีการเรียนรู้ที่ไม่เคร่งเครียด (วันชัย รัตนวงศ์, 2563) และนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิวนิค ประเทศเยอรมนี ได้ทำการศึกษาผลกระทบของการใช้เกมเพื่อพัฒนาทักษะการสะกดคำและการออกเสียงในเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษา งานวิจัยนี้พบว่าเด็กที่ใช้เกมเพื่อการเรียนรู้ทักษะการสะกดคำและการอ่านออกเสียงมีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เกมที่ออกแบบมาเพื่อการเรียนรู้ช่วยกระตุ้นให้เด็กมีความสนใจและกระตือรือร้นในการฝึกฝนทักษะทางภาษา (Schreiber, 2019) การศึกษาทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศต่างยืนยันถึงประสิทธิภาพของการใช้เกมในการพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและการสะกดคำ การพัฒนาเกม Phonics Adventure จึงเป็นการนำแนวคิดเหล่านี้มาใช้เพื่อให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะทางภาษาอย่างสนุกสนาน
การพัฒนานวัตกรรม Phonics Adventure เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านออกเสียงและการสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ได้รับการสนับสนุนจากแนวคิดและทฤษฎีที่สำคัญในด้านการเรียนรู้และการศึกษา ทฤษฎีเหล่านี้มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งและเป็นที่ยอมรับในวงการการศึกษา ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ การเรียนรู้ผ่านการเล่น (Play-Based Learning) เป็นทฤษฎีที่เน้นว่าการเล่นเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการเรียนรู้ เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ผ่านการเล่นและกิจกรรมที่สนุกสนาน ซึ่งช่วยกระตุ้นความสนใจและส่งเสริมการพัฒนาทักษะต่าง ๆ ทั้งทางปัญญา สังคม และอารมณ์ การใช้การเล่นเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ว่า การเล่นไม่เพียงแต่สร้างความสนุกสนานให้กับเด็ก แต่ยังเป็นช่องทางที่สำคัญในการเสริมสร้างความรู้และทักษะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ซึ่งเกมสามารถช่วยให้เด็ก ๆ มีส่วนร่วมและมีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้มากขึ้น (สุชาติ จันทร์เปรม, 2562) ทฤษฎีการเรียนรู้ Phonics เน้นการพัฒนาทักษะการอ่านโดยการฝึกการเชื่อมโยงเสียงและตัวอักษร ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเรียนรู้การอ่านออกเสียงและการสะกดคำ การเรียนรู้ Phonics เป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาทักษะการอ่านของเด็ก โดยการใช้เกมเป็นเครื่องมือในการสอน Phonics ช่วยให้เด็กสามารถเชื่อมโยงเสียงและตัวอักษรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การอ่านและการสะกดคำเป็นไปอย่างแม่นยำ (Duckworth, 2020) ในประเทศไทย การใช้ Phonics ในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของเด็กนักเรียนประถมศึกษา ผลการวิจัยของเขาชี้ให้เห็นว่า การเรียนรู้ Phonics ผ่านเกมสามารถเพิ่มความมั่นใจในการอ่านและการสะกดคำของนักเรียนได้อย่างชัดเจน (วันชัย รัตนวงศ์, 2563)
การพัฒนาเกม Phonics Adventure มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการส่งเสริมทักษะการอ่านออกเสียงและการสะกดคำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เนื่องจากเกมนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้และฝึกฝนทักษะทางภาษาอังกฤษในรูปแบบที่สนุกสนานและน่าสนใจ การใช้เกมเป็นสื่อการเรียนรู้ช่วยกระตุ้นความสนใจของเด็กและทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องที่เด็ก ๆ มีความสุขและต้องการมีส่วนร่วม ซึ่งจะส่งผลให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นักเรียนจะได้ฝึกฝนการออกเสียงที่ถูกต้องผ่านกิจกรรมในเกม และยังได้พัฒนาทักษะการสะกดคำผ่านการแก้ปัญหาภายในเกม ซึ่งจะช่วยเพิ่มพูนความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันได้อย่างมีนัยสำคัญ (Duckworth, 2020)
ในการพัฒนาการสอนไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาทักษะของนักเรียนเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสนับสนุนการสอนของครูอีกด้วย การใช้สื่อเกมในการสอนช่วยให้ครูสามารถสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่มีความหลากหลายและเหมาะสมกับการเรียนรู้ของนักเรียนแต่ละคน การที่ครูมีเครื่องมือที่สามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการของนักเรียนจะช่วยให้การสอนมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ครูสามารถสอนเนื้อหาที่ซับซ้อนให้กับนักเรียนได้ในวิธีที่เข้าใจง่ายและเป็นมิตรกับเด็ก (McGrath, 2021)
เกม Phonics Adventure สอดคล้องกับแนวนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการและมาตรฐานสากลในด้านการส่งเสริมทักษะการอ่านและการใช้ภาษาอังกฤษ กระทรวงศึกษาธิการของประเทศไทยเน้นการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษตั้งแต่ระดับประถมศึกษา เพื่อเตรียมความพร้อมให้นักเรียนสามารถสื่อสารในเวทีสากลได้ นอกจากนี้ การใช้เกมในการเรียนรู้ภาษานั้นสอดคล้องกับหลักการของการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ที่เน้นการมีส่วนร่วมของนักเรียนและการเรียนรู้ที่สนุกสนาน ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางที่กระทรวงศึกษาธิการสนับสนุน (วันชัย รัตนวงศ์, 2563)
ดังนั้น ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 ผู้พัฒนาได้ปฏิบัติการสอนในรายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐานของชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนชุมชนบ้านบวกครกน้อย พบว่า นักเรียนประสบปัญหาการอ่านคำศัพท์ที่มี 3 คำไม่ได้และได้ออกแบบพัฒนาเกม Phonics Adventure สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ขึ้น เพื่อส่งเสริมทักษะในการอ่านออกเสียงและสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้ถูกต้องและชัดเจน และช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจความหมายของคำที่ออกเสียง สามารถจดจำเสียงของพยัญชนะ และสระเสียงสั้น ซึ่งการนำเกม Phonics Adventure มาใช้ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ในรูปแบบเกม Phonics Adventure ในการส่งเสริมทักษะด้านการอ่านออกเสียงและคําศัพท์ประกอบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษสําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เพราะเกมจะช่วยให้นักเรียนฝึกฝนการออกเสียงและการสะกดคำในรูปแบบที่สนุกสนาน ทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องที่น่าสนใจและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้นักเรียนสามารถจดจำคำศัพท์และการสะกดได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกันในกลุ่ม ทำให้นักเรียนมีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้และช่วยเหลือกันภายในชั้นเรียน ซึ่งนอกจากจะเป็นการพัฒนาทักษะทางด้านภาษาแล้ว ยังเป็นการสร้างเสริมความสามัคคีและการทำงานเป็นทีมให้กับนักเรียนอีกด้วย
วัตถุประสงค์ของการพัฒนานวัตกรรม
1. เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
2. เพื่อเพิ่มความสามารถในการสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษของนักเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
3. เพื่อสร้างแรงจูงใจและความสนใจในการเรียนภาษาอังกฤษในนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ขอบเขตการศึกษา (เนื้อหา/กลุ่มเป้าหมาย/ระยะเวลา)
1. กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมายในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนชุมชนบ้านบวกครกน้อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 30 คน
2. เนื้อหา
คำศัพท์พื้นฐานที่นักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)
3. ระยะเวลา
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567
4. ตัวแปรที่ศึกษา
ตัวแปรอิสระ คือ เกม Phonics Adventure สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ตัวแปรตาม คือ ทักษะการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษของนักเรียน ซึ่งประเมินจากผลการทดสอบการอ่านออกเสียงก่อนและหลังการใช้เกม Phonics Adventure
จากการศึกษาการพัฒนาเกม Phonics Adventure เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านออกเสียงและสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนชุมชนบ้านบวกครกน้อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 30 คน สามารถสรุปผลได้ดังนี้
1. หาคุณภาพของการพัฒนาเกม Phonics Adventure เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านออกเสียงและสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 ท่าน พบว่า มีความเหมาะสมโดยรวมระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.64 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.21 เมื่อพิจารณาในแต่ละด้านดังนี้ ด้านความเหมาะสมของเนื้อหา มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.47 มีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.18 หมายถึง มีความเหมาะสมมากที่สุด ด้านเกม Short A Sound มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.72 มีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.17 หมายถึง มีความเหมาะสมมากที่สุด เกม Short E Sound มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.60 มีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.28 หมายถึง มีความเหมาะสมมากที่สุด เกม Short I Sound มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.64 มีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.28 หมายถึง มีความเหมาะสมมากที่สุด เกม Short O Sound มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.72 มีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.23 หมายถึง มีความเหมาะสมมากที่สุด เกม Short U Sound มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.64 มีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 17 หมายถึง มีความเหมาะสมมากที่สุด และเกม Short Vowel Sound มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.68 มีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.17 หมายถึง มีความเหมาะสมมากที่สุด
2. การใช้เกม Phonics Adventure ประกอบการสอนช่วยให้นักเรียนอ่านออกเสียงคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้ถูกต้อง พบว่านักเรียนมีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียน นักเรียนมีคะแนนก่อนเรียนเฉลี่ยเท่ากับ 4.97 จากคะแนนเต็ม 20 คะแนน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 2.43 และคะแนนหลังเรียนเฉลี่ยเท่ากับ 16.25 จากคะแนนเต็ม 20 คะแนน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 3.15 แสดงให้เห็นว่านักเรียนมีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.5 เห็นได้ว่าเกม Phonics Adventure สามารถตอบสนองความต้องการในการพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงของนักเรียนได้อย่างชัดเจน และแสดงถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาทักษะการสะกดคำของนักเรียน ได้ดีขึ้นหลังจากใช้เกม Phonics Adventure ส่งผลให้บรรลุผลตามที่ตั้งไว้
3. การสังเกตจากครูพบว่า นักเรียนมีการทำงานร่วมกันและมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีขณะเล่นเกม Phonics Adventure เกมส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำงานเป็นกลุ่มและช่วยกันแก้ไขปัญหา ซึ่งเป็นการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม การสร้างปฏิสัมพันธ์ในกลุ่มทำให้นักเรียนสามารถพัฒนาทักษะทางสังคมไปพร้อมกับการพัฒนาทักษะทางภาษา