ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาโสตประสาทดนตรีไทยเบื้องต้นของนักเรียนชมรมดนตรีไทย โรงเรียนวัดราชบพิธ โดยใช้แบบฝึกพัฒนาโสตประสาทดนตรีไทยเบื้องผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-learning)

การวิจัยเรื่อง การพัฒนาโสตประสาทดนตรีไทยเบื้องต้นของนักเรียนชมรมดนตรีไทย โรงเรียนวัดราชบพิธ โดยใช้แบบฝึกพัฒนาโสตประสาทดนตรีไทยเบื้องผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-learning) มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาโสตประสาทดนตรีไทยเบื้องต้นของนักเรียนชมรมดนตรีไทย โรงเรียนวัดราชบพิธ โดยใช้แบบฝึกพัฒนาโสตประสาทดนตรีไทยเบื้องต้นผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-learning) สามารถสรุปผลได้ ดังต่อไปนี้

ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง

กลุ่มตัวอย่าง นักเรียนชมรมดนตรีไทย ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวัดราชบพิธ ที่ลงทะเบียนสมัครเข้าชมรมดนตรีไทยของโรงเรียน จำนวน 5 คน

ตัวแปรที่ศึกษา

ตัวแปรที่ศึกษาในการทำวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ผลการพัฒนาโสตประสาทดนตรีไทยเบื้องต้นของนักเรียนชมรมดนตรีไทย โรงเรียนวัดราชบพิธ

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย

เครื่องมือที่ใช้การในดำเนินการวิจัยครั้งนี้ได้แก่ แบบทดสอบ เรื่อง โสตประสาทดนตรีไทยเบื้องต้น และแบบฝึกพัฒนาโสตประสาทดนตรีไทยเบื้องต้นผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-learning)

สรุปผลการวิจัย

การสรุปผลการวิจัย ผู้วิจัยแบ่งออกเป็น 3 ตอนตามผลการวิเคราะห์ข้อมูล ดังนี้

ตอนที่ 1 ผลการทดสอบ เรื่อง โสตประสาทดนตรีไทยเบื้องต้นของนักเรียนชมรมดนตรีไทย โรงเรียนวัดราชบพิธ

ผลการทดสอบเรื่อง โสตประสาทดนตรีไทยเบื้องต้น ของนักเรียนชมรมดนตรีไทย โรงเรียนวัดราชบพิธ พบว่า เมื่อนำผลคะแนนการทดสอบ เรื่องโสตประสาทดนตรีไทยเบื้องต้นมาวิเคราะห์ค่าเฉลี่ย พบว่าได้คะแนนเฉลี่ย 4.14 คะแนน จากคะแนนทั้งสิ้น 10 คะแนน โดยคิดเป็นอัตราเฉลี่ยร้อยละ 41.42 มีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.06

ตอนที่ 2 ผลการทดสอบ เรื่อง โสตประสาทดนตรีไทยเบื้องต้น ของนักเรียนชมรมดนตรีไทย โรงเรียนวัดราชบพิธ หลังใช้แบบฝึกพัฒนาโสตประสาทดนตรีไทยเบื้องต้นผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-learning)

สรุปจากผลการทดสอบเรื่อง โสตประสาทดนตรีไทยเบื้องต้น ของนักเรียนชมรมดนตรีไทย โรงเรียนวัดราชบพิธ หลังใช้แบบฝึกพัฒนาโสตประสาทดนตรีไทยเบื้องต้น พบว่า เมื่อนำคะแนนของนักเรียนทั้งหมดมาวิเคราะห์พบว่า นักเรียนได้คะแนนเฉลี่ย 7.28 คะแนน จากคะแนนทั้งสิ้น 10 คะแนน โดยคิดเป็นอัตราเฉลี่ยร้อยละ 72.85 มีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.75

ตอนที่ 3 ผลการเปรียบเทียบการทดสอบ เรื่อง โสตประสาทดนตรีไทยเบื้องต้น ของนักเรียนชมรมดนตรีไทย โรงเรียนวัดราชบพิธ ก่อนและหลังใช้แบบฝึกพัฒนาโสตประสาทดนตรีไทยเบื้องต้นผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-learning)

สรุปผลจากเปรียบเทียบผลคะแนนก่อน-หลังใช้แบบฝึกพัฒนาโสตประสาทดนตรีไทยเบื้องต้นผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-learning) พบว่า หลังจากจากใช้แบบฝึกพัฒนาโสตประสาทดนตรีไทยเบื้องต้นฯ นักเรียนสามารถทำคะแนนได้สูงขึ้นเมื่อเทียบกับก่อนใช้แบบฝึกพัฒนาโสตประสาทดนตรีไทยเบื้องต้นฯ โดยมีค่าการพัฒนาเพิ่มขึ้นของคะแนนเฉลี่ย 3.14 คิดเป็นอัตราส่วนการเพิ่มขึ้นของคะแนนเพิ่มขึ้นร้อยละ 31.42

อภิปรายผล

อภิปรายผลการวิจัยจากการดำเนินงานวิจัยสามารถอภิปรายผลได้ดังนี้

1. จากผลการวิจัยพบว่า การใช้แบบฝึกพัฒนาโสตประสาทดนตรีไทยเบื้องต้นผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-learning) นอกจากจะช่วยลดภาระงานของครูผู้สอนแล้วและเป็นการเพิ่มความสะดวกในการเรียนให้กับผู้เรียน ทั้งยังสามารถช่วยเพิ่มค่าเฉลี่ยคะแนนให้สูงขึ้น ซึ่งวัดได้จากค่าเฉลี่ยการพัฒนาของคะแนนที่มีอัตราส่วนการเพิ่มขึ้นของคะแนนร้อยละ 31.42 เมื่อเทียบกับก่อนใช้แบบฝึกฯ ซึ่งสอดคล้องกับ ผลการวิจัยของ ศศิรัตน์ บรรยายกิจ (2551) ที่พบว่า การใช้อีเลิร์นนิ่งสำหรับการช่วยสอน ส่งผลให้ผู้เรียนมีค่าเฉลี่ยของคุณลักษณะที่สูงขึ้น เมื่อเทียบกับก่อนใช้สื่ออีเลิร์นนิ่ง

2. จากการศึกษาและทำการทดสอบ เรื่อง โสตประสาทดนตรีไทยเบื้องต้น พบว่านักเรียนส่วนใหญ่มักละเลยเรื่องการพัฒนาโสตฯ ทั้งที่เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่จำเป็น และสำคัญอย่างมากสำหรับการเรียนดนตรี อาจจะกล่าวว่าเป็นหัวใจหลักของการเรียนดนตรีก็เป็นได้ ทำให้ผลคะแนนการทดสอบก่อนทำแบบฝึกพัฒนาโสตฯนั้นอยู่ในระดับที่ไม่น่าพึงไม่พอใจเท่าที่ควร

3. การใช้แบบฝึกพัฒนาโสตประสาทดนตรีไทยเบื้องต้นฯ มีค่าเฉลี่ยการพัฒนาของคะแนนร้อยละ 31.42 ดังนั้นเพื่อการเพิ่มค่าเฉลี่ยการพัฒนาของคะแนน และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่เพิ่มขึ้น ควรใช้ระยะเวลาในการทำแบบฝึกให้มากขึ้น และควรใช้ควบคู่กับการสอนการพัฒนาโสตประสาทดนตรีไทยในห้องเรียน เพื่อผลสัมฤทธิ์ที่ดียิ่งขึ้น แต่เนื่องจากข้อจำกัดในเรื่องของระยะเวลา ภาระงานสอนของครูผู้สอน การใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-learning) จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการเรียนการสอนในยุคปัจจุบัน

ข้อเสนอแนะ

1. ควรเพิ่มกลุ่มประชากร หรือกลุ่มตัวอย่างให้มากขึ้น เพื่อผลการวิจัยที่แม่นยำ เที่ยงตรงยิ่งขึ้น

2. การทดสอบ ควรมีการวัดในหลายๆด้านให้มากขึ้น เช่น การร้องโน้ต การเคลื่อนไหว ฯลฯ

3. แบบทดสอบ ควรมีจำนวนข้อที่มากขึ้น เพื่อความเที่ยงตรงของข้อมูลที่เพิ่มขึ้น

4. ระยะเวลาในการใช้แบบฝึกควรใช้ระยะเวลาที่มากกว่านี้ และสอนควบคู่กับการสอนในห้องเรียนเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

โพสต์โดย Waiyawut Thanabut : [5 ก.ย. 2567 (13:50 น.)]
อ่าน [48] ไอพี : 118.174.208.30
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 9,486 ครั้ง
ออกกำลังกายตามอารมณ์
ออกกำลังกายตามอารมณ์

เปิดอ่าน 18,741 ครั้ง
เอกสารการใช้ผลสอบ O-NET เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการตัดสินผลการเรียน 80:20
เอกสารการใช้ผลสอบ O-NET เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการตัดสินผลการเรียน 80:20

เปิดอ่าน 9,798 ครั้ง
"มิเชล โอบามา" สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของอเมริกา มีวันนี้ได้เพราะความเสียสละของแม่
"มิเชล โอบามา" สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของอเมริกา มีวันนี้ได้เพราะความเสียสละของแม่

เปิดอ่าน 23,461 ครั้ง
รูปร่างลักษณะของดวงจันทร์บนฟ้า
รูปร่างลักษณะของดวงจันทร์บนฟ้า

เปิดอ่าน 18,425 ครั้ง
ปลูก "มะละกอ" สร้างรายได้ที่น่าทึ่ง
ปลูก "มะละกอ" สร้างรายได้ที่น่าทึ่ง

เปิดอ่าน 2,237 ครั้ง
กรมอนามัย เตือน นมข้นหวานห้ามใช้เลี้ยงทารก ให้กินนมแม่อย่างเดียวต่อเนื่อง 6 เดือน ดีที่สุด
กรมอนามัย เตือน นมข้นหวานห้ามใช้เลี้ยงทารก ให้กินนมแม่อย่างเดียวต่อเนื่อง 6 เดือน ดีที่สุด

เปิดอ่าน 4,270 ครั้ง
ทำไมอุตสาหกรรมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นผู้เล่นใหญ่ในเศรษฐกิจของหลายประเทศ
ทำไมอุตสาหกรรมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นผู้เล่นใหญ่ในเศรษฐกิจของหลายประเทศ

เปิดอ่าน 12,441 ครั้ง
เกมลับสมองกับการศึกษาและความสำเร็จอื่น ๆ
เกมลับสมองกับการศึกษาและความสำเร็จอื่น ๆ

เปิดอ่าน 8,329 ครั้ง
ร้อนตับแตก มีที่มาอย่างไร
ร้อนตับแตก มีที่มาอย่างไร

เปิดอ่าน 233,892 ครั้ง
การนับตัวเลข1-10(ภาษาจีน)
การนับตัวเลข1-10(ภาษาจีน)

เปิดอ่าน 18,096 ครั้ง
น้ำขิงมะนาว สูตรนี้ได้คุณค่าจากสมุนไพรคูณสอง !
น้ำขิงมะนาว สูตรนี้ได้คุณค่าจากสมุนไพรคูณสอง !

เปิดอ่าน 9,552 ครั้ง
กุญแจไขโจทย์คุณภาพการศึกษาไทย
กุญแจไขโจทย์คุณภาพการศึกษาไทย

เปิดอ่าน 30,361 ครั้ง
6 ปัญหาที่เด็กม.ปลายต้องเจอและผ่านไปให้ได้
6 ปัญหาที่เด็กม.ปลายต้องเจอและผ่านไปให้ได้

เปิดอ่าน 3,471 ครั้ง
พิกเซล (Pixel)
พิกเซล (Pixel)

เปิดอ่าน 33,119 ครั้ง
วิธีปลูก "ต้นหอม" ทานเอง
วิธีปลูก "ต้นหอม" ทานเอง

เปิดอ่าน 8,046 ครั้ง
การศึกษาในศตวรรษที่ 21 รร.ต้องร่างหลักสูตรให้เด็กเป็นผู้บริหาร
การศึกษาในศตวรรษที่ 21 รร.ต้องร่างหลักสูตรให้เด็กเป็นผู้บริหาร
เปิดอ่าน 23,155 ครั้ง
แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 - 2579
แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 - 2579
เปิดอ่าน 10,885 ครั้ง
วิธีลดลอยแผลขรุขระบนใบหน้า
วิธีลดลอยแผลขรุขระบนใบหน้า
เปิดอ่าน 4,347 ครั้ง
อาหารแสลง คืออะไร
อาหารแสลง คืออะไร
เปิดอ่าน 14,667 ครั้ง
วิธีการชมฝนดาวตกเจมินิดส์
วิธีการชมฝนดาวตกเจมินิดส์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ