ชื่อผู้วิจัย นายเสงี่ยม วงค์พล
ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะ ผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ
ปีที่วิจัย 2565-2566
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานของการพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยใช้แนวคิดการบริหารที่มีประสิทธิผลร่วมกับการบริหารจัดการในยุคดิจิทัล เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนของโรงเรียนอนุบาลสุรินทร์ 2) เพื่อสร้างรูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยใช้แนวคิดการบริหารที่มีประสิทธิผลร่วมกับการบริหารจัดการในยุคดิจิทัล เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนของโรงเรียนอนุบาลสุรินทร์ 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยใช้แนวคิดการบริหารที่มีประสิทธิผลร่วมกับการบริหารจัดการในยุคดิจิทัล เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนของโรงเรียนอนุบาลสุรินทร์ และ4) เพื่อประเมินรูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยใช้แนวคิดการบริหารที่มีประสิทธิผลร่วมกับการบริหารจัดการในยุคดิจิทัล เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนของโรงเรียนอนุบาลสุรินทร์ ผู้วิจัยแบ่งระยะเวลาในดำเนินการวิจัย 4 ขั้นตอน คือ 1) การศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน 2) การสร้างและตรวจสอบคุณภาพรูปแบบ 3) การทดลองใช้รูปแบบ และ 4) การประเมินรูปแบบ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบ เป็นกลุ่มบุคคลในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 ของโรงเรียนอนุบาลสุรินทร์ จำนวน 2,513 คน ประกอบด้วย รองผู้อำนวยการสถานศึกษา จำนวน 4 คน ครูผู้สอน จำนวน 96 คน ได้มาโดยใช้ตารางของเครจซี่และมอร์แกน (Krejcie and Morgan,1970 : 608) คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน (ยกเว้นผู้บริหารสถานศึกษาและตัวแทนครู) และนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวน 2,400 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบวิเคราะห์เอกสาร แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ ประเด็นการสนทนากลุ่ม แบบประเมินรูปแบบตามมาตรฐานการประเมิน 4 ด้าน แบบสอบถามความพึงพอใจ และแหล่งข้อมูลที่เป็นเอกสาร ได้แก่ แบบแสดงผลการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน (ปพ.5) และทะเบียนเกียรติบัตรของโรงเรียน การวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์โดยการหาความถี่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันของการบริหารสถานศึกษาโดยใช้แนวคิดการบริหารที่มีประสิทธิผลร่วมกับการบริหารจัดการในยุคดิจิทัล เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนพบว่า โรงเรียนมีระดับปฏิบัติงานโดยรวมอยู่ในระดับมาก ( x̄ = 4.39, S.D.= 0.56) เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านการเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กร มีการปฏิบัติระดับมากที่สุด รองลงมา คือ การกำหนดนโยบายและส่งเสริมสนับสนุน การติดตามและประเมินผล การพัฒนาครูและบุคลากร และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ ผลจากการสัมภาษณ์ แนวทางการบริหารสถานศึกษาที่มีประสิทธิผลในยุคดิจิทัล ประกอบด้วย 1) การมีวิสัยทัศน์และพันธกิจร่วมกัน 2) การกำหนดนโยบายโครงสร้างพื้นฐานของโรงเรียน 3) การส่งเสริมและสนับสนุน 4) การสร้างวัฒนธรรมการเปลี่ยนแปลงการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล 5) ผู้บริหารสถานศึกษาและครูมีความตระหนักและยอมรับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และ 6) การพัฒนาครูและบุคลากรด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้
2. ผลการสร้างรูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยใช้แนวคิดการบริหารที่มีประสิทธิผลร่วมกับการบริหารจัดการในยุคดิจิทัล เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียน พบว่า มี 5 องค์ประกอบที่สำคัญ ได้แก่ 1) หลักการและแนวคิดพื้นฐาน 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการบริหาร 4) แนวทางการประเมิน และ 5) ปัจจัยแห่งความสำเร็จ โดยกระบวนการบริหารของรูปแบบ ประกอบด้วย ขั้นที่ 1 การประเมินสภาพปัจจุบัน ขั้นที่ 2 การกำหนดกลยุทธ์ ขั้นที่ 3 การนำกลยุทธ์สู่การปฏิบัติ ขั้นที่ 4 การติดตามความก้าวหน้า และขั้นที่ 5 การประเมินความสำเร็จ ผลการตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบ โดยใช้วิธี การสนทนากลุ่มกับผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า รูปแบบการบริหารมีความเหมาะสมมาก ( x̄ =4.49, S.D. =0.53) และมีความเป็นไปได้ในการนำไปใช้ประโยชน์มากที่สุด ( x̄ =4.54, S.D. =0.53)
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยใช้แนวคิดการบริหารที่มีประสิทธิผลร่วมกับการบริหารจัดการในยุคดิจิทัล เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนของโรงเรียนอนุบาลสุรินทร์ พบว่า
3.1 ผลการประเมินระดับปฏิบัติงานของการบริหารจัดการตามรูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยใช้แนวคิดการบริหารที่มีประสิทธิผลร่วมกับการบริหารจัดการในยุคดิจิทัล เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนของโรงเรียนอนุบาลสุรินทร์ตามความคิดเห็นของครู และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( x̄ = 4.50, S.D.= 0.53) เรียงลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้ การติดตามความก้าวหน้า การประเมินสภาพปัจจุบัน การกำหนดกลยุทธ์ การนำกลยุทธ์สู่การปฏิบัติ และการประเมินความสำเร็จ
3.2 ผลการประเมินคุณภาพนักเรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่า 1) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้หลักในระดับ 3 ขึ้นไปปีการศึกษา 2566 ร้อยละ 79.29 สูงกว่าปีการศึกษา 2565 ที่มีคะแนน 77.26 ร้อยละที่เพิ่มขึ้น คือ 2.67 2) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีคะแนนผลการทดสอบความสามารถพื้นฐานของผู้เรียนระดับชาติ (NT) ปีการศึกษา 2566 ร้อยละ 73.21 สูงกว่าปีการศึกษา 2565 ที่มีคะแนน 61.47 ร้อยละที่เพิ่มขึ้น คือ 19.10 และ 3) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีคะแนนผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา 2566 ร้อยละ 60.46 สูงกว่าปีการศึกษา 2565 ที่มีคะแนน 57.27 ร้อยละที่เพิ่มขึ้น คือ 5.57
3.3 ผลการประเมินคุณภาพนักเรียนด้านการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน พบว่า นักเรียนมีคะแนนการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนในระดับดีขึ้นไป ทั้ง 2 ปี คือ ปีการศึกษา 2565 คิดเป็นร้อยละ 89.65 และปีการศึกษา 2566 คิดเป็นร้อยละ 83.91
3.4 ผลการประเมินคุณภาพนักเรียนด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ พบว่า นักเรียนมีคะแนนผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนตามหลักสูตรที่สถานศึกษากำหนด ในระดับดีขึ้นไป ทั้ง 2 ปี คือ ปีการศึกษา 2565 คิดเป็นร้อยละ 98.73 และปีการศึกษา 2566 มีการพัฒนาเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 100
3.5 ผลการประเมินคุณภาพนักเรียนด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน พบว่า นักเรียนมีคะแนนผลการประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนในระดับดีขึ้นไป ทั้ง 2 ปี คือ ปีการศึกษา 2565 คิดเป็นร้อยละ 99.44 และปีการศึกษา 2566 มีการพัฒนาเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 99.49
4. ผลการประเมินรูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยใช้แนวคิดการบริหารที่มีประสิทธิผลร่วมกับการบริหารจัดการในยุคดิจิทัล เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนของโรงเรียนอนุบาลสุรินทร์ พบว่า
4.1 ผลการประเมินมาตรฐานความเป็นประโยชน์ ความเป็นไปได้ ความเหมาะสม และความถูกต้องของรูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยใช้แนวคิดการบริหารที่มีประสิทธิผลร่วมกับการบริหารจัดการในยุคดิจิทัล เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนของโรงเรียนอนุบาลสุรินทร์ อยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄ = 4.51, S.D.= 0.51) โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ ความเป็นประโยชน์ รองลงมาคือ ด้านความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และความถูกต้อง ตามลำดับ
4.2 ผลการประเมินความพึงพอใจของครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครองนักเรียน ต่อการดำเนินงานโดยใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยใช้แนวคิดการบริหารที่มีประสิทธิผลร่วมกับการบริหารจัดการในยุคดิจิทัล เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนของโรงเรียนอนุบาลสุรินทร์ อยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด ( x̄ = 4.53, S.D.= 0.52)
4.3 ผลที่เกิดต่อนักเรียน ครูผู้สอนและสถานศึกษา เกี่ยวกับผลงาน รางวัล พบว่า จำนวนรางวัลที่นักเรียน ครูผู้สอนและโรงเรียนอนุบาลสุรินทร์ได้รับ จากการแข่งขันตั้งแต่ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาขึ้นไป ในปีการศึกษา 2565-2566 ได้รับรางวัล จำนวน 60 รายการ เป็นไปตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด คือไม่น้อยกว่า 40 รายการ