ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การนิเทศการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนภาษาไทย โดยใช้ชุดพัฒนาความฉลาดรู้ด้านการอ่าน ในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา

ชื่อเรื่อง การนิเทศการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนภาษาไทย โดยใช้ชุดพัฒนาความฉลาดรู้ด้านการอ่าน

ในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา

ผู้ศึกษา นางปัทมา สาธุ

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ประเมินผลการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนภาษาไทย โดยใช้ชุดพัฒนาความฉลาดรู้ด้านการอ่าน ตลอดจนการศึกษาผลของการใช้ชุดพัฒนาความฉลาดรู้ด้านการอ่านที่นำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย และเพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดพัฒนาความฉลาดรู้ด้านการอ่าน โดยใช้รูปแบบการนิเทศแบบ PIDRE และแบบกัลยาณมิตร กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วยครูและนักเรียน ในกลุ่มโรงเรียนเครือข่ายการศึกษาขยายโอกาส จำนวน ๑๗ โรงเรียน ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาระยอง เขต 2 ที่มีผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2566 คะแนนเฉลี่ยวิชา ภาษาไทย ในสาระที่ 1 การอ่าน ต่ำกว่าระดับประเทศ จำนวน ๗ โรงเรียน โดยแบ่งเป็นครูผู้สอนภาษาไทย จำนวน ๗ คน และนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน ๑๕๖ คน ได้แก่ โรงเรียนบ้านเขาชะอางคร่อมคลอง จำนวน ๒๔ คน โรงเรียนบ้านน้ำใส จำนวน ๑๒ คน โรงเรียนวัดป่ายุบ จำนวน ๒๗ คน โรงเรียนชุมชนบ้านวังจันทน์ จำนวน ๑๘ คน โรงเรียนบ้านชำฆ้อ จำนวน ๑๔ คน โรงเรียนบ้านพลงตาเอี่ยม จำนวน ๒๔ คน และโรงเรียนบ้านสองสลึง จำนวน 3๗ คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ ๑) แบบประเมินผลระดับปฏิบัติของครูผู้สอนที่ได้นำชุดพัฒนาความฉลาดรู้ด้านการอ่าน (เล่ม ๓) ชุดที่ ๑ และแบบฝึกเพื่อพัฒนาความฉลาดรู้ด้านการอ่าน (เล่ม ๔) ชุดที่ ๑ ไปใช้พัฒนาความฉลาดรู้ด้านการอ่านของผู้เรียนตามแนว PISA ๒) แบบประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ก่อนเรียนและหลังการนำชุดพัฒนาความฉลาดรู้ด้านการอ่านไปใช้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนในชั้นเรียน ด้วยข้อสอบการอ่านชุดที่ ๑ จำนวน ๘ ข้อ (๒๔ คะแนน) ๓) และประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ที่มีต่อชุดพัฒนาความฉลาดรู้ด้านการอ่าน ตามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน ๑๕ ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการศึกษาพบว่า

๑. การนิเทศแบบ PIDREและกัลยาณมิตร พบว่า ครูมีการใช้สถานการณ์หรือโจทย์ปัญหานำเข้าสู่บทเรียนให้นักเรียนทำแบบทดสอบออนไลน์ PISA Style ก่อนเรียน ครูผู้สอนใช้ปัญหาเป็นฐาน ใช้คำถามกระตุ้นความคิดผู้เรียนส่งผลให้นักเรียนสามารถทำแบบฝึกทักษะ แบบทดสอบ สรุปองค์ความรู้และแสดงข้อมูลย้อนกลับได้อย่างถูกต้อง นักเรียนมีความกระตือรือร้น สนใจเรียน กล้าแสดงออก แสดงความคิดเห็น และตอบสนองให้ความร่วมมือในกิจกรรมได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้มีผลการประเมินระดับคุณภาพอยู่ในระดับดี คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐

๒. ครูผู้สอนที่ได้นำชุดพัฒนาความฉลาดรู้ด้านการอ่าน (เล่ม ๓) ชุดที่ ๑ และแบบฝึกเพื่อพัฒนา

ความฉลาดรู้ด้านการอ่าน (เล่ม ๔) ชุดที่ ๑ ไปใช้พัฒนาความฉลาดรู้ด้านการอ่านของผู้เรียนตามแนว PISA ส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ก่อนเรียนและหลังการนำชุดพัฒนา

ความฉลาดรู้ด้านการอ่านไปใช้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนในชั้นเรียน มีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียน สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน โดยคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ ๑๐.๗๗ คะแนน และ ๑๘.๐๐ คะแนน คิดเป็นร้อยละ ๗๕ ของค่าคะแนนเฉลี่ยที่สูงขึ้น ตามลำดับ และพบว่าการกระจายของคะแนนก่อนเรียนมีการกระจาย มากกว่าคะแนนหลังเรียน

โดยมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ ๑.๙๘ และ ๒.๒๙ ตามลำดับ เมื่อได้ไปทำการทดสอบสถิติ Dependent t-Test ปรากฏว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนดีกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญ 0.01

๓. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ มีความพึงพอใจต่อการใช้ชุดพัฒนาความฉลาดรู้ด้านการอ่าน พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจในข้อ ๘ ครูชี้แจงวัตถุประสงค์ในการนำชุดพัฒนาความฉลาดรู้ด้านการอ่าน มาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ ๔.๗๔ ให้ความเห็นว่านักเรียนมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมอยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด รองลงมาในข้อ ๗ กิจกรรมในชุดพัฒนาความฉลาดรู้ด้านการอ่าน แต่ละเรื่องมีความเหมาะสมกับเวลาในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในห้องเรียน มีค่าเฉลี่ย ๔.๖๘ และข้อ ๑๐ นักเรียนมีการแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นซึ่งกันและกัน มีค่าเฉลี่ย ๔.๕๗ อยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุดเช่นกัน ตามลำดับ และระดับความพึงพอใจน้อยที่สุด ในข้อ ๕ เนื้อหา ภาษา รูปแบบการสอนในชุดพัฒนาความฉลาดรู้ด้านการอ่าน ตรงกับความสนใจ และความต้องการของผู้เรียน มีค่าเฉลี่ย ๔.๔๒ อยู่ในระดับความพึงพอใจมาก ซึ่งมีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจมากที่สุด โดยรวมอยู่ที่ ๔.๔๙ คิดเป็นร้อยละ ๘๙.๘๓

โพสต์โดย ปัท : [25 ส.ค. 2567 (19:24 น.)]
อ่าน [1155] ไอพี : 1.47.202.99
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 39,016 ครั้ง
ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การจัดงานและการประชุมระหว่างประเทศ(ฉบับที่3)2555
ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การจัดงานและการประชุมระหว่างประเทศ(ฉบับที่3)2555

เปิดอ่าน 8,637 ครั้ง
หาความสุขแบบไม่ต้องเสียเงิน
หาความสุขแบบไม่ต้องเสียเงิน

เปิดอ่าน 17,270 ครั้ง
กินแตงโม...ลดความดันเลือด
กินแตงโม...ลดความดันเลือด

เปิดอ่าน 16,142 ครั้ง
ไขมันพืช (น้ำมันปาล์ม) สาเหตุหนึ่งของอาการป่วยทางสมอง
ไขมันพืช (น้ำมันปาล์ม) สาเหตุหนึ่งของอาการป่วยทางสมอง

เปิดอ่าน 15,267 ครั้ง
ชมคลิปยอดฮิต"เด็กพี่สาวร้องไห้โฮ ไม่อยากให้น้อง"โต"
ชมคลิปยอดฮิต"เด็กพี่สาวร้องไห้โฮ ไม่อยากให้น้อง"โต"

เปิดอ่าน 12,392 ครั้ง
ระวัง นุ่งกางเกงคับรัดติ้ว แข้งขาเป็นเหน็บชาได้
ระวัง นุ่งกางเกงคับรัดติ้ว แข้งขาเป็นเหน็บชาได้

เปิดอ่าน 22,019 ครั้ง
รู้ยัง? "5 ผลไม้ เด่น ที่น่าปลูกในอนาคต" มีอะไรบ้าง
รู้ยัง? "5 ผลไม้ เด่น ที่น่าปลูกในอนาคต" มีอะไรบ้าง

เปิดอ่าน 22,130 ครั้ง
10 เรื่องจริงเกี่ยวกับความฝัน ที่คุณอาจไม่เคยรู้
10 เรื่องจริงเกี่ยวกับความฝัน ที่คุณอาจไม่เคยรู้

เปิดอ่าน 10,489 ครั้ง
แอสเพอร์เกอร์ซินโดรม อีกหนึ่งอาการที่ไม่ควรมองข้าม
แอสเพอร์เกอร์ซินโดรม อีกหนึ่งอาการที่ไม่ควรมองข้าม

เปิดอ่าน 26,742 ครั้ง
วิธีต้มไข่ให้ปอกง่าย
วิธีต้มไข่ให้ปอกง่าย

เปิดอ่าน 6,056 ครั้ง
กลยุทธ์การตลาดออนไลน์เบื้องต้นที่จำเป็นต่อคนรุ่นใหม่ในการต่อยอดความรู้ด้านธุรกิจ
กลยุทธ์การตลาดออนไลน์เบื้องต้นที่จำเป็นต่อคนรุ่นใหม่ในการต่อยอดความรู้ด้านธุรกิจ

เปิดอ่าน 19,214 ครั้ง
วันเข้าพรรษา...สำคัญอย่างไร
วันเข้าพรรษา...สำคัญอย่างไร

เปิดอ่าน 14,629 ครั้ง
บารัค โอบามา (Barack Obama)
บารัค โอบามา (Barack Obama)

เปิดอ่าน 27,399 ครั้ง
"ฟักทอง"ป้องเบาหวาน-บำรุงหัวใจ
"ฟักทอง"ป้องเบาหวาน-บำรุงหัวใจ

เปิดอ่าน 76,316 ครั้ง
DIY วิธีทำหน้ากากอนามัยแบบมีช่องใส่แผ่นกรอง สามารถซักแล้วนำกลับมาใช้ได้ใหม่
DIY วิธีทำหน้ากากอนามัยแบบมีช่องใส่แผ่นกรอง สามารถซักแล้วนำกลับมาใช้ได้ใหม่

เปิดอ่าน 120,425 ครั้ง
บทความพิเศษ : การศึกษา 4.0 / ดร.โพยม จันทร์น้อย
บทความพิเศษ : การศึกษา 4.0 / ดร.โพยม จันทร์น้อย
เปิดอ่าน 230,197 ครั้ง
รูปแบบจำลอง S M C R Model
รูปแบบจำลอง S M C R Model
เปิดอ่าน 56,708 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 4 อุปกรณ์ของผู้เล่น ( The Players
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 4 อุปกรณ์ของผู้เล่น ( The Players' Equipment)
เปิดอ่าน 21,768 ครั้ง
ขั้นตอนปลูกแก่นตะวัน ปลูกง่าย โตไว ราคาดี
ขั้นตอนปลูกแก่นตะวัน ปลูกง่าย โตไว ราคาดี
เปิดอ่าน 33,410 ครั้ง
ทำไมหน้าธนาคารถึงต้องมีครุฑ
ทำไมหน้าธนาคารถึงต้องมีครุฑ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ