ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การประเมินโครงการพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ด้วยนวัตกรรมโครงงานบูรณาการตามแนวคิดการประเมินแบบ CIPPIEST Model

ชื่อเรื่อง การประเมินโครงการพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ด้วยนวัตกรรมโครงงานบูรณาการตามแนวคิดการประเมินแบบ CIPPIEST Model

ผู้วิจัย นางสาวกมลชนก วงวาฬ

โรงเรียน โรงเรียนบ้านสิริขุนหาญ

ปีการศึกษา 2566

บทคัดย่อ

การประเมินโครงการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินโครงการพัฒนากระบวนการจัด การเรียนรู้ด้วยนวัตกรรมโครงงานบูรณาการ ของโรงเรียนบ้านสิริขุนหาญโดยใช้การประเมินตามแนวคิดการประเมินแบบ CIPPIEST Model เป็นการประเมินตามแนวคิดของ Stufflebeam and Shinkfield (2007) ที่มีกระบวนการเก็บรวบรวมข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างมีระบบ โดยแบ่งการประเมินออกเป็น 3 ระยะ แต่ละระยะมีการประเมินที่ครอบคลุม คือ ระยะที่ 1 ก่อนดำเนินโครงการ ประเมิน ดานบริบท (Context Evaluation : C) และด้านปัจจัยนำเขา (Input Evaluation : I) ระยะที่ 2 ระหว่างดำเนินโครงการ ประเมินด้านกระบวนการ (Process Evaluation : P) และระยะที่ 3 หลังดำเนินโครงการ ประเมินด้านผลผลิต (Product Evaluation : P) การประเมินส่วนปรับขยายด้านผลผลิต 1) ด้านผลกระทบ (Impact Evaluation : I) 2) ด้านประสิทธิผล (Effectiveness Evaluation : E) 3) ดานความยั่งยืน (Sustainability Evaluation : S) และ 4) ด้านการถ่ายทอดส่งต่อ (Transportability Evaluation : T) เป้าหมายที่ศึกษา เป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้บริหาร หัวหน้าฝ่าย ครูผู้สอนระดับประถมศึกษา นักเรียนและผู้ปกครอง เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ แบบสอบถาม และแบบทดสอบ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เนื้อหาและนำเสนอโดย การสรุปความ สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า ผลการประเมินโครงการสรุปได้ ดังนี้

ระยะที่ 1 ก่อนดำเนินโครงการ พบว่า ผู้ให้ข้อมูลประเมินโครงการมีความเหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมาก (ผู้บริหารสถานศึกษา μ = 4.25 และ หัวหน้าฝ่าย μ = 4.41) ด้านบริบท (Context Evaluation : C) พบว่า ผู้ให้ข้อมูลประเมินโครงการมีความเหมาะสมอยู่ในระดับ มากและมากที่สุด ตามลำดับ (ผู้บริหารสถานศึกษา μ = 4.33 และ หัวหน้าฝ่าย μ = 4.50) และด้านปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation : I) พบว่า ผู้ให้ข้อมูลประเมินโครงการมีความเหมาะสมอยู่ในระดับ มาก (ผู้บริหารสถานศึกษา μ = 4.16 และหัวหน้าฝ่าย μ = 4.33) แสดงว่า โครงการพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ด้วยนวัตกรรมโครงงานบูรณาการ มีความเหมาะสมที่จะดำเนินการ

ระยะที่ 2 ระหว่างดำเนินโครงการ ประเมินด้านกระบวนการ (Process Evaluation : P) พบว่า 1) กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ “การจัดการเรียนรู้ด้วยนวัตกรรมโครงงานบูรณาการ” ผู้เข้าร่วมโครงการทดสอบความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการจัดการเรียนรู้ด้วยนวัตกรรมโครงงานบูรณาการหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และผลการสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการอบรม พบว่า มีความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (μ = 4.52) แสดงว่า ในการจัดในกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ ผู้เข้าร่วมอบรมมีความรู้ความเข้าใจเนื้อหามากขึ้นและมีความพึงพอใจในการอบรม 2) กิจกรรมนิเทศและสังเกตชั้นเรียน พบว่า หัวหน้าฝ่ายมีการจัดการเรียนรู้ด้วยนวัตกรรมโครงงานบูรณาการ ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.67, = 0.12) ส่วนครูระดับประถมศึกษามีการจัดการเรียนรู้ด้วยนวัตกรรมโครงงานบูรณาการ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( =4.49) แสดงว่า ทั้งหัวหน้าฝ่ายและครูระดับประถมศึกษามีการจัดการเรียนรู้ด้วยนวัตกรรมโครงงานบูรณาการผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 3) กิจกรรมเปิดบ้านวิชาการ “การเรียนรู้ด้วยนวัตกรรมโครงงานบูรณาการและเปิดบ้านวิชาการนำเสนอผลการเรียนรู้” พบว่า ผู้ให้ข้อมูลมีความพึงพอใจในกิจกรรมเปิดบ้านวิชาการ โดยรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด โดยผู้ให้ข้อมูลที่มีความพึงพอใจมากที่สุดคือ ครูระดับประถมศึกษา (μ = 4.53) นักเรียน ( = 4.53) และ ผู้ปกครอง ( = 4.52) ตามลำดับ แสดงว่า ในการจัดกิจกรรมเปิดบ้านวิชาการ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีความพึงพอใจในกิจกรรม และทุกกิจกรรมมีความเหมาะสม

ระยะที่ 3 หลังดำเนินโครงการ ประเมินด้านผลผลิต (Product Evaluation : P) พบว่า ความคิดเห็นของผู้ให้ข้อมูลที่มีต่อโครงการพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ด้วยนวัตกรรมโครงงานบูรณาการ ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด คือ หัวหน้าฝ่าย (μ = 4.57) และครูประถมศึกษา (μ = 4.57) การประเมินส่วนปรับขยายด้านผลผลิต พบว่า 1) ด้านผลกระทบ (Impact Evaluation : I) พบว่า ผู้ให้ข้อมูลมีความคิดเห็นในระดับมาก ทุกกลุ่ม โดยหัวหน้าฝ่ายเห็นด้วยสูงที่สุด (หัวหน้าฝ่าย μ = 4.47) 2) ด้านประสิทธิผล (Effectiveness Evaluation : E) พบว่า ผู้ให้ข้อมูลมีความคิดเห็นในระดับมากที่สุด คือ ผู้บริหารสถานศึกษา (μ = 4.61) 3) ด้านความยั่งยืน (Sustainability Evaluation : S) พบว่า ผู้ให้ข้อมูลมีความคิดเห็นในระดับมากที่สุด คือ นักเรียน (μ = 4.68) และ 4) ด้านการถ่ายทอดส่งต่อ (Transportability Evaluation : T) พบว่า ผู้ให้ข้อมูลมีความคิดเห็นในระดับมากที่สุด คือ ผู้บริหารสถานศึกษา (μ = 4.61) แสดงว่า ผู้ให้ข้อมูลมีเห็นด้วยในด้านผลผลิตที่มีต่อโครงการพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ด้วยนวัตกรรมโครงงานบูรณาการ

โพสต์โดย กมลชนก13 : [23 ส.ค. 2567 (08:39 น.)]
อ่าน [1130] ไอพี : 125.25.213.162
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,230 ครั้ง
แบบเรียนที่ไม่ได้มีไว้เลียนแบบ : นิ้วกลม
แบบเรียนที่ไม่ได้มีไว้เลียนแบบ : นิ้วกลม

เปิดอ่าน 12,416 ครั้ง
วิธีปิดการแจ้งเตือนและข้อความเชิญชวนเกม "ไลน์ คุกกี้ รัน"
วิธีปิดการแจ้งเตือนและข้อความเชิญชวนเกม "ไลน์ คุกกี้ รัน"

เปิดอ่าน 10,499 ครั้ง
27ก.ย.2555 Google ครบรอบ 14 ปีกูเกิล Search Engine
27ก.ย.2555 Google ครบรอบ 14 ปีกูเกิล Search Engine

เปิดอ่าน 80,620 ครั้ง
ภาพ/คำกลอน/คำคม เกี่ยวกับครู
ภาพ/คำกลอน/คำคม เกี่ยวกับครู

เปิดอ่าน 30,359 ครั้ง
วังสุโขทัยหรือวังศุโขทัย
วังสุโขทัยหรือวังศุโขทัย

เปิดอ่าน 44,885 ครั้ง
9 อาชีพน่าอิจฉา เงินเดือนทะลุล้าน
9 อาชีพน่าอิจฉา เงินเดือนทะลุล้าน

เปิดอ่าน 14,720 ครั้ง
หมอเตือนเชื้อปนเปื้อน"ข้าวมันไก่"ถึงตาย ระบุ ทั้งเนื้อไก่และเลือดไก่บูดเน่าได้ง่าย
หมอเตือนเชื้อปนเปื้อน"ข้าวมันไก่"ถึงตาย ระบุ ทั้งเนื้อไก่และเลือดไก่บูดเน่าได้ง่าย

เปิดอ่าน 11,364 ครั้ง
สมุนไพรที่ช่วยบรรเทา ไข้หวัดใหญ่‏
สมุนไพรที่ช่วยบรรเทา ไข้หวัดใหญ่‏

เปิดอ่าน 23,952 ครั้ง
ข้อห้ามของคนอกหัก
ข้อห้ามของคนอกหัก

เปิดอ่าน 112,153 ครั้ง
การกำเนิดของศาสนาพราหมณ์
การกำเนิดของศาสนาพราหมณ์

เปิดอ่าน 10,878 ครั้ง
วิวาห์ใต้สมุทรตรัง 2010
วิวาห์ใต้สมุทรตรัง 2010

เปิดอ่าน 21,661 ครั้ง
เทคนิคปลดหนี้ที่ควรรู้ หมดหนี้สินไว ๆ ต้องทำตามนี้
เทคนิคปลดหนี้ที่ควรรู้ หมดหนี้สินไว ๆ ต้องทำตามนี้

เปิดอ่าน 195 ครั้ง
5 ข้อควรรู้ก่อนต่อพ.ร.บ. รถยนต์ราคาถูกให้คุ้มค่าที่สุด
5 ข้อควรรู้ก่อนต่อพ.ร.บ. รถยนต์ราคาถูกให้คุ้มค่าที่สุด

เปิดอ่าน 11,457 ครั้ง
กลุ่มคน 1%ของโลก ครอบครองทรัพย์สินกว่าครึ่งโลก
กลุ่มคน 1%ของโลก ครอบครองทรัพย์สินกว่าครึ่งโลก

เปิดอ่าน 20,440 ครั้ง
หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายครู
หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายครู

เปิดอ่าน 12,010 ครั้ง
Toshiba Libretto W100  มินิโน้ตบุ๊ก2จอสัมผัส
Toshiba Libretto W100 มินิโน้ตบุ๊ก2จอสัมผัส
เปิดอ่าน 6,021 ครั้ง
สับสนกับเมเจอร์ที่เลือก แต่ไม่อยากรีแอดมิชชั่นต้องทำยังไง
สับสนกับเมเจอร์ที่เลือก แต่ไม่อยากรีแอดมิชชั่นต้องทำยังไง
เปิดอ่าน 13,871 ครั้ง
แชร์กระจาย ฝีมือการแต่งนิทานของเด็ก 7 ขวบ ครีเอทได้น่ารักมาก
แชร์กระจาย ฝีมือการแต่งนิทานของเด็ก 7 ขวบ ครีเอทได้น่ารักมาก
เปิดอ่าน 8,572 ครั้ง
จิตวิทยาระบุ มีความรู้ดีก็ยังหนีไม่พ้นโดนตุ๋นจนได้
จิตวิทยาระบุ มีความรู้ดีก็ยังหนีไม่พ้นโดนตุ๋นจนได้
เปิดอ่าน 12,163 ครั้ง
"ยาชื่อสามัญ"... นามนั้นสำคัญฉะนี้
"ยาชื่อสามัญ"... นามนั้นสำคัญฉะนี้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ