ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการวิจัยและพัฒนา เรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารเพื่อจัดการเรียนรู้ โดยใช้โครงงานเป็นฐานให้กับผู้เรียนในการพัฒนาตนเอง ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอเขาฉกรรจ์

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารเพื่อจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐานให้กับ

ผู้เรียนในการพัฒนาตนเอง ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอเขาฉกรรจ์

จังหวัดสระแก้ว

ผู้วิจัย นางสาววิรชา อินทร์สุข

ปี พ.ศ. 2566

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการรูปแบบการบริหารเพื่อจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐานให้กับผู้เรียนในการพัฒนาตนเอง ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารเพื่อจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐานให้กับผู้เรียนในการพัฒนาตนเอง ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการบริหารเพื่อจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐานให้กับผู้เรียนในการพัฒนาตนเอง ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว 4) เพื่อประเมินและปรับปรุงรูปแบบการบริหารเพื่อจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐานให้กับผู้เรียนในการพัฒนาตนเอง ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้วการวิจัยมี 4 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1: การศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน ระยะที่ 2: การออกแบบ (ร่าง) รูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงาน ระยะที่ 3: การจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐานให้ผู้เรียนพัฒนาตนเอง และ ระยะที่ 4: การยืนยันรูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงาน เครื่องมือที่ใช้แบบสัมภาษณ์และแบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่น .97 และ .87 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า

1. จากการศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน ที่ศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง การประชุมร่วมกับครูและบุคลากร ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว จำนวน 15 คน และการสัมภาษณ์ครูผู้สอนโครงงาน จำนวน 8 คน สรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูล คือ 1) ผู้บริหารใช้กระบวนการบริหารการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงาน ในรูปแบบ ผู้บริหารและครูร่วมกันกำหนดวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ผ่านโครงงาน ผู้เรียนเริ่มดำเนินการตามแผนโครงงาน โดยครูมีบทบาทเป็นที่ปรึกษา ผู้บริหารและครูติดตามความก้าวหน้า ประเมินผล เมื่อพบปัญหาหรือข้อบกพร่องในขั้นตอนการดำเนินงาน ผู้บริหารและครูร่วมกันหาวิธีการปรับปรุงและแก้ไขเพื่อให้การดำเนินงานในครั้งต่อไปมีประสิทธิภาพมากขึ้น 2) สิ่งที่ควรเพิ่มเติมในการบริหารการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานคือ การให้ครูได้รับการฝึกอบรม แลกเปลี่ยนประสบการณ์และองค์ความรู้วิธีการสอนแบบโครงงาน เทคนิคการให้คำปรึกษา และการใช้เครื่องมือดิจิทัลต่างๆ ที่สนับสนุนการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การให้มีการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อจัดการข้อมูลโครงงาน การติดตามความก้าวหน้า และการประเมินผลที่ครอบคลุม ควรนำชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในโครงงาน ให้มีการเพิ่มรางวัลเข้าไปนอกเหนือจากเกียรติบัตร เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและความภาคภูมิใจในผลงานของตนเอง มีการพัฒนาทักษะการค้นคว้าและวิจัย การพัฒนาทักษะการวางแผนและการจัดการเวลา การพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาและการตัดสินใจ

2. การออกแบบ (ร่าง) รูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงาน เป็นการประชุมร่วมครูผู้สอนโครงงาน จำนวน 8 คน ได้กรอบแนวคิดว่าการพัฒนารูปแบบการบริหารเพื่อจัดการเรียนรู้ โดยใช้โครงงานเป็นฐานให้กับผู้เรียนในการพัฒนาตนเอง 1) ต้องมีการบริหารแบบให้ครูและบุคลากรมีส่วนร่วมเพื่อความเห็นชอบและร่วมกันในการวางแผนจัดการเรียนรู้ โดยใช้โครงงานเป็นฐาน 2) ต้องมีการสร้างความรู้ ความเข้าใจและศึกษาข้อมูลพื้นฐานของบริบทพื้นที่แต่ละตำบล 3) ต้องมีการดำเนินงานและร่างแผนงานการจัดการเรียนรู้ โดยใช้โครงงานเป็นฐานให้กับผู้เรียนในการพัฒนาตนเอง 4) ต้องมีการการติดตามและการประเมินผลการจัดการเรียนรู้ โดยใช้โครงงานเป็นฐานให้กับผู้เรียนในการพัฒนาตนเอง และ 5) ต้องมีการสรุปผลการดำเนินงานโดยเป็นรายงานและการนำเสนอ และได้ร่างรูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงาน คือ การบริหารที่มีขั้นตอนการดำเนินงานตาม PEDES MODEL

3. การจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐานให้ผู้เรียนพัฒนาตนเอง ซึ่งจะเป็นการศึกษาความคิดเห็นของผู้เรียนโดยใช้โครงงานเป็นฐาน ผู้วิจัยใช้การศึกษาเชิงปริมาณโดยใช้แบบสอบถามในการเก็บข้อมูลจากผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายกลุ่มตัวอย่าง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 136 คน พบว่า ผู้เรียนที่เป็นผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุ 26 ปี ขึ้นไป รองลงมาคืออายุไม่เกิน 25 ปี และระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนต้น รองลงมีระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งผู้เรียนมีความคิดเห็นต่อการจัดการเรียนรู้โดยการใช้โครงงานเป็นฐานในการพัฒนาตนเอง โดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด รายด้านที่มีค่าเฉลี่ยอันดับแรก คือ ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยโครงงาน อยู่ในระดับมากที่สุด รายด้านที่มีค่าเฉลี่ยรองลงมา คือ ผู้เรียนมีการพัฒนาตนเอง อยู่ในระดับมากที่สุด ผู้เรียนมีความคิดเห็นต่อการจัดการเรียนรู้โดยการใช้โครงงานเป็นฐานในการพัฒนาตนเอง ที่มีค่าเฉลี่ย 3 อันดับแรก อยู่ในระดับมากที่สุด คือ ผู้สอนสร้างบรรยากาศในชั้นเรียน ทำให้ผู้เรียนรู้สึกที่ดีต่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน ผู้สอนให้มีการนำเสนอผลการเรียนรู้ โดยผู้สอนได้ออกแบบกิจกรรมหรือจัดเวลาให้ผู้เรียนได้เสนอสิ่งที่ตนเองได้เรียนรู้และที่ผู้เรียนปฏิบัติในการทำโครงงาน และผู้สอนให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมเขียนสรุปรายงานผลที่เกิดขึ้นจากการวางแผนร่วมกัน

4. การยืนยันรูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงาน เป็นการสัมภาษณ์ครูผู้สอนโครงงาน จำนวน 5 คน และผู้เรียนที่ทำให้โครงงานได้รับการยอมรับและเป็นผลงานที่มีแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practice) ของ สกร. เขาฉกรรจ์ จำนวน 4 คน พบว่า ครูผู้ให้ข้อมูลหลักคิดว่า PEDES MODEL เป็นรูปแบบการบริหารที่มีความเป็นไปได้ มีความเหมาะสมและเป็นประโยชน์ที่ทำให้การจัดการเรียนรู้ ส่วนผู้เรียนคิดเห็นว่าการเรียนรู้ผ่านโครงงานที่เกิดกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันตั้งแต่ต้นทางและมีโอกาสได้พัฒนาตนเอง เริ่มจากห้องเรียน ได้วางแผนร่วมกัน ลงพื้นที่จริง ลงมือทำ ทดลองใช้ชิ้นโครงงาน ตลอดจนนำชิ้นงานเสนอจนได้รับโอกาสไปต่อระดับประเทศ มีโอกาสได้นำเสนอผลงานได้พัฒนาตนเองในการพูด และได้เห็นหลายๆ โครงงานหลายๆ จังหวัด เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการพัฒนาตัวเอง และชุมชน ดังนั้นการบริหารจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐานให้กับผู้เรียนในการพัฒนาตนเอง และทำให้โครงงานได้รับการยอมรับและเป็นผลงานที่มีแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practice) ของศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอเขาฉกรรจ์

โพสต์โดย ผอ.หญิง : [22 ส.ค. 2567 (16:58 น.)]
อ่าน [1177] ไอพี : 49.228.120.158
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 1,024 ครั้ง
เตรียมพร้อม... เมื่อเข้าสตรีวัยทอง
เตรียมพร้อม... เมื่อเข้าสตรีวัยทอง

เปิดอ่าน 38,245 ครั้ง
Fast Math Trick จินตคณิต สูตรคิดเร็ว การหาร
Fast Math Trick จินตคณิต สูตรคิดเร็ว การหาร

เปิดอ่าน 22,709 ครั้ง
เรื่องของไม้ขีดไฟ
เรื่องของไม้ขีดไฟ

เปิดอ่าน 14,063 ครั้ง
ดูแลสุขภาพแบบไทย
ดูแลสุขภาพแบบไทย

เปิดอ่าน 20,526 ครั้ง
เปิดรายการ "ราคากลาง" ซ่อมรถหลังน้ำท่วม ป้องกันถูกเอาเปรียบ
เปิดรายการ "ราคากลาง" ซ่อมรถหลังน้ำท่วม ป้องกันถูกเอาเปรียบ

เปิดอ่าน 20,122 ครั้ง
ฟ้า กับ เหว
ฟ้า กับ เหว

เปิดอ่าน 4,886 ครั้ง
เหงื่อออกมือไม่ใช่สัญญาณของโรคหัวใจ
เหงื่อออกมือไม่ใช่สัญญาณของโรคหัวใจ

เปิดอ่าน 24,943 ครั้ง
เกษียณ65ปีทางแก้ประชากรสูงอายุ มีเงินเก็บ"4แสน"ก็อยู่ลำบาก
เกษียณ65ปีทางแก้ประชากรสูงอายุ มีเงินเก็บ"4แสน"ก็อยู่ลำบาก

เปิดอ่าน 8,200 ครั้ง
วิธีปลูกผักชีในกระถาง
วิธีปลูกผักชีในกระถาง

เปิดอ่าน 22,325 ครั้ง
ทำไมจึงเรียกขนมจีน
ทำไมจึงเรียกขนมจีน

เปิดอ่าน 14,151 ครั้ง
ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการจดทะเบียนเป็นสมาชิกคุรุสภา พ.ศ.2553
ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการจดทะเบียนเป็นสมาชิกคุรุสภา พ.ศ.2553

เปิดอ่าน 15,575 ครั้ง
ลายมือคนใจมีเมตตาธรรม
ลายมือคนใจมีเมตตาธรรม

เปิดอ่าน 12,694 ครั้ง
การศึกษาของเด็กไทยยุค Digital Society
การศึกษาของเด็กไทยยุค Digital Society

เปิดอ่าน 12,082 ครั้ง
กรมสุขภาพจิตชี้ตั้งชื่อลูกตามสุภาพบุรุษจุฑาเทพไม่มีพิษภัย
กรมสุขภาพจิตชี้ตั้งชื่อลูกตามสุภาพบุรุษจุฑาเทพไม่มีพิษภัย

เปิดอ่าน 17,338 ครั้ง
เลือดกำเดาไหล
เลือดกำเดาไหล

เปิดอ่าน 27,122 ครั้ง
ต้นคริสต์มาส
ต้นคริสต์มาส
เปิดอ่าน 16,724 ครั้ง
ไม่น่าเชื่อ! คลิปอาคารโรงเรียนบ้านพะเด๊ะ อ.แม่สอด จ.ตาก พังถล่มทั้งหลัง
ไม่น่าเชื่อ! คลิปอาคารโรงเรียนบ้านพะเด๊ะ อ.แม่สอด จ.ตาก พังถล่มทั้งหลัง
เปิดอ่าน 17,111 ครั้ง
แบ่งเกรดมหาลัย ความรวดร้าวของบัณฑิตจบใหม่
แบ่งเกรดมหาลัย ความรวดร้าวของบัณฑิตจบใหม่
เปิดอ่าน 29,169 ครั้ง
3 แหล่งเรียนรู้เด็ดให้เก่งภาษาอังกฤษขั้นเทพ
3 แหล่งเรียนรู้เด็ดให้เก่งภาษาอังกฤษขั้นเทพ
เปิดอ่าน 27,525 ครั้ง
พระกฤษณะ
พระกฤษณะ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ