ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รูปแบบการสอนคิดตามแนวทาง thinking School โดยใช้ทฤษฎีพหุปัญญา เพื่อพัฒนาครูโรงเรียนเมืองแคนวิทยาคม

ชื่อเรื่อง รูปแบบการสอนคิดตามแนวทาง Thinking School โดยใช้ทฤษฎีพหุปัญญา เพื่อพัฒนา

ครูโรงเรียนเมืองแคนวิทยาคม

ผู้วิจัย นายวีระ ชิดชม

ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะ ผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ

สถานศึกษา โรงเรียนเมืองแคนวิทยาคม ตำบลเมืองแคน อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ

สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ

ปีการศึกษา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาสภาพการสอนคิดตามแนวทาง Thinking School โดยใช้ทฤษฎีพหุปัญญา เพื่อพัฒนาครูโรงเรียนเมืองแคนวิทยาคม 2. เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนคิดตามแนวทาง Thinking School โดยใช้ทฤษฎีพหุปัญญา เพื่อพัฒนาครูโรงเรียนเมืองแคนวิทยาคม 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการสอนคิดตามแนวทาง Thinking School โดยใช้ทฤษฎีพหุปัญญา เพื่อพัฒนาครูโรงเรียนเมืองแคนวิทยาคม 4) เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการสอนคิดตามแนวทาง Thinking School โดยใช้ทฤษฎีพหุปัญญา เพื่อพัฒนาครูโรงเรียนเมืองแคนวิทยาคม ซึ่งผู้วิจัยได้ใช้วิธีการวิจัยและพัฒนา (Research & Development) มีขั้นตอน 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ผลการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานการสอนคิดตามแนวทาง Thinking School โดยใช้ทฤษฎีพหุปัญญา เพื่อพัฒนาครูโรงเรียนเมืองแคนวิทยาคม ขั้นที่ 1 ผลการศึกษาเอกสาร แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ขั้นที่ 2 ผลการศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะ และความต้องการ ระยะ ที่ 2 ผลการพัฒนารูปแบบการสอนคิดตามแนวทาง Thinking School โดยใช้ทฤษฎีพหุปัญญา เพื่อพัฒนาครูโรงเรียนเมืองแคนวิทยาคม ขั้นที่ 1 ผลการสร้างรูปแบบการสอนคิดตามแนวทาง Thinking School ขั้นที่ 2 ผลการประเมินคุณภาพของรูปแบบ ระยะที่ 3 ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอนคิดตามแนวทาง Thinking School โดยใช้ทฤษฎีพหุปัญญา เพื่อพัฒนาครูโรงเรียนเมืองแคนวิทยาคม ขั้นที่ 1 ผลการทดลองใช้รูปแบบ ขั้นที่ 2 ผลการศึกษาผล การใช้รูปแบบ ระยะที่ 4 การประเมินผลการใช้รูปแบบการสอนคิดตามแนวทาง Thinking School โดยใช้ทฤษฎีพหุปัญญา เพื่อพัฒนาครูโรงเรียนเมืองแคนวิทยาคม ขั้นที่ 1 การประเมินผลการใช้รูปแบบ ขั้นที่ 2 การศึกษาข้อเสนอแนะ และความคิดเห็นเพิ่มเติม กลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้บริหาร ครู จำนวน 18 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 ที่ร่วมกิจกรรม “การสอนคิดตามแนวทาง Thinking School” ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 167 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) โดยใช้ผู้บริหาร ครู และนักเรียนทั้งหมดในการวิจัย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) เครื่องมือที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ได้แก่ รูปแบบฯ คู่มือ และแผนการจัดการเรียนรู้ในการสอนคิดตามแนวทาง Thinking School โดยใช้ทฤษฎีพหุปัญญา เพื่อพัฒนาครูโรงเรียนเมืองแคนวิทยาคม 2) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบประเมินสมรรถนะการสอนคิดตามแนวทาง Thinking School โดยใช้ทฤษฎีพหุปัญญา เพื่อพัฒนาครูโรงเรียนเมืองแคนวิทยาคม เป็นชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ ด้านการจัดการเรียนรู้ มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.58 – 0.87 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .90 ด้านกระบวนการสอนคิด มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.65 – 0.85 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .80 และด้านการวัดและประเมินผล) มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.67 – 0.86 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .92 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้

1. สภาพการจัดการเรียนรู้ในการสอนคิดตามแนวทาง Thinking School โดยใช้ทฤษฎีพหุปัญญา เพื่อพัฒนาครูโรงเรียนเมืองแคนวิทยาคม พบว่า พหุปัญญา ประกอบด้วย 1) ด้านภาษา 2) ด้านตรรกะ 3) ด้านมิติสัมพันธ์ 4) ด้านดนตรี 5) ด้านร่างกาย 6) ด้านความเข้าใจผู้อื่น 7) ด้านการเข้าใจตนเอง 8) ด้านธรรมชาติ และ 9) ด้านการคงอยู่ของชีวิต ส่วนในการสอนคิดและการเสริมสร้างพหุปัญญา พบว่า โรงเรียนมีหลักสูตร การจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล แต่ยังไม่มีรูปแบบที่เป็นรูปธรรมที่สามารถนำไปปฏิบัติ ยังขาดการนำเนื้อหาและกิจกรรมในแต่ละสาระการเรียนรู้มาบูรณาการสอนคิดตามแนวทาง Thinking School ครูยังขาดแรงจูงใจ ความรู้ความเข้าใจ และทักษะในการ สอนคิด

2. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ มีองค์ประกอบสำคัญ 5 ประการ ได้แก่

1) ความเป็นมาและความสำคัญ 2) หลักการ 3) จุดมุ่งหมาย 4) กระบวนการจัดการเรียนรู้

ซึ่งมี 4 ขั้นตอน ได้แก่ 4.1) ขั้นการระบุปัญหา (Identify the problem) 4.2) ขั้นวางแผนพัฒนา (Plan) 4.3) ขั้นปฏิบัติการ(Do) และ 4.4) ขั้นสรุปองค์ความรู้และนำเสนองาน (Conclusion) และ 5) การวัดและประเมินผล มีผลการประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ในภาพรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด

( = 4.52, S.D.= 0.78) ผ่านเกณฑ์ที่ตั้งไว้ทุกด้าน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านโดยใช้เกณฑ์คุณภาพ 3.50 ขึ้นไป พบว่า 1) ด้านความเป็นประโยชน์ อยู่ในระดับ มากที่สุด (= 4.55, S.D.= 0.82) 2) ด้านความเป็นไปได้ อยู่ในระดับ มาก ( = 4.49, S.D.= 0.76) 3) ด้านเหมาะสม อยู่ในระดับ มากที่สุด ( = 4.53,S.D.=0.81) 4) ด้านความถูกต้อง อยู่ในระดับ มากที่สุด( = 4.54, S.D.= 0.76)

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ปรากฏดังนี้

3.1 ผลการประเมินสมรรถนะการสอนคิดตามแนวทาง Thinking School โดยใช้ทฤษฎีพหุปัญญา เพื่อพัฒนาครูโรงเรียนเมืองแคนวิทยาคม ทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านการจัดการเรียนรู้

ในภาพรวม อยู่ในระดับ มาก ( = 4.28, S.D.= 0.85) เมื่อพิจารณาจากค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 อันดับ พบว่า ด้านที่ 1 ด้านภาษา อยู่ในระดับ มากที่สุด ( = 4.75, = 0.80) รองลงมาคือ ด้านที่ 5 ด้านร่างกาย อยู่ในระดับ มาก ( = 4.42, S.D. = 0.91) และรองลงมาคือ ด้านที่ 7 ด้านการเข้าใจตนเอง อยู่ในระดับ มาก ( = 4.36, S.D.= 0.82) ตามลำดับ ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ ด้านที่ 2 ด้านการเข้าใจธรรมชาติ อยู่ในระดับ มาก ( = 4.03, S.D.= 0.89)

3.2 ผลการประเมินพหุปัญญาของนักเรียนโรงเรียนเมืองแคนวิทยาคม ทั้ง 9 ด้าน

ได้แก่ 1) ด้านภาษา 2) ด้านตรรกะ 3) ด้านมิติสัมพันธ์ 4) ด้านดนตรี 5) ด้านร่างกาย 6) ด้านความเข้าใจผู้อื่น 7) ด้านการเข้าใจตนเอง 8) ด้านการเข้าใจธรรมชาติ 9) ด้านการคงอยู่ของชีวิต ในภาพรวม

อยู่ในระดับ มากที่สุด ( = 4.29, S.D.= 0.83)

4. ผลการประเมินผลการใช้รูปแบบการสอนคิดตามแนวทาง Thinking School โดยใช้ทฤษฎีพหุปัญญา เพื่อพัฒนาครูโรงเรียนเมืองแคนวิทยาคม ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก

( = 4.41, S.D.= 0.80) ข้อที่มีความระดับคุณภาพมากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ ข้อที่ 4 แนวทางการจัดกิจกรรมการสอนคิดตามรูปแบบ อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.55, S.D. = 0.80) รองลงมาคือ

ข้อที่ 6 รูปแบบการสอนคิดตามแนวทาง Thinking School โดยใช้ทฤษฎีพหุปัญญา อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.51, S.D.= 0.82) และรองลงมาคือ ข้อที่ 1 รูปแบบสามารถแก้ไขสภาพปัญหา และความต้องการได้อยู่ในระดับมาก ( = 4.45, S.D.= 0.80) และข้อที่มีระดับคุณภาพน้อยที่สุดคือ ข้อที่ 8 สามารถนำรูปแบบไปประยุกต์ใช้ในสถานศึกษาได้ อยู่ในระดับมาก ( = 4.22, S.D.= .85)

โพสต์โดย ผู้อำนวยการวีระ ชิดชม : [21 ส.ค. 2567 (17:12 น.)]
อ่าน [112] ไอพี : 125.24.28.32
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 7,898 ครั้ง
เชิญเข้าร่วมกิจกรรมอบรม "สิทธิผู้ใช้อินเทอร์เน็ตฯ..."
เชิญเข้าร่วมกิจกรรมอบรม "สิทธิผู้ใช้อินเทอร์เน็ตฯ..."

เปิดอ่าน 19,542 ครั้ง
(ก.ค.ศ.)การจ่ายค่าตอบแทนมีความสำคัญยิ่งในฐานะเป็นหน้าที่หลักประการหนึ่งของหน่วยงาน
(ก.ค.ศ.)การจ่ายค่าตอบแทนมีความสำคัญยิ่งในฐานะเป็นหน้าที่หลักประการหนึ่งของหน่วยงาน

เปิดอ่าน 149,237 ครั้ง
ขอให้หายไวๆ ภาษาอังกฤษคืออะไร
ขอให้หายไวๆ ภาษาอังกฤษคืออะไร

เปิดอ่าน 15,730 ครั้ง
สะกดชื่อเป็นภาษาอังกฤษผ่านทางโทรศัพท์แล้วฟังกันไม่รู้เรื่องใช่มั๊ย เรามีทางช่วย
สะกดชื่อเป็นภาษาอังกฤษผ่านทางโทรศัพท์แล้วฟังกันไม่รู้เรื่องใช่มั๊ย เรามีทางช่วย

เปิดอ่าน 22,049 ครั้ง
อัตราเบี้ยเลี้ยงเดินทางในราชอาณาจักร ในลักษณะเหมาจ่าย
อัตราเบี้ยเลี้ยงเดินทางในราชอาณาจักร ในลักษณะเหมาจ่าย

เปิดอ่าน 14,341 ครั้ง
ความพอเพียงของสื่อคอมพิวเตอร์มัลติมีเดียเพื่อการศึกษา
ความพอเพียงของสื่อคอมพิวเตอร์มัลติมีเดียเพื่อการศึกษา

เปิดอ่าน 8,090 ครั้ง
School Change Maker festival พลิกโฉมโรงเรียน ป.1 อ่านออกเขียนได้ใน 1 ปี
School Change Maker festival พลิกโฉมโรงเรียน ป.1 อ่านออกเขียนได้ใน 1 ปี

เปิดอ่าน 4,464 ครั้ง
7 กิจกรรมวันหยุด ชาร์จแบตตัวเองก่อนเริ่มทำงาน
7 กิจกรรมวันหยุด ชาร์จแบตตัวเองก่อนเริ่มทำงาน

เปิดอ่าน 12,273 ครั้ง
จากหัวใจดวงน้อยๆ ที่อยากบอกรักพ่อหลวง ผ่านบทเพลง "เล่าสู่หลานฟัง"
จากหัวใจดวงน้อยๆ ที่อยากบอกรักพ่อหลวง ผ่านบทเพลง "เล่าสู่หลานฟัง"

เปิดอ่าน 7,265 ครั้ง
ว่าด้วยการเรียนและการสอบ คอลัมน์ ฝ่ากำแพงเมืองจีน
ว่าด้วยการเรียนและการสอบ คอลัมน์ ฝ่ากำแพงเมืองจีน

เปิดอ่าน 77,979 ครั้ง
ขั้นตอนวิธีการจุดธูปบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ขั้นตอนวิธีการจุดธูปบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์

เปิดอ่าน 12,417 ครั้ง
วิธีการปลอกเปลือกไข่ต้มที่สมบูรณ์แบบและรวดเร็วที่สุด
วิธีการปลอกเปลือกไข่ต้มที่สมบูรณ์แบบและรวดเร็วที่สุด

เปิดอ่าน 16,985 ครั้ง
สายตาสั้น
สายตาสั้น

เปิดอ่าน 14,207 ครั้ง
แนวปฎิบัติการจัดทำเอกสารหลักฐานการศึกษาสำหรับโรงเรียนต้นแบบและโรงเรียนพร้อมใช้หลักสูตรแกนกลางฯ2551
แนวปฎิบัติการจัดทำเอกสารหลักฐานการศึกษาสำหรับโรงเรียนต้นแบบและโรงเรียนพร้อมใช้หลักสูตรแกนกลางฯ2551

เปิดอ่าน 99,891 ครั้ง
การหาประสิทธิภาพสื่อ
การหาประสิทธิภาพสื่อ

เปิดอ่าน 18,988 ครั้ง
ปลูกมะนาวนอกฤดู 1 ไร่ ได้ 1 แสน
ปลูกมะนาวนอกฤดู 1 ไร่ ได้ 1 แสน
เปิดอ่าน 8,556 ครั้ง
จริงหรือที่คนมีสมองขนาดใหญ่ฉลาดมากกว่าคนที่มีสมองขนาดเล็ก ? หาคำตอบได้ที่นี่!
จริงหรือที่คนมีสมองขนาดใหญ่ฉลาดมากกว่าคนที่มีสมองขนาดเล็ก ? หาคำตอบได้ที่นี่!
เปิดอ่าน 21,751 ครั้ง
เปลือกผลไม้ ไม่ไร้ค่า
เปลือกผลไม้ ไม่ไร้ค่า
เปิดอ่าน 13,139 ครั้ง
3 เรื่องที่ต้องรู้ "ตั้งเป้ารวยก่อนแก่"
3 เรื่องที่ต้องรู้ "ตั้งเป้ารวยก่อนแก่"
เปิดอ่าน 11,762 ครั้ง
เตือนกินเค็มจัดเป็นมะเร็งกระเพาะ ยังทำให้ความดันโลหิตถีบตัวขึ้นสูง
เตือนกินเค็มจัดเป็นมะเร็งกระเพาะ ยังทำให้ความดันโลหิตถีบตัวขึ้นสูง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ