|
|
ที่มาและความสำคัญของแนวปฏิบัติที่ดี
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 รวมถึงนโยบายด้านการศึกษาต่างมีอุดมการณ์และหลักการจัดการการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้และเพื่อให้คนไทยทั้งปวงได้รับโอกาสเท่าเทียมกันทางการศึกษา เป็นการศึกษาตลอดชีวิตเพื่อคนไทยทั้งปวง มุ่งสร้างพื้นฐานที่ดีในวัยเด็กและพัฒนาความรู้ความสามารถเพื่อการทำงานอย่างมีคุณภาพ ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ให้สถานศึกษาดำเนินการจัดเนื้อหาสาระและกิจกรรมให้สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรียน โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกปฏิบัติ ให้ทำได้ คิดเป็นและเกิดการใฝ่รู้อย่างต่อเนื่อง การศึกษาจึงเป็นสิ่งสำคัญในการวางรากฐานเพื่อพัฒนาคนให้มีทักษะและสมรรถนะที่จำเป็น สามารถปรับตัวให้อยู่ในสังคมโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบันและอนาคต ดังนั้นการศึกษาต้องปรับเปลี่ยนจากการให้ความสำคัญกับความรู้มาเป็นการให้ความสำคัญกับกระบวนการคิดของผู้เรียนและทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ซึ่งคุณครูต้องพัฒนาตนเองให้มีทักษะของการเรียนรู้ด้วยและในขณะเดียวกันคุณครูต้องยึดหลักสอนน้อยเรียนมาก (Teach Less Learn More) โดยเป็นผู้อำนวยความสะดวก(Facilitator) เป็นผู้ชี้แนะ (Mentor) เปลี่ยนกระบวนการจัดการเรียนรู้เป็นแบบ Active Learning เชื่อมโยงนักเรียนกับบริบทของสังคมและคิดหาวิธีแก้ปัญหาหรือพัฒนาโดยใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อสร้างความรู้และใช้ความรู้ให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม
การนิเทศมีความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาย่างยิ่ง เพราะการนิเทศการศึกษาเป็นการรวมความคิดทางสมองของผู้ให้การนิเทศ ผู้รับการนิเทศและผู้สนับสนุนการนิเทศเข้าด้วยกัน มีการกำกับติดตามเป็นแบบผสมผสาน สังเกตุชั้นเรียน เยี่ยมชั้นเรียน เน้นกระบวนการนิเทศที่เป็นระบบและมีความต่อเนื่อง สร้างทีมและเครือข่ายการนิเทศให้เกิดพลังและพัฒนาศักยภาพผู้ให้และผู้รับการนิเทศอยู่เสมอ สร้างบรรยากาศเป็นกันเอง สร้างความเข้าใจอันดีต่อกันและทำให้ผู้รับการนิเทศค้นพบวิธีการทำงานที่ดีกว่า เพื่อผลสุดท้ายที่แท้จริงคือการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนและคุณภาพการศึกษาให้บรรลุจุดหมายของหลักสูตรและนักเรียนมีคุณภาพตามที่มุ่งหวังไว้ทุกประการ เป็นการส่งเสริมและสร้างสรรค์การใช้กระบวนการนิเทศไปขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงศึกษาธิการและการดำเนินงานของโรงเรียนให้สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มคุณภาพการจัดการเรียนการสอนและเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โดยใช้กระบวนการนิเทศเป็นกลไกขับเคลื่อนส่งเสริม สนับสนุนและเพิ่มคุณภาพการจัดการเรียนการสอน พัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานหลักสูตรและทักษะพื้นฐานสำหรับการดำรงชีวิต
โรงเรียนสุมเส้าพิทยาคาร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุดรธานี เป็นโรงเรียนมัธยมขนาดกลาง จากการศึกษาสภาพปัจจุบันที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการนิเทศภายในโรงเรียนไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากครูและบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียนส่วนใหญ่ ไม่ตระหนักว่าตนมีส่วนสำคัญที่จะผลักดันให้เกิดการพัฒนา คิดว่าเป็นการไปสังเกตการสอนของครูในชั้นเรียนและไม่รู้จุดมุ่งหมายที่แท้จริงของการนิเทศว่าเป็นไปเพื่อความร่วมมือร่วมใจกันพัฒนาบุคลากรทุกคน เนื่องจากเข้าใจว่าการนิเทศเป็นการไปตรวจสอบ จับผิด ประเมินวิพากษ์วิจารณ์ นวัตกรรมใหม่ๆทางการนิเทศไม่ได้นำมาใช้เพื่อสนับสนุนให้เกิดการนิเทศภายในโรงเรียนอย่างแท้จริง แม้โรงเรียนจะมีการพัฒนาบุคลากรต่อเนื่องแต่ครูยังไม่สามารถนำความรู้ ทักษะ มาใช้ในการจัดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพส่งผลต่อการพัฒนาผู้เรียนไม่เต็มตามศักยภาพ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนไม่อยู่ในเกณฑ์ที่พอใจ อีกทั้งครูและบุคลากรทางการศึกษายังขาดความร่วมมือและการบูรณาการในการจัดการเรียนการสอน ขาดโอกาสที่จะวิเคราะห์ความผิดพลาดที่ผ่านมาและใช้ประโยชน์จากความผิดพลาดนั้นสำหรับการขจัดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในครั้งต่อๆไป และความแตกต่างระหว่างบุคคลก็เป็นปัญหาที่สำคัญต่อการประสานงานและการทำงานร่วมกันได้
ด้วยสภาพการจัดการศึกษาดังกล่าว โรงเรียนสุมเส้าพิทยาคาร จึงได้ดำเนินการพัฒนาการนิเทศการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก(Active Learning) ด้วยกระบวนการ STICCRE-5P เพื่อเป็นแนวทางในการส่งเสริมและพัฒนาการจัดการเรียนรู้ของผู้เรียนให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลและใช้เป็นข้อมูลสารสนเทศของบุคลากรและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา ซึ่งจะพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้มีคุณภาพและเป็นที่พึงพอใจและประสบความสำเร็จต่อไป
|
โพสต์โดย เกษมศักดิ์ ฆ้องลา : [21 ส.ค. 2567 (11:29 น.)] อ่าน [1181] ไอพี : 1.20.178.124
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 76,337 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 13,302 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 7,048 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 44,033 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 34,412 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 23,877 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,397 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 19,588 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 18,335 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 16,961 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 22,226 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 79,671 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,186 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,074 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,335 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 13,107 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 16,128 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 98,931 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 37,541 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 110,532 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|