ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ประกอบการใช้สื่อประสม เรื่อง เศษส่วน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านทุ่งมะพร้าว

ชื่อวิจัย: การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ประกอบการใช้สื่อประสม เรื่อง เศษส่วน

เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านทุ่งมะพร้าว

ผู้วิจัย: นิติรัตน์ แสงเผือก ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ

สถานที่ทำงาน: โรงเรียนบ้านทุ่งมะพร้าว อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระนอง

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

กระทรวงศึกษาธิการ

ปีที่พัฒนา: 2566

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์การวิจัย 1)เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ประกอบ การใช้สื่อประสม เรื่อง เศษส่วน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านทุ่งมะพร้าว ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้สื่อประสม และ 3)เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ประกอบการใช้สื่อประสม เรื่อง เศษส่วน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านทุ่งมะพร้าว กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านทุ่งมะพร้าว อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระนอง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 31 คน ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ 1)สื่อประสม เรื่อง เศษส่วน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านทุ่งมะพร้าว จำนวน 9 เล่ม 2) แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ประกอบการใช้สื่อประสม เรื่อง เศษส่วน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านทุ่งมะพร้าว จำนวน 18 แผนๆ ละ 1 ชั่วโมง รวมทั้ง 18 ชั่วโมง ซึ่งปรากฎรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกแบบร่วมมือบูรณาการสื่อประสม (Cooperative Active Learning integrated with Multimedia: CALM) มีองค์ประกอบ 4 องค์ประกอบ คือ 1) แนวคิดและหลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ และ 4) การวัดและประเมินผล โดยมีรายละเอียดดังนี้

องค์ประกอบ 1 แนวคิดและหลักการ

รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกแบบร่วมมือบูรณาการสื่อประสม (CALM) เกิดจากการบูรณาการแนวคิดสำคัญสองแนวคิด คือ การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) เข้ากับการจัด การเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) นอกจากนั้นยังมีการประยุกต์ใช้สื่อประสม (Multimedia) ที่เหมาะสมกับเนื้อหาและระดับความสามารถของนักเรียน

องค์ประกอบ 2 วัตถุประสงค์

รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกแบบร่วมมือบูรณาการสื่อประสม (CALM) มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ และเจตคติต่อการเรียนคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านทุ่งมะพร้าว

องค์ประกอบ 3 ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้

รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกแบบร่วมมือบูรณาการสื่อประสม (CALM) มีขั้นตอนการจัด การเรียนรู้จำนวน 4 ขั้นตอนที่เรียกแบบย่อว่า ECSA (อ่านว่า เอ็คซ่า) โดยมีรายละเอียดดังนี้

ขั้นที่ 1 การสร้างการมีส่วนร่วมผ่านการเล่นเกม (Engagement through Play Games)

ครูทดสอบความรู้เดิม (prior knowledge) ของนักเรียนเพื่อให้มั่นใจว่า นักเรียนมีความรู้เดิมที่เพียงพอต่อการเรียนเนื้อหาใหม่ จากนั้นครูเตรียมความพร้อมของนักเรียนก่อนนำเข้าสู่บทเรียนโดยสอดแทรกการเล่นเพื่อการเรียนรู้ (play and learn) ผ่านกิจกรรมเกม (games) เพื่อให้นักเรียนเกิดการตื่นตัว ตื่นเต้น และรู้สึกสนุกสนานกับการเรียนรู้ โดยใช้สื่อประสม คือ เกมประกอบการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านทุ่งมะพร้าว โดยให้นักเรียนร่วมกันเล่นเกมทายใจ เกมนับเลข เกมจับคู่ดูตัว เกมวงล้อมหาสนุก เกมปฏิทินรวมร่าง เกมเปิดป้ายจับคู่ เกมตักลูกอม เกมรวมเงิน เกมตระกร้าเสี่ยงโชค เกมตกปลา เกมถอดรหัส เกมบิงโก้ เกมบันไดงู เกมเศรษฐี และเกมโดมิโน่ เกมสื่อประสมที่สร้างขึ้นอาจเกิดจากความสงสัยหรือความสนใจของตัวนักเรียนเอง

ขั้นที่ 2 การเรียนรู้เชิงรุกแบบร่วมมือด้วยสื่อประสม (Cooperative Active Learning With Multimedia)

ครูให้นักเรียนได้เรียนรู้เชิงรุกแบบร่วมมือ Cooperative Active Learning ด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือที่เรียกว่า TGT (Teams-Games -Tournaments) โดยมีการบูรณาการสื่อประสม (Multimedia) เข้าไปในการจัดการเรียนรู้ด้วย กล่าวคือ มีการใช้ชุดหนังสือการ์ตูนเสริมประสบการณ์ (Experience Cartoon Book Set) และหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) เพื่อช่วยให้ของนักเรียนสร้างองค์ความรู้ใหม่ด้วยตนเองตามทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (constructivism) ด้วยการเชื่อมโยงความรู้และประสบการณ์เดิมของตนเองกับประสบการณ์ใหม่ผ่านการลงมือปฏิบัติจริงด้วยกระบวนการทำงานเป็นกลุ่มแบบร่วมมือ ประกอบด้วย 4 กิจกรรม ดังนี้

กิจกรรมที่ 1 ฝึกการแก้ปัญหาโดยวิธีของโพลยา (Polya)

กิจกรรมที่ 2 จัดกลุ่มแบบคละกัน (Home Team) กลุ่มละ 3-4 คน ประกอบนักเรียน ที่มีความรู้ เก่ง ปานกลาง และอ่อนคละกันร่วมกันเรียนรู้ด้วยชุดหนังสือการ์ตูนเสริมประสบการณ์

กิจกรรมที่ 3 นักเรียนแข่งขันตอบปัญหาเกี่ยวกับเนื้อเรื่องที่เรียนมาจากชุดหนังสือการ์ตูนเสริมประสบการณ์

กิจกรรมที่ 4 นักเรียนจับคู่ศึกษาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) เพื่อขยายความรู้จากการเรียนรู้

ขั้นที่ 3 การสรุปการเรียนรู้ (Summary of Learning)

นักเรียนสรุปผลการเรียนรู้ที่เป็นแนวคิดรวบยอด (key conception) ผ่านการนำเสนอ ด้วยวิธีการที่เหมาะสม เช่น การบรรยายสรุปหน้าชั้น การยกตัวอย่างประกอบการอธิบาย การตอบคำถามที่สงสัย และการเขียนแผนผังแนวคิด (mind mapping) ครูตรวจสอบการสรุปของนักเรียนด้วยวิธีการและเครื่องมือที่เหมาะสมและหลากหลาย เช่น ตรวจสอบความถูกต้องของแนวคิดรวบยอดเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า นักเรียนทุกคนได้เกิดแนวคิดรวบยอดที่ถูกต้อง นอกจากนั้นครูอาจสรูปการเรียนรู้ด้วยวีดีทัศน์ประกอบการเรียนอีกครั้ง

ขั้นที่ 4 การประยุกต์ใช้ (Application of Learning)

นักเรียนฝึกนำความรู้สรุปไปใช้คณิตศาสตร์ในชีวิตประจำวันประจำวัน (mathematics in everyday life) ซึ่งเป็นหนึ่งใน 4 สมรรถนะหลักเกี่ยวกับคนไทยฉลาดรู้ (Literate Thais) นักเรียนขยายแนวคิดผ่านการประยุกต์ใช้ความรู้ที่สร้างขึ้นในสถานการณ์ใหม่ผ่านการทำแบบฝึกทักษะ จากนั้นครูประเมินการเรียนรู้ของนักเรียนตามจุดประสงค์การเรียนรู้ที่ตั้งไว้โดยใช้วิธีการและเครื่องมือที่เหมาะสม เช่น การทำแบบทดสอบหลังเรียน (post-test) การตรวจชิ้นงานด้วยเกณณฑ์การให้คะแนน (scoring rubric) จากนั้นจัดทำรายงานผลการพัฒนาเป็นรายบุคคล

องค์ประกอบที่ 4 การวัดและประเมินผล

การวัดและประเมินผลในการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกแบบร่วมมือบูรณาการสื่อประสมเน้นการประเมินตามสภาพจริง (Authentic Assessment) ที่เน้นการประเมินการแสดงออกถึงกระบวนการทำงานผ่านการปฏิบัติเพื่อค้นหาศักยภาพหรือคุณลักษณะที่แท้จริงของผู้เรียน โดยประเมินจากการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ การตรวจใบงาน/ ใบกิจกรรม/ ผลงาน/ ชิ้นงาน การสนทนาระหว่างเรียน เป็นต้น นอกจากนั้นยังให้ความสำคัญกับการประเมินระหว่างทาง (Formative Assessment) ที่เน้นการประเมินเพื่อการเรียนรู้ (Assessment for Learning) ด้วยการการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การถาม-ตอบหรือการแสดงออกในห้องเรียน เป็นต้น ดังภาพประกอบที่ 2 ดังนี้

ภาพรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกแบบร่วมมือบูรณาการสื่อประสม (Cooperative Active Learning

integrated with Multimedia: CALM)

3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแบบปรนัยคู่ขนาน 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ 4) แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ปรนัยคู่ขนาน 4 ตัวเลือก จำนวน 30 และ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลครั้งนี้ ประกอบด้วย ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมุติฐานด้วยค่าที

ปรากฏผลการพัฒนา ดังนี้

1. ประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ประกอบการใช้สื่อประสม เรื่อง เศษส่วน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 5 โรงเรียนบ้านทุ่งมะพร้าว มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 82.62/83.47 ซึ่งเป็นตามเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้ 80/80

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ประกอบการใช้สื่อประสม ปรากฏผลพัฒนาดังนี้

1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 5 ของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ประกอบการใช้สื่อประสม อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01

2) ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ประกอบการใช้สื่อประสม อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05

3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่ต่อการเรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ประกอบการใช้สื่อประสม เรื่อง เศษส่วน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านทุ่งมะพร้าว มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (x ̅= 4.36, S.D=0.37)

สรุปได้ว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ประกอบการใช้สื่อประสม เรื่อง เศษส่วน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 5 โรงเรียนบ้านทุ่งมะพร้าว ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ที่กำหนด ส่งให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ และทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน ของนักเรียนชั้นประถม ศึกษาปีที่ 5 และความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยสื่อประสมที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นนั้นเป็นที่น่าพอใจ

โพสต์โดย krunitirat : [15 ส.ค. 2567 (14:39 น.)]
อ่าน [585] ไอพี : 49.237.202.192
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,910 ครั้ง
ดูวิวัฒนาการใบหน้าบรรพบุรุษสู่มนุษย์ยุคใหม่ - 6 ล้านปีใน 1 นาที
ดูวิวัฒนาการใบหน้าบรรพบุรุษสู่มนุษย์ยุคใหม่ - 6 ล้านปีใน 1 นาที

เปิดอ่าน 3,138 ครั้ง
เขียน Resume อย่างไรให้ได้งานดี
เขียน Resume อย่างไรให้ได้งานดี

เปิดอ่าน 82,830 ครั้ง
"ครูผู้เสียสละ" ภาพยนตร์สั้นเชิดชูพระคุณครู เนื่องในวันครู พ.ศ.2563 โดย เซเว่นอีเลฟเว่น
"ครูผู้เสียสละ" ภาพยนตร์สั้นเชิดชูพระคุณครู เนื่องในวันครู พ.ศ.2563 โดย เซเว่นอีเลฟเว่น

เปิดอ่าน 16,050 ครั้ง
11 กิจกรรมดี ๆ ช่วงปิดเทอม
11 กิจกรรมดี ๆ ช่วงปิดเทอม

เปิดอ่าน 29,011 ครั้ง
เลิกโทษเด็กนักเรียนได้ไหม? คอลัมน์สุจิตต์ วงษ์เทศ
เลิกโทษเด็กนักเรียนได้ไหม? คอลัมน์สุจิตต์ วงษ์เทศ

เปิดอ่าน 11,195 ครั้ง
น้ำคั้นหัวบีทรู้ท ช่วยลดความดันได้ชัวร์
น้ำคั้นหัวบีทรู้ท ช่วยลดความดันได้ชัวร์

เปิดอ่าน 27,739 ครั้ง
"พลู" สมุนไพรไทย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต
"พลู" สมุนไพรไทย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต

เปิดอ่าน 10,045 ครั้ง
หลากหลายวิธี ช่วยให้อารมณ์ดีทันตาเห็น
หลากหลายวิธี ช่วยให้อารมณ์ดีทันตาเห็น

เปิดอ่าน 33,017 ครั้ง
ข้อปฏิบัติสำหรับการก่อสร้างอาคารเรียนแบบ ( สปช. 105/29 ) ( สปช. 2/28 3ชั้น ) ( สปช. 2/28 4 ชั้น)
ข้อปฏิบัติสำหรับการก่อสร้างอาคารเรียนแบบ ( สปช. 105/29 ) ( สปช. 2/28 3ชั้น ) ( สปช. 2/28 4 ชั้น)

เปิดอ่าน 10,742 ครั้ง
ถึงเวลา"ยกเครื่อง" สทศ. เรียกศรัทธา...ระบบทดสอบชาติ!!
ถึงเวลา"ยกเครื่อง" สทศ. เรียกศรัทธา...ระบบทดสอบชาติ!!

เปิดอ่าน 13,707 ครั้ง
โซเชียลแชร์ กระดาษคำตอบแบบใหม่ กันลอกข้อสอบ
โซเชียลแชร์ กระดาษคำตอบแบบใหม่ กันลอกข้อสอบ

เปิดอ่าน 29,365 ครั้ง
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการสื่อสารข้อมูล
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการสื่อสารข้อมูล

เปิดอ่าน 126,511 ครั้ง
เตือนข้าราชการ นอกใจ มีชู้ มีกิ๊ก โดนโทษวินัย โทษมีตั้งแต่ตัดเงินเดือนจนถึงไล่ออก
เตือนข้าราชการ นอกใจ มีชู้ มีกิ๊ก โดนโทษวินัย โทษมีตั้งแต่ตัดเงินเดือนจนถึงไล่ออก

เปิดอ่าน 21,142 ครั้ง
สรรพคุณทางยาของ "ผักหวานบ้าน"
สรรพคุณทางยาของ "ผักหวานบ้าน"

เปิดอ่าน 9,100 ครั้ง
รู้จักเลือก...รู้จักเลี่ยง ไม่เสี่ยงเป็นความดันโลหิตสูง
รู้จักเลือก...รู้จักเลี่ยง ไม่เสี่ยงเป็นความดันโลหิตสูง

เปิดอ่าน 25,017 ครั้ง
รู้จักภาษาอังกฤษดีพอหรือยัง
รู้จักภาษาอังกฤษดีพอหรือยัง
เปิดอ่าน 9,435 ครั้ง
จิตตานุปัสสนาที่ควรรู้
จิตตานุปัสสนาที่ควรรู้
เปิดอ่าน 14,151 ครั้ง
คลิปรายการ "เจาะข่าวเด่น" ดร.ชินภัทร ชี้แจงกรณี "ลดการบ้านนักเรียน"
คลิปรายการ "เจาะข่าวเด่น" ดร.ชินภัทร ชี้แจงกรณี "ลดการบ้านนักเรียน"
เปิดอ่าน 26,745 ครั้ง
เคล็ดลับสำหรับบ้านไม้ ทำอย่างไรให้ไร้ปลวก
เคล็ดลับสำหรับบ้านไม้ ทำอย่างไรให้ไร้ปลวก
เปิดอ่าน 12,310 ครั้ง
เคล็ดลับความอ่อนเยาว์ของสาวเอเชีย
เคล็ดลับความอ่อนเยาว์ของสาวเอเชีย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ