ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การบริหารจัดการสร้างคนดีศรีบางมัน โดยใช้รูปแบบ BANGMUN MODEL

รายละเอียดเอกสารการนำเสนอผลงาน/นวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice )

1. ความสำคัญของผลงาน/นวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice)

1.1 เหตุผลที่เกิดแรงบันดาลใจ ความจำเป็น ปัญหาหรือความต้องการที่จะให้ทำผลงาน/

นวัตกรรมท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงในยุคโลกาภิวัตน์ ทำให้สังคมไทยต้องเผชิญกับปัญหาหลายด้าน ที่เกิดจากปัญหาด้านจิตใจของคนในสังคมที่เสื่อมลงทั้ง ทางด้านศีลธรรม วัฒนธรรม การเมือง เศรษฐกิจและสังคม ก่อให้เกิดปัญหาที่สำคัญ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น

ที่มีสาเหตุมาจากปัญหาด้านคุณธรรมจริยธรรมที่สั่งสมโดยไม่รู้ตัวตั้งแต่วัยเยาว์ และเมื่อกล่าวถึง

“การทุจริต” หรือ “การคอร์รัปชั่น”มักเข้าใจกันง่าย ๆว่าหมายถึง“การโกง” นั่นเอง หรือ การไม่ซื่อสัตย์สุจริต ของบุคคล หรือกลุ่มบุคคล ที่ร่วมมือกันทำความชั่วโดยเจตนา มีการไตร่ตรอง วางแผนอย่างมีขั้นตอน ปัจจุบันปัญหาคอรัปชั่นจึงถือได้ว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นในประเทศต่างๆ ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วหรือประเทศที่ด้อยพัฒนา และการคอรัปชั่นได้กลายมาเป็นปัญหาที่มีความสำคัญที่สุดปัญหาหนึ่งของหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทย โดยปัญหานี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะหมดไปอีกทั้งยังทวีความรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าหลายประเทศได้ก้าวเข้าสู่ความทันสมัยมีระบบการบริหารราชการสมัยใหม่มีการรณณรงค์เพื่อแก้ปัญหาก็ตาม จึงทำให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการศึกษาได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาสถานศึกษาให้เป็นองค์กรคุณธรรม” โดยต้องมุ่งสร้างพื้นฐานให้ผู้เรียนเป็น “คนดี” เพราะถ้าผู้เรียนเป็นคนดีตั้งแต่เด็ก เขาก็จะคิดดี ทำดี สร้างประโยชน์ให้สังคมและอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข พระราชกระแสรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่ว่า “ช่วยกันสร้างคนดีให้บ้านเมือง” และพระราชกระแสรับสั่งของในหลวงรัชกาลที่ 10 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2559 ที่ว่า “เพื่อสืบสาน พระราชปณิธาน และเพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวไทยทั้งปวง” ซึ่งทรงรับสั่งให้ดำเนินตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยต้องการให้ทุกคนทำเพื่อบ้านเมืองและประชาชน โดยมีพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ์

บดินทรเทพยวรางกูรทรงมีกระแสรับสั่งให้จัดการศึกษาโดยต้องมุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียน ใน

4 เรื่อง คือ 1.ทัศนคติที่ถูกต้อง 2.พื้นฐานชีวิตที่มั่นคงเข้มแข็ง 3.มีอาชีพ มีงานทำ และ 4.เป็นพลเมืองดี ดังนั้น หน่วยงานทางการศึกษาจึงได้กำหนดนโยบาย แผน หลักสูตร ล้วนมุ่งที่จะเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมให้เกิดขึ้นในสังคมไทยยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 - 2564) ยุทธศาสตร์ ที่ 1 “สร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต” ได้มุ่งเน้นให้ความสำคัญในกระบวนการปรับสภาพสังคมให้เกิดภาวะที่ “ไม่ทนต่อการทุจริต” โดยเริ่มตั้งแต่กระบวนการกล่อมเกลาทางสังคมในทุกระดับช่วงวัย ตั้งแต่ปฐมวัยเพื่อสร้างวัฒนธรรมต่อต้านการทุจริต และปลูกฝังความพอเพียง มีวินัย ซื่อสัตย์สุจริตยึดประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน เป็นการดำเนินการผ่านสถาบันหรือกลุ่มตัวแทนที่ทำหน้าที่ในการกล่อมเกลาสังคมให้มีความเป็นพลเมืองที่ดี

มีจิตสาธารณะ เสียสละเพื่อส่วนรวม และเสริมสร้างให้ทุกภาคส่วนมีพฤติกรรมที่ไม่ยอมรับ และต่อต้านการทุจริตในทุกรูปแบบและได้กำหนดกลยุทธ์ 4 กลยุทธ์ กล่าวคือ กลยุทธ์ที่ 1 ปรับฐานความคิดทุกช่วงวัย ตั้งแต่ปฐมวัยให้สามารถแยกระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม กลยุทธ์ที่ 2 ส่งเสริมให้มีระบบและกระบวนการกล่อมเกลาทางสังคมเพื่อต้านทุจริต กลยุทธ์ที่ 3 ประยุกต์หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นเครื่องมือต้านทุจริต และกลยุทธ์ที่ 4 เสริมพลังการมีส่วนร่วมของชุมชน(Community) และบูรณาการทุกภาคส่วนเพื่อต่อต้านการทุจริต

โรงเรียนบ้านบางมันได้ตระหนักถึงเหตุผลและความสำคัญดังกล่าว จึงได้น้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ

พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทั้ง 4 ด้าน มาสู่การปฏิบัติ เพื่อนำไปสู่การจัดการศึกษาและพัฒนาผู้เรียนสู่วิถีคนดีอย่างยั่งยืน ตามโครงการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมและธรรมาภิบาลในสถานศึกษา เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์และความมุ่งหมายของการจัดการศึกษา และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และเจตนารมณ์สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระนอง ปีทอง ลูกเมืองนอง อ่านเขียน เรียนดี มีคุณธรรม โดยการจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนา คนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ สติปัญญา ความรู้และคุณธรรมมีจริยธรรม

โรงเรียนบ้านบางมันมีความมุ่งมั่นในการจัดการศึกษาให้ผู้เรียนมีคุณธรรม มีความรู้ มีทักษะพื้นฐานในการประกอบอาชีพสุจริต ด้วยการน้อมนำเอาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนตลอดจนการดำเนินงานในด้านต่างๆ ยึดหลักการบริหารบ้านเมืองที่ดี หรือหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) ได้แก่ 1) หลักนิติธรรม คือ ยึดหรือปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบขอบังคับและกติกาต่าง ๆ

2) หลักคุณธรรม คือ การยึดถือและเชื่อมั่นในความถูกต้องดีงาม 3) หลักความโปรงใส คือ การทำให้สถานศึกษาเปิดเผยข้อมูลข่าวสารอย่างตรงไป ตรงมา และสามารถตรวจสอบความถูกต้องได้ 4) หลักความมีส่วนร่วม คือ การให้บุคลากร นักเรียน ผู้ปกครองมีส่วนร่วมรับรู้และร่วมเสนอความเห็นในการบริหารสถานศึกษา และการตัดสินใจสำคัญ ๆ 5) หลักความรับผิดชอบ บริหาร และครูต้องตั้งใจปฏิบัติงานตามหน้าที่ อย่างดียิ่ง มีความรับผิดชอบต่อ ความบกพร่องในหน้าที่การงานที่ตนรับผิดชอบอยู่ และพร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไขได้ทันท่วงที

6) หลักความคุ้มค่า ผู้บริหารต้องตระหนักว่ามีทรัพยากรค่อนข้างจำกัด ดังนั้นในการบริหารจัดการจำเป็นจะต้องยึดหลักความประหยัดและความคุ้มค่าให้มากที่สุด

ดังนั้น โรงเรียนบ้านบางมันจึงพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการนวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ภายใต้ชื่อผลงาน การบริหารจัดการสร้างคนดีศรีบางมัน โดยใช้รูปแบบ BANGMUN MODEL ขึ้นเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาสู่ความเป็นเลิศ สร้างคนเก่ง คนดี

มีคุณภาพ ให้กับสังคม และประเทศชาติสืบไป

1.2 แนวคิด หลักการสำคัญที่เกี่ยวข้องกับผลงานหรือนวัตกรรม สามารถอ้างอิงถึงแนวคิด

หลักการ ทฤษฏี รูปแบบ วิธีการ ฯลฯ ที่นำมาใช้ในการออกแบบผลงานหรือนวัตกรรม

1. หลักปรัชญาของ “เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า 25 ปี ตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ และเมื่อภายหลังได้ทรงเน้นย้ำแนวทางการแก้ไขเพื่อให้รอดพ้น และสามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ

ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี พอสมควรต่อการมีผลกระทบใด ๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน ทั้งนี้จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างยิ่ง ในการนำวิชาการต่าง ๆ มาใช้ในการวางแผนและการดำเนินการทุกขั้นตอน และขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐนักทฤษฎีและนักธุรกิจในทุกระดับ ให้มีสำนึกในคุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสมดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติปัญญา และความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ทั้งด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี

(สานักงาน กปร.2550 : 5)

หลักการสำคัญของเศรษฐกิจพอเพียง

1) กรอบแนวคิด เป็นปรัชญาที่ชี้แนะแนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตนในทางที่ควรจะเป็น โดยมีพื้นฐานมาจากวิถีชีวิตดั้งเดิมของสังคมไทย สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ตลอดเวลาและเป็นการมองโลกเชิงระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มุ่งเน้นการรอดพ้นจากภัย และวิกฤติเพื่อความมั่นคงและความยั่งยืนของการพัฒนา

2) คุณลักษณะ เศรษฐกิจพอเพียงสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติตนได้ในทุกระดับโดยเน้น การปฏิบัติ บนทางสายกลาง และการพัฒนาอย่างเป็นขั้นตอน

3) คำนิยาม ความพอเพียงจะต้องประกอบด้วย 3 คุณลักษณะ พร้อม ๆ กัน ดังนี้

- ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไปโดยไม่เบียดเบียนตนเอง

และผู้อื่น เช่น การผลิตและการบริโภคที่อยู่ในระดับพอประมาณ

- ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้นจะต้องเป็นไปอย่างมี

เหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้น จากการกระทำนั้น ๆ อย่างรอบคอบ

- การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตนเอง หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบ และการเปลี่ยนแปลงด้าน

ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้และไกล

4) เงื่อนไข การตัดสินใจและการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ให้อยู่ในระดับพอเพียงนั้น ต้องอาศัยทั้งความ

รอบคอบที่จะนำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผนและความระมัดระวังในขั้นปฏิบัติ

- เงื่อนไขความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน มีความรอบคอบที่จะนำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผนและความระมัดระวังใน ขั้นปฏิบัติ

- เงื่อนไขคุณธรรม ที่จะต้องเสริมสร้างประกอบด้วยมีความตระหนักในคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต

มีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิตไม่โลภ ไม่ตระหนี่

5) แนวทางปฏิบัติ/ผลที่คาดว่าจะได้รับ จากการนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ คือ การพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ความรู้และเทคโนโลยีแนวความคิดหลักของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือ เข็มทิศเพื่อการดำรงอยู่และปฏิบัติตนหรือการขับเคลื่อนการพัฒนาให้ประเทศเจริญอย่างมั่นคงและยั่งยืนในมิติต่างๆ เป็นการดำเนินตามทางสายกลาง ก้าวทันต่อโลก โดยใช้ได้ทั้งระดับบุคคล ครอบครัว ชุมชน ประเทศ เป็นการมองโลกในลักษณะที่เป็นพลวัต มีการเปลี่ยนแปลง มีความไม่แน่นอนเป็นการปฏิบัติมุ่งผลทั้งระยะสั้นและระยะยาว ความพอเพียง เป็นทั้งผลและวิธีการ(End and mean) จากการกระทำโดยผล คือ การพัฒนาที่สมดุลในทุก ๆ ด้าน และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม ในขณะเดียวกัน วิธีการนำความรู้ไปใช้ ต้องมองทั้งในด้านเหตุและผลควบคู่กันไป ภายใต้พลวัตทั้งภายใน และภายนอกประเทศการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติ สามารถดำเนินการโดยผ่านการสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเวทีระดับต่าง ๆ และนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมทั้งทางกายภาพและทางสังคม(ภูมิ-สังคม) ของตนเอง

2. หลักการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน หมายถึง การบริหารการจัดการตามความต้องการและ

จำเป็นของสถานศึกษา โดยคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ ร่วมทำและร่วมประเมิน โดยใช้หลักการกระจายอำนาจไปยังสถานศึกษา 4 ด้าน คือ ด้านวิชาการ ด้านงบประมาณด้านการบริหารงานบุคคล และด้านบริหารทั่วไป บนพื้นฐานของหลักการมีส่วนร่วม หลักการคืนอำนาจการจัดการศึกษาให้ประชาชน หลักการบริหารตนเอง และหลักการตรวจสอบและถ่วงดุล

3. หลักการบริหารแบบมีส่วนร่วม หมายถึง การบริจัดการศึกษาที่เปิดโอกาสให้ผู้ใต้บังคับบัญชา

มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการตัดสินใจ ใช้ความคิดสร้างสรรค์ และความเชี่ยวชาญในการแก้ปัญหาโดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของแนวคิด การแบ่งอำนาจหน้าที่การบริหารให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ในอีกประเด็นหนึ่ง เป็นการเปิดโอกาสให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการบริหาร เพื่อก่อให้เกิดความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ และร่วมดำเนินงานพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้บรรลุตามเป้าประสงค์ที่กำหนด

4. หลักการกระจายอำนาจ (Decentralization) เป็นการกระจายอำนาจด้านการบริหารจัดการด้านวิชาการ งบประมาณ การบริหารบุคคลและการบริหารทั่วไป ให้คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาและคณะกรรมการสถานศึกษาเป็นผู้รับผิดชอบ

5. วงจรควบคุมคุณภาพ (Quality Control Circle) P-D-C-A ของเดมมิ่ง คือ การควบคุมคุณภาพของการบริหาร มีดังนี้

1) Plan (วางแผน) หมายถึง การส่งเสริมให้บุคลากรในโรงเรียนทางานแบบมีส่วนร่วม โดยมีการ

ร่วมคิดร่วมวางแผน

2) Do (ปฏิบัติตามแผน) หมายถึง ร่วมปฏิบัติร่วมดำเนินการ

3) Check (ตรวจสอบการปฏิบัติตามแผน) หมายถึง ร่วมประเมินตรวจสอบ

4) Action (ปรับปรุงแก้ไข) หมายถึง ร่วมกันนำผลที่ได้จากการประเมินตรวจสอบไปปรับปรุง

พัฒนาการดำเนินงาน

2. วัตถุประสงค์และเป้าหมายของผลงาน/นวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice)

1.วัตถุประสงค์

1. เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาคุณธรรมสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม

2. เพื่อปลูกฝังให้นักเรียนมีคุณลักษณะ 5 ประการของโรงเรียนสุจริต ได้แก่ ทักษะ

กระบวนการคิด มีวินัย ซื่อสัตย์สุจริต อยู่อย่างพอเพียง และจิตสาธารณะ

3. เพื่อพัฒนานวัตกรรมระบบการบริหารจัดการ

2. เป้าหมายโครงการ

1. เป้าหมายเชิงปริมาณ :

1. นักเรียนร้อยละ 100 ได้รับการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมด้านการป้องกันการทุจริต 5 ประการ

2. ครูและบุคลากรร้อยละ 100 เป็นแบบอย่างที่ดีและสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมนักเรียน

2. เป้าหมายเชิงคุณภาพ :

3. นักเรียนโรงเรียนบ้านบางมันทุกคนเกิดคุณลักษณะ 5 ประการของโรงเรียนสุจริต ได้แก่ ทักษะกระบวนการคิด มีวินัย ซื่อสัตย์สุจริต อยู่อย่างพอเพียง จิตสาธารณะ และมีทัศนคติที่ดีต่อการทำงานและการประกอบอาชีพสุจริต

3. กระบวนการผลิตผลงานหรือขั้นตอนการดำเนินงาน

3.1 การออกแบบผลงาน / นวัตกรรม นำเสนอผลงานนวัตกรรมในรูปแบบผังงาน (Flowchart)

การสร้าง BANGMUN MODEL ดำเนินตามขั้นตอน

1.) ศึกษาแนวคิด หลักการ การจัดกิจกรรมที่สอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม เพื่อเป็นแนวทางให้แก่นักเรียน

2.) ศึกษาเนื้อหาความรู้เกี่ยวกับ ความรู้ความเข้าใจต่อโครงการโรงเรียนสุจริตให้แก่นักเรียน

3.) กำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้ให้สอดคล้องกับตัวชี้วัด ด้านความรู้ ด้านทักษะกระบวนการ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

3.2 การดำเนินงานตามกิจกรรม อธิบายรายละเอียดตามขั้นตอนของกิจกรรมที่ออกแบบไว้ในผังงาน (Flowchart)

วิธีดำเนินงานตามกิจกรรม ซึ่งขับเคลื่อนด้วย วงจร PDCA

1. ขั้นเตรียมการ (Plan)

ขั้นที่ 1 วิเคราะห์ จุดประสงค์การเรียนรู้ สมรรถนะผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และเนื้อหาในสาระการเรียนรู้ เพื่อกำหนดรูปแบบการจัดกิจกรรมให้แก่นักเรียน

ขั้นที่ 2 ออกแบบการทำกิจกรรมที่เน้นนักเรียนได้ฝึกกระบวนการคิด วิเคราะห์ แก้ปัญหาด้วยตนเอง ปลูกฝังความมีคุณธรรม ให้แก่นักเรียน เสริมสร้างความเป็นผู้นำในการทำความดี เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ผู้อื่น เพื่อนำมา สร้างนวัตกรรม

2. ขั้นดำเนินการ (Do)

ขั้นที่ 4 วิเคราะห์รูปแบบ แนวทางการดำเนินงานและจัดกิจกรรม เพื่อจัดทำนวัตกรรม BANGMUN MODEL

3. ขั้นตรวจสอบและประเมินผลการพัฒนางาน (Check)

ขั้นที่ 6 นำนวัตกรรม BANGMUN MODEL ที่ได้รับการปรับปรุงแก้ไขแล้วจนสมบูรณ์ไปทดลองใช้ในการจัดกิจกรรมนักเรียน โรงเรียนบ้านบางมัน เพื่อหา ข้อบกพร่องเบื้องต้นในการจัดกิจกรรม ความเหมาะสม และการสื่อความหมายในการสอดแทรกคุณธรรมในกิจกรรมนั้น ๆ ผลของการจัดกิจกรรมนักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ ขั้นที่ 7 แก้ไขปรับปรุงตามความเหมาะสม

4. ขั้นสรุปและรายงาน (Act)

ขั้นที่ 8 สรุปผลการดำเนินการใช้ นวัตกรรม BANGMUN MODEL เพื่อสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรมให้แก่นักเรียนในการมีจิตอาสา และรายงานผลการใช้นวัตกรรมดังกล่าว

3.3 ประสิทธิภาพของการดำเนินงาน

การจัดกิจกรรมอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการปฏิบัติจริง มีวิธีการ นวัตกรรม องค์ความรู้ และการสร้างการมีส่วนร่วมจากเครือข่ายผู้ปกครอง เครือข่ายโรงเรียน หน่วยงานๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยกันสร้างคนดีให้บ้านเมือง ส่งผลให้โรงเรียนได้รับรางวัลระดับประเทศในการจัดการขยะและรางวัลที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมนักเรียน บุคลากรในด้านคุณธรรมนำชีวิต

โพสต์โดย แกน : [9 ส.ค. 2567 (16:05 น.)]
อ่าน [75] ไอพี : 118.173.20.178
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 35,513 ครั้ง
ว1/2559 การให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสพผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ฯ
ว1/2559 การให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสพผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ฯ

เปิดอ่าน 8,933 ครั้ง
รวมฮิตโรคเด่น-เด็กเสี่ยงเป็นมากที่สุดในหน้าฝน!
รวมฮิตโรคเด่น-เด็กเสี่ยงเป็นมากที่สุดในหน้าฝน!

เปิดอ่าน 48,450 ครั้ง
สักวา
สักวา

เปิดอ่าน 30,496 ครั้ง
สัมภาษณ์ "น้องเรนนี่" เด็กไทยอัจฉริยะ สอบได้คะแนนอันดับที่ 1 ของโลก
สัมภาษณ์ "น้องเรนนี่" เด็กไทยอัจฉริยะ สอบได้คะแนนอันดับที่ 1 ของโลก

เปิดอ่าน 9,063 ครั้ง
กำหนดมาตรฐานใหม่เครื่องชาร์จ ครอบจักรวาล ใช้ได้ทุกยี่ห้อ
กำหนดมาตรฐานใหม่เครื่องชาร์จ ครอบจักรวาล ใช้ได้ทุกยี่ห้อ

เปิดอ่าน 13,266 ครั้ง
ไฟหมุนร้านตัดผมมีที่มาอย่างไร
ไฟหมุนร้านตัดผมมีที่มาอย่างไร

เปิดอ่าน 33,038 ครั้ง
ทำไมหัวไม้ขีดถึงติดไฟ
ทำไมหัวไม้ขีดถึงติดไฟ

เปิดอ่าน 30,209 ครั้ง
ประเภทและอัตราเงินบำรุงการศึกษาและค่าเล่าเรียน
ประเภทและอัตราเงินบำรุงการศึกษาและค่าเล่าเรียน

เปิดอ่าน 12,174 ครั้ง
เสริมสร้างความเข้าใจและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ด้วยการคิดแบบปิงปองดูสิ
เสริมสร้างความเข้าใจและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ด้วยการคิดแบบปิงปองดูสิ

เปิดอ่าน 29,849 ครั้ง
หลักสูตรการสอบภาค ข ครูผู้ช่วย สพฐ. ตามหนังสือ ว14/2558
หลักสูตรการสอบภาค ข ครูผู้ช่วย สพฐ. ตามหนังสือ ว14/2558

เปิดอ่าน 9,711 ครั้ง
เคล็ดลับดูแลผมในหน้าร้อน
เคล็ดลับดูแลผมในหน้าร้อน

เปิดอ่าน 16,189 ครั้ง
สมุนไพรน่ารู้
สมุนไพรน่ารู้

เปิดอ่าน 14,117 ครั้ง
ชวน สวดมนต์ข้ามปี รับ ปีใหม่ 2553
ชวน สวดมนต์ข้ามปี รับ ปีใหม่ 2553

เปิดอ่าน 26,806 ครั้ง
8 ยุทธวิธี ออกจากเงินเดือนที่ไม่พอใช้
8 ยุทธวิธี ออกจากเงินเดือนที่ไม่พอใช้

เปิดอ่าน 30,899 ครั้ง
ตำนานนางสงกรานต์
ตำนานนางสงกรานต์

เปิดอ่าน 10,859 ครั้ง
นั่งให้ถูกท่า หน้าคอมพิวเตอร์
นั่งให้ถูกท่า หน้าคอมพิวเตอร์
เปิดอ่าน 19,687 ครั้ง
ไม่อยากแก่ เรามีเคล็ดลับมาบอก
ไม่อยากแก่ เรามีเคล็ดลับมาบอก
เปิดอ่าน 30,567 ครั้ง
เคล็ดลับการทอดไข่ดาวให้ฟองใหญ่น่ากิน
เคล็ดลับการทอดไข่ดาวให้ฟองใหญ่น่ากิน
เปิดอ่าน 19,490 ครั้ง
ข่าวดีผู้ชอบดื่ม "ชา" ไม่ใช่แค่ดื่มเท่ห์ๆ แต่ดีต่อสุขภาพ
ข่าวดีผู้ชอบดื่ม "ชา" ไม่ใช่แค่ดื่มเท่ห์ๆ แต่ดีต่อสุขภาพ
เปิดอ่าน 29,223 ครั้ง
"โมสาร์ท เอฟเฟกต์" เรื่องจริงหรือแค่อิงวิจัย
"โมสาร์ท เอฟเฟกต์" เรื่องจริงหรือแค่อิงวิจัย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ