ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การวิจัยและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้เชิงรุกและ โครงงานเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และทักษะกระบวนการทำงาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนร

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัด การเรียนการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้เชิงรุกและโครงงานเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และทักษะกระบวนการทำงาน 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้เชิงรุกและโครงงานเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และทักษะกระบวนการทำงาน 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้เชิงรุกและโครงงานเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และทักษะกระบวนการทำงาน และ 4) เพื่อประเมินรูปแบบการจัด การเรียนการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้เชิงรุกและโครงงานเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และทักษะกระบวนการทำงาน ผู้วิจัยใช้รูปแบบการวิจัยและพัฒนา (R&D) ดำเนินการวิจัย 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอน ตามแนวคิดการเรียนรู้เชิงรุกและโครงงานเป็นฐาน ขั้นตอนที่ 2 การสร้างและพัฒนารูปแบบการจัด การเรียนการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้เชิงรุกและโครงงานเป็นฐาน ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้เชิงรุกและโครงงานเป็นฐาน และขั้นตอนที่ 4 การประเมินรูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้เชิงรุกและโครงงานเป็นฐาน กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการทดลองใช้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านลูโบ๊ะบาตู อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 15 คน ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบสอบถาม 2) แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม 3) คู่มือการใช้รูปแบบ 4) แผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบที่พัฒนาขึ้น 5) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 6) แบบประเมินความคิดสร้างสรรค์ 7) แบบประเมินทักษะกระบวนการทำงาน และ 8) แบบสอบถาม ความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (t - test แบบ Dependent Samples) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้เชิงรุกและโครงงานเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และทักษะกระบวนการทำงาน พบว่า สภาพปัจจุบันและปัญหาการจัดการเรียนการสอนวิชาการงานอาชีพ ตามความคิดเห็นของครูผู้สอน อยู่ในระดับมากที่สุด

2. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้เชิงรุกและโครงงานเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และทักษะกระบวนการทำงาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ มีองค์ประกอบ ดังนี้ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) ขั้นตอนการจัดการเรียนการสอน 4) การวัดและประเมินผล และ 5) เงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ โดยขั้นตอนการจัดการเรียนการสอน ประกอบด้วย 5 ขั้น คือ ขั้นที่ 1 ขั้นเตรียมความพร้อม ขั้นที่ 2 ขั้นการตั้งคำถาม ขั้นที่ 3 ขั้นจัดกลุ่มและปฏิบัติกิจกรรม ขั้นที่ 4 ขั้นนำเสนอและสรุป และขั้นที่ 5 ขั้นประเมินผลและเห็นคุณค่าการเรียนรู้ ผลการประเมินคุณภาพความเหมาะสมโดยผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า มีความเหมาะสมระดับมาก และมีความสอดคล้องกันทุกขั้นตอน

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้เชิงรุกและโครงงานเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และทักษะกระบวนการทำงาน สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ พบว่า

3.1 นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้เชิงรุกและโครงงานเป็นฐาน มีคะแนนความคิดสร้างสรรค์ ภาพรวมในระดับดี คิดเป็นร้อยละ เท่ากับ 84.90 และมีคะแนนทักษะกระบวนการทำงาน ภาพรวมในระดับดี คิดเป็นร้อยละ เท่ากับ 80.94

3.2 นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้เชิงรุกและโครงงานเป็นฐาน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3.3 ประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นตามรูปแบบการจัดการเรียน การสอนตามแนวคิดการเรียนรู้เชิงรุกและโครงงานเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และ ทักษะกระบวนการทำงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เท่ากับ 85.97/83.33 ถือว่ามีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80

4. ผลการประเมินรูปแบบ พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้เชิงรุกและโครงงานเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และทักษะกระบวนการทำงาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ อยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด ( = 4.52, S.D. = 0.51)

โพสต์โดย ณี : [9 ส.ค. 2567 (14:19 น.)]
อ่าน [60038] ไอพี : 182.52.115.6
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,968 ครั้ง
4 อาหารแก้ง่วงยามบ่าย
4 อาหารแก้ง่วงยามบ่าย

เปิดอ่าน 18,203 ครั้ง
คลิปโฆษณาสร้างสรรค์สังคม ชุด "พี่โน๊ตขอออออ... ก่อนลงไปมีเรื่องกับใคร สูดหายใจลึกๆ"
คลิปโฆษณาสร้างสรรค์สังคม ชุด "พี่โน๊ตขอออออ... ก่อนลงไปมีเรื่องกับใคร สูดหายใจลึกๆ"

เปิดอ่าน 21,641 ครั้ง
เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษาในฐานะศาสตร์
เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษาในฐานะศาสตร์

เปิดอ่าน 26,317 ครั้ง
อวกาศมีกลิ่นเหมือนอะไร?
อวกาศมีกลิ่นเหมือนอะไร?

เปิดอ่าน 804 ครั้ง
5 เหตุผลที่ Digital Marketing จำเป็นสำหรับธุรกิจในยุคดิจิทัล
5 เหตุผลที่ Digital Marketing จำเป็นสำหรับธุรกิจในยุคดิจิทัล

เปิดอ่าน 18,168 ครั้ง
งานประจำ 7 ประการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
งานประจำ 7 ประการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน

เปิดอ่าน 4,644 ครั้ง
วิธีคลายร้อนให้บ้านปูน
วิธีคลายร้อนให้บ้านปูน

เปิดอ่าน 12,016 ครั้ง
12 สุขลักษณะ การนอนที่ดี
12 สุขลักษณะ การนอนที่ดี

เปิดอ่าน 11,713 ครั้ง
ภูมิปัญญา "การแพทย์แผนไทย" สู้ภัยร้อนจัดของประเทศ
ภูมิปัญญา "การแพทย์แผนไทย" สู้ภัยร้อนจัดของประเทศ

เปิดอ่าน 30,319 ครั้ง
ปัสสาวะบอกโรค ลองสังเกตตัวเองดูสิ
ปัสสาวะบอกโรค ลองสังเกตตัวเองดูสิ

เปิดอ่าน 42,776 ครั้ง
น่าประทับใจการแสดงของนักเรียน พร้อมใจกันเต้นบาสโลป มุทิตาจิตแด่ครูผู้เกษียณอายุราชการ ปีการศึกษา 2559
น่าประทับใจการแสดงของนักเรียน พร้อมใจกันเต้นบาสโลป มุทิตาจิตแด่ครูผู้เกษียณอายุราชการ ปีการศึกษา 2559

เปิดอ่าน 43,750 ครั้ง
มิติของเทคโนโลยีการศึกษากับการสอนทางไกล
มิติของเทคโนโลยีการศึกษากับการสอนทางไกล

เปิดอ่าน 16,889 ครั้ง
การเลือกโต๊ะสำหรับการเขียนหนังสือ
การเลือกโต๊ะสำหรับการเขียนหนังสือ

เปิดอ่าน 587 ครั้ง
กู้สินเชื่อช่วยคุณได้จริงไหม พร้อมแชร์การวางแผนใช้สินเชื่อให้ถูกวิธี
กู้สินเชื่อช่วยคุณได้จริงไหม พร้อมแชร์การวางแผนใช้สินเชื่อให้ถูกวิธี

เปิดอ่าน 21,818 ครั้ง
จัดสวนอย่างไร ให้มี "ฮวงจุ้ย" ดี
จัดสวนอย่างไร ให้มี "ฮวงจุ้ย" ดี

เปิดอ่าน 11,493 ครั้ง
ดูฟรี! เฉลยข้อสอบฟิสิกส์เข้ามหาวิทยาลัยทาง online
ดูฟรี! เฉลยข้อสอบฟิสิกส์เข้ามหาวิทยาลัยทาง online
เปิดอ่าน 67,943 ครั้ง
วิเคราะห์พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ หมวดที่ 9 เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา มาตรา 63-69
วิเคราะห์พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ หมวดที่ 9 เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา มาตรา 63-69
เปิดอ่าน 15,917 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : ทำไม O-NET ไม่เอาเรื่องจริงในชีวิตไปออกข้อสอบ
ตูนส์ศึกษา : ทำไม O-NET ไม่เอาเรื่องจริงในชีวิตไปออกข้อสอบ
เปิดอ่าน 150,341 ครั้ง
เผยแพร่หลักสูตรสถานศึกษา(ฉบับปรับปรุง2560) ในรูปแบบไฟล์เวิร์ด โดยโรงเรียนบ้านฝาผนัง สพป.นครราชสีมา เขต 7
เผยแพร่หลักสูตรสถานศึกษา(ฉบับปรับปรุง2560) ในรูปแบบไฟล์เวิร์ด โดยโรงเรียนบ้านฝาผนัง สพป.นครราชสีมา เขต 7
เปิดอ่าน 13,820 ครั้ง
ริ้วรอยแตกลายลบได้ด้วยว่านหางจระเข้
ริ้วรอยแตกลายลบได้ด้วยว่านหางจระเข้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ