ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนศิลปะ ECEAES Model เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดสร้างสรรค์ เรื่อง ทัศนธาตุสร้างงานทัศนศิลป์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย นางศศิธร กิติศรีวรพันธุ์
ปีการศึกษา 2566
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการเรียนการสอนศิลปะเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง ทัศนธาตุสร้างงานทัศนศิลป์
2) ศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนศิลปะเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง ทัศนธาตุสร้างงานทัศนศิลป์ 3) พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง ทัศนธาตุสร้างงานทัศนศิลป์ 4) พัฒนาทักษะการคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง ทัศนธาตุสร้างงานทัศนศิลป์ 5) ประเมินความพึงพอใจของครูและนักเรียนหลังการใช้รูปแบบการเรียนการสอนศิลปะเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง ทัศนธาตุสร้างงานทัศนศิลป์ การวิจัยเป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/3 โรงเรียนบ้านโพนจาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2 จังหวัดนครพนม ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 21 คน และครูผู้สอนวิชาศิลปะ ระดับมัธยมศึกษาในจังหวัดนครพนม จำนวน 10 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แบบสัมภาษณ์ครูและนักเรียน 2) แผนการจัดการเรียนการสอนศิลปะเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดสร้างสรรค์ เรื่อง ทัศนธาตุสร้างงานทัศนศิลปะ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) แบบทดสอบวัดทักษะการคิดสร้างสรรค์ และ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจของครู และนักเรียน การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1. รูปแบบการเรียนการสอนศิลปะเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง ทัศนธาตุสร้างงานทัศนศิลป์ มีชื่อว่า Engagement : E ; Construction : C ; Explanation : E; Application : A, Evaluation : E; Summarize the main points : S (ECEAES Model) มีองค์ประกอบท คือ สาระความรู้ ทักษะกระบวนการ และสิ่งที่ส่งเสริมการเรียนรู้ ระบบสังคม สิ่งสนับสนุน และหลักการตอบสนองซึ่งกระบวนการเรียนการสอนมี 4 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Introduction : I) 2) ขั้นสร้างความรู้ (Construction : C) 3) ขั้นสรุป (Summary : S) และ 4) ขั้นนำไปใช้และพัฒนาทักษะการคิดสร้างสรรค์ ( Application : A ) .
2. รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ เท่ากับ 86.50/90.38 ซึ่งสูงกว่า เกณฑ์ที่กำหนด
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการสอนตามรูปแบบการเรียนการสอนศิลปะเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดสร้างสรรค์สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ทักษะการคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีจำนวนนักเรียนผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 80 ขึ้นไปคิดเป็นร้อยละ 88.89 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
5. ครูและนักเรียนมีความพึงพอใจหลังการใช้รูปแบบการเรียนการสอนศิลปะเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดสร้างสรรค์อยู่ในระดับมาก
นอกจากนี้ยังพบว่า นักเรียนสามารถสร้างชิ้นงานโดยใช้ทักษะการคิดสร้างสรรค์บนพื้นฐานความรู้ ความเข้าใจด้วยตนเอง ส่งผลให้ชิ้นงานมีคุณภาพ นำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและร่วมสร้างสรรค์สังคมได้
คำสำคัญ รูปแบบการเรียนการสอนศิลปะเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดสร้างสรรค์