ชื่องานวิจัย การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิชาฟิสิกส์ 2 เรื่องการเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย โดยใช้เทคนิคขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหาทางฟิสิกส์ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ผู้วิจัย นายเบญจพล อุดมรัตน์ ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย
ปีที่วิจัย 1/2565
ที่มาและความสำคัญของปัญหา
การแก้โจทย์ปัญหาถือได้ว่า เป็นปัจจัยที่สำคัญมากในการเรียนการสอนวิชาฟิสิกส์ หากขาดทักษะนี้การเรียน ก็ไม่สามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากในการเรียนวิชาฟิสิกส์นั้นนักเรียนต้องทราบสิ่งที่โจทย์กำหนดมาและทราบว่าโจทย์ต้องการหาสิ่งใดก่อนที่จะใช้สูตรหรือสมการทางฟิสิกส์ในการคำนวณค่าที่ต้องการออกมา ซึ่งนักเรียนบางคนยังไม่สามารถวิเคราะห์โจทย์ปัญหาได้ว่าจากสิ่งที่โจทย์กำหนดและไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มหาคำตอบจากสมการอะไร ซึ่งถ้าหากนักเรียนไม่สามารถวิเคราะห์โจทย์ปัญหาไดแล้วก็ไม่สามารถที่จะแก้สมการหาคำตอบออกมาได้และนักเรียนบางคนสามารถที่จะวิเคราะห์โจทย์ได้แต่เมื่อแทนค่าลงในสมการแล้วนักเรียนไม่สามารถแก้สมการได้หรือแก้สมการด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้องผลลัพธ์ที่ออกมาจึงเกิดความผิดพลาดไปด้วย
จากการเรียนการสอนในรายวิชาฟิสิกส์ 2 เรื่องการเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 13 คน พบว่า นักเรียนที่มีปัญหาด้านการแก้โจทย์ปัญหากล่าวคือ ไม่สามารถแทนค่าตัวแปรเพื่อหาค่าที่โจทย์ต้องการและไม่สามารถแก้โจทย์ปัญหาทางฟิสิกส์ได้ สังเกตได้จากการทำแบบฝึกหัดในห้องเรียน ซึ่งนักเรียนส่วนใหญ่ไม่สามารถทำได้ด้วยตนเอง ในการทำการบ้านที่ให้นักเรียนทำก็มักจะลอกมาส่ง ดังนั้นผู้วิจัยจึงค้นคว้าหาวิธีการที่จะช่วยพัฒนาทักษะดังกล่าวให้กับนักเรียน พบว่าเทคนิคในการคำนวณมาใช้ในการแก้โจทย์ปัญหาจะช่วยให้นักเรียนเข้าใจในเนื้อหาที่เรียน ช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาความสามารถในการคำนวณประยุกต์แก้โจทย์ทางฟิสิกส์ ผู้วิจัยจึงสนใจที่จะ นาวิธีการกำหนดขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหาทางฟิสิกส์เทคนิคในการคำนวณมาใช้ในการแก้โจทย์ปัญหาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เพื่อ ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1. เพื่อให้นักเรียนสามารถนำเทคนิค ในการคำนวณมาใช้ในการแก้โจทย์ปัญหาในรายวิชาฟิสิกส์ได้อย่างถูกต้อง
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อน หลังเรียนวิชาฟิสิกส์ 2 เรื่อง การเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย โดยใช้เทคนิคขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหาทางฟิสิกส์
ขอบเขตการวิจัย
1. เนื้อหาที่ทำวิจัยคือวิชาฟิสิกส์ 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 การเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย
2. กลุ่มเป้าหมายคือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 1/2565 จำนวน 13 คน
วิธีดาเนินการวิจัย
1. ประชากร/กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 13 คน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนชุมชนบ้านหนองฝ้าย อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี
2. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย/นวัตกรรม
2.1 เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง คือ ขั้นตอนในการคำนวณโดยใช้วิธีการกำหนดขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหาทางฟิสิกส์เพื่อให้เรียนเกิดทักษะการคำนวณการแก้ไขโจทย์ปัญหาทางฟิสิกส์ที่ถูกต้อง
ขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์
ขั้นที่ 1 ทำความเข้าใจกับปัญหา
ขั้นที่ 2 วิเคราะห์ วางแผน
ขั้นที่ 3 ดำเนินการตามแผน
ขั้นที่ 4 พิสูจน์ ตรวจสอบคำตอบ และขยายผลปัญหา
2.2 เครื่องมือในการเก็บข้อมูล คือ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ 2 เรื่องการเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย เป็นแบบทดสอบแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 17 ข้อ
3.เก็บรวบรวมข้อมูล
การเก็บรวบรวมข้อมูล
ผู้วิจัยได้ดาเนินตามขั้นตอนดังนี้
1. ให้นักเรียนทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ 2 เรื่อง การเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย เป็นแบบทดสอบแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 17 ข้อ
2. สร้างและกำหนดขั้นตอนในการคำนวณโดยใช้วิธีการกำหนดขั้นตอนการแก้ไขโจทย์ปัญหาทางฟิสิกส์ ตามขั้นตอน ต่อไปนี้
2.1 ทบทวนความรู้เกี่ยวกับการเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย
2.2 สอนขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์
2.3 ให้นักเรียนฝึกทำแบบฝึกเสริมทักษะ
3. นักเรียนทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ 2 เรื่อง การเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย เป็นแบบทดสอบแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 17 ข้อ
การวิเคราะห์ข้อมูล/สถิติที่ใช้ในการวิจัย
จากการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ 2 เรื่อง การเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย ก่อนเรียนและหลังเรียนพบว่า คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ดังแสดงในตารางที่ 1 ดังนี้
ตารางที่ 1 แสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ 2 เรื่อง การเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่ายของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้วิธีการกำหนดขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหาทางฟิสิกส์
การประเมินผล จำนวนนักเรียน คะแนนเต็ม คะแนนสูงสุด คะแนนต่ำสุด คะแนนเฉลี่ย ร้อยละของคะแนนเต็ม
ก่อนเรียน 13 17 9 5 7 41.17
หลังเรียน 13 17 17 11 14 82.35
สรุปผลการวิจัย
จากการใช้วิธีการกำหนดขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหาทางฟิสิกส์ สรุปผลไดดั้งนี้
1. นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สามารถนาเทคนิคในการคำนวณมาใช้ในการแก้โจทย์ปัญหาในรายวิชาฟิสิกส์ 2 ได้อย่างถูกต้อง
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังใช้เทคนิคขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหาทางฟิสิกส์ สูงกว่าก่อนเรียน
อภิปรายผลวิจัย
จากการวิจัยในครั้งนี้ พบว่า หลังจากนักเรียนได้เรียนโดยใช้วิธีการกำหนดขั้นตอนการแก้โจทย์
ปัญหาทางฟิสิกส์แล้วสามารถแก้โจทย์ปัญหาในรายวิชาฟิสิกส์ 2 ได้อย่างถูกต้อง และมีความมั่นใจในการเรียนมากขึ้น
ข้อเสนอแนะ
1. ควรมีการแจ้งผลการทาใบงานและแบบทดสอบท้ายแผนเพื่อเป็นข้อมูลย้อนกลับให้นักเรียนทราบผลการทางานของตนเอง ซึ้งจะช่วยให้นักเรียนมีความกระตือรือร้นและสนใจเรียนมากขึ้น
2. ควรพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนที่เน้นความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาวิชาฟิสิกส์ ให้ครอบคลุมทั้งระดับช่วงชั้น (ม. 4 -6) เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและก่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงในรายวิชาฟิสิกส์ 2
3. ควรนำเทคนิค ขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหาทางฟิสิกส์ ไปเปรียบเทียบกับรูปแบบการสอนแบบอื่นๆ