ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการสอนภาษาไทย

ชื่อเรื่อง : การพัฒนารูปแบบการสอนภาษาไทยตามแนวทางการจัดการเรียนรู้

ด้วยกระบวนการกลุ่มร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ จากบทร้อยกรอง

เรื่อง กบินทร์เมืองเก่า ของเราน่าอยู่ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ผู้วิจัย : นางลดาวัลย์ เทียนบัญญัติ

ปีที่ทำวิจัย : 2566

บทคัดย่อ

การดำเนินการวิจัยครั้งมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนภาษาไทยตามแนวทางการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการกลุ่มร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ จากบทร้อยกรอง เรื่อง กบินทร์เมืองเก่า ของเราน่าอยู่ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนภาษาไทยตามแนวทางการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการกลุ่มร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ จากบทร้อยกรอง เรื่อง กบินทร์เมืองเก่า ของเราน่าอยู่สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการสอนภาษาไทยตามแนวทางการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการกลุ่มร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ จากบทร้อยกรอง เรื่อง กบินทร์เมืองเก่า ของเราน่าอยู่ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 4) เพื่อหาประสิทธิผลรูปแบบการสอนภาษาไทยตามแนวทางการจัดการเรียนรู้ ด้วยกระบวนการกลุ่มร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ จากบทร้อยกรอง เรื่อง กบินทร์เมืองเก่า ของเราน่าอยู่ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 โรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดใหม่ท่าพาณิชย์) สังกัดเทศบาลตำบลกบินทร์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 24 คน โดยใช้วิธีการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster random sampling) สถิติที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ใช้หลักการวิเคราะห์ข้อมูลเนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนภาษาไทยตามแนวทางการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการกลุ่มร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ จากบทร้อยกรอง เรื่อง กบินทร์เมืองเก่า ของเราน่าอยู่ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า 1.1) ร่างรูปแบบการสอนภาษาไทยตามแนวทางการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการกลุ่มร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจ จากบทร้อยกรอง เรื่อง กบินทร์เมืองเก่า ของเราน่าอยู่ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

มี 4 องค์ประกอบ คือ 1) องค์ประกอบด้านหลักการ 2) องค์ประกอบด้านวัตถุประสงค์ 3) องค์ประกอบด้านกระบวนการจัดการเรียนรู้ 4) องค์ประกอบด้านหลักการตอบสนอง องค์ประกอบขั้นตอนการสอนของรูปแบบ มี 6 ขั้นตอน คือ ขั้นจัดกลุ่มแบ่งหน้าที่ ขั้นนำเสนอเนื้อหา ขั้นฝึกทักษะกระบวนการ ขั้นเผยแพร่ความรู้ ขั้นทดสอบแข่งขัน และขั้นยกย่องชมเชย 1.2) ปัญหาในการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยรวมอยู่ในระดับมาก ความต้องการในนำเนื้อเรื่องมาใช้ในอ่าน เรื่อง แหล่งท่องเที่ยวหรือสถานที่สำคัญในในอำเภอกบินทร์บุรี มากที่สุด และมีความต้องการเรียนรู้ด้วยวิธีการในการอ่าน โดยใช้การอ่านจากบทร้อยกรอง มากที่สุด 1.3) มีความต้องการพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ โดยนำเรื่องราวที่ไกล้ตัวนักเรียนมาใช้ โดยใช้คำขวัญของอำเภอกบินทร์บุรี มาเป็นเนื้อหาการอ่าน

2. ผลการพัฒนารูปแบบการสอนภาษาไทยตามแนวทางการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการกลุ่มร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ จากบทร้อยกรอง เรื่อง กบินทร์เมืองเก่า ของเราน่าอยู่ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า 2.1) รูปแบบการสอนภาษาไทยตามแนวทางการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) ด้วยกระบวนการกลุ่มร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ เรื่อง กบินทร์เมืองเก่า ของเราน่าอยู่ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ คือ 1) องค์ประกอบด้านหลักการ 2) องค์ประกอบด้านวัตถุประสงค์ 3) องค์ประกอบด้านกระบวนการจัดการเรียนรู้ 4) องค์ประกอบด้านหลักการตอบสนอง 5) องค์ประกอบด้านบทบาทครูและบทบาทนักเรียน 2.2) ความเหมาะสมของร่างรูปแบบการสอน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 2.3) ความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้และคู่มือการใช้รูปแบบการสอน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 2.4 ประสิทธิภาพของรูปแบบการสอน ในการทดลองใช้ครั้งที่ 3 มีค่า 82.08/80.63 เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

3. การทดลองรูปแบบการสอนภาษาไทยตามแนวทางการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการกลุ่มร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ จากบทร้อยกรอง เรื่อง กบินทร์เมืองเก่า ของเราน่าอยู่ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า 3.1) ประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนภาษาไทยตามแนวทางการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการกลุ่มร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ จากบทร้อยกรอง เรื่อง กบินทร์เมืองเก่า ของเราน่าอยู่ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่พัฒนาขึ้นมีค่าเท่ากับ 85.65/83.13 มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้ 3.2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังเรียนด้วยรูปแบบการสอนภาษาไทยตามแนวทางการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการกลุ่มร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ จากบทร้อยกรอง เรื่อง กบินทร์เมืองเก่า ของเราน่าอยู่ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3.3) ทักษะการอ่านจับใจความสำคัญของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังเรียนด้วยรูปแบบการสอนภาษาไทยตามแนวทางการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการกลุ่มร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ จากบทร้อยกรอง เรื่อง กบินทร์เมืองเก่า ของเราน่าอยู่ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. การประเมินรูปแบบการสอนภาษาไทยตามแนวทางการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการกลุ่มร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ จากบทร้อยกรอง เรื่อง กบินทร์เมืองเก่า ของเราน่าอยู่ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า 4.1) ผลการประเมินรูปแบบการสอนภาษาไทยตามแนวทางการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการกลุ่มร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ จากบทร้อยกรอง เรื่อง กบินทร์เมืองเก่า ของเราน่าอยู่ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยรวม อยู่ในระดับมาก 4.2) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนภาษาไทยตามแนวทางการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการกลุ่มร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ จากบทร้อยกรอง เรื่อง กบินทร์เมืองเก่า ของเราน่าอยู่ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยรวมอยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย rin : [5 ส.ค. 2567 (14:14 น.)]
อ่าน [62740] ไอพี : 180.180.109.176
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 35,661 ครั้ง
อยากเก่งภาษาอังกฤษทำยังไง
อยากเก่งภาษาอังกฤษทำยังไง

เปิดอ่าน 116,574 ครั้ง
คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับป้ายบอกสถานที่และชื่อห้องในโรงเรียน
คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับป้ายบอกสถานที่และชื่อห้องในโรงเรียน

เปิดอ่าน 10,905 ครั้ง
มื้อเล็ก ๆ ช่วยลดน้ำหนัก
มื้อเล็ก ๆ ช่วยลดน้ำหนัก

เปิดอ่าน 43,703 ครั้ง
14 ท่าโพสต์ถ่ายรูปง่ายๆ ถ่ายเมื่อไหร่ก็สวย
14 ท่าโพสต์ถ่ายรูปง่ายๆ ถ่ายเมื่อไหร่ก็สวย

เปิดอ่าน 12,236 ครั้ง
"หนี้ครู" ปัญหาอมตะคู่แม่พิมพ์ของชาติ
"หนี้ครู" ปัญหาอมตะคู่แม่พิมพ์ของชาติ

เปิดอ่าน 17,330 ครั้ง
"สมุนไพร" ส่วนประกอบอาหารไทยที่มีคุณค่า
"สมุนไพร" ส่วนประกอบอาหารไทยที่มีคุณค่า

เปิดอ่าน 9,296 ครั้ง
ประโยคเพื่อการสื่อสาร
ประโยคเพื่อการสื่อสาร

เปิดอ่าน 13,474 ครั้ง
กรมสุขภาพจิตเตือน! คนไทยระวังเป็นโรค "ขาดมือถือไม่ได้"
กรมสุขภาพจิตเตือน! คนไทยระวังเป็นโรค "ขาดมือถือไม่ได้"

เปิดอ่าน 147,075 ครั้ง
โปรแกรมคำนวณค่า T-Score
โปรแกรมคำนวณค่า T-Score

เปิดอ่าน 14,037 ครั้ง
เทคนิคใหม่จากสิงคโปร์ทำภาพสีไม่ใช้หมึกคมชัดกว่าเลเซอร์เจ็ท
เทคนิคใหม่จากสิงคโปร์ทำภาพสีไม่ใช้หมึกคมชัดกว่าเลเซอร์เจ็ท

เปิดอ่าน 7,540 ครั้ง
เครียดลงกระเพาะ โรคยอดฮิตที่เกิดขึ้นได้กับทุกวัย
เครียดลงกระเพาะ โรคยอดฮิตที่เกิดขึ้นได้กับทุกวัย

เปิดอ่าน 13,923 ครั้ง
5 ปัญหาการเงิน เลี่ยงซะก่อนชีวิตคู่จะพัง
5 ปัญหาการเงิน เลี่ยงซะก่อนชีวิตคู่จะพัง

เปิดอ่าน 12,489 ครั้ง
ตำนาน ชา
ตำนาน ชา

เปิดอ่าน 10,883 ครั้ง
วิลล่า เมดิคา พาอัพเดท ดูแลสุขภาพแนวใหม่
วิลล่า เมดิคา พาอัพเดท ดูแลสุขภาพแนวใหม่

เปิดอ่าน 10,297 ครั้ง
นั่งนานทำให้เป็นคนขี้โรค
นั่งนานทำให้เป็นคนขี้โรค

เปิดอ่าน 60,265 ครั้ง
ประวัติ....ซานตาคลอส
ประวัติ....ซานตาคลอส
เปิดอ่าน 12,805 ครั้ง
คลิปบรรยากาศพบกันระหว่าง สพฐ.และสภาการศึกษาทางเลือกไทยกรณียุบ ร.ร.ขนาดเล็ก
คลิปบรรยากาศพบกันระหว่าง สพฐ.และสภาการศึกษาทางเลือกไทยกรณียุบ ร.ร.ขนาดเล็ก
เปิดอ่าน 57,845 ครั้ง
เทคนิคการเตรียมตัวไปสัมภาษณ์งานครั้งแรก
เทคนิคการเตรียมตัวไปสัมภาษณ์งานครั้งแรก
เปิดอ่าน 10,895 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาไทย พายเรือในอ่าง (จบ)
ปฏิรูปการศึกษาไทย พายเรือในอ่าง (จบ)
เปิดอ่าน 10,525 ครั้ง
หน้ากากอนามัยใส่ให้เป็น
หน้ากากอนามัยใส่ให้เป็น

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ