|
|
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด เรื่อง เพศศึกษากับวัยรุ่น รายวิชาสุขศึกษา 3 รหัสวิชา พ22101 เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีวัตถุประสงค์ของวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด เรื่อง เพศศึกษากับวัยรุ่น รายวิชาสุขศึกษา 3 รหัสวิชา พ22101 เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด เรื่อง เพศศึกษากับวัยรุ่น รายวิชาสุขศึกษา 3 รหัสวิชา พ22101 เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) ศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด เรื่อง เพศศึกษากับวัยรุ่น รายวิชาสุขศึกษา 3 รหัสวิชา พ22101 เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 4) ประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด เรื่อง เพศศึกษากับวัยรุ่น รายวิชาสุขศึกษา 3 รหัสวิชา พ22101 เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนดอนไพลพิทยาคม ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 26 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นการสุ่มด้วยการจับฉลาก จำนวน 1 ห้องเรียน ประกอบด้วยนักเรียน เก่ง อ่อน และปานกลาง คละกันทั้งนักเรียนชายและหญิง ซึ่งถือว่าเป็นตัวแทนของนักเรียนส่วนใหญ่ โดยมีเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาสุขศึกษา 3 รหัสวิชา พ22101 เรื่อง เพศศึกษากับวัยรุ่น กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 9 แผน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชา สุขศึกษา 3 รหัสวิชา พ22101 เรื่อง เพศศึกษากับวัยรุ่น กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 40 ข้อ ลักษณะข้อสอบเป็นแบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก ตอบถูกได้ 1 คะแนน ตอบผิดหรือไม่ตอบได้ 0 คะแนน 3) แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ จำนวน 15 ข้อ ลักษณะข้อสอบเป็นแบบปรนัย ชนิด 4 ตัวเลือก ตอบถูกได้ 1 คะแนน ตอบผิดหรือ ไม่ตอบได้ 0 คะแนน 4) แบบประเมินผลหลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด เรื่อง เพศศึกษากับวัยรุ่น รายวิชาสุขศึกษา 3 รหัสวิชา พ22101 เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 5) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับเทคนิคเพื่อน สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย (x̄ ) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าทีแบบไม่อิสระ (t-test dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา โดยสามารถสรุปผลการวิจัย อภิปรายผลการวิจัยและข้อเสนอแนะได้ดังต่อไปนี้
ผลการวิจัยพบว่า
1. สภาพปัจจุบันและสภาพปัญหาการจัดการเรียนการสอนและความต้องการจำเป็นของครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นเน้นการเรียนรู้แบบเชิงรุกและเป็นการเรียนที่เน้นให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์กับการเรียนการสอน กระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดกระบวนการคิดขั้นสูง (Higher-Order Thinking) ด้วยการคิดวิเคราะห์ ประเมินค่าและสร้างสรรค์ไม่เพียงแต่เป็นผู้ฟัง ผู้เรียนต้องอ่าน เขียน ตั้งคำถามและถาม อภิปรายร่วมกัน ผู้เรียนลงมือปฏิบัติจริงและเน้นผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้อย่างทั่วถึง ได้เกิดคิดหาคำตอบด้วยตนเอง มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้เรียนด้วยกัน
2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด เรื่อง เพศศึกษากับวัยรุ่น รายวิชาสุขศึกษา 3 รหัสวิชา พ22101 เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้พัฒนาขึ้นมีชื่อว่า 3PKRC MODEL MODEL มีองค์ประกอบของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ 5 องค์ประกอบได้แก่ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการจัดการเรียนรู้ 4) การวัดผลและประเมินผล 5) เงื่อนไขของการนำรูปแบบไปใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้ มี 6 ขั้น ดังนี้ ขั้นที่ 1 จัดเตรียมความพร้อม (Preparation: P) ขั้นที่ 2 พิจารณาปัญหา (Problem Identification: P) ขั้นที่ 3 คิดวิเคราะห์ปัญหา (Problem Analysis: P) ขั้นที่ 4 เชื่อมโยงความรู้ (Knowledge Integration: K) ขั้นที่ 5 สะท้อนผลการเรียนรู้ (Reflection: R) และขั้นที่ 6 สรุป (Conclusion: C) เมื่อนำไปทดลองใช้กับนักเรียนในกลุ่มภาคสนาม จำนวน 32 คน พบว่ามีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.12/81.95 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด เรื่อง เพศศึกษากับวัยรุ่น รายวิชาสุขศึกษา 3 รหัสวิชา พ22101 เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 2) ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ผลการประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด เรื่อง เพศศึกษากับวัยรุ่น รายวิชาสุขศึกษา 3 รหัสวิชา พ22101 เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า 1) ผลการประเมินหลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด เรื่อง เพศศึกษากับวัยรุ่น รายวิชาสุขศึกษา3 รหัสวิชา พ22101 เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า โดยภาพรวมมีค่าความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก (x̄ = 3.83 S.D. = 1.04) และ 2) ผลของการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนดอนไพลพิทยาคมที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด พบว่า ความพึงพอใจรวมทุกด้านอยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.23, S.D. = 1.11)
|
โพสต์โดย Krutang : [2 ส.ค. 2567 (13:46 น.)] อ่าน [970] ไอพี : 110.49.11.170
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 17,904 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,493 ครั้ง
| เปิดอ่าน 27,281 ครั้ง
| เปิดอ่าน 6,460 ครั้ง
| เปิดอ่าน 29,172 ครั้ง
| เปิดอ่าน 29,893 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,078 ครั้ง
| เปิดอ่าน 80,870 ครั้ง
| เปิดอ่าน 35,360 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,281 ครั้ง
| เปิดอ่าน 617 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,466 ครั้ง
| เปิดอ่าน 30,713 ครั้ง
| เปิดอ่าน 50,143 ครั้ง
| เปิดอ่าน 40,489 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 18,768 ครั้ง
| เปิดอ่าน 27,986 ครั้ง
| เปิดอ่าน 350,707 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,801 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,930 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|