ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ โดยการจัดการเรียน การสอนแบบ GPAS 5 Steps ร่วมกับเทคนิค STAD ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง : การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ โดยการจัดการเรียน

การสอนแบบ GPAS 5 Steps ร่วมกับเทคนิค STAD ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ชื่อผู้วิจัย : นางสาวศิรินันท์ สุรสันติวรการ

รายวิชา การงานอาชีพ 4 รหัสวิชา ง22104 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังโดยการจัดการเรียนการสอนแบบ GPAS 5 Steps ร่วมกับเทคนิค STAD เรื่อง สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) เพื่อศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนแบบ GPAS 5 Steps ร่วมกับเทคนิค STAD เรื่อง สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 วิธีดำเนินการวิจัย ดังนี้ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยได้มาโดยการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (purposive sampling) เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 22 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย/นวัตกรรม คือ การจัดการเรียนการสอนแบบ GPAS 5 Steps ร่วมกับเทคนิค STAD เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน การเก็บรวบรวมข้อมูลจากการกลุ่มตัวอย่างที่มีการจัดการเรียนการสอนแบบ GPAS 5 Steps ร่วมกับเทคนิค STAD ตลอดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 และวัดผลการเรียนรู้ด้วยแบบทดสอบ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย และค่า t แบบไม่เป็นอิสระต่อกัน (t-test for Dependent Samples)

ผลการวิจัยพบว่า

1. การเปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลัง โดยการจัดการเรียนการสอนแบบ GPAS 5 Steps ร่วมกับเทคนิค STAD พบว่า การทดสอบก่อน และหลังเรียน มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.00 คะแนน และ 8.55 คะแนน ตามลำดับ และเมื่อเปรียบเทียบคะแนนก่อนและหลังเรียน พบว่า คะแนนหลังเรียนของนักเรียน สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

2. การประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนแบบ GPAS 5 Steps ร่วมกับเทคนิค STAD พบว่า ความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอนแบบ GPAS 5 Steps ร่วมกับเทคนิค STAD นักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.68

ข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งนี้

1. การจัดการเรียนการสอนแบบ GPAS 5 Steps ร่วมกับเทคนิค STAD เป็นเทคนิคการสอนที่มุ่งเน้นการใช้ทักษะการคิดวิเคราะห์ในทุกขั้นตอน ดังนั้นครูผู้สอนควรจะอธิบายในแต่ละขั้นตอนให้ผู้เรียนทราบอย่างชัดเจน เพื่อที่ผู้เรียนจะได้ปฏิบัติในแต่ละขั้นตอนของกระบวนการ GPAS 5 Steps ร่วมกับเทคนิค STAD ได้เป็นอย่างดี ครูต้องเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ เกี่ยวกับบทเรียนก่อนเพื่อให้การจัดการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ ศึกษาแผนการจัดการเรียนรู้ล่วงหน้า เพื่อให้การปฏิบัติกิจกรรมของนักเรียนในแต่ละขั้นตอนมีความชัดเจน

2. การจัดการเรียนการสอนแบบ GPAS 5 Steps ร่วมกับเทคนิค STAD ช่วยส่งเสริมให้นักเรียนเกิดการค้นคว้าหาความรู้จากกระบวนการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม ซึ่งทำให้นักเรียนเกิดทักษะความรู้ ส่งเสริมให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น ดังนั้นจึงควรนำการจัดการเรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps ร่วมกับเทคนิค STAD ไปส่งเสริมทักษะอื่น ๆ

โพสต์โดย ปุ๊ก : [29 ก.ค. 2567 (18:44 น.)]
อ่าน [1233] ไอพี : 171.99.157.92
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 36,495 ครั้ง
แนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศ
แนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศ

เปิดอ่าน 30,151 ครั้ง
"ซอกแจ" เด็กเกาหลีป.4 ที่ถูกเพื่อนๆ เพิกเฉย ไปดูกันว่า คุณครูช่วยแก้ปัญหานี้อย่างไร?
"ซอกแจ" เด็กเกาหลีป.4 ที่ถูกเพื่อนๆ เพิกเฉย ไปดูกันว่า คุณครูช่วยแก้ปัญหานี้อย่างไร?

เปิดอ่าน 18,435 ครั้ง
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการปฏิรูปการเรียนการสอน
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการปฏิรูปการเรียนการสอน

เปิดอ่าน 20,087 ครั้ง
"ว่านธรณีสาร" คืออะไร มีประโยชน์ตามความเชื่ออย่างไร?
"ว่านธรณีสาร" คืออะไร มีประโยชน์ตามความเชื่ออย่างไร?

เปิดอ่าน 19,138 ครั้ง
ยิงปืนขึ้นฟ้า อายุความกี่ปี ?
ยิงปืนขึ้นฟ้า อายุความกี่ปี ?

เปิดอ่าน 11,289 ครั้ง
ชวนรู้เรื่อง "มะเร็งลำไส้"
ชวนรู้เรื่อง "มะเร็งลำไส้"

เปิดอ่าน 7,882 ครั้ง
เข้าใจนวัตกรรม การศึกษาฟินแลนด์
เข้าใจนวัตกรรม การศึกษาฟินแลนด์

เปิดอ่าน 20,623 ครั้ง
เคลียร์แล้วปัญหาโลกแตก "ไก่" เกิดก่อน "ไข่"
เคลียร์แล้วปัญหาโลกแตก "ไก่" เกิดก่อน "ไข่"

เปิดอ่าน 16,875 ครั้ง
เครื่องเรือน อาวุธ และเครื่องนุ่งห่มกับตัวไม้ประกอบเรือนของชาวสยาม
เครื่องเรือน อาวุธ และเครื่องนุ่งห่มกับตัวไม้ประกอบเรือนของชาวสยาม

เปิดอ่าน 12,061 ครั้ง
ทายนิสัยจากคำนาม ที่คุณเรียกแทนชื่อตัวเอง
ทายนิสัยจากคำนาม ที่คุณเรียกแทนชื่อตัวเอง

เปิดอ่าน 20,060 ครั้ง
เผยวิธีคิดแบบคนเก่ง
เผยวิธีคิดแบบคนเก่ง

เปิดอ่าน 9,290 ครั้ง
ศธ.ให้ความสำคัญครูคนแรกดึงพ่อแม่เป็นส่วนหนึ่งวันครู
ศธ.ให้ความสำคัญครูคนแรกดึงพ่อแม่เป็นส่วนหนึ่งวันครู

เปิดอ่าน 20,172 ครั้ง
การผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ
การผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ

เปิดอ่าน 9,824 ครั้ง
นั่งนานทำให้เป็นคนขี้โรค
นั่งนานทำให้เป็นคนขี้โรค

เปิดอ่าน 26,467 ครั้ง
แมลงมีพิษกัดต่อย
แมลงมีพิษกัดต่อย

เปิดอ่าน 20,667 ครั้ง
เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ พระราชพิธีพระศพ
เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ พระราชพิธีพระศพ
เปิดอ่าน 34,264 ครั้ง
รวมวิธีทำกระทงแบบใหม่ๆ เป็นมิตรกับธรรมชาติ
รวมวิธีทำกระทงแบบใหม่ๆ เป็นมิตรกับธรรมชาติ
เปิดอ่าน 43,668 ครั้ง
การวัดมุมเป็นเรเดียน
การวัดมุมเป็นเรเดียน
เปิดอ่าน 9,387 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาไทย พายเรือในอ่าง (1)
ปฏิรูปการศึกษาไทย พายเรือในอ่าง (1)
เปิดอ่าน 3,438 ครั้ง
เขียน Resume อย่างไรให้ได้งานดี
เขียน Resume อย่างไรให้ได้งานดี

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

Thailand Web Stat

Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ