ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาสื่อประกอบการเรียนวิชา วิทยาการคำนวณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ฯ

การพัฒนาสื่อประกอบการเรียนวิชา วิทยาการคำนวณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้ กระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) มาใช้ในการจัดการเรียนการสอนควบคู่ กับสื่อในระบบคลังสื่อ OBEC Content Center เรื่อง การใช้งานโปรแกรมสแคช

1.ความเป็นมาและความสำคัญ

การจัดการศึกษาโดยใช้สื่อการเรียนรู้ จัดเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ การพัฒนาสื่อการเรียนรู้ให้มีความสอดคล้องกับการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในปัจจุบัน เป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้สอนจะต้องมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงสื่อการเรียนรู้ให้เป็นสื่อการเรียนรู้ที่น่าสนใจ เพื่อกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็น และความสนใจให้กับผู้เรียน ซึ่งการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้สำหรับการศึกษาจะช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างกว้างขวางยิ่งขึ้นเรียนได้เร็วขึ้น เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา ทุกโอกาส ผู้เรียนมีอิสระในการแสวงหาความรู้ มีความรับผิดชอบ เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาจึงมีความสำคัญต่อสังคมปัจจุบันเป็นอย่างมาก

การจัดการเรียนการสอนสาระเทคโนโลยีในปัจจุบัน มุ่งให้นักเรียนมีความรู้และทักษะการคิดวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลข่าวสาร โดยใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่รอบตัวมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เรียนรู้จากสื่อการเรียนการสอนทั้งเอกสารแบบเรียน คู่มือเอกสารการสอนทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ตามความสามารถในการเรียนรู้ของแต่ละบุคคล และการสอนให้ได้ผลดีนั้น ควรจะต้องเริ่มที่หลักการและจัดกระบวนการสอนให้สอดคล้องกับหลักการโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอน วิธีการสอน และเทคนิคการสอน ซึ่งมีอยู่หลากหลายเข้ามาช่วยให้กระบวนการสอนเกิดประสิทธิภาพสูงสุด"(ทิศนา แขมมณี)

คลังเนื้อหาอิเล็กทรอนิกส์ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) หรือ OBEC Content Center คือ โปรแกรมสำหรับให้บริการเผยแพร่เนื้อหาอิเล็กทรอนิกส์แก่นักเรียน ครู ศึกษานิเทศ และบุคลากรทางการศึกษา รองรับการเข้าถึงเนื้อหาอิเล็กทรอนิกส์จำนวน 7 ประเภท ได้แก่ แอพลิเคชั่น, หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (Pdf, ePub), วีดิทัศน์ (Mp4), รูปภาพ (Jpg, Png), เสียง (Mp3), สื่อมัลติมีเดีย (Flash)และ งานวิจัยทางการศึกษา สามารถใช้งานผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ที่รองรับระบบปฏิบัติการ iOS เวอร์ชั่น 8.0 ขึ้นไปหรือ Android เวอร์ชั่น 4.3 ขึ้นไป หรือ Windows เวอร์ชั่น 8.1 ขึ้นไป ซึ่งถือว่าทันสมัยสอดคล้องกับการใช้งานในปัจจุบัน นักเรียนสามารถดาวน์โหลดติดตั้งลงในอุปกรณ์สมาร์ทโฟนเพื่อเข้าไปดูได้จากทุกที่ที่ต้องการ โรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลไม่สะดวกในการใช้งานอินเทอร์เน็ต สามารถดาวน์โหลดลงในเซิร์ฟเวอร์ทำเป็นระบบออฟไลน์ให้นักเรียนได้ จึงได้เลือกใช้สื่อจาก OBEC Content Center มาใช้ในการจัดการเรียนการสอน

จากประสบการณ์ของผู้จัดทำสื่อนวัตกรรม เป็นครูผู้สอนวิชาวิทยาการคำนวณ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 โรงเรียนเมืองพาลุกากรภูมิ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามุกดาหาร พบว่าในปี ที่ผ่านมานักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ส่วนใหญ่มีปัญหา เรื่องการเขียนโปรแกรมด้วยโปรแกรม สแคช ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ต่ำกว่าเกณฑ์ที่โรงเรียนกำหนดไว้ ผู้จัดทำได้แก้ปัญหาโดยการปรับวิธีการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีต่างๆแต่ก็สามารถแก้ปัญหาได้เพียงบางส่วน ปัญหาดังกล่าวถ้าไม่ได้รับการแก้ไขจะเป็นอุปสรรคในการเรียนชั้นสูงต่อไป โดยใช้รูปแบบการสอน ADDIE ดังนี้ ADDIE เป็นรูปแบบการสอนที่ออกแบบขึ้นมา เพื่อใช้ในการออกแบบและพัฒนาระบบการเรียนการสอน โดยอาศัยหลักของวิธีการระบบ (System Approach) ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าสามารถนำไปใช้ออกแบบและพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ได้เป็นอย่างดี และกระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) มาใช้ในการจัดการเรียนการสอน เรื่อง การใช้งานโปรแกรมสแคช บนระบบคลังสื่อ OBEC Content Center เป็นสิ่งจำเป็นมาก เพราะเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเอง มีความสนุกในการเรียน ไม่เบื่อหน่าย ผู้เรียนเรียนได้ทุกที่ทุกเวลาตามความเหมาะสมและ ความต้องการของผู้เรียนในโอกาสต่อไป และสามารถเลือกรูปแบบการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง โดยครูผู้สอนทำหน้าที่เป็นผู้คอยชี้แนะ อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เรียนเท่านั้น ตามหลักทฤษฎีการเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง

ในส่วนของสาระเทคโนโลยี วิชาวิทยาการคำนวณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 นั้น มีเนื้อหาหลาย ๆ เรื่อง ล้วนเกี่ยวข้องกับการใช้งานสื่อเทคโนโลยี สื่อออนไลน์ ข้อมูลออนไลน์ แอปพลิเคชัน การเขียนโปรแกรมด้วยด้วยโปรแกรมสแคช เป็นอีกหนึ่งเนื้อหาที่นักเรียนได้เรียนรู้ และการเลือกใช้งานสื่อการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับนักเรียนจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ที่จะอำนวยความสะดวกให้นักเรียน มีเนื้อหามากมายให้เลือก สามารถเข้าถึงและเลือกศึกษาในเรื่องที่ตนเองสนใจอยากจะเรียนรู้ ได้จากทุก ๆ ที่ และหากสถานการณ์โรคระบาดที่มีลักษณะเดียวกับ โควิด19 เข้ามาอีก ก็ยังใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ของนักเรียนได้

ซึ่งโปรแกรมสแคช เป็นโปรแกรมภาษาแบบ block programming (แบบลาก-วาง) เพื่อให้ตัวละครสนทนา เคลื่อนที่ และวาดรูปได้ โดยจัดเรียงคำสั่งตามลำดับขั้นตอน เป็นสื่อหนึ่งที่สร้างภาพให้เห็นการทำงานเป็นขั้นตอนและวิธีการคิดแก้ปัญหาที่เป็นระบบผู้เรียนสามารถสร้างชิ้นงานได้อย่างง่าย เช่นนิทานที่สามารถโต้ตอบกับผู้อ่านได้ ภาพเคลื่อนไหว เกมดนตรี ศิลปะ และเมื่อสร้างเป็นชิ้นงานเสร็จแล้วสามารถนำชิ้นงานที่สร้างสรรค์นี้แสดง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกับผู้อื่นบนเว็บไซต์ได้ และการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning จึงเป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างสรรค์ทางปัญญา(Constructivism) ที่เน้นกระบวนการเรียนรู้มากกว่าเนื้อหาวิชา เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้หรือสร้างความรู้ให้เกิดขึ้นในตนเอง ด้วยการลงมือปฏิบัติจริงผ่านสื่อหรือกิจกรรมการเรียนรู้ ที่มีครูผู้สอนเป็นผู้แนะนำ กระตุ้น หรืออำนวยความสะดวก ให้ผู้เรียนเรียนเกิดการเรียนรู้ขึ้น โดยกระบวนการคิดขั้นสูง กล่าวคือผู้เรียนมีการวิเคราะห์ สังเคราะห์ และการประเมินค่าจากสิ่งที่ได้รับจากกิจกรรมการเรียนรู้ ทำให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างมีความหมายและนำไปใช้ในสถานการณ์อื่นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ (สถาพร พฤฑฒิกุล, 2558)

ครูผู้สอนเล็งเห็นความสำคัญดังกล่าว จึงพัฒนาสื่อประกอบการเรียนวิชา วิทยาการคำนวณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) มาใช้ในการจัดการเรียนการสอน เรื่อง การใช้งานโปรแกรมสแคช บนระบบคลังสื่อ OBEC Content Center มาใช้ในการจัดการเรียนการสอน ซึ่งคลิปวีดีโอจะสามารถดึงดูดนักเรียนได้ทุกคนทุกวัย สามารถกระตุ้นความสนใจของนักเรียนได้ โดยผู้พัฒนาสื่อ หวังว่าจะช่วยให้นักเรียนมีการพัฒนาการเรียนรู้ที่ดีและจะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาการคำนวณ ในเรื่องอื่นๆ ต่อไป

2.วัตถุประสงค์และเป้าหมาย

2.1วัตถุประสงค์

๑. เพื่อออกแบบสื่อนวัตกรรมในการแก้ปัญหานักเรียนที่มีทักษะการเรียนรู้การเขียนโปรแกรมด้วย Scratch

๒. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังเรียน

2.2 เป้าหมาย

เป้าหมายเชิงปริมาณ

1. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเมืองพาลุกากรภูมิ ในภาคเรียนที่ 1/2567 จำนวน 6 คน

เป้าหมายเชิงคุณภาพ

1 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมด้วย Scratch สูงขึ้น

3.ลำดับการพัฒนาสื่อ

๓.๑ขั้นตอนการพัฒนาสื่อดังนี้

๓.๑.1 วางแผนการดำเนินการ เพื่อแก้ปัญหานักเรียนให้มีทักษะการเรียนรู้ เรื่อง การเขียนโปรแกรมด้วย Scratch ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) มาใช้ในการจัดการเรียนการสอน เรื่อง การใช้งานโปรแกรมสแคช บนระบบคลังสื่อ OBEC Content Center มี ๔ ขั้นตอน ต่อไปนี้

ขั้นที่ ๑ วางแผน

๑. ศึกษาเอกสาร ตำราและงานวิจัย การปัญหาการจัดการชั้นเรียน

๒. วิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล โดยวัดความรู้จากการทำแบบทศสอบก่อนก่อนเรียน

๓. จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้

๔. สร้างสื่อนวัตกรรมบทเรียนออนไลน์

ขั้นที่ ๒ ดำเนินงาน

๕. ให้ความรู้นักเรียน โดยจัดการเรียนการสอนในห้องเรียน

๖. นักเรียนเรียนรู้เนื้อหาด้วยตนเองผ่านบทเรียนออนไลน์

ขั้นที่ ๓ ติดตามประเมินผล

๗. ครูติดตามทักษะการเรียนรู้ของนักเรียน

๘. ประเมินนักเรียนเป็นระยะ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้เนื้อหาที่เรียนร่วมกัน

๙. ประเมินผลการเรียนรู้ โดยทำแบบทดสอบหลังเรียน

ขั้นที่ ๔ สรุปผล

๑๐. สรุปผลการดำเนินงาน

๑๑. นำผลไปปรับปรุงพัฒนา

โพสต์โดย เต้ย : [28 ก.ค. 2567 (22:19 น.)]
อ่าน [61157] ไอพี : 119.42.77.15
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 21,380 ครั้ง
ระเบียบการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน นอกเหนือจากเงินเดือน (2)
ระเบียบการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน นอกเหนือจากเงินเดือน (2)

เปิดอ่าน 17,131 ครั้ง
ชาอู่หลง ช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือ
ชาอู่หลง ช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือ

เปิดอ่าน 11,121 ครั้ง
7 คำถามที่ควรถามลูก...หลังลูกจากกลับจากโรงเรียน
7 คำถามที่ควรถามลูก...หลังลูกจากกลับจากโรงเรียน

เปิดอ่าน 11,495 ครั้ง
ความลับ ทำไมคนญี่ปุ่นถึงอายุยืนที่สุดในโลก
ความลับ ทำไมคนญี่ปุ่นถึงอายุยืนที่สุดในโลก

เปิดอ่าน 21,080 ครั้ง
แผนการปฏิรูปประเทศ ด้านการศึกษา โดย คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา พฤษภาคม 2562
แผนการปฏิรูปประเทศ ด้านการศึกษา โดย คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา พฤษภาคม 2562

เปิดอ่าน 11,681 ครั้ง
วิธีลดลอยแผลขรุขระบนใบหน้า
วิธีลดลอยแผลขรุขระบนใบหน้า

เปิดอ่าน 16,530 ครั้ง
เคล็ดลับ!! เติมพลังใจคนวัยทำงาน
เคล็ดลับ!! เติมพลังใจคนวัยทำงาน

เปิดอ่าน 18,232 ครั้ง
หลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามาตรา 36 ค.(2)
หลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามาตรา 36 ค.(2)

เปิดอ่าน 13,238 ครั้ง
พืชพรรณธรรมชาติ ที่ดีต่อผิวพรรณ
พืชพรรณธรรมชาติ ที่ดีต่อผิวพรรณ

เปิดอ่าน 12,796 ครั้ง
13 ความเชื่อที่ควรรู้เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม
13 ความเชื่อที่ควรรู้เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม

เปิดอ่าน 16,694 ครั้ง
คลิปน้อง "ธนัช" เด็กไทยอัจฉริยะ ตอน 4 ขวบ เดี่ยวไวโอลิน ที่ยอดวิวตอนนี้ 22 ล้านแล้ว
คลิปน้อง "ธนัช" เด็กไทยอัจฉริยะ ตอน 4 ขวบ เดี่ยวไวโอลิน ที่ยอดวิวตอนนี้ 22 ล้านแล้ว

เปิดอ่าน 11,142 ครั้ง
ริ้วรอยบนใบหน้าแก้ได้ หมอแนะควรศึกษาก่อนทำ
ริ้วรอยบนใบหน้าแก้ได้ หมอแนะควรศึกษาก่อนทำ

เปิดอ่าน 1,112 ครั้ง
6 เคล็ดลับในการเลือกแบบบ้าน Modern Luxury
6 เคล็ดลับในการเลือกแบบบ้าน Modern Luxury

เปิดอ่าน 73,823 ครั้ง
พี่หมื่นจัดให้! เพลง บุพเพสันนิวาส English Version  by Tony Wathasilp (โทนี่ อังกฤษศิลป์)
พี่หมื่นจัดให้! เพลง บุพเพสันนิวาส English Version by Tony Wathasilp (โทนี่ อังกฤษศิลป์)

เปิดอ่าน 32,873 ครั้ง
ทิศหก
ทิศหก

เปิดอ่าน 12,830 ครั้ง
รักษารองเท้าหน้าฝน
รักษารองเท้าหน้าฝน
เปิดอ่าน 7,864 ครั้ง
สรุปสาระสำคัญเกณฑ์ย้ายครู ไม่ต้องรอ 4 ปี
สรุปสาระสำคัญเกณฑ์ย้ายครู ไม่ต้องรอ 4 ปี
เปิดอ่าน 19,648 ครั้ง
สิ่งของเสริมมงคลและตัวอย่างการแก้ไขฮวงจุ้ย
สิ่งของเสริมมงคลและตัวอย่างการแก้ไขฮวงจุ้ย
เปิดอ่าน 2,376 ครั้ง
ส่อง 10 เทรนด์เทคโนโลยีด้านเฮลท์แคร์ ปี 2023
ส่อง 10 เทรนด์เทคโนโลยีด้านเฮลท์แคร์ ปี 2023
เปิดอ่าน 4,194 ครั้ง
"ยางอินเดีย" ไม้มงคลยอดฮิต ปลูกประดับบ้าน
"ยางอินเดีย" ไม้มงคลยอดฮิต ปลูกประดับบ้าน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ