วัตถุประสงค์ของการวิจัย
เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนเรื่อง การอ่านและเขียนคำอักษรนำและคำควบกล้ำ ของนักเรียนชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดอู่ตะเภา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 3 โดยใช้ แบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่านและการเขียนคำควบกล้ำและคำอักษรนำ
ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า
1 ประชากร
ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนวัดอู่ตะเภา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 3
2 กลุ่มตัวอย่าง
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนวัดอู่ตะเภา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 3 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 15 คน ซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
1. แบบประเมินผลการอ่านและการเขียนก่อนเรียนและหลังเรียน
2. แบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่านและการเขียนคำควบกล้ำและคำอักษรนำ
สรุปผลการศึกษา
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในการอ่านและเขียนคำอักษรนำและคำควบกล้ำ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดอู่ตะเภา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 3 โดยใช้ แบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่านและการเขียนคำควบกล้ำและคำอักษรนำ มีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
อภิปรายผล
ผลการศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้ปรากฏว่า ผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ของนักเรียนหลังการใช้แบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่านและการเขียนคำควบกล้ำและคำอักษรนำหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
1. การสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่านและการเขียนคำควบกล้ำและคำอักษรนำ ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสมกับเนื้อหา
2. การจัดการเรียนรู้เรื่อง คำควบกล้ำและคำอักษรนำ โดยใช้แบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่านและการเขียนคำควบกล้ำและคำอักษรนำ ได้เรียงลำดับความยากง่าบสอดคล้องตามธรรมชาติการเรียนรู้ ทำให้เรียนรู้สึกว่าตนเองประสบความสำเร็จในการเรียนรู้
ข้อเสนอแนะ
จากผลการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีข้อเสนอแนะเพื่อประโยชน์ต่อวงการศึกษาดังนี้
1. ก่อนนำแบบฝึกทักษะไปใช้ประกอบการสอน ผู้สอนควรศึกษารายละเอียดของทุกกิจกรรมก่อนนำไปใช้
2. แบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่านและการเขียนคำควบกล้ำและคำอักษรนำนี้ สามารถใช้ควบคู่กับรูปแบบการสอนอื่นได้ตามความเหมาะสม