(ได้ผ่านการคัดเลือกผลงานวิชาการปฎิบัติที่เป็นเลิศด้านการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ระดับปฐมวัย ครูผู้สอน ระดับยอดเยี่ยม ปี งบประมาณ 2566)
ชื่อผู้เสนอผลงาน นางสาวอารียา สอนคำมี
ครู ค.ศ.๑ โรงเรียน บ้านโนนสวรรค์
หลักการและเหตุผลของผลงาน นวัตกรรมหรือแนวปฏิบัติที่นำเสนอ
จากหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยพุทธศักราช 2560 (สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษากระทรวงศึกษาธิการ.2560) กำหนดเป้าหมายในการพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีการพัฒนาด้านร่างกาย อารมณ์จิตใจ สังคมและสติปัญญา เป็นคนดี มีวินัย สำนึกความเป็นไทย และมีความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัวชุมชน สังคมและประเทศชาติต่อไป โดยเน้นพัฒนาทุกด้านอย่างสมดุลและเต็มตามศักยภาพ การศึกษาระดับปฐมวัยควรตระหนักถึงความสำคัญของพัฒนาการทั้ง 4 ด้านของเด็กปฐมวัย พัฒนาการทางด้านสติปัญญาเป็นพัฒนาการที่สำคัญในการเรียนรู้ของเด็กในช่วงอายุ 0-6 ปี ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญและจำเป็นที่สุดในการพัฒนาสมองเนื่องจากเป็นระบบที่มีความคิดซับซ้อน เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาสติปัญญาของเด็กปฐมวัย การที่เด็กได้คิด การสื่อความหมายของความต้องการตนเองและผู้อื่น เป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาทักษะด้านสติปัญญาซึ่งนำไปสู่การพัฒนาทักษะด้านอื่นๆ
การคิดของเด็กปฐมวัยเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นในสมอง ที่มีผลจากการรับรู้สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันทั้งที่เด็กรู้ตัวและไม่รู้ตัว การคิดของเด็กปฐมวัยจะเกี่ยวข้องกับโครงสร้างของสมองและกระบวนการทำงานของสมอง ซึ่งการทำงานของสมองจะเป็นการพัฒนาการคิดของเด็ก จากการสังเกตเด็กปฐมวัย พบว่า การคิดของเด็กเกิดขึ้นตลอดเวลา เมื่อเด็กนึกคิดสิ่งใดสิ่งหนึ่งจะเป็นการสะท้อนพฤติกรรมหรือสะท้อนออกมาในรูปแบบการกระทำ เพราะสมองเป็นส่วนสำคัญที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับการคิดเด็กจะเริ่มต้นพัฒนาการด้านการคิด การรับรู้ ประสาทสัมผัส ซึ่งเป็นประสบการณ์แรกหรือเป็นขั้นต้นของการพัฒนาทางด้านการคิด การคิดของเด็กเป็นไปตามสิ่งที่เด็กเห็นได้รู้สึก ได้ยิน รู้รส ได้กลิ่น สัมผัส ซึ่งเป็นการรับรู้ทางประสาทสัมผัสทั้ง 5 หรือเรียกว่าขั้นประสาทรับรู้ (Sensorimotor stage) และพร้อมที่จะพัฒนาไปเป็นขั้นก่อนปฏิบัติการ (Preoperational stage) ในแต่ละขั้นของพัฒนาการของเด็ก จะเป็นการพัฒนาเครื่องมือในการคิดหรือสัญลักษณ์ ซึ่งเด็กปฐมวัยไม่ได้มองว่าสิ่งนั้นคืออะไร แต่มองว่าสิ่งนั้นเป็นตัวแทนหรือใช้แทนอะไรได้บ้าง โดยใช้คำพูดเป็นการสื่อความหมาย ประสบการณ์ซ้ำๆจะช่วยพัฒนาการคิดได้เร็วขึ้น(อารมณ์ สุวรรณปาล.2551)
ทักษะการคิดเป็นรากฐานสำคัญของการเรียนรู้และการดำเนินชีวิตของบุคคล ซึ่งเป็นทักษะที่ทุกคนสามารถพัฒนาได้ซึ่งประกอบด้วยทักษะสำคัญคือ การสังเกต การเปรียบเทียบ การคาดคะเน และ การประยุกต์ใช้ การประเมินผล การจำแนกประเภท การจัดหมวดหมู่ การสันนิษฐาน การสรุปเชิงเหตุผล
ซึ่งทางโรงเรียนบ้านโนนสวรรค์ได้ส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยมีพัฒนาการทั้ง 4 ด้านและเน้นให้มีทักษะการคิด การส่งเสริมความสามารถด้านความคิดเพิ่มมากขึ้น สามารถมองเห็นแนวทางการแก้ปัญหาได้ในแนวกว้างขวาง สามารถเชื่อมโยงและขยายความคิดที่มีอยู่ให้สมบูรณ์มากขึ้น การเปิดโอกาสให้เด็กได้คิดและตัดสินใจด้วยตนเอง ภายใต้การดูแลของคุณครูที่จัดประสบการณ์เรียนรู้ให้กับเด็ก ให้กำลังใจ ให้โอกาสและเวลาอย่างเพียงพอเหมาะสม ความคิดของเด็กปฐมวัยเป็นปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการเรียนรู้ของผู้เรียน มีความสำคัญต่อการส่งเสริมตัวเด็กให้มีความสมบูรณ์โดย การจัดประสบการณ์เรียนรู้เชิงรุก active learning เพื่อส่งเสริมพัฒนาทักษะการคิดของเด็กปฐมวัย
การจัดประสบการณ์เรียนรู้เชิงรุก Active Learning หรือการเรียนรู้แบบลงมือกระทำ เป็นการเรียนรู้ซึ่งเด็กได้กระทำกับวัตถุได้มีปฏิสัมพันธ์กับบุคคล ความคิด และเหตุการณ์จนกระทั่งสามารถสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง (Hohmann and Weikart,1995) การเลือกใช้สื่อ และวัสดุอุปกรณ์ การเลือกและการตัดสินใจการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 การสนับสนุนจากผู้ใหญ่ การจัดการเรียนรู้เชิงลึกเป็นการจัดประสบการณ์เรียนรู้โดยมุ่งเน้นให้เด็กปฐมวัยลงมือปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง ผ่านการไตร่ตรองจากกระบวนการสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ ที่เชื่อมโยงความรู้จากประสบการณ์เดิมเด็กได้เผชิญกับสถานการณ์และแนวทางในการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีต่างๆ เพื่อให้เด็กได้นำความรู้ที่ได้รับมาสร้างเป็นความรู้ใหม่ โดยครูจะจัดกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านสื่อและอำนวยความสะดวกให้เด็กได้เรียนรู้อย่างมีความหมาย หากเด็กพบปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ คุณครูจะเป็นผู้ช่วยในการค้นหาคำตอบด้วยการปฏิสัมพันธ์เชิงบวก และการใช้ภาษาสร้างสรรค์ให้เด็กได้สืบเสาะหาคำตอบด้วยตนเอง ในสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก ให้เด็กได้เรียนรู้การใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 การแก้ปัญหาจากการคิด การสื่อความหมายด้วยคำศัพท์ คำพูด เพื่อริเริ่มกิจกรรมใหม่ๆโดยคุณครูจะลดบทบาทของตนเองเป็นเพียงผู้สนับสนุนการเรียนรู้ของเด็ก
ความสำคัญของการจัดการเรียนรู้เชิงรู้ โดยมุ่งสร้างให้เด็กมีทักษะการคิดการตัดสินใจและ การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลายเพื่อให้เด็กพัฒนาการใช้ภาษาความคิดสร้างสรรค์จินตนาการ การแก้ปัญหาการคิดเชิงเหตุผล การคิดรวบยอดเป็นพื้นฐานของการเรียนรู้ในระดับต่อไป กลยุทธ์ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกเป็นการจัดกิจกรรมและประสบการณ์เรียนรู้ให้เด็กปฐมวัยมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้อย่างกระตือรือร้น ทั้งด้านร่างกาย (Physically active) การคิดและสติปัญญา (Intellectually active) อารมณ์จิตใจ (emotionally active) และทางสังคม (socially active) จะส่งผลให้เด็กเกิดการเรียนรู้ได้ดี โดยการจัดประสบการณ์เรียนรู้เชิงรุก Active Learning โดยเน้นการส่งเสริมพัฒนาทักษะการคิดของเด็กปฐมวัยอย่างต่อเนื่อง
จากความสำคัญดังกล่าว ผู้สอนจึงเล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาทักษะการคิดของเด็กปฐมวัย จึงได้ศึกษาการจัดประสบการณ์เรียนรู้เชิงรุก Active Learning เพื่อส่งเสริมพัฒนาทักษะการคิดของเด็กปฐมวัย การเปิดโอกาสให้เด็กได้คิดและตัดสินใจด้วยตนเอง ให้เด็กได้เรียนรู้ลงมือปฏิบัติ การยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง การจัดประสบการณ์จะต้องให้สอดคล้อง เหมาะสมกับเด็กและสภาพแวดล้อมของท้องถิ่น เพื่อที่เด็กจะได้ฝึกฝนตนเอง ให้เหมาะสมกับชุมชน หรือท้องถิ่นรอบๆ ตัวเด็ก นอกจากนี้จะต้องจัดประสบการณ์ให้สอดคล้องกับความแตกต่างระหว่างบุคคล เพื่อให้เด็กๆได้ส่งเสริมพัฒนาการของเด็กอย่างมีคุณภาพ เต็มตามศักยภาพ มีพัฒนาการสมวัยเกิดการเรียนรู้ สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ และมีความพร้อมในการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ