ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาดนตรีเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านโน้ตดนตรีสากลตามแนวทางการสอนดนตรีของซูซูกิร่วมกับการจัดการเรียนรู้ CO ๕ STEPs โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนเรื่อง เครื่องหมายและสัญลักษณ์ทางด

๑) ความสำคัญของนวัตกรรมการศึกษา (๒๐คะแนน)

ดนตรีเป็นสิ่งที่ธรรมชาติให้มาพร้อมๆ กับชีวิตมนุษย์โดยที่มนุษย์เองไม่รู้ตัว ดนตรีเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์อย่างหนึ่งที่ช่วยให้มนุษย์มีความสุข สนุกสนานรื่นเริง ช่วยผ่อนคลายความเครียด ทั้งทางตรงและทางอ้อม ดนตรีเป็นเครื่องกล่อมเกลาจิตใจของมนุษย์ให้มีความเบิกบานหรรษา ให้เกิดความสงบและพักผ่อน กล่าวคือในการดำรงชีพของมนุษย์ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย ดนตรีมีความเกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อาจสืบเนื่องมาจากความบันเทิงในรูปแบบต่างๆ โดยตรงหรืออาจเกิดจากขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม ความเชื่อ (คมสันต์ วงค์วรรณ์, ๒๕๕๑ : ๑) ซึ่งดนตรีมีอิทธิพลที่สามารถก่อให้เกิดสุนทรียรสในการฟัง การจิตนาการ ดนตรีสามารถก่อให้เกิดความสุข ความปลื้มปิติ ความพึงพอใจหรือแม้กระทั่งความทุกข์โทมนัสให้แก่มนุษย์ได้ และไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ชนชาติใดภาษาใดก็ตาม ต่างก็สามารถรับรู้อรรถรสของดนตรีได้โดยใช้เสียงเป็นสื่อได้เหมือนกัน จึงอาจกล่าวได้ว่า ดนตรีนับว่าเป็นภาษาสากลของมวลมนุษยชาติเลยทีเดียว เสียงดนตรีมีอิทธิพลต่อทั้งร่างกายและจิตใจของมนุษย์อย่างเชื่อมโยงและสัมพันธ์กัน ดังที่ สุกรี เจริญสุข (๒๕๕๐ : ๖๒) กล่าวไว้ว่า เสียงดนตรีมีอิทธิพลต่อร่างกาย เมื่อร่างกายสัมผัสต่อเสียงดนตรี จังหวะดนตรีมีอิทธิพลทำให้ร่างกายเคลื่อนไหว ขยับตามจังหวะ เสียงดนตรีมีอิทธิพลต่อจิตใจ ทำให้เกิดความรู้สึกถึงความเป็นปัจจุบัน ทำให้นึกถึงอดีต ทำให้คิดถึงอนาคต ดนตรีทำให้อารมณ์เปลี่ยนไปตามมิติของกาล อาจจะเป็นอารมณ์ที่หวนรำลึกถึงอดีต อาจจะเป็นการสร้างอารมณ์ปัจจุบันและอาจจะสร้างให้เกิดจินตนาการได้ เสียงดนตรีมีอิทธิพลต่อจิตใจ “ เสียงใสใจสะอาด ”เป็นอิทธิพลที่เกี่ยวกับเสียงโดยตรง เนื่องจากเสียงออกมาจากจิตใจเมื่อใจรู้สึกเป็นอย่างไรก็จะถ่ายทอดเป็นเสียงออกมาเป็นอย่างนั้นในขณะเดียวกันเสียงที่ออกมาจากจิตใจ ความสุขและความทุกข์ได้อาศัยเสียงระบายออกมาภายนอกซึ่งทำให้จิตใจผ่อนคลาย ลงได้โดยธรรมชาติดนตรีจึงเป็นหุ้นส่วนของชีวิตและจิตใจ

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ เป็นกลุ่มสาระทีมุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนมีความคิดริเริมสร้างสรรค์ มีจินตนาการทางศิลปะ ชื่นชม ความงาม มีสุนทรียภาพ ความมีคุณค่า ซึ่งมีผลต่อคุณภาพชีวิตมนุษย์ กิจกรรมทางศิลปะช่วยพัฒนาผู้เรียน ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์ สังคม ตลอดจนการนำไปสู่ การพัฒนาสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความเชื่อมั่นในตนเอง อันเป็นพื้นฐานในการศึกษาต่อ หรือประกอบอาชีพได้ (กระทรวงศึกษาธิการ. ๒๕๕๑ : ๒) ตามโครงสร้างหลักสูตรแกนกลางขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ แบ่งสาระการเรียนรู้ออกเป็น ๓ สาระ คือ สาระที่ ๑ ทัศนศิลป์ สาระที่ ๒ ดนตรี สาระที่ ๓ นาฏศิลป์ สำหรับการจัดการเรียนการสอนสาระดนตรีนั้น มุ่งหวังให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจองค์ประกอบดนตรีแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่าดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึก ทางดนตรีอย่างอิสระ ชื่นชมและประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างดนตรี ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าดนตรีที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย และสากล ร้องเพลง และเล่นดนตรีในรูปแบบต่าง ๆ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเสียงดนตรี แสดงความรู้สึกที่มีต่อดนตรีในเชิงสุนทรียะ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างดนตรีกับประเพณีวัฒนธรรม และเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ (สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. ๒๕๕๑ : ๑)

การจัดการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ คือ การจัดการเรียนการสอนที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติจริง ถือได้ว่า เป็นการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ดังที่ ทิศนา แขมมณี (๒๕๕๗ : ๑๒๑) กล่าวว่า หากครูผู้สอนสามารถออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ทีส่งเสริมให้ผู้เรียนมีบทบาทสําคัญในการเรียนรู้ มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ทางกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม ภายใต้กิจกรรมที่ผู้เรียน ได้เคลื่อนไหวปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ได้ใช้ความคิดได้มีปฏิสัมพันธ์แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้อื่น และเกิดอารมณ์ความรู้สึก อันจะช่วยให้การเรียนรู้มีความหมายต่อผู้เรียน การเรียนรู้ดังกล่าวจะเป็นปัจจัยส่งผลให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่แท้จริง

ในส่วนของครูควรศึกษาวิธีการจัดการเรียนรู้ในรูปแบบต่างๆ เพื่อปรับปรุง แก้ไข และนามาปรับใช้ในการพัฒนาทักษะทางดนตรี ให้เหมาะสมกับนักเรียน สำหรับการจัดการเรียนรู้ในวิชาดนตรี แนวคิดทฤษฎีจากนักวิชาการที่นิยมนามาใช้นั้นมาจากนักวิชาการ ๔ ท่าน คือ ๑.โซลตาน โดดาย มีหลักการสอนดนตรี โดยจัดลาดับเนื้อหาและกิจกรรมดนตรีให้สอดคล้องกับพัฒนาการของเด็ก โดยมีขั้นตอนจากง่ายไปหายาก ๒. เอมิล ชาคส์ ดาลโครซ มีหลักการสอนดนตรี โดยใช้การเคลื่อนไหวจังหวะเพื่อตอบสนองต่อเสียงดนตรี ๓. คาร์ล ออฟ มีหลักการสอนดนตรี โดยจัดลาดับเนื้อหาและกิจกรรมดนตรีให้สอดคล้องกับพัฒนาการของเด็ก โดยการรวมเอาดนตรี การเคลื่อนไหว และการพูดเข้าไว้ด้วยกัน และ ๔. ชินอิชิ ซูซูกิ มีหลักการสอนดนตรีเช่นเดียวกับเด็กที่เรียนรู้ภาษาแม่ โดยเกิดจากการฟังและการเลียนแบบ (ประพันธ์ศักดิ์ พุ่มอินทร์, ๒๕๕๗)

กระบวนการเรียนรู้แบบรวมพลัง ๕ ขั้นตอน ๕ STEPs Collaborative Learning Process เรียกสั้นๆ คือ CO-๕STEPs เป็นแนวการสอนที่มีการดัดแปลงมาจากกระบวนการเรียนรู้ ๕ ขั้นตอนโดยเพิ่มเติมการทำงานกลุ่มแบบรวมพลังเพื่อให้มีการจัดการเรียนรู้บนฐานวิธีการทางวิทยาศาสตร์อีกทั้งเน้นการให้นักเรียนร่วมมือกันทำงานช่วยเหลือกันเด็กเก่งช่วยเด็กเรียนช้าเด็กถนัดกว่าช่วยเด็กถนัดน้อย โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดความเสมอภาค กระบวนการเรียนรู้แบบรวมพลัง ๕ ขั้นตอนเป็นแนวการสอนหนึ่งของการเรียนรู้เชิงรุก เน้นให้ผู้เรียนสร้างความรู้ด้วยตนเอง รวมทั้งประยุกต์ความรู้ได้ บนฐานวิธีการทางวิทยาศาสตร์นักเรียนมีการปฏิบัติกิจกรรมแบบทำงานกลุ่มโดยทุกคนร่วมด้วยช่วยกัน บทบาทของผู้เรียนเป็นผู้เรียนรู้ (Learner) บทบาทของครูเป็นผู้อำนวยความสะดวก (Facilitator)เป็นแนวการสอนที่เน้นให้ผู้เรียนสร้างความรู้ด้วยตนเอง รวมทั้งประยุกต์ความรู้ได้ บนฐานวิธีการทางวิทยาศาสตร์นักเรียนมีการปฏิบัติกิจกรรมแบบทำงานกลุ่มโดยทุกคนร่วมด้วยช่วยกัน เด็กเก่งช่วยเด็กเรียนช้ากว่า เด็กถนัดกว่าช่วยเด็กถนัดน้อย เพื่อให้มีความสุขในการเรียน และผู้เรียนจะมีความรู้ในเนื้อหาสาระที่เรียน

การจัดการเรียนรู้ดนตรีตามแนวคิดของซูซูกิ (Suzuki Method) เป็นการสอนดนตรีรูปแบบหนึ่งที่มีความน่าสนใจกับการนำมาประยุกต์ใช้การสอนทักษะการปฏิบัติทางดนตรี โดย ดร.ชินอิชิ ซูซูกิ ได้ให้ทัศนะไว้ว่านักร้องที่ดีต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงในการฝึกฝนการเปล่งเสียงร้อง (Vocalizations) เพื่อที่จะพัฒนาให้เสียงที่ร้องมีความไพเราะทุกตัวโน้ต (ประพันธ์ศักดิ์ พุ่มอินทร์, ๒๕๕๕) วิธีการจัดการเรียนรู้นี้ ประกอบด้วย ๔ ขั้นตอน (สุกรี เจริญสุข, ๒๕๔๒, น.๑๓ - ๑๗) คือ

• ขั้นที่หนึ่ง การฟัง (Listening) คือ การฟังเพลงแบบซ้ำๆ

• ขั้นที่สอง เลียนแบบ (Imitation) คือ การสังเกตและจดจำจากครูที่เป็นต้นแบบ

• ขั้นที่สาม ทำซ้ำ (Reiteration) คือ การฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ ฝึกซ้ำแล้วซ้ำอีกจนเป็นธรรมชาติ

• ขั้นที่สี่ จดจำฝังใจ (Memorize) คือ สามารถปฏิบัติดนตรีโดยเสียงไม่เพี้ยน ถูกต้องและเหมาะสม

จากเหตุผลและความสำคัญดังกล่าว ผู้รายงานเป็นครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ มีความสนใจที่จะทำ การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาดนตรีเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านโน้ตดนตรีสากลตามแนวทางการสอนดนตรีของซูซูกิร่วมกับการจัดการเรียนรู้ CO ๕ STEPs โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนเรื่อง เครื่องหมายและสัญลักษณ์ทางดนตรี ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนวัดคูยาง เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ ซึ่งเอกสารประกอบการเรียนเป็นสื่อการเรียนที่ผลิตขึ้นได้ง่าย ไม่มีความซับซ้อนในการผลิต และสามารถเพิ่มเติมเนื้อหา ตามความเหมาะสมของบริบทของผู้เรียนและสถานศึกษา เหมาะสมกับการเรียนรู้ทฤษฎีดนตรีดังกล่าว ง่ายต่อการเรียนรู้ มีกิจกรรมแบบฝึกที่หลากหลาย ตลอดจนมีแบบทดสอบเพื่อให้ผู้เรียนได้ตรวจสอบและประเมินความสามารถของตนเอง อันเป็นการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เพิ่มพูนทักษะและความรู้ของนักเรียนให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการปลูกฝังให้นักเรียนรู้จักปรับตัวให้ทันกับเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงในยุคข้อมูลข่าวสาร และมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรายวิชาศิลปะ (สาระดนตรี) ยิ่งขึ้นต่อไป

๒) วัตถุประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินงาน (๑๐ คะแนน)

วัตถุประสงค์

๑. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถอ่านโน้ตดนตรีสากลได้ถูกต้องตามหลักวิชาการทางดนตรี

๒. เพื่อส่งเสริมความสามารถสามารถด้านทักษะดนตรีด้านการขับร้องและบรรเลงเครื่องดนตรี

๓. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนได้นำความรู้เรื่องการอ่านโน้ตดนตรีไปใช้ในการขับร้องและบรรเลงดนตรี

ตามความถนัด

๔. เพื่อให้ผู้เรียนมีเจตคติที่ดี ตระหนักและเห็นคุณค่าความสำคัญของดนตรีสากล

๕. เพื่อส่งเสริมทักษะการค้นคว้าองค์ความรู้ด้วยตนเอง

๖. เพื่อส่งเสริมทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น

เป้าหมาย

ผู้เรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ทุกคน

เชิงปริมาณ

๑. ผู้เรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ร้อยละ ๘๐ มีความรู้ความเข้าใจอ่านโน้ตดนตรีสากลได้ ถูกต้องตามหลักวิชาการทางดนตรี

๒. ผู้เรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ร้อยละ ๘๐ มีทักษะดนตรีด้านการขับร้องและบรรเลงเครื่องดนตรี

๓. ผู้เรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ร้อยละ ๘๐ สามารถนำความรู้เรื่องการอ่านโน้ตดนตรีไป ใช้ในการขับร้องและบรรเลงดนตรีตามความถนัดและร่วมกิจกรรมต่างๆ ภายในโรงเรียนได้

๔. ผู้เรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ร้อยละ ๘๐ มีเจตคติที่ดี ตระหนักและเห็นคุณค่าความสำคัญของโน้ตดนตรีสากล

๕. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ร้อยละ ๙๐ มีทักษะการค้นคว้าองค์ความรู้ด้วยตนเอง

๖. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ร้อยละ ๙๐ มีทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น

เชิงคุณภาพ

๑. ผู้เรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ มีความรู้ความเข้าใจอ่านโน้ตดนตรีสากลได้ถูกต้องตาม หลักวิชาการทางดนตรี

๒. ผู้เรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ทักษะดนตรีด้านการขับร้องและบรรเลงเครื่องดนตรี

๓. ผู้เรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ สามารถนำความรู้เรื่องการอ่านโน้ตดนตรีไปใช้ในการขับร้องและบรรเลงดนตรีตามความถนัดและร่วมกิจกรรมต่างๆ ภายในโรงเรียนได้

๔. ผู้เรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ มีเจตคติที่ดี ตระหนักและเห็นคุณค่าความสำคัญของโน้ตดนตรีสากล

๕. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ค้นคว้าองค์ความรู้ด้วยตนเองได้

๖. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้

๓) ขั้นตอนการดำเนินงาน (๒๕ คะแนน)

๑. วิเคราะห์หลักสูตรและตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระดนตรี)

๒. วิเคราะห์บริบทของสถานศึกษา

๓. ศึกษาปัญหาทักษะวิชาดนตรี

๔. ศึกษาแนวคิดทฤษฎีเกี่ยวกับจิตวิทยาการสอนดนตรี

๕. ศึกษาและพัฒนาการเรียนรู้แบบ Active Learning Co ๕ STEPs

๕. ศึกษาและพัฒนาการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้การจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดของซูซูกิ

๖. จัดทำแผนการเรียนรู้แบบ Active Learning Co ๕ STEPs ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการสอนดนตรีของซูซูกิ

๗. จัดการเรียนรู้วิชาดนตรีเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านโน้ตดนตรีสากลตามแนวทางการสอนดนตรีของซูซูกิร่วมกับการจัดการเรียนรู้ CO ๕ STEPs โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนเรื่อง เครื่องหมายและสัญลักษณ์ทางดนตรี ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนวัดคูยาง

๘. ติดตาม ตรวจสอบ วัดผลและประเมินผล

๙. สรุปรายงานผล การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาดนตรีเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านโน้ตดนตรีสากลตามแนวทางการสอนดนตรีของซูซูกิร่วมกับการจัดการเรียนรู้ CO ๕ STEPs โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนเรื่อง เครื่องหมายและสัญลักษณ์ทางดนตรี ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนวัดคูยาง

เพื่อใหบรรลุผลลัพธที่สําคัญและจําเปนตอทักษะทางดนตรีที่สำคัญตัวผู้เรียนอยางแทจริงมุงไปที่ใหผู้เรียนศึกษาและสรางองคความรูดวยตนเอง นำไปสูการทักษะในศตวรรษที่ ๒๑ ครูเป็นเพียงเปนผูออกแบบการเรียนรู และอํานวยความสะดวกในการเรียนรูใหผู้เรียนเรียนรูจากการค้นคว้าและลงมือทําโดยมีประเด็นคําถาม เปนตัวกระตุ้นและสรางแรงบันดาล ใจใหอยากเรียน ที่จะนําไปสูการกระตือรือรนที่ในการเรียนวิชาดนตรีสามารถนำทักษะที่ได้ไปพัฒนาต่อยอด มีทักษะในการรวบรวมความรูจากแหลงตางๆ มาสนับสนุน แลกเปลี่ยนหรือโตแยง อภิปรายกันเพื่อสรุปองค์ความรู้ และมีการทบทวนขอสมมติฐานและแนวคิดโดยการปฏิบัติโดยใช้ หลักการสังเกตและจดจำจากครูที่เป็นต้นแบบ การฝึกซ้อมและทบทวนอย่างสม่ำเสมอ ฝึกซ้ำแล้วซ้ำอีกจนเป็นธรรมชาติ สร้างทักษะและความเข้าใจให้สามารถปฏิบัติดนตรีโดยเสียงไม่เพี้ยน ถูกต้องและเหมาะสมซึ่งจะส่งผลให้ผู้เรียนได้พัฒนาทักษะทางด้านดนตรีอย่างถูกต้อง

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาดนตรีเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านโน้ตดนตรีสากลตามแนวทางการสอนดนตรีของซูซูกิร่วมกับการจัดการเรียนรู้ CO ๕ STEPs โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนเรื่อง เครื่องหมายและสัญลักษณ์ทางดนตรี ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนวัดคูยาง มีปัจจัยที่ทำให้วิธีการประสบผลสำเร็จขึ้นได้เนื่องจากมีกระบวนการขั้นตอนและวิธีในการดำเนินงานในรูปแบบของ PDCA เข้ามาร่วมด้วยในการจัดกิจกรรมดังนี้

P : Plan (วางแผนการทำงาน)

๑) วิเคราะห์หลักสูตรและตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระดนตรี) วิเคราะห์บริบทของสถานศึกษา ศึกษาปัญหาทักษะด้านดนตรีและส่งเสริมทักษะด้านดนตรีของผู้เรียน

๒) วางแผนการดำเนินงาน มีการวางแผนการจัดกิจกรรม ความร่วมมือร่วมใจของผู้บริหารและคณะผู้สอนในโรงเรียน

๓) กำหนดรูปแบบของกิจกรรมการเรียนการสอน และจัดการสอนที่เหมาะสมกิจกรรมในครั้งนี้

D : Do (ลงมือปฏิบัติ)

๔) จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้แบบเพื่อทักษะการอ่านโน้ตดนตรีสากลร่วมกับการจัดการเรียนรู้ CO ๕ STEPs และแนวคิดการสอนดนตรีของซูซูกิโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนเรื่อง เครื่องหมายและสัญลักษณ์ทางดนตรี ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนวัดคูยางดำเนินงานตามรูปแบบที่กำหนดไว้โดยมีผู้สอนรับผิดชอบและ มีส่วนร่วมในการจัดการเรียนการสอนตามรูปแบบของกิจกรรม ทุกขั้นตอนของกิจกรรม และจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามแนวคิดของการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาดนตรีเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านโน้ตดนตรีสากลตามแนวทางการสอนดนตรีของซูซูกิร่วมกับการจัดการเรียนรู้ CO ๕ STEPs โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนเรื่อง เครื่องหมายและสัญลักษณ์ทางดนตรี ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนวัดคูยาง

C : Check (ตรวจสอบ)

๕ ) มีการนิเทศ ติดตาม ตรวจสอบ วัดผลและประเมินผล โดยผู้บริหาร ผู้สอน ผู้เกี่ยวข้อง และมีการประเมินผลพัฒนาการผู้เรียนให้ครบทุกทักษะด้านดนตรีจากการจัดกิจกรรม และร่วมมือกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาข้อบกพร่องในการดำเนินกิจกรรม สรุปรายงานผล การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาดนตรีเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านโน้ตดนตรีสากลตามแนวทางการสอนดนตรีของซูซูกิร่วมกับการจัดการเรียนรู้ CO ๕ STEPs โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนเรื่อง เครื่องหมายและสัญลักษณ์ทางดนตรี ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนวัดคูยาง

A : Action (ปรับปรุง พัฒนา)

๖) นำผลการประเมินผู้เรียนที่ครบทุกด้านจากการจัดกิจกรรม มาวิเคราะห์ข้อมูล ร่วมมือกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาข้อบกพร่อง

๗) ปรับปรุงการดำเนินงานจากปัญหาและข้อบกพร่องที่ได้รับ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับสภาพงาน ผู้รับผิดชอบและชุมชน โดยมีการรายงานผลให้ผู้บริหาร หน่วยงานและสาธารณชนได้รับทราบ

๔) ผลสำเร็จของการดำเนินงาน (๒๐ คะแนน)

๑. ผู้เรียนสามารถอ่านโน้ตดนตรีสากลได้ถูกต้องตามหลักวิชาการทางดนตรี

๒. ผู้เรียนมีความสามารถสามารถด้านทักษะดนตรีด้านการขับร้องและบรรเลงเครื่องดนตรีในรูปแบบแสดงเดี่ยวและรวมวง

๓. ผู้เรียนได้นำความรู้เรื่องการอ่านโน้ตดนตรีไปใช้ในการขับร้องและบรรเลงดนตรี

๔. ผู้เรียนมีเจตคติที่ดี ตระหนักและเห็นคุณค่าความสำคัญของดนตรีสากล

๕. ผู้เรียนมีทักษะการค้นคว้าองค์ความรู้ด้วยตนเอง

๖. ผู้เรียนมีทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่นในการร้องและบรรเลงเพลงร่วมกันในกิจกรรมหน้าเสาธงทุกเช้า

การวัดและประเมินผลสามารถกระทำได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น เช่น การประเมินพัฒนาการ ของผู้เรียนในชั้นเรียน การพูดคุยถามตอบ การวัดและประเมินผ่านกิจกรรม การวัดและประเมินผล ไม่ควรมีแค่การทดสอบผ่านกระดาษเพียงเท่านั้น ผู้เรียนแต่ละบุคคลมีพัฒนาการในการเรียนรู้ที่ต่างกัน หากผู้สอนสามารถวัดและประเมินผลได้ถูกจะสามารถช่วยเหลือผู้เรียนในการเรียนรู้ได้อย่างดี ทั้งนี้ผู้เรียน ควรสามารถวัดแลประเมินผลตนเองได้้เพื่อที่จะได้แก้ไขและพัฒนาตนเองได้ต่อไป

ผู้สอนทำการวัดและประเมินผลให้สอดคล้องกับจุดประสงค์กับเนื้อหาการเรียน การสอนให้ผู้เรียนได้เข้าใจสาระเนื้อหา หรือสามารถปฏิบัติและนำไปใช้ได้รวมถึงให้ผู้เรียนได้ใช้ความคิด วิเคราะห์จากสิ่งที่ได้เรียนมา โดยจะปรับรูปแบบการวัดและประเมินผลให้สอดคล้องกับเนื้อหาของรายวิชา ในวิชาที่เป็นภาคของทฤษฎีจะใช้รูปแบบที่เป็นการเขียน วิชาที่เป็นภาคของการปฏิบัติจะใช้รูปแบบของการปฎิบัติจริง และอาจมีการทดสอบในภาคทฤษฎีบ้างในบางกิจกรรม โดยการกำหนดการสอบจะไม่มีการกำหนดเป็นมาตรฐาน ผู้สอนมีอิสระในการออกแบบการทดสอบได้ตามความเหมาะสม โดยส่วนมากจะใช้การทำแบบฝึกหัดเป็นการเก็บคะแนนรวมถึงการสอบย่อย เพื่อวัดความเข้าใจของผู้เรียนเพิ่มเติมจากการสอบตามตัวชี้วัด ประเมินผู้เรียนแบบรายบุคคล ดูความเข้าใจและพัฒนาการเรียนของผู้เรียนในชั้นเรียน ผู้เรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้เข้าใจจุดเด่นและจุดด้อยของผู้เรียนแต่ละคน ทำให้สามารถซ่อมเสริมผู้เรียนได้เป็นอย่างดี

๑) ผู้เรียนสามารถอ่านโน้ตดนตรีสากลได้ถูกต้องตามหลักวิชาการทางดนตรี จากการรูปแบบแสดงเดี่ยวและรวมวง มีความกระตือรือร้น เพื่อปรับและพัฒนาการเรียน การอ่านโน้ตดนตรีอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ สร้างแรงจูงใจนักเรียนสามารถพัฒนาการอ่านโน้ตดนตรีของตนเองได้ ด้วยวิธีการเรียนรู้ตามแนวทางของซูซูกิคิดเป็นร้อยละ 90.50 ซึ่งได้มาจากผลสัมฤทธิ์ของการพัฒนาตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ได้ออกแบบไว้

๒) ผู้เรียนมีความสามารถสามารถด้านทักษะดนตรีด้านการขับร้องหรือบรรเลงเครื่องดนตรี มีการฝึกร้องโน้ต ฝึกปฏิบัติเครื่องดนตรีที่ตัวเองสนใจอย่างมุ่งมั่น อย่างสนุกสนานกับกลุ่มเพื่อนที่ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานเพลงในรูปแบบของ การบรรเลงแบบเดี่ยวและการบรรเลงแบบวงด้วยการการขับร้องเพลงมาร์ชโรงเรียนวัดคูยางร่วมกันทุกเช้าในกิจกรรมหน้าเสาธง และวงเมโลดิก้าได้บรรเลงเพลงชาติและเพลงมาร์ชหน้าเสาธงทุกวัน

๓) ผู้เรียนได้นำความรู้เรื่องการอ่านโน้ตดนตรีไปใช้ในการขับร้องและบรรเลงดนตรีตามความถนัด ผู้เรียนได้พัฒนาต่อยอดไปเล่นเครื่องดนตรีสากลในประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้วยการการขับร้องเพลงมาร์ชโรงเรียนวัดคูยางร่วมกันทุกเช้าในกิจกรรมหน้าเสาธง และวงเมโลดิก้าได้บรรเลงเพลงชาติและเพลงมาร์ชหน้าเสาธงทุกวัน เครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่าลมทองเหลือง เครื่องเป่าเมโลดิกา เครื่องตี กิจกรรมวงโยธวาฑิต วงเมโลดิก้า วงเครื่องลมและการขับร้องเพลง และกิจกรรมการประกวดดนตรีของทางโรงเรียนหรือหน่วยงานอื่นๆที่จัดขึ้น

๔. ผู้เรียนมีเจตคติที่ดี ตระหนักและเห็นคุณค่าความสำคัญของดนตรีสากลได้ใช้เวลาว่างหรือกิจกรรมที่ทางโรงเรียนฝึกซ้อมพัฒนาต่อยอดในเครื่องดนตรีอื่นๆ มาร่วมกิจกรรมของทางโรงเรียน กลุ่มโรงเรียนและกิจกรรมชุมชนที่ขอความร่วมมือในการนำนักเรียนไปร่วมแสดงกิจกรรม รวมทั้งสร้างโอกาสในการศึกษาต่อโดยใช้โควต้าความสามารถพิเศษทางด้านดนตรี

๕. ผู้เรียนเรียนมีทักษะการค้นคว้าองค์ความรู้ด้วยตนเอง โดยการศึกษาค้นคว้าจากสื่อในแหล่งต่างๆแล้วผ่านกระบวนการสรุปความรู้ แลกเปลี่ยน อภิปราย เสนอแนะ หาข้อสรุปของความรู้ร่วมกันภายในกลุ่มของตนเองเป็นผลให้ผู้เรียนมีความสามารถในการค้นคว้าหาความรู้ได้ด้วยตนเอง

๖. ผู้เรียน มีทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น เนื่องจากกระบวนการเรียนรู้แบบ Co ๕ STEPs เป็นกระบวน การทำงานกลุ่มแบบรวมพลังเพื่อให้มีการจัดการเรียนรู้บนฐานวิธีการทางวิทยาศาสตร์อีกทั้งเน้นการให้นักเรียนร่วมมือกันทำงานช่วยเหลือกันเด็กเก่งช่วยเด็กเรียนช้าเด็กถนัดกว่าช่วยเด็กถนัดน้อย โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดความเสมอภาค กระบวนการเรียนรู้แบบรวมพลัง ๕ ขั้นตอนเป็นแนวการสอนหนึ่งของการเรียนรู้เชิงรุก เน้นให้ผู้เรียนสร้างความรู้ด้วยตนเอง รวมทั้งประยุกต์ความรู้ได้ บนฐานวิธีการทางวิทยาศาสตร์นักเรียนมีการปฏิบัติกิจกรรมแบบทำงานกลุ่มโดยทุกคนร่วมด้วยช่วยกัน บทบาทของผู้เรียนเป็นผู้เรียนรู้ (Learner) บทบาทของครูเป็นผู้อำนวยความสะดวก (Facilitator)

๕) แนวทางการนำนวัตกรรม/วิธีปฏิบัติที่ประสบผลสำเร็จไปใช้ และแนวทางการพัฒนาต่อยอด (๒๐ คะแนน)

๑. การปรับปรุงแนวทางการจัดการเรียนรู้ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ(สาระดนตรี) ที่มุ่งให้ผู้เรียนสามารถนำทฤษฏีดนตรีมาสู่การปฏิบัติดนตรีสากลตามความถนัดได้จริง

๒. วางแผนการจัดการเรียนรู้ดนตรีสากลเพื่อพัฒนาทักษะทางด้านดนตรี ( Music Skill )ของผู้เรียน

๓. ดำเนินการจัดการเรียนการสอนตามแนวทาง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาดนตรีเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านโน้ตดนตรีสากลตามแนวทางการสอนดนตรีของซูซูกิร่วมกับการจัดการเรียนรู้ CO ๕ STEPs โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนเรื่อง เครื่องหมายและสัญลักษณ์ทางดนตรี ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนวัดคูยาง

๔. วัดผลและประเมินผล การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาดนตรีเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านโน้ตดนตรีสากลตามแนวทางการสอนดนตรีของซูซูกิร่วมกับการจัดการเรียนรู้ CO ๕ STEPs โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนเรื่อง เครื่องหมายและสัญลักษณ์ทางดนตรี ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนวัดคูยาง เพื่อให้ผู้เรียนเกิดทักษะทางดนตรี (Music skill)

๕. รายงานผล การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาดนตรีเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านโน้ตดนตรีสากลตามแนวทางการสอนดนตรีของซูซูกิร่วมกับการจัดการเรียนรู้ CO ๕ STEPs โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนเรื่อง เครื่องหมายและสัญลักษณ์ทางดนตรี ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนวัดคูยาง เพื่อการติดตามและรับข้อเสนอแนะมาใช้ในการปรับปรุง

การจัดการเรียนรู้เรียนรูได้มีการออกแบบให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง โดยมีการศึกษาตามขั้นตอนและหลักการทางดนตรีอย่างถูกต้องตามลำดับเนื้อหา ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้สรุปความรู้และความคิดรวบยอดของตนเอง มีการทำงานเป็นทีม ได้แลกเปลี่ยน รับฟังข้อคิดเห็นของผู้อื่น และได้ทดลองปฏิบัติซ้ำๆจนเกิดความเข้าใจและพิสูจน์ของเท็จจริงในการทำกิจกรรมเกิดการสั่งสมประสบการณทําใหเกิดความคิดเชิงกระบวนทัศนที่ ชัดเจน และเกิดการเรียนรูเชิงกระบวนทัศนใหมได มีความสามารถในการรับรูขอมูล และนํามาสังเคราะหเปนความรู้ที่ชัดเจนและถูกต้องตารมหลักวิชาการทางดนตรีและสามารถนำความรู้ไปต่อยอดเพื่อใช้ในการขับร้องหรือบรรเลงเครื่องดนตรีตามความถนัดได้

ผู้สอนมีการเตรียมการเรียนการสอนโดยวางแผนหัวข้อเนื้อหาที่สอนในแต่ละสัปดาห์ จากนั้นจะดูลำดับการเรียนการสอนก่อน-หลัง เพื่อความเหมาะสมและความสอดคล้องของเนื้อหาเก่าและเนื้อหาใหม่ ลำดับการเรียนการสอนจะใช้หลักการทางดนตรีเพื่อลำดับเนื้อหาให้ถูกต้อง และเหมาะสมกับกระบวนการและแนวคิดที่นำมาใช้ เนื้อหาและกิจกรรมการเรียนการสอน

ปัญหาในการจัดการเรียนการสอนที่ผู้สอนพบเจอจะเป็นสิ่งพบ เกิดขึ้นจากผู้เรียน ซึ่งจะเป็นเรื่อง ทั่วไป เช่น ผู้เรียนไม่ตั้งใจเรียน ไม่สนใจในรายวิชา ไม่ฝึกปฏิบัติกิจกรรม รวมถึงมีพื้นฐานที่ีไม่เท่ากัน ผู้สอนจึงใช้การ พูดคุย ปรับทัศนคติของผู้เรียน ทำความเข้าใจผู้เรียนและช่วยเหลือผู้เรียนให้ได้มากที่สุด ผู้สอนจะมีความใกล้ชิดกับผู้เรียนทุกคน ทำให้ผู้สอนสามารถปรับเปลี่ยนการจัดการเรียนการสอนให้เข้ากับผู้เรียนได้อย่างดี

ในการจัดกิจกรรมการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาดนตรีเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านโน้ตดนตรีสากลตามแนวทางการสอนดนตรีของซูซูกิร่วมกับการจัดการเรียนรู้ CO ๕ STEPs โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนเรื่อง เครื่องหมายและสัญลักษณ์ทางดนตรี ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนวัดคูยาง

แนวทางการสอนดนตรีของซูซูกิ ๔ ขั้น

ขั้นที่หนึ่ง การฟัง (Listening) คือการรับรู้แบบซ้ำๆ

เป็นการเน้นย้ำความรู้ด้านทฤษฎีดนตรีเพื่อความเข้าใจในหลักการทางดนตรีอย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็น การค้นคว้าหาความรู้ การอ่านจากใบความรู้ การฟังการอธิบายจากครูผู้สอน หรือศึกษาจากแหล่งอื่น แล้วนำความรู้ที่ได้มาสรุปและยืนยันความถูกต้อง

ขั้นที่สอง เลียนแบบ (Imitation) คือ การสังเกตและจดจำจากครูที่เป็นต้นแบบ

ในส่วนของการฝึกปฏิบัติการอ่านและเขียนโน้ต ครูจะเชื่อมโยงกับความรู้ขั้นที่หนึ่ง นำมาสาธิตให้นักเรียนสังเกต เนื่องจาก วิชาดนตรีเป็นวิชาที่มีกฎเกณฑ์มากมาย บังคับไปด้วยเครื่องหมาย และสัญลักษณ์ต่างๆทางดนตรี ครูจึงต้องเป็นผู้เชื่อมโยงความรู้ที่ถูกต้องและสาธิตด้วยกระบวนการที่ถูกต้องและให้นักเรียน

ขั้นที่สาม ทำซ้ำ (Reiteration) คือ การฝึกปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ ฝึกซ้ำแล้วซ้ำอีกจนเป็นธรรมชาติ

เป็นการให้นักเรียนได้ฝึกอ่านและ ฝึกเขียนตัวโน้ต ซ้ำๆ จนเกิดการเรียนรู้ และลำดับขั้นตอนในการอ่าน การเขียนที่ถูกต้องผ่านใบงานและแบบฝึกหัดที่ครูกำหนดให้ทำซ้ำๆหลายๆรอบเพื่อเน้นย้ำให้เกิดความเข้าใจ

ขั้นที่สี่ จดจำฝังใจ (Memorize) คือ สามารถปฏิบัติได้อย่าง ถูกต้องและเหมาะสม

นักเรียนสะท้อนความรู้และการปฏิบัติที่ถูกต้องตามหลักวิชาการทางดนตรี กระบวนการอ่านถูกต้องกระบวนการเขียนถูกต้อง ตามลำดับขั้นตอน โดยแบบทดสอบ หรือการให้นักเรียนปฏิบัติให้ดูอย่างถูกลำดับขั้นตอน ในส่วนของทักษะกระบวนการศึกษาค้นคว้าแบบกลุ่มจะใช้รูปแบบกระบวนการเรียนรู้แบบรวมพลัง ๕ ขั้นตอน ๕ STEPs Collaborative Learning Process เรียกสั้นๆ คือ CO-๕STEPs ในการจัดการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบรวมพลัง ๕ ขั้นตอน มีรายละเอียด ดังนี้

กระบวนการเรียนรู้แบบรวมพลัง ๕ ขั้นตอน Co ๕ STEPs

ขั้นเสนอสิ่งเร้าและระบุคำถามสำคัญ (Stimulating and Key Questioning Collaboratively) ครูนำเสนอสิ่งเร้าที่ เช่น วัตถุสิ่งของ วิดีทัศน์ รูปภาพ การตั้งคำถาม เปิดโอกาสให้ผู้เรียนตั้งคำถามได้ทั้งคำถามง่ายและคำถามยาก ให้ผู้เรียนคาดคะเนคำตอบอาจเป็นรายบุคคล หรือทีมด้วยการใช้วิธีต่าง ๆ

1.ขั้นแสวงหาสารสนเทศและวิเคราะห์อย่างรวมพลัง (Searching and Analyzing Collaboratively) ผู้เรียนทำกิจกรรมศึกษาค้นคว้าตามสื่อการเรียนรู้ที่ครูเตรียมไว้ในเวลาที่กำหนดผู้เรียนวิเคราะห์ข้อมูล/สารสนเทศที่ได้จากกิจกรรมการเรียนรู้

2.ขั้นรวมพลังอภิปรายและสร้างความรู้ (Discussing and Constructing Collaboratively) ครูให้แต่ละกลุ่มผู้เรียนนำเสนอ ผู้เรียนร่วมกันอภิปราย ผู้เรียนแต่ละกลุ่มแก้ไข ปรับปรุงข้อมูล/สารสนเทศให้มีสาระความรู้ที่ถูกต้องและชัดเจน

3.ขั้นสื่อสารและสะท้อนคิดอย่างรวมพลัง (Communicating and Reflecting Collaboratively) ผู้เรียนเตรียมนำเสนอผลงานความรู้ที่ผ่านการแก้ไขปรับปรุงแล้ว ด้วยวิธีการบอกเล่า สะท้อนกระบวนการ เรียนรู้การทำงาน ข้อเด่น ข้อด้อย จนได้บทเรียน

4.ขั้นรวมพลังประยุกต์และตอบแทนสังคม (Applying and Serving Collaboratively) ผู้เรียนช่วยกันนำความรู้ที่ได้รับจากการเรียนรู้ไปปรับใช้ในการเรียนรู้ร่วมกับสาระอื่นๆหรือปรับใช้ในการดำเนิชีวิตประจำวัน เช่น การบอกเล่า การถ่ายวิดีทัศน์ การเขียนบทความ การทำโครงงาน

กรอบแนวคิดการใช้กระบวนการ Co- ๕ Steps ร่วมกับแนวการสอนดนตรีของซูซูกิ

เมื่อผู้เรียนผ่านกระบวนการขั้นตอนที่ผู้สอนได้กำหนดไว้ทั้งหมดจนจบกระบวนการจะทำให้ผู้เรียนมีทักษะทางดนตรีที่จำเป็นและทักษะในการเรียนรู้เพิ่มขึ้น และสามารถเพิ่มศักยภาพและความสามารถของตนเอง เกิดความมั่นใจ มีความรู้ที่ถูกต้อง มีทักษะในการศึกษาค้นคว้าด้วยและสรุปความรู้ตนเอง มีทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น สามารถนำไปปรับใช้กับชีวิตประจำวันของตนเองได้

ทักษะดนตรี (Musical Skill)

ทักษะทางดนตรีที่ผู้เรียนดนตรีต้องมี

ในปัจจุบันการเรียนดนตรีนั้นได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นการเรียนเสริมเพื่อเล่นเป็นงานอดิเรก หรือการเรียนในระดับต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้สอนสอนดนตรี ศิลปิน นักแต่งเพลงหรืออื่นๆ ในการเรียนดนตรีนั้น หากมีทักษะที่ไม่ดีจะส่งผลต่อการเอาตัวรอดเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเล่น การฟัง หรือทักษะอื่นๆ ที่สามารถนำดนตรีไปประยุกต์ใช้งานได้ เชื่อว่า ๖ ทักษะต่อไปนี้คือทักษะที่ผู้เรียนดนตรีต้องมี

1. การเล่นที่ดี

แน่นอนว่าในการเรียนดนตรีนั้น ทักษะที่ควรมีเป็นอันดับแรกเลยคือทักษะการเล่นที่ดี โดยเฉพาะเครื่องที่ผู้เรียนเรียนอยู่นั้น ควรจะเป็นเครื่องดนตรีที่ผู้เรียนเล่นได้ดีที่สุด เว้นเสียแต่อนาคตคุณอยากที่จะเป็นนักวิชาการดนตรีมากกว่าผู้เล่น แต่จะดีแค่ไหนถ้าคุณเล่นดี และเก่งวิชาการด้วย

2. การฟังที่ดี

ด้วยความที่ดนตรีนั้นสื่อสารให้ผู้ฟังด้วยเสียง เพราะฉะนั้นผู้เรียนดนตรีก็ควรจะมีทักษะการฟังที่ดีด้วย ไม่ว่าจะเป็นการฟังโน้ต ฟังทำนอง เพื่อที่เวลาที่ต้องการแต่งเพลง หรือการเล่นดนตรีนั้นจะช่วยให้คุณสามารถทำได้ง่ายขึ้น

3. การอ่านที่ดี

ทักษะการอ่านโน้ตถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะนอกจากจะทำให้เราเรียนรู้บทเพลงได้เร็วแล้ว ยังทำให้

เราอ่านโน้ตได้แม่นยำถูกต้องตั้งแต่แรก ตัดปัญหาการอ่านโน้ตผิดซึ่งจะแก้ไขได้ยากหลังฝึกซ้อมเพลงไปแล้ว

4. ความรู้ทฤษฎีดนตรีที่ดี

เรื่องของทฤษฎีนั้นเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันว่าจำเป็นต้องเก่งไหมก็ในเมื่อเล่นเก่งอยู่ บางครั้งคุณอาจจะต้อง

สื่อสารกับคนในวงเรื่องเพลง อาจสร้างความเข้าใจในสิ่งที่คุณเล่น ซึ่งจริง ๆ แล้วบอกเลยว่าทฤษฎีดนตรีจำเป็นมากครับในยุคนี้

5. การรวมวงที่ดี

การเล่นรวมวงเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะต่อให้ผู้เรียนจะเล่นได้ทุกเทคนิคบนโลกนี้ก็ไม่ได้แปลว่าผู้เรียนจะเล่นรวมวงได้ดี สิ่งที่ควรทำคือ ทำความเข้าใจการเล่นของวง ทักษะของคนในวง แนวเพลงที่เล่น เพื่อให้คุณได้เข้าใจว่า คุณจะต้องเล่นอะไร อย่างไร เพื่อให้สิ่งที่คุณเล่นออกมาเข้ากับวงมากขึ้น และเป็นการรู้จักปรับตัวในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นบนพื้นฐานของกติกาในการอยู่ร่วมกัน

6. การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่ดี

สำหรับการเรียนดนตรี การบรรเลงดนตรี บอกเลยว่าในวิชาดนตรีไม่มีแบบไหนที่ไม่เจอปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเด็กไม่เข้าใจ หรือดื้อขณะคุณสอน สิ่งที่คุณควรมีคือ การแก้ปัญหาให้สามารถบรรเลงหรือขับร้องให้ผ่านไปได้อย่างราบราน

ความสำเร็จในการนำนวัตกรรมไปใช้

ด้านผู้เรียน

๑. ผู้เรียนมีความตั้งใจ สนใจ กระตือรือร้น กับการเรียนมากขึ้น กล้าคิด กล้าถาม และกล้าแสดงออก มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ และมีความสุขในการร่วมกิจกรรมเกิดทัศนคติที่ดี

๒. ผู้เรียนมีความสามารถด้านดนตรีตามความถนัด

๓. ผู้เรียนมีสุนทรียภาพด้านดนตรี

๔. ผู้เรียนสามารถต่อยอดโดยการสร้างโอกาสทางการศึกษาด้วยใช้โควตาความสามารถพิเศษด้านดนตรี

๕.ผู้เรียนสามารถศึกษาค้นคว้าองค์ความรู้และสรุปความรู้ได้ด้วยตนเอง

๖.ผู้เรียนสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่น แลกเปลี่ยน อภิปราย หาข้อสรุปกับผู้อื่นได้โดยยึดประโยชน์และความถูกต้องเป็นสำคัญ

ด้านครูผู้สอน

๑. ผู้สอนมีการปรับเปลี่ยนวิธีการสอน ใช้เทคนิคใหม่ จัดหาสื่อการเรียนรู้ที่หลากหลาย ในการจัดการเรียนรู้ สามารถจัดการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสม

๒. ผู้สอนได้มีประสบการณ์ในการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพิ่มมากขึ้น

๓. ผู้สอนได้นำข้อบกพร่องที่ได้มาพัฒนาการจัดการเรียนรู้

๔. ผู้สอนได้ทบทวนบทบาทการเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้กับผู้เรียนอย่างแท้จริง

ด้านสถานศึกษา

๑. โรงเรียนมีการจัดการเรียนรู้เชิงรุกให้กับผู้เรียน

๒. โรงเรียนมีการประกันคุณภาพระดับห้องเรียน

๓. โรงเรียนมีระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา

๔. โรงเรียนส่งเสริมและพัฒนานักเรียนให้มีทักษะในศตวรรษที่ ๒๑

๕. โรงเรียนมีความเป็นเลิศทางด้านกิจกรรมดนตรี

๖) การเผยแพร่นวัตกรรมทางการศึกษา (๑๐ คะแนน)

ระบุข้อมูลที่ทำให้เห็นร่องรอยหลักฐานการเผยแพร่นวัตกรรม/วิธีปฏิบัติที่ประสบผลสำเร็จ

และการยกย่องชมเชย

โรงเรียนวัดคูยางดำเนินการจัดกิจกรรมในรูปแบบกระบวนการเรียนรู้แบบรวมพลัง ๕ ขั้นตอน ๕ STEPs อย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะกระบวนการดนตรีโดยเน้นกระบวนการจัดการเรียนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ผู้เรียนจะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงจากการได้ลงมือปฏิบัติ ได้เรียนรู้การแก้ปัญหาระหว่างการปฏิบัติกิจกรรม ส่วนการจัดรูปแบบของกิจกรรมจะมีการพัฒนาขึ้นมีการจัดกิจกรรมในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น จากการได้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวผู้เรียนจะได้รับการส่งเสริมพัฒนาการ และนำประสบการณ์ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ในบางกิจกรรมเป็นการส่งเสริมให้เด็กได้รู้จักการเรียนรู้สู่สังคมที่กว้างขึ้นและมีการเตรียมความพร้อมสำหรับการเรียนในระดับชั้นต่อไป มีการเผยแพร่การจัดการเรียนรู้ ผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ และนิทรรศการการแสดงผลงานของโรงเรียน การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ชุมชนทางวิชาชีพเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้ให้มีประสอทธิภาพมากยิ่งขึ้น และจากการดำเนินการตามกระบวนการพัฒนาผู้เรียนด้านทักษะดนตรี ได้ส่งเสริมต่อยอดจากชั้นเรียน โดยการจัดตั้งเป็นชุมนุมดนตรีสากลเพื่อส่งเสริมนักเรียนตามกลุ่มสนใจและได้รับการยกย่องชมเชย ต่อไปนี้

โพสต์โดย chanon : [22 ก.ค. 2567 (10:59 น.)]
อ่าน [969] ไอพี : 159.192.34.11
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 19,783 ครั้ง
สมุนไพร"บัวบก"คุณค่าที่มากกว่าแก้ช้ำใน
สมุนไพร"บัวบก"คุณค่าที่มากกว่าแก้ช้ำใน

เปิดอ่าน 32,256 ครั้ง
หลวงประจักษ์ศิลปาคม นักรบคู่พระราชหฤทัยพระพุทธเจ้าหลวง
หลวงประจักษ์ศิลปาคม นักรบคู่พระราชหฤทัยพระพุทธเจ้าหลวง

เปิดอ่าน 9,880 ครั้ง
หน้ากากอนามัยใส่ให้เป็น
หน้ากากอนามัยใส่ให้เป็น

เปิดอ่าน 7,912 ครั้ง
ยัน"เขื่อนศรีฯ"ยังรับน้ำได้อีก
ยัน"เขื่อนศรีฯ"ยังรับน้ำได้อีก

เปิดอ่าน 11,540 ครั้ง
ทำไมสัตวแพทย์ต้องดึงหนังระหว่างหัวไหล่ของสุนัข
ทำไมสัตวแพทย์ต้องดึงหนังระหว่างหัวไหล่ของสุนัข

เปิดอ่าน 11,352 ครั้ง
เคล็ดลับดี ๆ ที่อยากส่งต่อ
เคล็ดลับดี ๆ ที่อยากส่งต่อ

เปิดอ่าน 14,057 ครั้ง
สธ. เตือนดื่มน้ำมากเกินไม่ดี เสี่ยงสมองบวม เสียชีวิตได้
สธ. เตือนดื่มน้ำมากเกินไม่ดี เสี่ยงสมองบวม เสียชีวิตได้

เปิดอ่าน 11,019 ครั้ง
วิธีแก้แบตเตอรี่ iPhone-iPad บนiOS 5.1.1 ให้ใช้งานเต็มประสิทธิภาพ
วิธีแก้แบตเตอรี่ iPhone-iPad บนiOS 5.1.1 ให้ใช้งานเต็มประสิทธิภาพ

เปิดอ่าน 3,177 ครั้ง
ความแตกต่างระหว่างด้ายเย็บผ้าและด้ายปัก และประเภทของด้ายปัก
ความแตกต่างระหว่างด้ายเย็บผ้าและด้ายปัก และประเภทของด้ายปัก

เปิดอ่าน 11,327 ครั้ง
รู้เท่าทันก่อนจะหันมาใช้ "บัตรเครดิต" โดย สคบ.
รู้เท่าทันก่อนจะหันมาใช้ "บัตรเครดิต" โดย สคบ.

เปิดอ่าน 60,704 ครั้ง
อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่
อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่

เปิดอ่าน 52,980 ครั้ง
ถอดรหัส SLC แดนปลาดิบ ผ่าน 2 กูรูด้านการศึกษา เดินหน้าปฏิรูปประเทศไทยสู่ “โรงเรียนชุมชนแห่งการเรียนรู้” เต็มรูปแบบ
ถอดรหัส SLC แดนปลาดิบ ผ่าน 2 กูรูด้านการศึกษา เดินหน้าปฏิรูปประเทศไทยสู่ “โรงเรียนชุมชนแห่งการเรียนรู้” เต็มรูปแบบ

เปิดอ่าน 13,072 ครั้ง
22 จานเด็ด ลดเสี่ยงมะเร็ง
22 จานเด็ด ลดเสี่ยงมะเร็ง

เปิดอ่าน 4,655 ครั้ง
ประวัติ ชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ประวัติ ชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

เปิดอ่าน 15,646 ครั้ง
การได้สารพิษ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 8
การได้สารพิษ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 8

เปิดอ่าน 305,683 ครั้ง
แบบคำขอวิทยฐานะ ก.ค.ศ 1 ก.ค.ศ 1/1 ก.ค.ศ 2 และ 3 ฉบับ word
แบบคำขอวิทยฐานะ ก.ค.ศ 1 ก.ค.ศ 1/1 ก.ค.ศ 2 และ 3 ฉบับ word
เปิดอ่าน 36,789 ครั้ง
เถียงนาน้อย
เถียงนาน้อย
เปิดอ่าน 40,777 ครั้ง
ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการปฏิบัติของผู้เข้าสอบ (ฉบับที่ 2) ปี 2555
ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการปฏิบัติของผู้เข้าสอบ (ฉบับที่ 2) ปี 2555
เปิดอ่าน 10,018 ครั้ง
สดร.ชี้ข่าวโลกมืดสนิท 6 วันเพราะฝุ่น-ขยะอวกาศบดบังไม่จริง
สดร.ชี้ข่าวโลกมืดสนิท 6 วันเพราะฝุ่น-ขยะอวกาศบดบังไม่จริง
เปิดอ่าน 31,505 ครั้ง
พ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ 26)พ.ศ. 2553
พ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ 26)พ.ศ. 2553

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ