ครูบ้านนอก

ชื่อเรื่อง การฝึกทักษะการเรียนรู้ การจับคู่เงาภาพรูปทรงเรขาคณิต โดยใช้สื่อจับคู่เงาสำหรับบุคคลที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดสุรินทร์ ปีการศึกษา ๒๕๖๖

ผู้วิจัย นายกันตณัฐ รอบรู้เจน

ปีที่ พ.ศ. 256๖

หน่วยงาน ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดสุรินทร์

บทคัดย่อ

การทำวิจัยในชั้นเรียน เรื่อง การฝึกทักษะการเรียนรู้การจำแนกรูปทรงเรขาคณิต โดยใช้สื่อภาพ จับคู่เงา รูปทรงเรขาคณิต สำหรับบุคคลที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดสุรินทร์ มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษาผลการใช้สื่อโดยใช้สื่อภาพคู่เงาต่อการ การเรียนรู้ การจำแนกรูปทรงเรขาคณิตสำหรับบุคคลที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา ๒)เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการฝึกทักษะการเรียนรู้การจำแนกภาพรูปทรงเรขาคณิต โดยใช้สื่อจับคู่เงา สำหรับบุคคลที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดสุรินทร์ โดยมีกลุ่มเป้าหมายซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) นักเรียนศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดสุรินทร์ หน่วยบริการ พนมดงรัก จำนวน 1 คน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของนักเรียน ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดสุรินทร์ จำนวน ๑๐ คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ ๑) แบบฝึกทักษะการเรียนรู้การจำแนกรูปทรงเรขาคณิต ๒) แบบประเมินความพึงพอใจของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่มีต่อการฝึกทักษะการเรียนรู้การจำแนกภาพรูปทรงเรขาคณิต โดยใช้สื่อจับคู่เงา ๓) แผนการสอนเฉพาะบุคคล จำนวน ๒ แผน

ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า

๑. การฝึกทักษะการเรียนรู้ การจับคู่เงาภาพรูปทรงเรขาคณิต โดยใช้สื่อจับคู่เงาสำหรับบุคคลที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดสุรินทร์ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ พบว่า ระยะ 1 (A1) ระยะเส้นฐาน เป็นระยะที่ผู้ศึกษาสังเกตและบันทึกผลจากบททดสอบการจำแนกรูปทรงเรขาคณิตของกลุ่มเป้าหมายโดยไม่ใช่สื่อจับคู่เงา โดยที่ตอบถูกมากที่สุด คือ 3 คะแนน ค่าเฉลี่ยความถี่ เท่ากับ ๒.๘๓ และในระยะที่ 2 (B) ระยะการทดลองโดยใช้แบบฝึกทักษะการเรียนรู้การจำแนก รูปทรงเรขาคณิต โดยที่ตอบถูกมากที่สุด คือ ๙ คะแนน ค่าเฉลี่ยความถี่เท่ากับ ๔.๑0 จะเห็นได้ว่ามีพัฒนาการ การจำแนกรูปทรงเรขาคณิตดีขึ้น และในระยะที่ 3 (A2) ระยะถอดถอน เป็นระยะหยุดใช้สื่อกลับใช้กระบวนการอย่างระยะที่ 1 (A1) ตามวันและช่วงเวลาเดียวกัน เพื่อบันทึกผลคะแนนความถี่การตอบผิดและตอบถูก โดยใช้แบบฝึกทักษะการเรียนรู้การจำแนกรุปทรงเรขาคณิต ค่าเฉลี่ยความถี่โดยพัฒนาการดีขึ้น เมื่อเทียบกับระยะเส้นฐาน โดยที่ตอบถูกมากที่สุด คือ ๖ คะแนน ค่าเฉลี่ยความถี่ เท่ากับ ๔.๕๐ ผู้ศึกษา จึงสรุปได้ว่า การฝึกทักษะการเรียนรู้ การจับคู่เงาภาพรูปทรงเรขาคณิต โดยใช้สื่อจับคู่เงาสำหรับบุคคลที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดสุรินทร์ การจำแนกรูปทรงเรขาคณิตดีขึ้น

๒. ผลการศึกษาความพึงพอใจของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่มีต่อการฝึกทักษะการเรียนรู้ การจับคู่เงาภาพรูปทรงเรขาคณิต โดยใช้สื่อจับคู่เงาสำหรับบุคคลที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดสุรินทร์ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ พบว่าผู้เกี่ยวข้องมีความพึงพอใจ อยู่ใน ระดับ มาก (X ̅=4.40)

เว็บน่าสนใจ