ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
เรื่อง การพัฒนาเด็กสมาธิสั้นด้วยกิจกรรมสร้างสรรค์ของชั้นอนุบาลปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566

ชื่องานวิจัย การพัฒนานักเรียนสมาธิสั้น ด้วยกิจกรรมสร้างสรรค์

ชื่อผู้วิจัย นางวาสินี สอดห่วง

กิจกรรมการเรียนรู้ กิจกรรมสร้างสรรค์

เค้าโครงงานวิจัยในชั้นเรียน

ชื่อ นางวาสินี สอดห่วง

ชื่อเรื่อง การพัฒนานักเรียนสมาธิสั้นด้วยกิจกรรมสร้างสรรค์

สภาพปัญหา นักเรียนในชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนบ้านหนองบัว

มีนักเรียน ทั้งหมด 16 คน มีนักเรียนทีมีสมาธิสั้น 2 คน

1. ด.ช. ปิยพงษ์ เดินริบรัมย์ อายุ 5 ปี 3 เดือน

2. ด.ช. อัครเดช ขวัญเมือง อายุ 4 ปี 11 เดือน

ความเป็นมา

นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 จำนวน 2 คน มีพฤติกรรมไม่ค่อยนิ่งในขณะปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ต้องให้นั่งใกล้ๆครู เพื่อคอยกระตุ้นในการฟัง การพูด และการตอบคำถาม ลักษณะการพูด การตอบคำถามของนักเรียนจะพูดทวนคำถามก่อนจึงจะตอบ และไม่นิ่งในขณะร่วมกิจกรรมการระบายสีภาพต่างๆ จะขีดเขียน แค่สอง สาม ครั้งแล้วจะเลิก ไม่ทำต่อ และ เปลี่ยนไปทำกิจกรรมอื่นอย่างไม่หยุดนิ่ง ถึงแม้จะเป็นกิจกรรมที่หน้าสนใจ เช่น ฟังนิทาน ฯลฯ ครูประจำชั้นจึงมีความสนใจจะศึกษานักเรียนทั้ง 2 คน เพื่อนำกิจกรรมสร้างสรรค์มาฝึกปฏิบัติ เพื่อปรับพฤติกรรมในการพัฒนาความสามารถของนักเรียนทั้ง 2 คน ที่มีสมาธิสั้น ให้ปรับพฤติกรรมในขั้นพื้นฐานได้เหมาะสมกับวัย

ทางเลือกที่คาดว่าจะแก้ปัญหา

1. การวาดภาพตามจินตนาการ

2. ระบายสีภาพอิสระ

3. ปั้นดินน้ำมัน

4. ฉีกปะภาพ

วัตถุประสงค์

1. เพื่อพัฒนาความสามารถของ นักเรียนที่มีสมาธิสั้นในการปฏิบัติกิจกรรมโดยใช้กิจกรรม

สร้างสรรค์

2. เพื่อสร้าง และ พัฒนานวัตกรรมในการศึกษาสมาธิให้กับนักเรียนทั้งสอง

ระยะเวลาการดำเนินงาน ก.ค. 2566 – ส.ค. 2566

ขั้นตอนในการดำเนินงาน

1. ให้นักเรียนทำกิจกรรมสร้างสรรค์อย่างอิสระ

2. สนทนาตกลงกติกาในการทำงานสร้างสรรค์

3. ให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมสร้างสรรค์อย่างสม่ำเสมอ

4. สังเกตหลังจากปฏิบัติกิจกรรมโดยใช้ นวัตกรรม

5. นำผลงานก่อนการทดลอง และหลังการทดลองมาปรับ นวัตกรรม

6. สรุปผล และเสนอแนะ

ชื่องานวิจัย การพัฒนานักเรียนสมาธิสั้นด้วยกิจกรรมสร้างสรรค์

ชื่อผู้วิจัย นางวาสินี สอดห่วง

กิจกรรมการเรียนรู้ กิจกรรมสร้างสรรค์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายที่จะพัฒนาสมาธินักเรียนในระดับก่อนประถมศึกษา ซึ่งอยู่ในวัย 4 – 5 ปี เป็นวัยแห่งการเรียนรู้จะสนใจเรียน ประมาณ 15 – 20 นาที จากการจัดกิจกรรมหลัก 6 กิจกรรมในภาคเรียนที่ 1 พบว่าในห้องเรียนอนุบาล 2 ที่มีสมาธิในการเรียนรู้ได้น้อยอยู่ 2 คน ผู้วิจัยจึงได้จัดกิจกรรมสร้างสรรค์ มาช่วยในการทำงานวิจัย โดยผ่านกระบวนการวาดภาพตามจินตนาการ ฉีก – ปะภาพ ระบายสีภาพ และปั้นดินน้ำมัน เพื่อให้ผู้เรียนได้มีสมาธิในการเรียนเพิ่มมากขึ้น และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชั้นพื้นฐานได้เหมาะสมกับวัย

การพัฒนาเด็กสมาธิสั้นด้วยกิจกรรมสร้างสรรค์

ความสำคัญ และ ที่มา

นักเรียนวัย 4 – 5 ปี ต้องมีการพัฒนาการทางด้านอารมณ์ – จิตใจสังคม และสติปัญญา จากการเลี้ยงดูที่ส่งเสริมถึงพัฒนาการตลอดจนการเรียนรู้ที่เหมาะสมจากการปฏิสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนกับพ่อแม่ เด็กกับครู เด็กกับครูพี่เลี่ยง เพื่อพัฒนาเด็กทั้ง 4 ด้าน ตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์อย่างสมดุลและเต็มศักยภาพ ของหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 เนื่องจาก เด็กชายปิยะพงษ์ เดินริบรัมย์ และ เด็กชายอัครเดช ขวัญเมือง มีพัฒนาการที่ล่าช้าไม่เหมาะสมกับวัยในด้านการร่วมกิจกรรมที่ครูจัดมีความสนใจในระยะสั้น ทำให้การดำเนินกิจกรรมในแต่ละครั้งไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ ไม่เป็นไปตามศักยภาพเด็กตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย

เนื่องจากการจัดกิจกรรมหลัก 6 กิจกรรม และการทดสอบประเมินผลพัฒนาการในภาคเรียนที่ 1 นักเรียนมีพัฒนาการไม่เหมาะสมกับวัย ครูจึงสนใจที่จะทำวิจัย เพื่อพัฒนาการให้

เด็กชายปิยพงษ์ เดินริบรัมย์ และ เด็กชายอัครเดช ขวัญเมือง ให้มีการพัฒนาที่ดีขึ้น โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ซึ่งมี การวาดภาพตามจินตนาการ การระบายสีภาพ การฉีกปะติดภาพ และการปั้นดินน้ำมัน เพื่อพัฒนาการให้นักเรียนมีศักยภาพที่ดีขึ้น

จุดประสงค์

1. เพื่อพัฒนาความสามารถของ เด็กชายปิยพงษ์ เดินริบรัมย์ และ เด็กชายอัครเดช ขวัญเมือง ที่มีสมาธิสั้นให้มีการพัฒนาได้เหมาะสมกับวัย

2. เพื่อพัฒนานวัตกรรมในการฝึกสมาธิให้กับนักเรียนที่มีสมาธิสั้นให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ตัวแปรที่ศึกษา

ตัวแปรต้น

กิจกรรมสร้างสรรค์ในด้านวาดภาพตามจินตนาการ การระบายสีภาพ การฉีก ปะ ติดภาพ

และปั้นการนดินน้ำมัน

ตัวแปรตาม

การพัฒนาสมาธิในการเรียนรู้ของเด็ก

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

ผลจากการวิจัยครั้งนี้จะเป็นแนวทางสำหรับครูที่จะจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ในวัย 4 – 5 ปีให้ได้ผลตามจุดประสงค์ และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในห้องเรียน และนำผลมาใช้ในการปรับปรุง หรือพัฒนาการเรียน การสอนให้นักเรียนเกิดการพัฒนา และเกิดประสิทธิภาพสำหรับนักเรียนปฐมวัย

ขอบเขตของการวิจัย

ประชากรที่ใช้ในการศึกษาวิจัย

ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ เด็กชายปิยะพงษ์ เดินริบรัมย์ อายุ 5 ปี 3 เดือน และ เด็กชายอัครเดช ขวัญเมือง อายุ 4 ปี 11 เดือน กำลังเรียนอยู่ในระดับชั้นอนุบาล 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ในโรงเรียนบ้านตาปรก

วิธีดำเนินการวิจัย

ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ เด็กชายปิยะพงษ์ เดินริบรัม อายุ 5 ปี 3 เดือน และ เด็กชายอัครเดช ขวัญเมือง อายุ 4 ปี 11 เดือน อยู่ในระดับชั้นอนุบาล 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ในโรงเรียนบ้านตาปรก ตำบลโนนสูง อำเภอขุนหาญ หวัดศรีสะเกษ

โดยมีวิธีดำเนินงานด้วยการวิจัยดังนี้

ที่ วัน/เดือน/ปี กิจกรรม หมายเหตุ

1

2

5 ก.ค. 2566

12 ก.ค. 2566

19 ก.ค. 2566

26 ก.ค. 2566

9 ส.ค. 2566

16 ส.ค. 2566

24 ส.ค. 2566

30 ส.ค. 2566

วาดภาพตามจินตนาการ

ระบายสีภาพ

ฉีก – ปะภาพ

ปั้นดินน้ำมัน

วาดภาพตามจินตนาการ

ระบายสีภาพ

ฉีก – ปะภาพ

ปั้นดินน้ำมัน

ปฏิบัติตามกิจกรรมทุกวันพุธของสัปดาห์ วันที่ปฏิบัติกิจกรรมตรงกับวันหยุดจะเลื่อนปฏิบัติในวันอังคารของสัปดาห์

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย

ในการทำวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัย ได้ทำกิจกรรมดังนี้

1. การจัดกิจกรรม

2. การบันทึกข้อมูล

ผลการวิเคราะห์ข้อมูล

จากแบบบันทึกการพัฒนาสมาธิสั้นด้วยกิจกรรมสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาผู้เรียนภายหลังจากการทำกิจกรรม เพื่อส่งเสริมการพัฒนาผู้เรียนแล้ว ผู้เรียนมีระดับคะแนะสูงขึ้นตามลำดับ ซึ่งเป็นไปตามสมมุติฐาน ขั้นตอนตามลำดับ ซึ่งเป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้ทำให้ เด็กชายปิยะพงษ์ เดินริบรัมย์ และ เด็กชายอัครเดช ขวัญเมือง มีพัฒนาการที่ดีขึ้น

ภาคผนวก

แบบบันทึกการพัฒนาการสมาธิสั้นด้วยกิจกรรมสร้างสรรค์

ครั้งที่ 1

เด็กชายปิยะพงษ์ เดินริบรัมย์

โรงเรียนบ้านตาปรก

ลำดับที่ รายการ ระดับคะแนน หมายเหตุ

2 1 0

1 วาดภาพตามจินตนาการ / 0 หมายถึงไม่มีสมาธิเลย

1 หมายถึงมีสมาธิบ้างครูต้องคอยกระตุ้น

2 หมายถึงมีสมาธิดี

2 ระบายสีภาพ /

3 ฉีก – ปะภาพ /

4 ปั้นดินน้ำมัน /

รวม - 3 1

ค่าเฉลี่ย - 0.75 0.25

ค่าเฉลี่ยร้อยละ - 75 25

แบบบันทึกการพัฒนาการสมาธิสั้นด้วยกิจกรรมสร้างสรรค์

ครั้งที่ 2

เด็กชายปิยะพงษ์ เดินริบรัมย์

โรงเรียนบ้านตาปรก

ลำดับที่ รายการ ระดับคะแนน หมายเหตุ

2 1 0

1 วาดภาพตามจินตนาการ / 0 หมายถึงไม่มีสมาธิเลย

1 หมายถึงมีสมาธิบ้างครูต้องคอยกระตุ้น

2 หมายถึงมีสมาธิดี

2 ระบายสีภาพ /

3 ฉีก – ปะภาพ /

4 ปั้นดินน้ำมัน /

รวม - 4 -

ค่าเฉลี่ย - 1 -

ค่าเฉลี่ยร้อยละ - 100 -

แบบบันทึกการพัฒนาการสมาธิสั้นด้วยกิจกรรมสร้างสรรค์

ครั้งที่ 3

เด็กชายปิยะพงษ์ เดินริบรัมย์

โรงเรียนบ้านตาปรก

ลำดับที่ รายการ ระดับคะแนน หมายเหตุ

2 1 0

1 วาดภาพตามจินตนาการ / 0 หมายถึงไม่มีสมาธิเลย

1 หมายถึงมีสมาธิบ้างครูต้องคอยกระตุ้น

2 หมายถึงมีสมาธิดี

2 ระบายสีภาพ /

3 ฉีก – ปะภาพ /

4 ปั้นดินน้ำมัน /

รวม 2 2 -

ค่าเฉลี่ย 0.50 0.50 -

ค่าเฉลี่ยร้อยละ 50 50 -

สรุปผลว่า

จากการสังเกตการพัฒนาการสมาธิสั้นของผู้เรียนในแต่ละครั้งของ เด็กชายปิยะพงษ์ เดินริบรัมย์ ในระดับชั้นอนุบาล 2 พบว่า

ครั้งที่ 1 - ได้รับคะแนนในกิจกรรมสร้างสรรค์ได้ค่าเฉลี่ย 0.25 คิดเป็นค่าเฉลี่ย ร้อยละ 25

- ได้รับคะแนนในกิจกรรมวาดภาพตามจินตนาการกิจกรรมระบายสีและกิจกรรมสร้าง

สรรค์ ได้ค่าเฉลี่ย 0.75 คิดเป็นค่าเฉลี่ย ร้อยละ 75

ครั้งที่ 2 - ได้รับคะแนนในกิจกรรมวาดภาพตามจินตนาการ กิจกรรมระบายสีภาพ กิจกรรมฉีก

ปะ ติดภาพ และกิจกรรมปั้นดินน้ำมัน ได้ค่าเฉลี่ย 4 คิดเป็น ร้อยละ 100

ครั้งที่ 3 - ได้รับคะแนนในกิจกรรมฉีก ปะ ติดภาพ และกิจกรรมปั้นดินน้ำมัน ได้ค่าเฉลี่ย 0.50 คิด

เป็น ร้อยละ 50

- ได้รับคะแนนในกิจกรรมวาดภาพตามจินตนาการ และกิจกรรมระบายสีภาพ ได้

ค่าเฉลี่ย 0.50 คิดเป็นร้อยละ 50

แบบบันทึกการพัฒนาการสมาธิสั้นด้วยกิจกรรมสร้างสรรค์

ครั้งที่ 1

เด็กชายอัครเดช ขวัญเมือง

โรงเรียนบ้านตาปรก

ลำดับที่ รายการ ระดับคะแนน หมายเหตุ

2 1 0

1 วาดภาพตามจินตนาการ / 0 หมายถึงไม่มีสมาธิเลย

1 หมายถึงมีสมาธิบ้างครูต้องคอยกระตุ้น

2 หมายถึงมีสมาธิดี

2 ระบายสีภาพ /

3 ฉีก – ปะภาพ /

4 ปั้นดินน้ำมัน /

รวม - 2 2

ค่าเฉลี่ย - 0.5 0.5

ค่าเฉลี่ยร้อยละ - 50 50

แบบบันทึกการพัฒนาการสมาธิสั้นด้วยกิจกรรมสร้างสรรค์

ครั้งที่ 2

เด็กชายอัครเดช ขวัญเมือง

โรงเรียนบ้านตาปรก

ลำดับที่ รายการ ระดับคะแนน หมายเหตุ

2 1 0

1 วาดภาพตามจินตนาการ / 0 หมายถึงไม่มีสมาธิเลย

1 หมายถึงมีสมาธิบ้างครูต้องคอยกระตุ้น

2 หมายถึงมีสมาธิดี

2 ระบายสีภาพ /

3 ฉีก – ปะภาพ /

4 ปั้นดินน้ำมัน /

รวม - 3 1

ค่าเฉลี่ย - 0.75 0.25

ค่าเฉลี่ยร้อยละ - 75 25

แบบบันทึกการพัฒนาการสมาธิสั้นด้วยกิจกรรมสร้างสรรค์

ครั้งที่ 3

เด็กชายอัครเดช ขวัญเมือง

โรงเรียนบ้านตาปรก

ลำดับที่ รายการ ระดับคะแนน หมายเหตุ

2 1 0

1 วาดภาพตามจินตนาการ / 0 หมายถึงไม่มีสมาธิเลย

1 หมายถึงมีสมาธิบ้างครูต้องคอยกระตุ้น

2 หมายถึงมีสมาธิดี

2 ระบายสีภาพ /

3 ฉีก – ปะภาพ /

4 ปั้นดินน้ำมัน /

รวม 1 2 1

ค่าเฉลี่ย 0.25 0.50 0.25

ค่าเฉลี่ยร้อยละ 25 50 25

สรุปผลว่า

จากการสังเกตการพัฒนาการสมาธิสั้นของผู้เรียนในแต่ละครั้งของ เด็กชายอัครเดช ขวัญเมือง ในระดับชั้นอนุบาล 2 พบว่า

ครั้งที่ 1 - ได้รับคะแนนในกิจกรรมฉีก ปะ ติดภาพ และ ปั้นดินน้ำมันได้ค่าเฉลี่ย 0.5 คิดเป็น

ค่าเฉลี่ย ร้อยละ 50

- ได้รับคะแนนในกิจกรรมวาดภาพตามจินตนาการ และ กิจกรรมระบายสี ได้

ค่าเฉลี่ย 0.5 คิดเป็นค่าเฉลี่ย ร้อยละ 50

ครั้งที่ 2 - ได้รับคะแนนในกิจกรรมปั้นดินน้ำมัน ได้ค่าเฉลี่ย 0.25 คิดเป็นค่าเฉลี่ย ร้อยละ 25

ครั้งที่ 3 - ได้รับคะแนนในกิจกรรมปั้นดินน้ำมัน ได้ค่าเฉลี่ย 0.25 คิดเป็นค่าเฉลี่ย ร้อยละ 25

- ได้รับคะแนนในกิจกรรมวาดภาพตามจินตนาการ และกิจกรรมฉีก ปะ ติดภาพ ได้

ค่าเฉลี่ย 0.50 คิดเป็นร้อยละ 50

- ได้รับคะแนนในกิจกรรมระบายสี ได้รับค่าเฉลี่ย 0.25 คิดเป็นค่าเฉลี่ยร้อยละ 25

โพสต์โดย บ๊ะจาง : [20 ก.ค. 2567 (13:00 น.)]
อ่าน [1018] ไอพี : 1.1.244.148
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 9,659 ครั้ง
1 ปี "สตีฟ จ็อบส์" จากไป
1 ปี "สตีฟ จ็อบส์" จากไป

เปิดอ่าน 14,833 ครั้ง
รับประทาน"บร็อคโคลี"ช่วยลดอาการไขข้ออักเสบได้
รับประทาน"บร็อคโคลี"ช่วยลดอาการไขข้ออักเสบได้

เปิดอ่าน 11,996 ครั้ง
มะระขี้นก ต้านเบาหวาน
มะระขี้นก ต้านเบาหวาน

เปิดอ่าน 16,672 ครั้ง
จุฬาฯวิจัยเปลือกมังคุดพบคุณค่าอื้อ ต้านอักเสบ รักษาเซลล์มะเร็ง
จุฬาฯวิจัยเปลือกมังคุดพบคุณค่าอื้อ ต้านอักเสบ รักษาเซลล์มะเร็ง

เปิดอ่าน 10,328 ครั้ง
สีแดงกับสมอง ความเชื่อมโยงอันน่าอัศจรรย์ที่คุณไม่เคยรู้
สีแดงกับสมอง ความเชื่อมโยงอันน่าอัศจรรย์ที่คุณไม่เคยรู้

เปิดอ่าน 171,727 ครั้ง
15 ต้นไม้ริมรั้ว ที่นิยมปลูกไว้ในบ้าน
15 ต้นไม้ริมรั้ว ที่นิยมปลูกไว้ในบ้าน

เปิดอ่าน 14,381 ครั้ง
9 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำบน Facebook
9 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำบน Facebook

เปิดอ่าน 30,689 ครั้ง
ความพิศวงของตัวเลข จำนวนเฉพาะตอนที่ 1
ความพิศวงของตัวเลข จำนวนเฉพาะตอนที่ 1

เปิดอ่าน 12,549 ครั้ง
"โดนัท เซลฟี่" เทรนด์ใหม่มาแรง คืออะไร ไปดูกันครับ
"โดนัท เซลฟี่" เทรนด์ใหม่มาแรง คืออะไร ไปดูกันครับ

เปิดอ่าน 19,172 ครั้ง
VTR การพัฒนาครูในรูปแบบใหม่ โดยการใช้การพัฒนาอย่างครบวงจร
VTR การพัฒนาครูในรูปแบบใหม่ โดยการใช้การพัฒนาอย่างครบวงจร

เปิดอ่าน 29,617 ครั้ง
การปรับหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม และค่าใช้จ่ายในการจัดงาน
การปรับหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม และค่าใช้จ่ายในการจัดงาน

เปิดอ่าน 14,217 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : ทำไม O-NET ไม่เอาเรื่องจริงในชีวิตไปออกข้อสอบ
ตูนส์ศึกษา : ทำไม O-NET ไม่เอาเรื่องจริงในชีวิตไปออกข้อสอบ

เปิดอ่าน 11,132 ครั้ง
ทำความรู้จัก Education3.0 เทคโนโลยี เพื่อการศึกษายุคใหม่
ทำความรู้จัก Education3.0 เทคโนโลยี เพื่อการศึกษายุคใหม่

เปิดอ่าน 9,644 ครั้ง
นั่งนานทำให้เป็นคนขี้โรค
นั่งนานทำให้เป็นคนขี้โรค

เปิดอ่าน 9,097 ครั้ง
ระบบประกันคุณภาพทางการศึกษา ถึงเวลาทบทวนวิธีการแล้วหรือยัง?
ระบบประกันคุณภาพทางการศึกษา ถึงเวลาทบทวนวิธีการแล้วหรือยัง?

เปิดอ่าน 128,574 ครั้ง
เช็คให้ดี! "ฮวงจุ้ยห้องพระ" วางตรงไหนเหมาะ วางไม่ดีอาจทำเงินทองรั่วไหล
เช็คให้ดี! "ฮวงจุ้ยห้องพระ" วางตรงไหนเหมาะ วางไม่ดีอาจทำเงินทองรั่วไหล
เปิดอ่าน 12,457 ครั้ง
การเรียนรู้ที่ห้ามมองข้ามกับประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของลูกน้อย
การเรียนรู้ที่ห้ามมองข้ามกับประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของลูกน้อย
เปิดอ่าน 23,372 ครั้ง
คำขอมับัตรประจำตัวหรือขอบัตรประจำตัวใหม่ ตาม พ.ร.บ.บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ.2542
คำขอมับัตรประจำตัวหรือขอบัตรประจำตัวใหม่ ตาม พ.ร.บ.บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ.2542
เปิดอ่าน 12,744 ครั้ง
ทดลองวิทยาศาสตร์ หน้าชั้นเรียน ทำเอารร.แทบไหม้
ทดลองวิทยาศาสตร์ หน้าชั้นเรียน ทำเอารร.แทบไหม้
เปิดอ่าน 19,292 ครั้ง
ตาบอดสี
ตาบอดสี

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ