ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การจัดการเรียนรู้แบบ TALK & E Model ร่วมกับ เทคนิคการตั้งคำถาม “R C A” บูรณาการทักษะชีวิตด้วยกระบวนคิดการทางวิทยาศาสตร์ รายวิชาวิทยาศาตสร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านสวนหลวง (รัต

๑.๑ ชื่อนวัตกรรม

การจัดการเรียนรู้แบบ TALK & E Model ร่วมกับ เทคนิคการตั้งคำถาม “R C A” บูรณาการทักษะชีวิตด้วยกระบวนคิดการทางวิทยาศาสตร์ รายวิชาวิทยาศาตสร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านสวนหลวง (รัตนวิจิตรพิทยาคาร) โดยใช้ขั้นตอนการสอน ดังนี้

๑.๒ มูลเหตุจูงใจในการสร้างนวัตกรรม

การวางแผนเป้าหมายชีวิต เป็นการตั้งเป้าหมายชีวิตของบุคคลที่ได้วางแผนไว้ด้วยวิธีการที่

เหมาะสมเพื่อนำตนเองไปสู่ความสำเร็จในชีวิต หากระหว่างทางต้องเผชิญปัญหาอุปสรรคก็สามารถแก้ไข ปรับปรุง พัฒนาตนเองให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข การจัดกระบวนการเรียนรู้ที่ใช้คำถามกระตุ้นให้ผู้เรียนได้มีโอกาสอภิปรายแสดงความรู้สึก นึกคิด ก่อน ระหว่างการเรียนการสอนหรือสิ้นสุดกระบวนการจัดการเรียนรู้ ตามเนื้อหาสาระในหลักสูตรตามปกติแล้ว การจัดการเรียนรู้แบบ TALK & E Model ร่วมกับ เทคนิคการตั้งคำถาม “R C A” บูรณาการทักษะชีวิตด้วยกระบวนคิดการทางวิทยาศาสตร์ รายวิชาวิทยาศาตสร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านสวนหลวง (รัตนวิจิตรพิทยาคาร) เป็นการกระตุ้นให้ ผู้เรียนได้เปิดเผยตนเองผ่านการตอบคำถามหรือกิจกรรมที่สะท้อนความรู้สึกหรือมุมมองของตนเอง ได้คิดเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับประสบการณ์เดิมของผู้เรียน ได้นำความรู้ไปใช้ในชีวิตจริง ส่งผลให้ผู้เรียนได้สะสมประสบการณ์ที่ดีอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ จนผู้เรียนได้แสดงออกทางอย่างมีเหตุผลและยั่งยืน

วัตถุประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินงาน

เพื่อสร้างนักเรียนให้มีทักษะที่ครบพร้อมในโลกศตวรรษที่ ๒๑ (๓R๘C) เป็นการออกแบบการจัดการเรียนรู้ในลักษณะการให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรม (Active) บูรณาการทักษะชีวิตเข้ากับกระบวนการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาวิทยาศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษปีที่ ๑ เป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนได้เปิดเผยตนเองผ่านการตอบคำถามหรือกิจกรรมที่สะท้อนความรู้สึกหรือมุมมองของตนเอง ได้คิดเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับประสบการณ์เดิมของผู้เรียน ได้นำความรู้ไปใช้ในชีวิตจริง ส่งผลให้ผู้เรียนได้สะสมประสบการณ์ที่ดีอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ จนผู้เรียนได้แสดงออกอย่างมีเหตุผลและยั่งยืน ตลอดจนมีการนำความรู้ที่ตนได้ศึกษาค้นคว้ามาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซึ่งจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น กระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จะช่วยให้ผู้เรียนได้เติมเต็มความรู้ซึ่งกันและกัน สร้างทักษะการอยู่ร่วมกับผู้อื่น ตลอดจนการประเมินผลที่มีคุณภาพตามสภาพจริง

๑.๓ กระบวนการในการออกแบบและสร้างนวัตกรรม

ขั้นที่ ๑ แจ้งจุดมุ่งหมาย (T : Target) ผู้สอนต้องแจ้งจุดมุ่งหมายหรือตัวชี้วัดในการเรียนให้นักเรียนทราบ

ขั้นที่ ๒ กระตุ้นการเรียนรู้ด้วยสิ่งเร้า (A : Arouse) เป็นกระตุ้นการเรียนรู้นักเรียนด้วยสิ่งเร้าต่าง ๆ

ขั้นที่ ๓ เรียนรู้ด้วยการลงมือปฏิบัติ (L : learning by doing) นักเรียนเรียนรู้ด้วยการลงมือปฏิบัติ

ขั้นที่ ๔ สรุปความรู้ (K : Knowledge Summarize) นักเรียนสรุปความรู้จากการเรียนรู้และจากการลงมือปฏิบัติ

ขั้นที่ ๕ ประเมินการเรียนรู้ (E : Exit Ticket) เป็นการประเมินการเรียนรู้ของตนเองในชั่วโมงนั้น ๆ

นอกจากนั้นได้ใช้เทคนิคการตั้งคำถาม “R C A” ซึ่งเป็นการตั้งคำถามที่สะท้อนประสบการณ์

ของนักเรียนหลังจากทำกิจกรรมในเเต่ละครั้งโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนดึงประสบการณ์หรือสิ่งที่ได้เรียนรู้จากกิจกรรมที่ทำเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างทักษะชีวิต (Life Skill) เช่น การเห็นคุณค่าในตัวเองและผู้อื่น (Self-Esteem and Empathy) การจัดการอารมณ์ตัวเอง (Self-Control) การคิดวิเคราะห์ (Analysis) การตัดสินใจ (Decision-making) และการคิดอย่างสร้างสรรค์ (Creativity)

โดยใช้ คำถาม R = Reflect (การสะท้อน) คือคําถามเพื่อให้นักเรียนสะท้อนความรู้สึกหรือมุมมองของตนที่เกิดขึ้นในขณะร่วมกิจกรรม ตัวอย่างคำถาม (มักเริ่มด้วย ขณะที่....)

- ขณะที่เล่นกับเพื่อนรู้สึกอย่างไรบ้าง

- ขณะที่ทำงานเป็นทีมมีปัญหาอะไรบ้าง และเเก้ไขสถานการณ์อย่างไร

- ขณะที่ทำกิจกรรมเกิดมีความเห็นไม่ลงรอยกัน เรามีวิธีจัดการอย่างไร

- ขณะที่เล่นกีฬากับเพื่อน มีความรู้สึกอย่างไรเมื่อเห็นเพื่อนแพ้

คำถาม C = Connect (การเชื่อมโยง) คือคำถามเพื่อให้นักเรียนได้คิดเชื่อมโยงระหว่าง

ประสบการณ์ที่เจอมาในอดีตกับสิ่งที่พบเจอในกิจกรรมที่พึ่งสิ้นสุดลง ตัวอย่างคำถาม (มักเริ่มด้วย ที่ผ่านมา....)

- ที่ผ่านมาเคยมีประสบการณ์เล่นเเบบนี้ไหม การเล่นครั้งนี้แตกต่างจากครั้งที่เเล้วหรือไม่

อย่างไร

- ที่ผ่านมาเคยมีความรู้สึกแบบนี้หรือไม่ แล้วจัดการกับมันอย่างไร

- ที่ผ่านมาคิดว่าเราจัดการปัญหาด้วยวิธีเหมือนๆ กับครั้งนี้ไหม

และคำถาม A = Apply (การปรับใช้) คือคำถามเพื่อการปรับใช้ในการเผชิญสถานการณ์

ต่างๆ ในอนาคต ตัวอย่างคำถาม (มักเริ่มด้วย ในอนาคต....)

- ในอนาคตหากเกิดสถานการณ์เเบบนี้ จะทำอย่างไรให้เราไม่รู้สึกเเย่

- ในอนาคตหากทะเลาะกับเพื่อน มีวิธีรับมืออย่างไรที่ไม่ทำให้เสียเพื่อน

- ในอนาคตจะทำอย่างไรให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

๑.๔ การนำนวัตกรรมสู่การปฏิบัติ

การจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับทักษะที่ครบพร้อมในโลกศตวรรษที่ ๒๑ เป็นการออกแบบ

การจัดการเรียนรู้ในลักษณะการให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรม (Active) บูรณาการทักษะชีวิตเข้ากับกระบวนการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาวิทยาศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษปีที่ ๑ ดังนั้นการพัฒนานวัตกรรมด้านการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ในครั้งนี้ มีเป้าหมายสำคัญในการนำมาพัฒนาคุณภาพผู้เรียนเป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนได้เปิดเผยตนเองผ่านการตอบคำถามหรือกิจกรรมที่สะท้อนความรู้สึกหรือมุมมองของตนเอง ได้คิดเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับประสบการณ์เดิมของผู้เรียน ได้นำความรู้ไปใช้ในชีวิตจริง ส่งผลให้ผู้เรียนได้สะสมประสบการณ์ที่ดีอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ จนผู้เรียนได้แสดงออกอย่างมีเหตุผลและยั่งยืน ตลอดจนมีการนำความรู้ที่ตนได้ศึกษาค้นคว้ามาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซึ่งจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น กระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จะช่วยให้ผู้เรียนได้เติมเต็มความรู้ซึ่งกันและกัน สร้างทักษะการอยู่ร่วมกับผู้อื่น ตลอดจนการประเมินผลที่มีคุณภาพตามสภาพจริง

แนวการนำนวัตกรรมสู่การปฏิบัติของครูผู้พัฒนาคือการนำมาจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ ประเมินผลการใช้กิจกรรม ปรับปรุงสื่อการสอน อุปกรณ์ และกิจกรรมการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียนตามช่วงวัยและความสามารถที่แตกต่างของผู้เรียนแต่ละกลุ่ม และนำนวัตกรรมที่ปรับปรุงแล้วมาใช้ซ้ำเพื่อปรับปรุงให้เหมาะสมกับผู้เรียนตามบริบทของโรงเรียนให้มากที่สุด และเน้นการพัฒนาผู้เรียนเป็นรายบุคคล กิจกรรมจึงมีสื่ออุปกรณ์ที่หลากหลายเพื่อทางเลือกที่เหมาะสมกับผู้เรียนให้มากที่สุด และเมื่อสิ้นสุดกิจกรรมการเรียนรู้ครูประเมินสรุปผลรายงานสะท้อนกลับ

โรงเรียนบ้านสวนหลวง (รัตนวิจิตรพิทยาคาร) มีกรอบแนวทางการบริหารโรงเรียนโดยเน้นการพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนตามมาตรฐานการศึกษาชาติ และพัฒนาจุดเน้นตามทักษะในศตวรรษที่ ๒๑ เป็นการกำหนดแนวทางยุทธศาสตร์ในการจัดการเรียนรู้โดยสร้างรูปแบบและแนวปฏิบัติในการเสริมสร้างประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ โดยเน้นที่องค์ความรู้ ทักษะ ความเชี่ยวชาญและสมรรถนที่เกิดกับตัวผู้เรียน เพื่อใช้ในการดำรงชีวิตในสังคมแห่งความเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน

๑.๕ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน

๑. การจัดการเรียนรู้แบบ TALK & E Model ร่วมกับ เทคนิคการตั้งคำถาม “R C A” บูรณา

การทักษะชีวิตด้วยกระบวนคิดทางวิทยาศาสตร์ รายวิชาวิทยาศาตสร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านสวนหลวง (รัตนวิจิตรพิทยาคาร) ผลที่ได้จากการใช้นวัตกรรมแล้ว พบว่า ร้อยละของคะแนนเฉลี่ยรวมก่อนเรียนและคะแนนเฉลี่ยหลังเรียน มีประสิทธิภาพ E๑/E๒ = ๔๑.๙๗/๘๑.๓๒ ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ (E๑/E๒ = ๘๐/๘๐) เนื่องจากการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้นี้ ได้ผ่านขั้นตอนในการจัดทำอย่างมีระบบ และวิธีการเขียนแผนการจัดกิจกรรมที่เหมาะสม โดยศึกษาจากหลักสูตร เนื้อหา เทคนิควิธีการ จากเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ และได้ผ่านการตรวจสอบ แก้ไขข้อบกพร่องตามข้อเสนอแนะจากผู้เชี่ยวชาญในการหาความสอดคล้องของจุดประสงค์กับเนื้อหา แล้วนำมาปรับปรุงแก้ไขทั้งในด้านเนื้อหา ภาษา เวลาที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และผ่านการทดลองปรับปรุงให้มีความสมบูรณ์ก่อนนำไปใช้จริง

๒. คะแนนพัฒนาการ (หลังเรียน-ก่อนเรียน) ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑

รายวิชาวิทยาศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้เรื่อง การลำเลียงในพืช การแพร่ การออสโมซิส เรียน คิดเป็นร้อยละ ๓๙.๓๔ คะแนนพัฒนาการในการเรียนรู้ อยู่ในระดับ ปานกลาง ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ โดยทั่วไปเกณฑ์ที่ใช้กำหนดการแปลผลความกาวหน้าของผลการเรียนรู้ (หลังเรียน-ก่อนเรียน) กำหนดไว้ที่ ร้อยละ ๒๐ หรือ ๒๕ ขึ้นไป (พิชิต ฤทธิ์จรูญ, ๒๕๔๙: ๗๘-๗๙) ในที่นี้ผู้สอนได้กาหนดเกณฑ์ไว้ที่ร้อยละ ๒๕ เป็นผลเนื่องมาจากกิจกรรมการจัดการเรียนรู้แบบ TALK & E Model ร่วมกับ เทคนิคการตั้งคำถาม “R C A” บูรณาการทักษะชีวิตด้วยกระบวนคิดทางวิทยาศาสตร์ รายวิชาวิทยาศาตสร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ เป็นการส่งเสริมทักษะในการเสาะแสวงหาความรู้ เปิดโอกาสให้กับผู้เรียนได้เข้าถึงแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลายทั้งในและนอกโรงเรียน ผู้เรียนได้ทำกิจกรรมร่วมกันทำให้เกิดกระบวนการแลกเปลี่ยนความรู้ นักเรียนสามารถจัดการปัญหาในการเรียนร่วมกับเพื่อนในกลุ่มได้ดี เรียนและสนุกไปกับกิจกรรมการสอนอย่างมีความสุข

๑.๖ สรุปผลการจัดทำนวัตกรรม

การพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ TALK & E Model มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้าง

นักเรียนให้มีทักษะที่ครบพร้อมในโลกศตวรรษที่ ๒๑ เป็นการออกแบบการจัดการเรียนรู้ในลักษณะการให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรม (Active) ด้วยการฝึกกระบวนการแสวงหาความรู้ บนพื้นฐานการเลือกรับแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อ มีสามารถในการใช้สื่อ เทคโนโลยี ตลอดจนมีการนำความรู้ที่ตนได้ศึกษาค้นคว้ามาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซึ่งจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น กระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จะช่วยให้ผู้เรียนได้เติมเต็มความรู้ซึ่งกันและกัน สร้างทักษะการอยู่ร่วมกับผู้อื่น ตลอดจนการประเมินผลที่มีคุณภาพ ตามสภาพจริง สรุปได้ว่าการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบ TALK & E Model

ร่วมกับ เทคนิคการตั้งคำถาม “R C A” บูรณาการทักษะชีวิตคิดวิเคราะห์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ รายวิชาวิทยาศาตสร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านสวนหลวง (รัตนวิจิตรพิทยาคาร) เป็นพื้นฐานที่เชื่อมโยงกันและกัน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทักษะการฟังและการดูอย่างมีวิจารณญาณได้เป็นอย่างดีทำให้นักเรียนสามารถสรุปและสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเองและเข้าใจในเนื้อหาวิชาได้ดียิ่งขึ้น

๑.๗ ประโยชน์ที่เกิดจากการใช้นวัตกรรมต่อการจัดการเรียนรู้

๑. ส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อครูผู้สอน

๑.๑ คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงขึ้นเป็นไปตามเป้าหมายของสถานศึกษา

๑.๒ ครูผู้สอนมีความรู้ ความเข้าใจด้านการจัดการเรียนรู้ และด้านวัดผล ประเมินผล

การเรียนที่เสริมสร้างศักยภาพของผู้เรียนสู่การเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ สามารถใช้ความรู้ในการพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑

๑.๓ ครูผู้สอนได้พัฒนาทักษะ และนำแนวทางที่ได้ใช้พัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาที่มี

ประสิทธิภาพ สามารถแก้ไขปัญหา/พัฒนาผู้เรียนได้อย่างเป็นระบบ ภายใต้ความเหมาะสมของผู้เรียนใน ยุคศตวรรษที่ ๒๑ รวมถึงสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านกระบวนการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ที่เน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติผ่านการทำกิจกรรม

๑.๔ ครูผู้สอนได้ปรับเปลี่ยนวิธีการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ โดยใช้การประเมินเพื่อ

การเรียนรู้ (Assessment for Learning) และประเมินผลตามสภาพจริง (Authentic Assessment) ผสมผสานวิธีการประเมินโดยใช้เครื่องมือ ดังนี้ การทดสอบ, การสังเกตุพฤติกรรม, การประเมินจากชิ้นงาน/ผลงาน, ประเมินทักษะปฏิบัติ

๒. มีผลการเรียนรู้ที่สะท้อนพัฒนาการหลังจากการใช้นวัตกรรม และผลการแก้ปัญหา และ/

หรือ การพัฒนา มีการเผยแพร่ผลงาน/ชิ้นงาน จนเป็นที่ยอมรับหรือได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ (เป็นผลที่เกิดจากการใช้นวัตกรรมที่ได้ส่งในการคัดเลือกในครั้งนี้)

ข้าพเจ้าได้พัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบ TALK & E Model ร่วมกับ เทคนิคการตั้งคำถาม “R C A” บูรณาการทักษะชีวิตคิดวิเคราะห์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ รายวิชาวิทยาศาตสร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านสวนหลวง (รัตนวิจิตรพิทยาคาร) มาใช้อย่างต่อเนื่อง สามารถพัฒนาคุณภาพผู้เรียนได้จริง ดังนั้นจะเห็นได้จากผลการผลการจัดการเรียนรู้ของผู้เรียนก่อนและหลังใช้นวัตกรรม นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะ มีความสุขในการเรียน เข้าใจตนเอง เข้าใจผู้อื่น สามารถทำงานเป็นทีมได้เหมาะสม มีคุณลักษณะตามวัตถุประสงค์ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ ๘๐ นักเรียนได้รับการยอมรับและมีเกียรติบัตรรับรองหลังการจัดการเรียนรู้

โพสต์โดย กิ่ง : [19 ก.ค. 2567 (21:01 น.)]
อ่าน [1324] ไอพี : 182.52.139.233
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,409 ครั้ง
4 อาหารแก้ง่วงยามบ่าย
4 อาหารแก้ง่วงยามบ่าย

เปิดอ่าน 19,728 ครั้ง
แกัวมังกร สุดยอดผลไม้เพื่อสุขภาพ
แกัวมังกร สุดยอดผลไม้เพื่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 29,474 ครั้ง
จะซื้อกล้องดิจิตอล ต้องดูอะไรบ้าง
จะซื้อกล้องดิจิตอล ต้องดูอะไรบ้าง

เปิดอ่าน 42,274 ครั้ง
คุณภาพของสื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
คุณภาพของสื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน

เปิดอ่าน 13,250 ครั้ง
"ครู" ในศตวรรษที่ 21 จุดเปลี่ยนการศึกษาข้ามพรมแดน
"ครู" ในศตวรรษที่ 21 จุดเปลี่ยนการศึกษาข้ามพรมแดน

เปิดอ่าน 61,324 ครั้ง
เครื่องแบบข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานราชการ
เครื่องแบบข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานราชการ

เปิดอ่าน 18,833 ครั้ง
การทำงานของรถจักรไอน้ำ
การทำงานของรถจักรไอน้ำ

เปิดอ่าน 2,711 ครั้ง
เลเซอร์รักแร้ IPL vs YAG เลือกยังไงให้เหมาะกับผิวและได้ผลดีในระยาว
เลเซอร์รักแร้ IPL vs YAG เลือกยังไงให้เหมาะกับผิวและได้ผลดีในระยาว

เปิดอ่าน 22,286 ครั้ง
การศึกษาประชารัฐ FOCUS ที่พัฒนาครู
การศึกษาประชารัฐ FOCUS ที่พัฒนาครู

เปิดอ่าน 14,132 ครั้ง
"แพลงกิ้ง" ยิ่งเล่น ยิ่งหน้าแก่!
"แพลงกิ้ง" ยิ่งเล่น ยิ่งหน้าแก่!

เปิดอ่าน 10,614 ครั้ง
มาดูกันว่า "เกาหลีใต้" เริ่มต้นการเป็นผู้นำด้านการศึกษาโฉมใหม่ของโลกอย่างไร?
มาดูกันว่า "เกาหลีใต้" เริ่มต้นการเป็นผู้นำด้านการศึกษาโฉมใหม่ของโลกอย่างไร?

เปิดอ่าน 14,330 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : จิตวิญญาณครู สำคัญที่สุด
ตูนส์ศึกษา : จิตวิญญาณครู สำคัญที่สุด

เปิดอ่าน 11,162 ครั้ง
สุดยอด "สุวรรณภูมิ-พารากอน" คว้าแชมป์สถานที่ที่มีคนแชร์รูปผ่านอินสตาแกรมมากที่สุดในปี 2012
สุดยอด "สุวรรณภูมิ-พารากอน" คว้าแชมป์สถานที่ที่มีคนแชร์รูปผ่านอินสตาแกรมมากที่สุดในปี 2012

เปิดอ่าน 15,997 ครั้ง
โรคตาแดง
โรคตาแดง

เปิดอ่าน 39,338 ครั้ง
วิธีเก็บ "ผักชี-รากผักชี" ใช้ได้นานขึ้น
วิธีเก็บ "ผักชี-รากผักชี" ใช้ได้นานขึ้น

เปิดอ่าน 20,818 ครั้ง
เปิดรายการ "ราคากลาง" ซ่อมรถหลังน้ำท่วม ป้องกันถูกเอาเปรียบ
เปิดรายการ "ราคากลาง" ซ่อมรถหลังน้ำท่วม ป้องกันถูกเอาเปรียบ
เปิดอ่าน 12,079 ครั้ง
ทายนิสัยจากคำนาม ที่คุณเรียกแทนชื่อตัวเอง
ทายนิสัยจากคำนาม ที่คุณเรียกแทนชื่อตัวเอง
เปิดอ่าน 13,088 ครั้ง
เทคโนโลยีคัดกรองตัวอ่อน ความหวังใหม่ของคนอยากมีลูก (ปลอดโรคทางพันธุกรรม)
เทคโนโลยีคัดกรองตัวอ่อน ความหวังใหม่ของคนอยากมีลูก (ปลอดโรคทางพันธุกรรม)
เปิดอ่าน 46,629 ครั้ง
คุณค่าทางโภชนาการของ "ปลาดุกนา"
คุณค่าทางโภชนาการของ "ปลาดุกนา"
เปิดอ่าน 9,985 ครั้ง
ทำงานเกินกำลัง...ทำให้ป่วย
ทำงานเกินกำลัง...ทำให้ป่วย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

Thailand Web Stat

Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ